ตอนที่แล้วบทที่ 61: แกะกล่อง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 63: เจ้าหน้าที่โคลสัน

บทที่ 62: อัตราส่วนทองคำ


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 62: อัตราส่วนทองคำ

"น่าจะได้เวลาพอเหมาะแล้ว"

ในห้องครัว ไรอันมองไปที่เวลาและเปิดหม้อนึ่ง

เมื่อยกฝาขึ้น สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นคือกลิ่นหอมอันรุนแรง ไรอันมองเห็นแสงที่เป็นประกายผ่านหม้อนึ่งไอน้ำ

อืม มันอาจเป็นแค่ภาพลวงตาที่เขารู้สึกก็ได้

เพราะนี้มันโลกการ์ตูนอเมริกา ไม่ใช่โลกของ "ยอดกุ๊กแดนมังกร" สักหน่อย!

ไรอันส่ายศีรษะ สลัดความคิดอันไร้สาระในใจโดยกลับมาสนใจจานในหม้อนึ่ง

บนใบผักกาดเขียว ติ่มซำร้อนๆ ได้ดึงดูดสายตาของไรอัน เมื่อเห็นอาหารที่เรียงรายสวยงามในหม้อนึ่ง ไรอันก็ถึงกลืนน้ำลายอย่างควบคุมไม่ได้

"เกี๊ยวหมูฉบับอัตราส่วนทอง"

เมื่อมองดูเจ้าของน่าอร่อยในหม้อนึ่ง ไรอันก็พึมพำชื่อของมัน

ใช่แล้ว เมนูอาหารของไรอันคืออาหารของ [เชลล์] ที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรกใน 'ยอดกุ๊กแดนมังกร!' แม้ว่าในเนื้อเรื่อง 'เกี๊ยวนึ่งอัตราส่วนทองคำ' ของ [เชลล์] จะแพ้ให้กับ 'ขนมจีบบิ๊กแบง' ที่หลิว เหมาซิงทำขึ้นมา

ทว่าหลิว เหมาซิงก็ไม่ได้ชนะ [เชลล์] ในส่วนของอาหาร แต่ [เชลล์] กลับยอมรับความพ่ายแพ้เองในตอนท้าย

อาหารเมนูนี้เป็นผลลัพธ์อันสมบูรณ์แบบจากประสบการณ์หลายปีของ [เชลล์] เกี๊ยวอัตราส่วนทองคำมันใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของรสชาติและรูปลักษณ์ ทว่าเขากลับต้องพ่ายแพ้ให้หลิวเหมาซิงเพราะอีกฝ่ายสามารถทำ 'ขนมจีบบิ๊กแบง' ซึ่งเป็นอาหารแปลกใหม่และไม่เคยมีใครทำมาก่อน

[เชลล์] ยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยความเต็มใจ โดยเชื่อว่าหลิว เหมาซิงเหนือกว่าเขาในด้านความสำเร็จของการทำอาหาร

ขนาดตอนที่เกี๊ยวนึ่งเห็นในการ์ตูน ไรอันก็ยังรู้สึกท้องหิวเลย

เขาเอื้อมมือหยิบเกี๊ยวขึ้นมาและตักเข้าไปในปากของเขา ความหวานของผัก ความเค็มของหมูและความสดของกุ้งได้ระเบิดในปากของไรอันในคราวเดียว

“น่าเสียดายที่พอไม่มีรสความลื่นไหลของแฮมจินหัวที่เป็นสัมผัสสุดท้าย เกี๊ยวหมูนี้ก็ไม่สามารถถือได้ว่าเป็น 'เกี๊ยวนึ่งอัตราส่วนทองคำ' ที่สมบูรณ์แบบ 100%”

ไรอันส่ายศีรษะไปมา เพราะใช้การ์ดตัวละคร [เชลล์] ทักษะ [ปรมาจารย์ติ่มซำ] จึงทำให้เขาสามารถตรวจจับวัตถุดิบที่ขาดหายไปของจานนี้ได้อย่างง่ายดาย

ถึงแม้ 'เกี๊ยวนึ่งอัตราส่วนทองคำ' จะขาดบางวัตถุดิบไปบ้าง แต่มันก็ยังอร่อยสมชื่อของมัน

ไรอันส่ายศีรษะอย่างเสียดายและกินเกี๊ยวนึ่งที่เหลืออยู่ในหม้อนึ่งจนหมด

'แต่... เขาจะใช้ตัวละคร [เชลล์] ยังไงดี?'

หลังจากรับประทานอาหารและกลับสู่โลกความเป็นจริง ไรอันก็มองไปที่การ์ด [เชลล์] ในระบบและตกอยู่ในห้วงภวังค์อีกครั้ง

ถึงมันจะไม่ใช่การ์ดที่มีความสามารถในด้านการต่อสู้ แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า [เชลล์] มีความสามารถในการเป็น [ปรมาจารย์ติ่มซำติ่มซำ] จริงๆ ต้องไม่นำมันไปใช้กับอะไรที่มันธรรมดาเกินไป แถมในฐานะที่มันเป็นถึงการ์ดระดับ D จาก [หีบสมบัติเหล็กดำ] ไรอันย่อมไม่อยากจะใช้คะแนนหนึ่งพันแต้มไปอย่างไร้ค่าหรอก

'ไม่สิ มันต้องมีวิธีใช้ที่มีประโยชน์อยู่'

ไรอันขมวดคิ้วและเหลือบมองไปรอบๆ ห้องครัว

ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่หม้อนึ่งที่ว่างเปล่าตรงหน้าเขา

'หรือฉันจะ...'

เมื่อมองไปที่หม้อนึ่งไอน้ำตรงหน้า ไรอันก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจ

  ...

3 วันต่อมา บนถนนในนิวยอร์ก

รถขายอาหารสีแดงคันใหม่เอี่ยมได้ปรากฏตัวบนถนน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับร้านเบอร์เกอร์และฮอทด็อกต่างๆ บนถนนในนิวยอร์ก จากการสังเกตป้ายบนรถขายอาหารนี้ จะเห็นได้ว่ามันขายอาหารติ่มซำสไตล์จีน นอกจากนี้ รถขายอาหารยังมีเข่งติ่มซำไม้ไผ่ด้วย สำหรับชาวอเมริกันหลายคน มันเป็นอุปกรณ์ทำอาหารที่หาดูได้แต่ในภาพยนตร์หรือในไชน่าทาวน์เท่านั้น

แม้ว่าเครื่องครัวพวกนี้จะไม่คุ้นเคย แต่กลิ่นที่ตลบอบอวลออกมาจากพวกมันก็ได้ดึงดูดคนเดินเท้าถ้วนหน้า

ทว่าพอเห็นกลิ่นอาหารมาจากรถขยาอาหาร ส่วนใหญ่ก็ส่ายศีรษะและเดินหนีไป ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะคนส่วนใหญ่คงไม่อยากจะลองอาหารที่ไม่เคยลิ้มรสกันมาก่อนอยู่แล้ว

ทว่าก็ยังมีบางคนที่ถูกดึงดูดด้วยกลิ่นหอมที่ออกมาจากรถขายอาหาร มีความกล้าพอที่จะเดินเข้ามาซื้ออยู่

"เฮ้ ไอ้หนุ่ม นายขายอะไรเหรอ?" ลูกค้าคนแรกที่มาที่หน้าต่างเป็นผู้ชายหัวล้านที่มีรูปร่างแค่มองก็รู้ว่าเป็นคนชอบกิน เขาเขย่งเท้าขณะพยายามมองเข้าไปในรถขายอาหาร

"เมนูติ่มซำต่างๆ ส่วนอาหารประเภทอื่นฉันได้เขียนไว้บนป้ายแล้ว"

ในขณะนั้นเอง ชายชาวเอเชียผิวสีแทนเล็กน้อยได้โผล่ออกมาจากรถขายอาหาร เขาเป็นชายร่างกำยำ มีแผลเป็นยาวที่ด้านซ้ายของใบหน้าและพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยคล่องเท่าไรนัก

เจ้าของรถขายอาหารทำให้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอกรู้สึกประหลาดใจ แต่ในไม่ช้าความสนใจของเขาก็ถูกดึงดูดไปโดยอาหารบนป้าย

ไม่ใช่เพราะชื่อ แต่เพราะราคาอาหารล้วนๆ

"พวก ราคานี้มันปล้นกันชัดๆ เลยนะ!" ชายคนนั้นชี้ไปที่ราคาบนป้ายแล้วตะโกนด้วยสีหน้าโกรธจัด "10 เหรียญ นี้มันมากเกินไปสำหรับอาหารจานเดียวจากรถขายอาหารนะ! แถมนายยังไม่ได้จอดรถอยู่หน้าสถานที่ท่องเที่ยวด้วยซ้ำ แต่ทำไมราคามันแพงขนาดนี้กัน!”

ราคาอาหารของรถขายอาหารส่วนใหญ่ในนิวยอร์กโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 3 ถึง 6 ดอลลาร์ แต่หากเป็นรถขายอาหารที่มีชื่อเสียง พวกเขาก็จะสามารถขายแพงกันได้ พอเห็นว่ามีรถขายอาหารที่ไม่เคยเห็นมาก่อนได้ตั้งราคา 'สูงปานฟ้า' เช่นนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชายหัวล้านร่างอวบคนนี้จะรู้สึกโกรธมาก

"ในฐานะ 'ผู้เชี่ยวชาญ' ที่เคยกินอาหารจากรถขายอาหารส่วนใหญ่ในแมนฮัตตัน ฉันว่านายควรปรับราคาอาหารพวกนี้ลงสักครึ่งนะ..."

“จะไม่กินใช่ไหม?” เมื่อได้ยินคำแนะนำจาก 'ผู้เชี่ยวชาญ' เจ้าของรถขายอาหารก็ปฏิเสธและมองไปที่อีกฝ่ายอย่างเขม็ง

"..."

พอได้ยินคำพูดของเจ้าของรถขายอาหาร สีหน้าของชายหัวล้านก็แข็งทื่อทันที เขารู้สึกเหมือนอยากจะรีบหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่ากลิ่นหอมที่อยู่ตรงหน้ารถบรรทุกอาหารได้ทำให้เขายังยืนอยู่ต่อ ถึงเขาจะเคยได้ลิ้มรสชาติอาหารมามากมาย แต่ต้องขอยอมรับเลยว่าเจ้ารถขายอาหารคันตรงหน้าเขามีเสน่ห์น่าดึงดูดมาก

เขายืนอยู่หน้ารถขายอาหารสักพัก สุดท้ายความอยากอาหารก็เอาชนะความกลัว ปากของเขาพึมพำด้วยความรำคาญ แต่ร่างกายของเขากลับซื่อสัตย์ยิ่ง เขาควักเงิน 10 ดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋า ชี้ไปที่ป้ายและอ่านชื่อมันออกมา

"เอา 'เกี๊ยวนึ่งอัตราส่วนทองคำ' มาให้ฉัน"

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด