ตอนที่แล้วตอนที่ 121 งานเลี้ยงและการเจรจา 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 123 น่ารักเป็นบ้าเลย

ตอนที่ 122 งานเลี้ยงและการเจรจา 2(อ่านฟรี)


ตอนที่ 122 งานเลี้ยงและการเจรจา 2

เซล่าเดินเข้าไปในพร้อมกับทีมคุ้มกันและคนติดตามของเธอ แต่ว่าหลังจากเข้าไปพวกเธอก็พบว่าทางโรงแรมให้เข้าไปได้แค่สองคนเท่านั้น ทำให้เซล่าน่าเลือกริโอน่าเข้าไปกับเธอ ส่วนคนที่เหลือก็พาไปพักผ่อนยังห้องที่เตรียมไว้ให้

“พวกเขาถือว่าพยายามได้ดี” ริโอน่ากล่าวพร้อมกับมือที่ขยับแว่นขึ้นและสายตากวาดสายตามองไปรอบตัว

“เมืองปลายเป็นเมืองระดับเล็กแม้แต่ในเขตรัฐเท่านั้น” เซล่ากล่าว

แต่ว่าในตอนนั้นพอทั้งสองเข้าไปด้านในก็ต้องมีสีหน้าตื่นตกใจ เมื่อเห็นว่ามีแขกในงานราว ๆ 2-300 คนอยู่ด้านในที่สำคัญกว่านั้นคือเธอกลับจดจำแขกหลายคนได้ว่าพวกเขาคือนักธุรกิจไม่ก็ระดับผู้บริหาร

บริษัทระดับเมืองในรัฐคานันที่เธอจำได้อย่างแม่นยำ เพราะติดต่อด้านธุรกิจก่อนบ่อย มีบริษัทในระดับรัฐจำนวนมากด้วย ซึ่งแต่ละไม่เหมือนจะตกใจไม่ต่างจากเธอและพวกเขาก็พยายามพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน

แต่ว่ามีจุดหนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุด พวกที่มาจากบริษัทระดับสหพันธรัฐ พวกเขากำลังเผชิญหน้ากันอยู่ แม้ว่าแต่ละคนจะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่สายตาของพวกเขากำลังเชือดเฉือนกัน

“คาสัน ตัวแทนจากบริษัทมาสเตอร์มอนสเตอร์”

“นั้นคือเบรเดนเป็นผู้บริหารดาวรุ่งของบริษัทมังกรฟาร์มฟู้ด กรุ๊ป”

เซล่าพึมพำออกมา ทั้งสองคนนั้นกำลังจับมือกัน แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทำไปพอเป็นพิธี

ในตอนนั้นริโอน่าเหมือนจะเห็นใครบางคน จึงเรียกให้คุณหนูของเธอดูในทันที “คุณหนูดูทางนั้นเป็นเขาใช่ไหม ชายที่สวมแว่นตา ใบหน้าดุดันคนนั้นตำนานจากบริษัทฮิลล์สโตนที่สามารถพาบริษัทขึ้นไปเป็นบริษัทชั้นนำของสหพันธรัฐได้”

“อัลเบิร์ต ทาดิโอ้” เซล่าพึมพำชื่อออกมา เธอจดจำชื่อนี้ได้ดี เพราะเป็นหนึ่งในบุคคลที่เธออยากจะพบมากที่สุดคนหนึ่ง

เขาเป็นเหมือนตำนานที่มีลมหายใจของนักธุรกิจหนุ่มสาวทุกคน

“ไม่คิดว่าเขาก็มาที่นี่ด้วย” เซล่าอยากจะเดินเข้าไปทักทาย แต่ก็พบว่าชายคนนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยตัวแทนจากบริษัทชั้นนำในระดับรัฐจำนวนมากจนเธอไม่มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยด้วยเลย

ในตอนนี้ฉากตรงหน้าเป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อมาก ถ้าโลกภายนอกได้รับรู้ว่างานเลี้ยงอย่างไม่เป็นทางการในเมืองปลายฝนเล็ก ๆ ของรัฐคานันจะรวบรวมตัวแทนจากบริษัทระดับโลกจำนวนมากมารวมกันที่นี่ได้ เพียงแค่เรื่องการเจรจาที่ดินเท่านั้น

...

ลุคมองทุกอย่างหลังม่านฉาก แม้ว่าในห้องจะมีแค่ตัวแทน แต่ลุคก็สัมผัสได้ว่าทุก ๆ นาทีจะมีคลื่นพลังที่แข็งแกร่งกวาดผ่านทุกอย่างไม่หยุด

คลื่นพลังพวกนั้นมีตั้งแต่ระดับ E ระดับ D และแม้แต่ระดับ C ก็มี ซึ่งถ้าไม่ใช่ของตัวแทนก็เป็นผู้ติดตามที่มาคอยคุ้มกันคนพวกนี้แน่นอน

“ช่างมีตัวตนที่แข็งแกร่งเยอะจริง ๆ”

งานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นครั้งนี้ได้รับการแนะนำมาจากเจฟฟ์ แม้มันจะไม่เป็นทางการแต่ก็จำเป็น เนื่องจากว่าทุกบริษัทที่เข้ามาเพื่อจะเจรจามีจำนวนมากเกินไป และไม่ว่าบริษัทไหนพวกเขาก็ไม่สามารถไปมีเรื่องได้

ซึ่งถ้าจะให้รอพูดกันทีละบริษัทพวกเขาคงต้องใช้เวลาหลายสิบวัน แล้วยังต้องมาปวดหัวว่าจะเลือกบริษัทไหนก่อนและหลังด้วย

แต่การจัดงานนี้ขึ้นมาเท่ากับเป็นการรวบรวมทุกคนมาที่นี่ในครั้งเดียว เพื่อจัดการเรื่องปัญหาทั้งหมดพร้อม ๆ กัน ลุคเห็นว่าสายตาของแต่ละคนก็รู้ความคิดในการจัดงานเลี้ยงไม่เป็นทางการนี้ดี

ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็กำลังรอว่าลุคจะใช้วิธีการไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาหลายคนเตรียมใช้อำนาจและน้ำลายในการแย่งชิงพื้นที่ดีที่สุดมาให้ได้อยู่แล้ว

“พร้อมหรือยัง” ลุคหันไปหาเจฟฟ์

“ยัง” เจฟฟ์พยายามผูกเนกไทของตัวเองด้วยมือที่สั่นเท่า ในตอนนั้นเองนิโคลก็เดินเข้ามาในชุดราตรีพร้อมกับช่วยพ่อของเธอผูกเนกไท

“พ่อใจเย็น ๆ หน่อย ตอนนี้เป็นโอกาสของพ่อแล้วนะ” นิโคลเผยรอยยิ้มอ่อนแอออกมา

“พ่อรู้แล้ว เราไปกันเถอะ” เจฟฟ์และนิโคลเดินขึ้นเวทีคู่กันไป

ส่วนลุคไม่ได้ขึ้นไปด้วย เพราะเขาไม่คิดจะแผ่นตัวออกไป ไม่ใช่เพราะว่าเขาอยากทำให้มันลึกลับอะไร แต่เพราะเขาต้องระวังตัวไว้ สิ่งที่เขาถือไว้นั้นมีค่ามากมายเกินไป จนถึงขนาดที่คนพวกนี้อาจจะรวมหัวกันฆ่าเขาได้

“คงได้เวลาเจรจาลับแล้ว” ลุคมองดูหน้าจอทั้ง 4 ที่อยู่ในกล้องวงจรปิดมันกำลังจับภาพของตัวแทนสามบริษัทชั้นนำของสหพันธรัฐไว้กับอีกสองสาวที่กำลังหาทางเข้าไปเจรจากับทุกคนอยู่

“ส่งคำเชิญไปให้พวกเขา” ลุคสั่งการ

“ค่ะท่าน” บริกรสาวทั้งสี่รับคำ ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

...

ด้านหน้าเวทีที่มีเพลงบรรเลงมาสักพัก ตั้งแต่เย็นจนท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว ในตอนนั้นก็มีชายและหญิงเดินออกมา ทุกคนต่างหันไปมองเพราะคิดว่าเป็นลุคซันเดอร์ชายที่พวกเขาอยากจะเจอตัว

แต่พอเห็นว่ากลับเป็นชายวัยกลางคนก็ต้องขมวดคิ้ว แถมหญิงสาวด้านข้างก็ไม่น่าจะใช้ลุคซันเดอร์ด้วย

“ทุกท่านผมเป็นตัวแทนของบริษัทอมีตี้ที่จัดการเรื่องที่ดินทั้งหมดของคุณลุค ซันเดอร์” เจฟฟ์กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทรงพลังเท่าที่เขาจะทำได้ มันเป็นการแสดงอำนาจการต่อรองอย่างหนึ่ง

แต่ทันทีที่พูดจบทุกคนต่างก็พากันแสดงความไม่พอใจในทันที

“หมายความว่ายังไงตัวแทน หรือนายลุคนั้นจะออกมา”

“เขาคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แม้แต่หน้าก็ไม่คิดมาพบพวกเรา”

“ใช่ พวกเราเสียเวลารออยู่ที่นี่มาตั้ง 1 ชั่วโมงแล้ว แต่กลับไม่คิดจะมาพบพวกเรา”

“บัดซบ แค่คนจากเมืองเล็ก ๆ แต่กล้าไม่ออกมาหาพวกเราด้วยตัวเอง รู้ไหมพวกเราเป็นบริษัทในระดับรัฐเลยนะ สามารถซื้อทั้งเมืองนี้ได้ด้วยซ้ำ”

เสียงตะโกนดังขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง พวกเขามาที่นี่เพราะอยากจะซื้อที่ดิน แต่ไม่คิดว่าแม้แต่เจ้าของตัวเล็ก ๆ คนนั้นก็ไม่คิดจะออกมาเจอหน้า ทำให้รู้สึกหงุดหงิดเป็นเรื่องปก

อำนาจของแต่ละคนมีมากขนาดที่แม้แต่เมืองปลายฝนก็ไม่อยู่ในสายตาพวกเขาด้วยซ้ำ

เจฟฟ์ที่แม้จะคาดการไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ หลายคนจะต้องไม่พอใจ แต่ไม่คิดว่าจะเกินเลยไปมากขนาดนี้ พวกเหมือนจะบุกเข้ามาลากคอเขาลงมาด้วยซ้ำ

‘ถ้าปล่อยไว้งานนี้ล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่มแน่’ เจฟฟ์พยายามใช้ประสบการณ์มาควบคุมสติของตัวเองในฐานะที่เคยบริหารบริษัทใหญ่มาก่อน ถึงจะไม่ใหญ่เท่าคนพวกนี้ก็ตาม แต่เขาก็เป็นผู้บริการที่มีความสามารถคนหนึ่ง

ในตอนนั้นสายตาของเขาก็หันไปมองลูกสาวที่ยืนให้กำลังใจอยู่

“พ่อ...” นิโคลพยักหน้าให้กับพ่อของเธอ

เจฟฟ์กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสงบนิ่งมากขึ้น ก่อนจะหลับตาและในพริบตาที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มว่า

“ทุกท่านใจเย็นก่อน ถ้าท่านไหนไม่พอใจก็สามารถจากออกไปได้เลย”

หลายที่พากันโวยวายกลับต้องสะดุดลงกับคำพูดของเจฟฟ์ อยู่ ๆ ก็ไม่มีการพูดหรือพยายามอธิบายอะไร แต่เชิญออกไปจากห้องเลย

มีบางคนไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีใครคิดจะออกไปจากห้องนี้

เจฟฟ์พอใจที่ทุกคนเงียบลงไปให้เขาได้พูดต่อ

“ผมรู้ว่าทุกท่านไม่พอใจ แต่ว่าพวกท่านทั้งหลายไม่ได้มาเพื่อเจอกับลุค ซันเดอร์ แต่มาเพื่อที่ดินจริงหรือไม่?” เจฟฟ์ยิงคำถามไปอีกครั้ง

ทุกคนพอได้ยินดังนั้นก็อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร ก่อนจะพากันหุบปาก เพราะไม่อาจจะเถียงเจฟฟ์ได้

“มันก็จริงถ้าพวกเขาทำการซื้อที่ดินได้ ต่อให้พบหรือไม่พบลุค ซันเดอร์ก็ไม่สำคัญ”

“แต่เราจะซื้อขายที่ดินกันยังไง”

“คุณมีอำนาจในการตัดสินใจแทนเขาร้อยเปอร์เซ็นต์ใช่หรือไม่”

“ใช่ ๆ บอกมาเร็ว ๆ เรามีเวลาไม่มากนักหรอกนะ ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้วด้วย”

เจฟฟ์หันไปมองลูกสาว นิโคลพยักหน้า ก่อนจะเปิดบางสิ่งออกมา มันคืออุปกรณ์ฉายภาพโฮโลแกรม ไม่ใช่เทคโนโลยีระดับไกอา แต่ว่าก็นับเป็นเทคโนโลยีราคาแพงที่ลุคสั่งมาใช้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ

ทุกคนเคยเห็นจึงไม่ได้ตื่นตาตื่นใจอะไรมาก แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสนใจ นั้นคือแผนภูมิแปลงที่ดินที่ฉายอยู่ในตอนนี้

มันถูกฉายอยู่ใจกลางห้อง พวกเขาขยายตัวแหวกออกกันในทันที

“สิ่งที่ทุกท่านเห็นอยู่ในตอนนี้คือแผนภูมิประเทศของเมืองปลายฝนและป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ ส่วนที่ท่านเห็นเป็นสีน้ำเงินนั้นคือแปลงที่ดินทั้งหมดที่ทางเราครอบครองอยู่” เจฟฟ์ชี้ให้ทุกคนเห็น นิโคลขยับมันตามคำพูดของพ่อเธอ

ทุกคนรู้ว่าลุคครอบครองที่ดินจำนวนมาก แต่ว่าพอมาเห็นแบบนี้ก็ยิ่งทำให้พวกเขาอ้าปากค้างยิ่งกว่าเก่า เพราะที่ดินทั้งหมดของลุคครอบคลุมผืนป่ากลายพันธุ์เอราบีเต้ไว้ตรงกลางและยังลากยาวออกไปรอบ ๆ อย่างจงใจ

ถ้ามีคนมาบอกว่านี่ไม่ใช่การซื้อที่ดินเพื่อเกร็งกำไรจากประตูมิติทุกคนคงถุยน้ำลายท่วมคนผู้นั้นเป็นแน่

“เจ้าเล่ห์จริง ๆ” คาสันพูดออกมา

“หึ ชายคนนี้ไม่โง่ก็ฉลาดมาก” เบรเดนกล่าวชมเชยออกมา

อัลเบิร์ตขยับแว่นตาของตัวเองและไม่พูดอะไรทั้งนั้น

“คุณหนูที่ดินทั้งหมดนี้เกรงว่าถ้าขายเขาอาจจะเป็นชายที่รวยอันดับต้น ๆ เลย เราต้องระวังเขาไว้” ริโอน่ากล่าวเตือน

“อืม แต่ว่าถ้าเขาขายฉันก็ผิดหวังอยู่เล็กน้อย” เซล่ายิ้มมุมปาก

ริโอน่าส่ายหัวเล็กน้อย เธอกลับมาจดจำแปลงที่ดินเหล่านี้อีกครั้ง

แต่ในตอนนั้นเองก็มีบริกรสาวเดินเข้ามาคนหนึ่ง

“คุณผู้หญิงค่ะ ท่านลุคเชิญไปที่ห้องส่วนตัวทางด้านข้างค่ะ” บริกรสาวกล่าว

“เชิญ” เซล่าและริโอน่ามองตากันด้วยความสับสน แต่ขณะที่กำลังมองดูอยู่เธอก็เลือกที่จะตามไป

ในอีกสามจุดในห้องจัดเลี้ยงก็มีบริกรเข้าไปเชิญแขกคนสำคัญคือ คาสันจากบริษัทมาสเตอร์มอนสเตอร์ เบรเดนจากบริษัทมังกรฟาร์มฟู้ด กรุ๊ป และอัลเบิร์ตจากบริษัทฮิลล์สโตนด้วย

มีคนไม่มากที่สังเกตเห็นเพราะความสนใจของพวกเขาทั้งหมดนั้นกำลังสนใจกับแผนภูมิพื้นที่ซึ่งกำลังแสดงอยู่ในกลางห้อง

“ทุกท่านในขณะนี้พวกท่านน่าจะเห็นถึงแปลงที่ดินและมีการจับจ้องไว้ในใจแล้ว เรามาพูดถึงวิธีการกันเถอะ ทางเราบริษัทอมีตี้ไม่คิดจะขายที่ดินเหล่านี้ แต่เราสามารถทำสัญญาเช่าระยะยาว 10 ปี 30 ปีและ 50 ปีกับทุกท่านได้” เจฟฟ์เปิดด้วยเรื่องสำคัญต่อในทันที

“หึ พวกคุณไม่คิดว่าจะโลภไปหน่อยเพราะถึงยึดพื้นที่ทั้งหมดไว้แบบนี้”

นิโคลมองหันไปมองชายที่พูดคนนั้น สุดท้ายเธอก็กล่าวขึ้นมา “นี่คือที่ดินของพวกเรา ถ้าคุณไม่ต้องการเช่าก็แค่ปล่อยให้คนอื่นเช่า”

“เธอ...รู้ไหมว่าฉันเป็นใคร คนอื่น ๆ ก็คิดแบบเดียวกับฉันใช่ไหม”

ชายคนนั้นอยากจะพูดออกมา แต่ว่าเขาพบว่าคนรอบ ๆ กลับเริ่มส่งเสียงสนับสนุนหญิงสาวคนนั้น ที่ดินมีจำกัด แต่ทุกคนอยากได้กันทุกคนและไม่จำกัดด้วย

และในเมืองเจ้าของเขาไม่ขายก็เท่ากับทุกคนจะไม่ได้ซื้อไป ถึงอย่างนั้นก็ยังได้เช่าในสัญญาระยะยาว มันก็คือว่าสมเหตุสมผล สัญญาเช่าเปลี่ยนกันได้ แต่ถ้าซื้อแล้วไม่มีใครยอมขายแน่นอน

ในเมื่อไม่มีใครสักคนซื้อได้แล้วจะมาโวยวายทำไม ถ้าไม่อยากเช่าก็ออกไปเลยจะได้มีคู่แข่งน้อยลง

สายตาของทุกคนบ่งบอกอย่างชัดเจน ชายคนนั้นกัดฟันแน่นเขาเป็นเจ้าของบริษัทในเมืองใกล้ ๆ เมืองปลายฝนเลยคิดอยากจะซื้อที่ดินพวกนี้เพื่อโอกาส แต่ว่าตอนนี้เขากลับโดนสายตาทุกคนดูถูก เขาก็ไม่กล้าตอบโต้อยู่ดี แต่ละคนสามารถใช้อำนาจทางการค้าทำลายบริษัทของพวกเขาได้

“แล้วเราจะแบ่งแปลงที่ดินเช่ากันยังไง”

“ใช่ ในเมื่อทุกคนก็อยากได้แปลงที่ดีที่สุดอยู่แล้วจริงไหม ฉันยินดีเสนอราคามากกว่าคนอื่น ๆ 2 เท่าเลย”

“ฉันให้ 3 ของแปลงนี้เป็นยังไง”

“แปลงนี้ฉันจองแล้ว ถอยออกไปเลย”

แต่ละเริ่มเสนอราคากันเป็นเท่าตัวเพื่อแย่งชิงการเช่าที่ดินเหล่านั้น ซึ่งราคาเริ่มไม่ใช่แค่หลักล้านเครดิตแน่นอน

“ทุกท่านใจเย็นก่อน ทางเราเตรียมวิธีการที่เป็นธรรมไว้แล้ว เราจะทำการประมูลที่ดินกัน แบบ 3 รอบ” เจฟฟ์ยกนิ้วสามนิ้วขึ้นโชว์และพูดต่อว่า “ที่ดินแต่ละแปลงจะกำหนดราคาขั้นต่ำไว้รวมถึงราคาในการเพิ่มตัวเลขด้วย พวกท่านสามารถเข้าประมูลราคากันแบบเป็นความลับได้ โดยจะเสนอได้ 3 ครั้งต่อบริษัทต่อที่ดิน 1 แปลง ใครเสนอราคาสูงสุดจะได้ไป ส่วนในที่ดินแปลงไหนที่ราคาเสนอเท่ากันผู้เสนอราคาสูงสุดจะสามารถเข้ารวมประมูลในรอบที่ 2 ถ้ามาถึงรอบที่ 3 จะเปิดให้แข่งกันแบบเปิดราคากับคนนอกได้ ซึ่งจะเป็นรอบสุดท้าย”

“เช่นที่ดินแปลงนี้ราคาเช่า 10 ล้านต่อปี เพิ่มครั้งละ 1 ล้านเป็นอย่างต่ำ ถ้ามี 3 ท่านเสนอราคาที่ 12 ล้าน อีกท่าน 15 ล้าน และท่านสุดท้าย 16 ล้าน ท่านที่เสนอ 16 ล้านเครดิตจะได้ไป แต่ว่าถ้าท่านสุดท้ายเสนอในราคา 15 ล้าน ซึ่งเท่ากับท่านที่ 2 ที่เสนอราคา 15 ล้านเช่นกัน แบบนั้นท่านที่ 2 และ 3 จะสามารถประมูลในรอบที่ 2 ได้ โดยเสนอได้ 3 ครั้งเหมือนเดิม และถ้ายังเท่ากันอยู่ในรอบที่ 3 เราจะเปิดราคาสู้กัน โดยคนนอกสามารถเข้ารวมได้ ทุกท่านคิดว่ายังไง” เจฟฟ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ตอนแรกที่ทุกคนได้ยินก็เห็นด้วยมันยุติธรรมดาดี แต่ว่าพอได้ยินกฎในรอบที่ 3 พวกเขาก็ปากกระตุกกันทันที เพราะมันเป็นการบีบให้คนที่ประมูลในรอบที่ 2 ต้องทำการเสนอราคาให้ชนะ แบบนั้นทุกคนที่มาถึงรอบนี้จะแย่งกันเพิ่มราคาอย่างบ้าคลั่ง เพราะถ้าไม่ทำที่ดินที่พวกเขาหมายตาจะถูกเปิดราคาแล้วให้คนที่ไม่อยู่ในรอบที่ 2 มาประมูล แบบนั้นจะยิ่งเป็นการแย่งกันอย่างบ้าคลั่งมากกว่าเดิม

“โหดเหี้ยมจริง ๆ” ทุกคนนิยามให้กับชายวัยกลางคนตรงหน้า เจฟฟ์ยิ้มให้กับคำชมของพวกเขา

ถึงจะรู้ แต่ทุกคนก็พากันตื่นเต้นและอยากที่จะประมูลกันแล้ว สำหรับนักธุรกิจที่มีอำนาจเงินล้นฟ้า การประมูลที่ดินแบบนี้ไม่ต่างจากการพนัน มันทำให้อะดรีนาลีนพวกเขาหลังออกมา ทุกคนมั่นใจในไหวพริบและอำนาจเงินที่ตัวเองมี

การเดิมพันครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตัวเอง แต่เป็นอนาคตของบริษัทเลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในชีวิตนี้จะมีประตูมิติโลกสมบูรณ์ปรากฏออกมาอีกหรือไม่ เนื่องจากตั้งแต่ประตูโลกสมบูรณ์แห่งที่ 2 เปิดขึ้นมาจนถึงประตูโลกสมบูรณ์แห่งที่ 3 ก็ห่างกันเกือบ 50 ปีเลยทีเดียว

“พวกท่านทุกคนสามารถใช้แหวนเครือข่ายไกอาเพื่อเข้ารวมสนุกกันได้ แบบนั้นจะทำให้น่าเชื่อถือยิ่งกว่า” เจฟฟ์เปิดให้พวกเขาเข้ามาเริ่มการประมูล พร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มราคาแพงที่ทยอยมาเสิร์ฟ งานเลี้ยงนี้จึงเริ่มคึกคักมากขึ้นหลายเท่าตัว

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด