ตอนที่แล้วบทที่ 56 การเข้าสู่ซากปรักหักพัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 58 หลานชายของข้ามีพรสวรรค์ระดับปรมจารย์

บทที่ 57 ภาพประวัติศาสตร์


บนธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ ซืออวี๋มองไปรอบตัวเขา

ห่างออกไปหนึ่งร้อยเมตร ยักษ์หินน้ำแข็งกำลังลอยอยู่

แม้สัตว์อสูรตัวนี้จะถูกเรียกว่ายักษ์ แต่มันก็ไม่ได้ดูคล้ายกับคนเลย เพราะมันไม่มีร่างกายท่อนล่าง

ร่างกายหลักของมันคล้ายกับรูปทรงกระบอกที่ผิดปกติ ร่างกายของมันอ้วนกลมราวกับภูเขาขนาดเล็ก

เนื่องจากมันเป็นสัตว์อสูรธาตุ มันจึงสามารถลอยเหนือพื้นได้เล็กน้อย สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือแขนขนาดใหญ่ที่สูงเกือบเท่าตัวมัน

นี่เป็นอวัยวะหลักที่ใช้ในการร่ายทักษะค้อนน้ำแข็ง

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพบยักษ์หินน้ำแข็ง…”

ซืออวี๋ยิ้มและมองไปที่ดวงตาที่ดูราวกับคริสตัลพลังงานบนปากขนาดใหญ่ของอีกฝ่าย

เขากล่าวอย่างจริงใจว่า “สวัสดีสหาย เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อต่อสู้ เราถูกเชิญมาโดยพี่ใหญ่หินของเจ้าเพื่อฟื้นฟูความจริงแห่งประวัติศาสตร์”

“ฟังนะ ไม่จำเป็นต้องต่อสู้… แค่มอบรางวัลที่เจ้ามีให้…”

อีเลฟเว่นผู้ที่เตรียมตัวต่อสู้นั้นตกตะลึง

“???”

ไม่สู้เหรอ?

ตามที่คาดไว้ อีเลฟเว่นนั้นเด็กเกินไป ทำไมซืออวี๋ถึงต้องต่อสู้กับสิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการพูดคุยล่ะ?

อย่างไรก็ตาม เมื่อซืออวี๋พยายามใช้กระแสจิตเพื่อเจรจา ยักษ์หินน้ำแข็งที่เข้ามาใกล้ก็ได้เปิดการโจมตี มันไม่สนใจการเจรจาเลย

ห่างออกไปหลายสิบเมตร มันเริ่มอ้าปากและพ่นอากาศอันเย็นยะเยือกออกมา

ในชั่วพริบตา ออร่าอันเย็นยะเยือกที่ดูราวกับหมอกน้ำแข็งก็ได้พุ่งเข้าหาซืออวี๋และอีเลฟเว่น

ชั้นน้ำแข็งหนาก่อตัวขึ้นบนธารน้ำแข็งซึ่งหมอกน้ำแข็งพุ่งผ่าน

พลังของมันเทียบได้กับถังดับเพลิงรุ่นเสริมพลังเหรอ? อากาศอันเย็นยะเยือกสีฟ้าราวกับน้ำแข็งได้แผ่กระจายออกมาทีละเล็กทีละน้อย

อาจกล่าวได้ว่านี่เป็นโชคดีของเขาที่ทักษะลมหายใจเยือกแข็งของยักษ์หินตัวนี้อยู่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ไม่เพียงแค่ความเร็วของการโจมตีจะต่ำเท่านั้น แต่พลังน้ำแข็งของมันก็ไม่แข็งแกร่งมากพอเช่นกัน มิฉะนั้น ด่านแรกก็เพียงพอที่จะทำให้หลายคนทุกข์ทรมาณ

“ชิ… ข้าไม่สามารถสื่อสารกับมันได้”

“อีเลฟเว่น จัดการอีกฝ่ายเลย”

ในเวลาเดียวกันกับที่ซืออวี๋ก้าวถอยหลังเล็กน้อย เขาก็ออกคำสั่งโดยตรง ปล่อยให้อีเลฟเว่นไร้คำกล่าว พวกเขาควรทำเช่นนี้ตั้งแต่แรกแล้ว!

อีเลฟเว่นเงยหน้าขึ้นและตั้งสมาธิ เมื่อสุดยอดการมองเห็นถูกใช้งาน ทุกสิ่งในโลกก็ดูราวกับจะช้าลง

ระยะของออร่าอันเย็นยะเยือกนั้นไม่กว้างมากนัก และระยะที่ทรงพลังที่สุดอยู่ในระยะเพียงไม่กี่เมตร พลังงานที่แผ่ออกมาเทียบได้กับอากาศเย็นทั่วไปเท่านั้น อีเลฟเว่นผู้ที่มีหนังหนาไม่จำเป็นต้องเคลือบแข็งเลย

ยักษ์หินน้ำแข็งพ่นลมหายใจในขณะที่มันลอยเข้ามาใกล้ อีเลฟเว่นยังโจมตียักษ์หินราวกับอสูรดุร้าย เมื่อทั้งสองฝ่ายกำลังเข้าใกล้กัน ภัยคุกคามของลมหายใจเยือกแข็งก็เพิ่มขึ้น ในชั่วพริบตา อีเลฟเว่นก็หลบลมหายใจเยือกแข็งได้อย่างง่ายดายด้วยสุดยอดการมองเห็นและวนอยู่รอบยักษ์หิน ไม่เปิดโอกาสให้ยักษ์หินผู้ที่เชื่องช้าได้ตอบโต้ได้เลย

บูม!!!

อีเลฟเว่นกระโจนเข้าไปในทันที และด้วยการเคลือบแข็งขั้นชำนาญ มันก็ฟาดฝ่ามือของมันใส่ยักษ์หินน้ำแข็ง

แคร็ก!

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ยักษ์หินน้ำแข็งสูงสามเมตรก็แตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นธาตุน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนที่สหายหายไปต่อหน้าซืออวี๋และอีเลฟเว่น

ในขณะเดียวกัน คริสตัลพลังงานสีน้ำแข็งก็ตกลงมาจากร่างที่แตกสลายของยักษ์หินน้ำแข็ง

ยิ่งกว่านั้น ค่ายกลเทเลพอร์ตก็เปล่งประกายขึ้นบนพื้นธารน้ำแข็งซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก

“เช่นเดียวกับที่หลู่ชิงอี้กล่าว สัตว์อสูรที่นี่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่แท้จริง แต่เป็นสิ่งที่คล้ายกับโคลนธาตุ…”

เมื่อเห็นว่ายักษ์หินน้ำแข็งแตกสลาย ซืออวี๋ก็ยืนนิ่งโดยไม่ขยับ เขามองดูธาตุน้ำแข็งบนท้องฟ้าอย่างเงียบสงบ

ในเวลาเดียวกัน เขาก็สังเกตรอบตัวเขาและไม่ลืมเป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเขาในการเข้ามายังซากปรักหักพัง

สถานที่แห่งนี้พยายามที่จะบอกอะไรแก่เขากัน?

“ในเรื่องเล่าที่แพร่หลายที่สุดของราชินีหิมะในเมืองทุ่งน้ำแข็ง มังกรน้ำแข็งได้จุติลงมาใกล้เมืองทุ่งน้ำแข็งและจุดประกายยุคน้ำแข็ง”

“จากนั้น เผ่านักฝึกสัตว์อสูรวึ่งตั้งรกรากอยู่ในเมืองทุ่งน้ำแข็งในสมัยโบราณก็ได้เริ่มทำสงครามกับมังกรน้ำแข็ง”

“สภาพแวดล้อมที่ราบน้ำแข็งในซากปรักหักพัง มันจำลองสภาพแวดล้อมหลังจากที่มังกรน้ำแข็งจุติลงมาใช่ไหม?”

ในขณะที่เขาคาดเดา… จิตใจของซืออวี๋ก็ตกอยู่ในความงุนงงเมื่อเสียงนับไม่ถ้วนดังเข้ามาในหูของเขา

เสียงของการต่อสู้และการสื่อสาร

สมองของเขาสั่นสะเทือน และมันก็ได้กระตุ้นร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับเสียงของรูปปั้นหิน

ในขณะนี้ เมื่อเสียงประสานกัน ซืออวี๋ก็ดูเหมือนจะเห็นภาพช่วงสั้นๆ

มันเป็นภาพกลุ่มหนุ่มสาวในชุดโบราณที่ต่อต้านคลื่นสัตว์อสูรจากภูเขาหิมะ

ภาพนั้นสั้นมากและเกือบจะหายไปชั่วพริบตา ซืออวี๋รู้สึกตัวและยังคงยืนเงียบอยู่ที่เดิม

“นี่คืออะไรกัน?” ซืออวี๋อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมา

“นั่น… คือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วใช่ไหม?”

หากซืออวี๋คิดไม่ผิด พรสวรรค์การฟังเสียงแห่งประวัติศาสตร์ของเขาได้แสดงผลอีกครั้ง

เขาได้เห็นฉากนักฝึกสัตว์อสูรโบราณที่ขี่ยักษ์หินน้ำแข็งและเผชิญหน้ากับกลุ่มสัตว์อสูรดุร้ายขากภูเขาหิมะ!

นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซืออวี๋ตกอยู่ในห้วงความคิดลึกอีกครั้งและอนุมานจากเงื่อนงำที่เขาพบ

ซืออวี๋เพิ่งฟื้นฟูประวัติศาสตร์ตามข้อมูลในปัจจุบัน

[เผ่านักฝึกสัตว์อสูรได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขรอบเมืองทุ่งน้ำแข็ง และในวันหนึ่งมังกรน้ำแข็งก็ได้จุติลงมาและทำให้เกิดยุคน้ำแข็ง]

[ยุคน้ำแข็งได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยรอบและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตตามปกติของเผ่านักฝึกสัตว์อสูร ดังนั้นเผ่านักฝึกสัตว์อสูรจึงตัดสินใจโจมตีมังกรน้ำแข็ง]

[อย่างไรก็ตาม เพราะมังกรน้ำแข็งทรงพลังมากเกินไป เผ่านักฝึกสัตว์อสูรจึงทำได้เพียงแค่ผนึกมันไว้บนภูเขาหิมะด้วยวิธีพิเศษเท่านั้น]

[แม้ว่ามังกรน้ำแข็งจะถูกผนึกไป แต่สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปแล้วก็ไม่สามารถฟื้นฟูกลับคืนมาได้]

[เผ่านักฝึกสัตว์อสูรจึงได้ทำเพียงแค่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ยักษ์หินของพวกเขาเริ่มกลายพันธุ์เป็นยักษ์หินน้ำแข็ง]

[ในเวลาเดียวกัน จำนวนของสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติน้ำแข็งก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเพราะการวิวัฒนาการจากสภาพแวดล้อม]

[ยิ่งกว่านั้น เนื่องจากอิทธิพลจากมังกรน้ำแข็งที่ถูกผนึกไว้ สัตว์อสูรดุร้ายจากภูเขาหิมะจึงดุร้ายมากและมักจะก่อคลื่นสัตว์อสูรขึ้นมา]

[ดังนั้นในอีกหนึ่งร้อยปีต่อมา เผ่านักฝึกสัตว์อสูรนี้จึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อต้านทานคลื่นสัตว์อสูร]

[จนถึงตอนนี้ ซากปรักหักพังมังกรน้ำแข็งและสัตว์อสูรยังคงมีอยู่ แต่เผ่านักฝึกสัตว์อสูรนี้ได้หายไปด้วยเหตุผลหลายอย่าง]

[ซากปรักหักพังเบื้องหน้าพวกเขาคืออาณาจักรลับที่ดัดแปลงโดยนักฝึกสัตว์อสูรตำนานที่กำลังจะตายหลังจากเผ่าผนึกมังกรน้ำแข็งได้เป็นเวลานาน นี่คือการฝึกฝนสมาชิกในเผ่าของพวกเขา]

[ดังนั้น สภาพแวดล้อมในซากปรักหักพังนี้จึงเอนเอียงไปด้านที่ราบน้ำแข็ง…]

“เป็นเช่นนี้เหรอ?” ซืออวี๋เงยหน้าขึ้นมา แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง

ในขณะนี้ อีเลฟเว่นได้หยิบคริสตัลพลังงานสีน้ำเงินและวิ่งกลับมา

“อู๋!!!”

สินสงคราม!!!

อีเลฟเว่นตื่นเต้นมาก

สิ่งนี้… มันเคยเห็นและเคยกินมาก่อน

ในอาหารที่มีสารอาหารสูงของอสูรกินเหล็กในศูนย์ฝึกศิลาไผ่ มีคริสตัลพลังงานคุณสมบัติทองและสายฟ้า

สิ่งที่ถูกเรียกว่าคริสตัลพลังงานก่อตัวขึ้นมาเมื่อความเข้มข้นของพลังงานธาตุถึงจุดหนึ่ง มันเป็นทรัพยากรสากลในการเสริมพลังคุณสมบัติของสัตว์อสูร

อย่างไรก็ตาม พวกมันมีน้อยมาก ยิ่งคุณภาพสูงมากเพียงใด มันก็ยิ่งหายากยิ่งขึ้นเท่านั้น แม้ว่าผลการเสริมพลังจะมีลักษะเฉพาะยิ่งกว่าอาหารส่วนใหญ่ แต่มันก็ดียิ่งกว่า ดังนั้นมันจึงมีราคาแพงมาก

สิ่งที่อีเลฟเว่นเคยกินคือคริสตัลพลังงานระดับหนึ่ง

และคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็งนี้ดูราวกับจะเป็นระดับหนึ่งเช่นกัน

“ตามที่คาดไว้ รางวัลคือสิ่งนี้เหรอ?” เมื่อเขาคิดว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงอีกต่อไปแล้ว ซืออวี๋ก็มองไปที่คริสตัลพลังงาน

หากเป็นเมื่อก่อนเขาจะต้องมีความสุขอย่างมหาศาลแน่นอนที่ได้รับคริสตัลพลังงานธาตุน้ำแข็ง แม้ว่าคุณสมบัติจะไม่ตรงกับที่เขาต้องการ แต่หากเขาขายมัน เขาก็สามารถแลกเปลี่ยนมันกับไผ่เหล็กจำนวนมากได้

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรในระดับนี้เลย ทว่าเมื่อพิจารณาว่านี่เป็นเพียงบททดสอบแรกเท่านั้น และเกือบทุกคนสามารถผ่านไปได้ ซืออวี๋ก็รู้สึกโล่งใจ ผลตอบแทนในบททดสอบที่เหลือจะต้องดียิ่งขึ้น

“ลืมไปเถอะ เนื่องจากไม่มีการตอบสนองแล้ว มาท้าทายด่านต่อไปและดูว่าเราสามารถหาสิ่งใหม่ได้หรือไม่” แม้ว่าซืออวี๋จะรู้สึกว่าการคาดเดาในตอนนี้สอดคล้องกับหลายเรื่อง แต่ความจริงนั้นไม่เรียบง่ายอย่างแน่นอน เรื่องเล่ามังกรน้ำแข็งอาจมีบางสิ่งถูกซ่อนไว้ แต่เรื่องเล่าด้านอื่นคงไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

ท้ายที่สุด มังกรน้ำแข็งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่แพร่หลายซึ่งเคยถูกรูปปั้นหินหักล้างมาก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อเพิกเฉยต่อสถานที่แห่งนี้แล้ว เบื้องหลังของซากปรักหักพังอาจเป็นอาณาจักรลับสำหรับการฝึกฝนเพื่อต้านทานคลื่นสัตว์อสูร เขาถอนหายใจ สิ่งที่สำคัญก็คือเขาขาดข้อมูลสำคัญ!

ซืออวี๋มองไปที่ค่ายเทเลพอร์ตที่อยู่ไม่ไกลนักและวางแผนที่จะท้าทายบททดสอบที่สอง

แต่ก่อนหน้านั้น ซืออวี๋ก็ได้หยิบคริสตัลพลังงานจากมือของอีเลฟเว่นและกล่าวว่า “เจ้ากินสิ่งนี้ไม่ได้ เจ้าจะท้องเสีย”

“ส่งมาให้ข้า ข้าให้ไอศกรีมกับเจ้าเมื่อเรากลับบ้าน”

อีเลฟเว่น : .◔‸◔..

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด