ตอนที่แล้วตอนที่ 1304 ทางเลือก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1306 ภารกิจของระบบ...

ตอนที่ 1305 เปลี่ยนแปลง.. ภายในวันเดียว


โจว เสี่ยวเซิ่ง ได้ตั้งใจแน่วแน่ที่จะให้ เจิ้ง จินเทา จ่ายราคา สิ่งนี้ทําให้ เจิ้ง จินเทา โกรธมาก และเมื่อคิดว่าทุกสิ่งอย่างของเขาจะถูกทําลายลงไปโดยคนที่ถูกเขาเหยียบย่ำรังแกมาโดยตลอด เดิมทีเขาเป็นคนที่เหยียบย่ำอีกฝ่าย แต่มาตอนนี้.. กลับต้องมาเป็นคนที่ถูกอีกฝ่ายเหยียบย่ำ เขาจะไปยอมทนความโกรธนี้ได้ที่ไหน?

เขากระโดดขึ้น และปล่อยหมัดออกไปเพื่อต้องการจะต่อย โจว เสี่ยวเซิ่ง จริงๆ สำหรับ หลินฟาน เขาไม่กล้าที่จะเข้าไปทุบตี แต่กับผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่าง โจว เสี่ยวเซิ่ง เขากล้า! อีนังตัวแสบนี่หากถ้าเขาไม่ได้ทุบตี.. มันคงไม่สามารถลบความเกลียดชังที่มีอยู่ในตอนนี้ได้ ตลอดเวลาเขาไม่เห็น โจว เสี่ยวเซิ่ง อยู่ในสายตา นั่นเพราะเขาคิดว่า โจว เสี่ยวเซิ่ง นั้นรังแกได้ง่าย

เมื่อเห็นหมัดของ เจิ้ง จินเทา กำลังจะทุบเข้าใบหน้าของ โจว เสี่ยวเซิ่ง โจว เสี่ยวเซิง ก็แทบไม่ตอบสนอง และไม่สามารถหลบได้ ในเวลานี้หลินฟาน ก็ได้เอื้อมมือจากด้านข้าง เพื่อดึง โจว เสี่ยวเซิง ให้หลบออกไปอยู่ข้างๆ

พอ เจิ้ง จินเทา ต่อยหมัดเข้ากับความว่างเปล่า ตัวเขาที่พุ่งมาตามแรงหมัดก็กระโจนล้มลงไปบนโต๊ะ

เขาพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้น และจะวิ่งไล่เข้าไปทุบตี โจว เสี่ยวเซิ่ง ต่อ

“คุณคิดจะทําอะไร?” มีเสียงหนึ่งที่พูดอย่างเย็นชาดังขึ้น

จากนั้นก็ได้เห็น หลัว หลี่ ที่ใส่เครื่องแบบตํารวจเดินเข้ามาคว้ากระชากหลังคอเสื้อของ เจิ้ง จินเทา ผลักเขา และกดเขาลงไปบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว

เจิ้ง จินเทา ที่ได้เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นตํารวจหญิง ก็ตกใจมาก ที่ไหนจะยังกล้าทำผิดอีก

หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “เจ้าหน้าที่ตํารวจหญิงมาพอดีเลย คนๆ นี้ต้องการจะทุบตีคน”

หลัว หลี่ ขมวดคิ้ว และพูดว่า : “มันเกิดอะไรขึ้น?”

หลินฟาน ทำเพียงแค่เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกไป

หลัว หลี่ กล่าวว่า : “ฉันกำลังทําคดีอยู่แถวนี้ กําลังจะกลับไปที่สถานีตํารวจ ดังนั้นฉันจะพาผู้ชายคนนี้กลับไปด้วย”

หลัว หลี่ พูดแบบนี้กับ หลินฟาน เมื่อกี้เธอทำคดีอยู่แถวๆ นี้เลยไม่ได้รับโทรศัพท์จาก หลินฟาน พอทำคดีเสร็จก็เห็นข้อความของ หลินฟาน พอเห็นว่าอยู่แถวๆ นี้จึงรีบแวะมา เดิมทีตั้งใจจะคุยด้วย แต่ไม่คิดว่าจะได้แวะมาจับกุมคน

จากนั้น หลัว หลี่ ก็ใส่กุญแจมือ เจิ้ง จินเทา และพาเขากลับไปที่สถานีตํารวจ

สิ่งที่รอเขาอยู่คือ การคุมขัง! และนี่ก็เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ต่อไปเขาจะถูกดําเนินคดีหมิ่นประมาท สิ่งที่รอเขาอยู่คือ การติดคุก และนั่นมันก็คือการที่เขาจะต้องชดใช้สําหรับการกระทําของตัวเอง..

หลินฟาน ได้บอก โจว เสี่ยวเซิ่ง ให้นั่งลง จากนั้นยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่เป็นไรแล้ว นั่งเถอะ พวกเรามาหาสั่งอะไรกินกันดีกว่า”

คนรอบข้างยังคงเฝ้ามองอยู่ ทั้งยังมีคนได้กระซิบกระซาบเหมือนกับกำลังนินทาอะไรบางอย่าง..

โจว เสี่ยวเซิ่ง พูดว่า : “พี่หลิน พวกเราเปลี่ยนไปกินที่อื่นกันดีกว่าไหม?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่จําเป็นหรอก พวกเราก็กินที่นี่เถอะ ผมเองจะดูว่าใครที่จะเป็นเหมือนกับ เจิ้ง จินเทา ที่พูดจาไร้สาระ และเมื่อนั้นผมก็จะไม่คิดปล่อยใครไปแม้แต่คนเดียว!”

ทันทีที่ หลินฟาน พูดคํานี้ออกมา คนที่กำลังกระซิบกระซาบอยู่โดยรอบๆ ก็พากันเงียบเสียงลงทันที ดังที่ หลินฟาน พูด คนที่ชอบชี้นิ้วใส่คนอื่น และพูดจาไม่ดีใส่คนอื่น ล้วนแล้วแต่เป็นเพราะรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายคุกคามทำอะไรตนเองไม่ได้ แต่พอเมื่อพวกเขารู้สึกว่าตัวเองถูกกดดัน พวกเขาก็จะรีบหุบปากเงียบอย่างเชื่อฟัง ..ไปทันที

หลินฟาน ต้องการบอก โจว เสี่ยวเซิ่ง ว่าสําหรับคําพูดซุบซิบนินทาเหล่านี้ ไม่จําเป็นต้องไปสนใจให้มากนัก คนเราเองต้องเรียนรู้ที่จะมีหัวใจที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะต่อสู้กับความอาฆาตพยาบาทของโลกนี้ อีกทั้งเราจำเป็นต้องมองให้ชัดเจนว่าเบื้องหลังของคําพูดที่ชั่วร้ายเหล่านี้ มันเป็นเพียงกลุ่มพวกที่ขี้ขลาดเท่านั้น เช่นนี้เราจะไปกลัวถูกพวกที่ขี้ขลาดพวกนี้โค่นล้มไปได้ยังไง!

หากอีกฝ่ายเป็นเหมือนอย่าง เจิ้ง จินเทา สร้างข่าวลือใส่ร้าย ก็แค่ให้ยึดกฎหมายมาใช้เพื่อปกป้องตัวเอง อย่าลืมว่าโลกนี้มันยังมีกฎหมายอยู่ที่ใช้เพื่อลงโทษเหล่าคนชั่ว

โจว เสี่ยวเซิ่ง เพิ่งกล่าวว่าเขาปฏิเสธที่จะให้อภัย เจิ้ง จินเทา และต้องการให้ เจิ้ง จินเทา จ่ายราคา นี่เป็นเพียงขั้นตอนแรกเริ่มที่ดีเอามากๆ หลังจากขั้นตอนนี้ไป หัวใจของ โจว เสี่ยวเซิ่ง จะแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างแน่นอน

โจว เสี่ยวเซิ่ง ดูเหมือนจะเข้าใจความตั้งใจของ หลินฟาน แล้ว อารมณ์ของเธอก็เริ่มที่จะผ่อนคลายลง และไม่มีความคิดที่จะหลบหนีอีกต่อไป

ดังนั้น พวกเขาจึงสั่งอาหารกินกันที่ร้านบาร์บีคิวแห่งนี้

หลังจากกินข้าวแล้ว หลินฟาน ก็พา โจว เสี่ยวเซิ่ง กลับไปที่ ทอมสัน ยี่ผิน

เมื่อได้มองไปที่อพาร์ทเมนต์ชั้นนําที่หรูหราตรงหน้า โจว เสี่ยวเซิ่ง ก็ตกตะลึง เธอไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน นับประสาอะไรกับการเคยได้อาศัยอยู่ในสถานที่เช่นนี้

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณอยู่ที่นี่ชั่วคราวเถอะ”

โจว เสี่ยวเซิ่ง ได้พูดอย่างอายๆ ไปว่า : “พี่หลิน นี่คือ.. ฉันรบกวนพี่หรือเปล่า?”

หลินฟาน ยิ้มแล้วพูดว่า : “ไม่เลย ปกติผมไม่ได้อยู่ที่นี่”

ในใจของ โจว เสี่ยวเซิ่ง แอบรู้สึกประหลาดใจ ดูเหมือนว่า หลินฟาน จะมีที่พักมากกว่าหนึ่งแห่ง จริงๆ แล้ว หลินฟาน ต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมากแน่ๆ ใช่ไหม!

โจว เสี่ยวเซิ่ง รู้สึกถึงความปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยการสนับสนุนของ หลินฟาน เธอรู้สึกว่าเธอก็เข้มแข็งขึ้นแล้วเช่นกัน

หลินฟาน ได้เปิดห้องพักห้องหนึ่งให้กับ โจว เสี่ยวเซิ่ง

โจว เสี่ยวเซิ่ง เมื่อได้นอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ที่สะดวกสบาย และมองไปที่ห้องที่หรูหราตรงหน้าของเธอ ..ราวกับว่ามันมีความรู้สึกที่ไม่จริง หรือว่าตัวเธอเองได้ตายไปแล้ว และหลินฟาน เป็นทูตสวรรค์ มิฉะนั้น.. ทำไมเธอถึงใช้เวลาแค่วันเดียวจากนรกขึ้นสู่สวรรค์ ได้ ..อย่างไร?

โจว เสี่ยวเซิ่ง หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา และเปิด เวยป๋อ ตั้งแต่เธอกลายเป็นประเด็นร้อนเพราะการหาญาติทางออนไลน์ บัญชีส่วนตัวของเธอก็จะได้รับข้อความมากมายในทุกๆ วัน, เช่นเคย.. พอเมื่อเธอออนไลน์ โทรศัพท์ของเธอก็มีอาการค้างไปบ้าง เพราะมันมีข้อความเข้ามามากเกินไป..

เธอได้เห็นข้อความที่มีเจตนาดีมากมาย และยังคงมีข้อความที่โจมตีมุ่งร้ายมากมายเช่นกัน…

อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจ.. ของเธอ, ภายในวันเดียวมันก็ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก่อนที่จะมาเจอ หลินฟาน เมื่อเห็นข้อความร้ายๆ เหล่านั้น มันก็เหมือนกับมีมีดมากรีดควักหัวใจเธอ ทุกคําที่ว่าร้ายมันทําให้อารมณ์ของเธอรู้สึกหดหู่ ไม่ต่างอะไรกับมีดนับไม่ถ้วนที่ได้เข้าเชือดเฉือนเนื้อจนแทบทั้งตัว ทําให้ในที่สุดเธอก็ได้ไปนอนอยู่บนรางรถไฟ แสวงหาความพ้นทุกข์ เพื่อปลดปล่อยชีวิตที่มืดมนนี้

แต่ตอนนี้หลังจากพบกับ หลินฟาน เมื่อเธอเห็นข้อความที่ชั่วร้ายเหล่านี้ เธอได้สงบลงไปมาก แม้ว่าจะยังอึดอัดมากอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่มีความรู้สึกเหมือนกับถูกมีดที่เข้ามาทะลวงควักหัวใจอีกต่อไปแล้ว

และนี่คือพลัง.. คือความแข็งแกร่งที่ หลินฟาน มอบให้กับเธอ และเธอรู้สึกว่าตัวเอง …แข็งแกร่งขึ้นมากแล้วจริงๆ

จริงอยู่ที่ความกลัวทั้งหมดเกิดจากความแข็งแกร่งไม่เพียงพอ ผีตัวเดียวกันออกมาข่มขู่ ทำให้ผู้คนหวาดกลัวแทบตาย แต่ผู้วิเศษกลับไม่แม้แต่จะตกใจ แถมกลับหัวเราะ ทั้งยังสามารถจัดการกับมันได้อย่างสบาย

เมื่อมองไปที่คนอ่อนแอ พวกเขากลับทําอะไรไม่ถูก บางทีอาจจะทนไม่ได้ และนั่นก็เหมือนกับเด็กหญิงอายุ 15 ปีที่อ่อนแอ และไม่มีที่พึ่งใดๆ แล้วแบบนี้จะไปต้านทานการโจมตีที่เหมือนดั่งกระแสน้ำเหล่านั้นได้เช่นไรกัน

ด้วยเหตุผลนี้ หลินฟาน เองก็เข้าใจดี เมื่อเขายังเป็นพนักงานส่งอาหารในก่อนหน้านี้ที่เขายังไม่มีระบบ เขาไม่กล้าจะไปดูหนังด้วยซ้ำ เพราะต้องชั่งน้ำหนักดูก่อนว่าเดือนนี้มันจะมีค่าใช้จ่ายเกินไปหรือไม่ และเมื่อเขากลายเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน เขากลับสามารถซื้อโรงภาพยนตร์ได้โดยไม่กระพริบตา และนั่นก็เพียงแค่เพื่อไล่ผู้จัดการโรงภาพยนตร์ออกด้วยมือของเขาเอง

เมื่อคุณแข็งแกร่งถึงระดับหนึ่ง การโจมตีใดๆ คุณแทบไม่จำเป็นต้องไปสนใจมัน ทำไมน้องชายตัวเล็กๆ ถึงย่อท้อ ขณะที่พี่ใหญ่กลับกำลังหัวเราะร่า และมองตรงไปที่สถานการณ์ นั่นก็เพราะพี่ใหญ่มีกำลังมากพอยังไง…

โลกนี้มันโหดร้ายเสมอ, ในชีวิตทุกคนต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ถ้าหากไม่มีเงินทอง และไม่มีที่พึ่งที่เข้มแข็ง ก็ทำได้แค่ต้องลองปรับความคิด สภาพจิตใจ ให้เข้มแข็งขึ้น, ไม่ว่าจะเจอกับอะไรก็ตาม ต้องหาวิธีเพื่อที่จะได้ปลดปล่อยความเครียด

แน่นอนว่ามันดูเหมือนจะยากเกินไป ถ้าจะมาขอให้เด็กอายุ 15 ปีทำสิ่งนี้ นับประสาอะไรกับประสบการณ์ของ โจว เสี่ยวเซิ่ง ที่ยากลําบากเกินไป ความกดดันที่เธอต้องเผชิญหน้าไม่ใช่สิ่งที่เด็กธรรมดาๆ จะทนรับได้ และการที่เธอทนมาได้จนถึงตอนนี้ ก็นับได้ว่าเธอกล้าหาญมากแล้ว.. และในบางทีเธออาจจะแค่เหนื่อย และ ..ไม่อยากที่จะทนรับมันอีกต่อไป

ตอนนี้ หลินฟาน ได้ช่วยชีวิตเธอ ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่, แต่หลังจากที่เธอได้เกิดใหม่, เมื่อเธอดูไปที่การโจมตีบนโลกออนไลน์อีกครั้ง,.. เธอก็กลับดูนิ่งสงบลงไปมาก

ต้องบอกว่าฉากที่ เจิ้ง จินเทา คุกเข่าขอความเมตตานั้น มันทําให้เธอประทับใจมาก ทําให้เธอรู้ว่าเบื้องหลังการโจมตีที่ชั่วร้ายเหล่านี้.. มันก็อาจจะมีกลุ่มพวกคนขี้ขลาดแบบ เจิ้ง จินเทา ตราบใดที่เธอแข็งแกร่งขึ้น  คนขี้ขลาดเหล่านี้ก็จะไม่สามารถมาทําร้ายเธอได้อีก

โจว เสี่ยวเซิ่ง ได้ปิดโทรศัพท์ลงทันที หยุดดูข้อความเหล่านั้น และหลับตาลง เธอต้องการอยากนอนหลับให้สบาย รอวันใหม่ที่จะมาถึง สิ่งที่เธอต้องทํานั้นมัน ยังมีอยู่อีกมาก ..มาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด