ตอนที่แล้วบทที่ 48 หาเงินตลอดเวลา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 50 พลังของฝ่ามือสายฟ้า

บทที่ 49 การเยี่ยมเยือนศูนย์ฝึกศิลาไผ่


“ซืออวี๋?”

“ใช่แล้ว นั่นคือชื่อของเขา” ศิษย์ผู้นั้นกล่าวออกมา

“ให้เขาเข้ามาได้เลย” หลินฮงเหนียนกล่าวออกมา เด็กคนนี้ในที่สุดก็เต็มใจมาที่ศูนย์ฝึก

ศิษย์พยักหน้าและออกไปในทันที

ในขณะนี้ หลินซิ่วจูผู้ที่อยู่ข้างหลินฮงเหนียนนั้นรู้สึกคลุมเครือว่าชื่อนี้คุ้นเคยเล็กน้อย

“เจ้ารู้จักซืออวี๋ผู้นี้ไหม?” หลินฮงเหนียนเป็นคนแรกที่เอ่ยถามลูกสาวของเขา

“ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าเคยกล่าวกับข้าว่าอสูรกินเหล็กที่มีระเบียบวินัยถูกคนที่ชื่อว่าซืออวี๋รับไป”

ครั้งแรกที่หลินฮงเหนียนได้ยินชื่อซืออวี๋ไม่ได้มาจากหลู่ชิงอี้ แต่มาจากหลินซิ่วจู

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากซืออวี๋เป็นเพียงนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัด เขาจึงไม่ได้จำมัน

เมื่อหลู่ชิงอี้กกล่าวถึงซืออวี๋และเขาตรวจสอบคนผู้นั้นทำให้เขาจำได้และตระหนักว่านั่นคือคนผู้เดียวกัน

หลินซิ่วจูกล่าวว่า “เป็นเขาจริงเหรอ? ท่านพ่อจำได้ด้วยเหรอ? เกิดอะไรขึ้น… เขาจะเข้าร่วมศูนย์ฝึกงั้นเหรอ?”

หลินฮงเหนียนส่ายหัวของเขาและกล่าวว่า “ไม่ ข้าได้รับการไหว้วานจากบางคนให้ชี้แนะเขา”

“แต่ไม่ว่ายังไง หลังจากที่เขาจากไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าการเติบโตของอสูรกินเหล็กตัวนั้นเป็นยังไง?”

หลินซิ่วจูส่ายหัวของนางอีกครั้งและกล่าวว่า “ข้าไม่แน่ใจ แต่ข้าบอกพวกเขาว่าหากพวกเขามีปัญหา พวกเขาสามารถไปที่ฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กเพื่อขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลา เนื่องจากเขาไม่ได้ไปที่นั่น… ทุกอย่างจึงควรจะปกติดีใช่ไหม?”

เขาจะปกติได้ยังไงกัน… เขาผิดปกติมาก

หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง หลินฮงเหนียนก็กล่าวว่า “ซืออวี๋ผู้นั้นและอสูรกินเหล็กเข้าร่วมการประเมินที่ภูเขาเทียนหมังซึ่งถูกจัดโดยสมาคมนักฝึกสัตว์อสูรเมื่อไม่กี่วันก่อนและได้รับอันดับหนึ่ง”

หลินซิ่วจูตกตะลึงและตอบสนองไม่ทัน

จากนั้นดวงตาที่งดงามของนางก็เบิกกว้าง “เป็นไปไม่ได้ อสูรกินเหล็กตัวนั้นเพิ่งปลุกทักษะการเคลือบแข็งเมื่อสามเดือนก่อน…”

ในระดับเพียงเท่านี้ มันคงไม่อาจชนะหมูป่าหนามยาวได้เลย

แม้ว่านางจะหวังไว้มากกับอสูรกินเหล็กตัวนั้นและคิดว่าอีเลฟเว่นผู้ที่มีวินัยจะสามารถทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน แต่นางก็ไม่เชื่อในสิ่งที่พ่อของนางกล่าวออกมาอย่างเห็นได้ชัด

ความเร็วการเติบโตดังกล่าว…

“ข้าก็เชื่อได้ยากเช่นกัน แต่เขาจะมาที่นี่ในไม่ช้า เราจะรู้หลังจากนั้น” หลินฮงเหนียนมองไปที่กลุ่มศิษย์ที่ไร้ประโยชน์ในสนามฝึก

หากคนกลุ่มนี้โดดเด่นได้สักครึ่งหนึ่งของซืออวี๋ล่ะก็…

ระดับปลุกตื่นขั้นหก… เชี่ยวชาญการเคลือบแข็งขั้นชำนาญ… เรียนรู้ฝ่ามือสายฟ้าได้… เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก

“ถ้าเช่นนั้น เราจะยังไปกินข้าวข้างนอกไหม?” หลินซิ่วจูเอ่ยถามเรื่องสำคัญ เรื่องไร้สาระเกี่ยวกับซืออวี๋ถูกทิ้งไว้ การกินเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

“ไม่” หลินฮงเหนียนกล่าวออกมา

การรอซืออวี๋ผู้นี้นั้นดีกว่ามาก

แม้ว่าเขาจะยังไม่เคยเจอซืออวี๋มาก่อน แต่นักฝึกสัตว์อสูรอัจฉริยะผู้นี้ เขาคิดว่าน่าพอใจเสียยิ่งกว่าลูกสาวของเขาเสียอีก

นี่ก็เหมือนกับพ่อแม่บางคนที่มักจะเปรียบเทียบลูกตัวเองกับลูกของคนอื่น

เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะดูว่าซืออวี๋ผู้นี้และอสูรกินเหล็กตัวนั้นเป็นยังไง

“แต่ข้าบอกท่านแม่ไปแล้วว่าท่านจะไปกินด้วยกัน”

หลินซิ่วจูมองไปที่พ่อของนางด้วยสีหน้าอันแปลกประหลาด วันนี้พ่อของนางยืนหยัดอย่างแน่วแน่จริงเหรอ? เขากล้าที่จะไม่เชื่อฟังภรรยาของเขาเหรอ? เขาไม่กลัวที่จะต้องนอนบนกระดานไผ่ในตอนกลางคืนเหรอ?

หลินฮงเหนียนหันกลับมาอย่างใจเย็น

“ที่ไหนนะ?” หลินฮงเหนียนเอ่ยถาม

“บอกซืออวี๋ให้มาช่วงบ่าย ข้ารู้สึกหิวเล็กน้อย”

“ช่วงบ่ายเหรอ?”

ทางด้านของซืออวี๋ เขาได้ยินจากศิษย์ของศูนย์ฝึกศิลาไผ่ว่าปรมจารย์หลินฮงเหนียนจะอยู่ที่ศูนย์ฝึกในช่วงบ่าย หลังจากจัดการนัดหมายเสร็จ เขาก็ยืดตัวด้วยความคาดหวัง

เขาตัดสินใจที่จะหาข้าวเที่ยงกินก่อนที่จะไปศูนย์ฝึกศิลาไผ่

ช่วงประมาณสิบโมงเช้า ซืออวี๋ก็เริ่มออกเดินทาง เพื่อประหยัดเวลา เขายังคงเลือกนั่งแท็กซี่

หลังจากมาถึงใกล้กับศูนย์ฝึกศิลาไผ่ เขาก็พบร้านอาหารชั้นสูงโดยบังเอิญและสั่งอาหารหลายอย่าง รวมทั้งเนื้อหมูป่าที่เขาไม่ได้กินในครั้งที่ผ่านมา

หลังจากกินและดื่มจนพอใจ ซืออวี๋ก็มองดูเวลา นี่ใกล้จะถึงเวลานัดแล้ว ดังนั้นเขาจึงมุ่งตรงไปยังศูนย์ฝึกศิลาไผ่

ข้างนอกศูนย์ฝึกศิลาไผ่

“มีใครอยู่ที่นี่ไหม?”

ซืออวี๋เคาะประตู

ในไม่กี่นาที ประตูก็เปิดออก และหญิงสาวในชุดที่คุ้นเคยก็เปิดประตูออกมา

ซืออวี๋มองออกไปและกล่าวโดยไม่รู้ตัวว่า “รุ่นพี่แพนด้า…”

“ไม่สิ… นักเพาะพันธุ์หลินซิ่วจู?”

ผู้ที่เปิดประตูออกมาก็คือหลินซิ่วจูผู้ที่สวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นลายแพนด้า

“สวัสดี เราพบกันอีกแล้ว” หลินซิ่วจูยิ้มให้กับซืออวี๋

“ใช่แล้ว” ซืออวี๋พยักหน้า เมื่อเขาซื้ออสูรกินเหล็ก เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับหลินซิ่วจู ต่อมา เขาก็ได้รู้ว่านางเป็นลูกสาวของหลินฮงเหนียน

กล่าวโดยย่อ นางคือทายาทเศรษฐีผู้หนึ่ง

เขาอยากจะถอนหายใจ เขาเพิ่งได้รับเงิน 10,000,000 หยวนจากหลู่ชิงอี้ และตอนนี้เขาต้องมาเอาทรัพยากรฝึกฝนจากผู้หญิงคนนี้ ตามที่คาดไว้ เขาเป็นคนที่พึ่งพาผู้หญิงเพื่อหาในสิ่งที่เขาต้องการ…

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้… เขายังจ่ายเงินกู้ไม่หมดเลย เดิมทีเขาวางแผนที่จะคืนมันทุกเดือน แต่ตอนนี้… จำเป็นต้องคืนมันเลยไหม??

“ตามข้ามา ท่านพ่อรออยู่ข้างใน” หลังจากหลินซิ่วจูกล่าวเสร็จ นางก็เริ่มนำทางเขา

สักพักหนึ่ง ซืออวี๋ก็ได้ถูกเชิญเข้าไปที่ห้องรับรองของศูนย์ฝึก

ในเวลานี้ ในที่สุดซืออวี๋ก็พบหลินฮงเหนียนซึ่งเฉินไค จวงเยว่ และอวี๋จิงจิงได้กล่าวว่าชายผู้นี้คือนักฝึกสัตว์อสูรหมายเลขหนึ่งในเขตผิงเฉิง

“นั่งลง” ในห้อง หลินฮงเหนียนผู้ที่สวมชุดต่อสู้สีเทาผายมือออกไปและเชิญซืออวี๋ให้นั่งลง

เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของปรมจารย์หลินฮงเหนียน ซืออวี๋ก็คิดกับตัวเองว่าคนผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญอย่างชัดเจน เนื่องจากเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ ซืออวี๋จึงสงสัยว่าสัตว์อสูรของเขามีทักษะหายากหรือไม่…

ซืออวี๋นั่งลงอย่างระมัดระวัง และหลินซิ่วจูผู้ที่พาเขามาที่นี่ก็นั่งตรงข้ามกับเขา

หลินซิ่วจูยังคงไม่เชื่อผลลัพธ์การต่อสู้ของซืออวี๋ที่หลินฮงเหนียนเพิ่งกล่าวไป ท้ายที่สุด นางสามารถกล่าวได้ว่านางเป็นคนเลี้ยงดูอีเลฟเว่นมา… นางจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของอีเลฟเว่นเมื่อหนึ่งเดือนก่อนได้ยังไงกัน?

ยิ่งกว่านั้น ในระหว่างกินข้าว นางยังเอ่ยถามพ่อของนางว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม หลินฮงเหนียนก็กล่าวอย่างคลุมเครือและไม่ตอบตามตรง เขากล่าวเพียงแค่ว่าซืออวี๋มีโอกาสพิเศษ… ซึ่งเป็นเรื่องไร้สาระ!

“ด็อกเตอร์หลู่บอกข้าแล้ว”

“หากเจ้าวางแผนที่จะมาศูนย์ฝึกศิลาไผ่เพื่อเรียนรู้ ข้าจะสอนทุกอย่างให้แก่เจ้า”

“อย่างไรก็ตาม ตามความเข้าใจของข้า ดูเหมือนว่าจะมีขีดจำกัดสำหรับสิ่งที่ข้าจะสามารถสอนให้แก่เจ้าได้ในด้านการบ่มเพาะอสูรกินเหล็ก”

ในบรรดาวิธีการฝึกฝนของศูนย์ฝึกศิลาไผ่สำหรับอสูรกินเหล็ก สิ่งที่ล้ำค่ามากที่สุดคือคู่มือทักษะฝ่ามือสายฟ้าและคู่มือทักษะหมัดปืนใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

นอกเหนือจากนั้น แม้ว่าอาหารเสริมพิเศษแลอาหารจะมีราคาแพงมากเช่นกัน แต่พวกมันก็ยังคงด้อยกว่าคู่มือทักษะเล็กน้อย

ซืออวี๋และอีเลฟเว่นได้เรียนรู้ทักษะฝ่ามือสายฟ้าไปแล้ว ไม่น่าแปลกใจที่หลินฮงเหนียนกล่าวว่าไม่เหลืออะไรสอนกับซืออวี๋มากนัก

“ท่านถ่อมตัวเกินไปแล้ว” ซืออวี๋แสดงตัวว่าเขาคือมือใหม่

“ถ้าเช่นนี้เป็นยังไงล่ะ? ต่อไป สนามฝึกทั้งสามของศูนย์ฝึกศิลาไผ่จะเปิดกว้างให้เจ้า เจ้าสามารถใช้อุปกรณ์ฝึกฝนได้ตามที่เจ้าต้องการ ในด้านของทรัพยากรบ่มเพาะของอสูรกินเหล็ก ศูนย์ฝึกศิลาไผ่ก็จะมอบพวกมันให้เช่นกัน”

“ซิ่วจูควรจะมอบคู่มือการบ่มเพาะอสูรกินเหล็กขั้นพื้นฐานให้แก่เจ้าแล้วใช่ไหม? ข้าจะมอบคู่มือการบ่มเพาะชั้นสูงให้แก่เจ้าเพื่อการอ้างอิงในภายหลัง”

“หากเจ้ามีปัญหาในการฝึกฝน เจ้าสามารถมาถามข้าได้ทุกเมื่อ เจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ารับการฝึกฝนในศูนย์ฝึกเช่นเดียวกับศิษย์คนอื่น”

“เจ้าคิดยังไงล่ะ?”

การปฏิบัติเช่นนี้มีสำหรับอัจฉริยะเท่านั้น

อสูรกินเหล็กของซืออวี๋นั้นเชี่ยวชาญการเคลือบแข็งขั้นชำนาญและเรียนรู้ฝ่ามือสายฟ้าแล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องฝึกฝนประจำวันเช่นเดียวกับศิษย์ธรรมดาคนอื่น

ดังนั้นหลินฮงเหนียนจึงให้ความสะดวกสบายแก่ซืออวี๋ นี่เป็นสิ่งที่ศิษย์คนอื่น หรือแม้กระทั่งลูกสาวของเขาต้องการ

“ขอบคุณมากปรมจารย์หลิน” ซืออวี๋กล่าวเสริมว่า “นี่ค่อนข้างเหมาะกับข้าเลย”

มีอาหารและน้ำให้ ไม่ถูกจำกัด และนักฝึกสัตว์อสูรปรมจารย์ผู้ที่เขาสามารถเอ่ยถามได้ตลอดเวลา การปฏิบัตินี้… สมบูรณ์แบบมาก

เอาล่ะ ดูเหมือนว่าเงิน 10,000,000 หยวนจะถูกใช้เพื่อซื้ออาหารเสริมเท่านั้น ทรัพยากรบ่มเพาะของอีเลฟเว่นหายห่วงไปได้เลย แต่ความอยากอาหารของอีเลฟเว่นนั้นสูงเกินไปเล็กน้อย และเขาไม่รู้ว่าศูนย์ฝึกศิลาไผ่จะรับไหวไหม… เป็นเรื่องปกติภายใต้สถานการณ์ปกติ แต่เขากลัวว่าอีเลฟเว่นจะกินมากยิ่งกว่าเดิมหลังจากมันกินจนติดเป็นนิสัย

สำหรับอาหารของหนอนไหมเขียว… มันมีอยู่ทุกหนแห่ง

ดูเหมือนว่ากรเข้าร่วมสำนักที่สิบเอ็ดนี้จะเป็นทางเลือกที่ถูกต้องอย่างแท้จริง มิฉะนั้น เขาอาจยังคงเสียเวลาหาเงินอยู่ในตอนนี้

“หากจ้าจำไม่ผิด อสูรกินเหล็กของเจ้าได้เรียนรู้ฝ่ามือสายฟ้าแล้วใช่ไหม?”

“นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญของการเคลือบแข็งยังถึงขั้นชำนาญแล้ว”

ซืออวี๋พยักหน้า “ใช่แล้ว”

หลินซิ่วจู : (^ _ ^)?

สองคนนี้ไร้สาระมากขึ้นเรื่อยๆ

“ถ้าเช่นนั้นเรามามุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะฝ่ามือสายฟ้าก่อน ความยากในการเรียนรู้ของฝ่ามือสายฟ้านั้นต่ำกว่าหมัดปืนใหญ่เล็กน้อย อย่ากัดมากเกินกว่าที่เจ้าจะเคี้ยวไหว หากเจ้าต้องการเรียนรู้หมัดปืนใหญ่ คำแนะนำของข้าก็คือการฝึกฝ่ามือสายฟ้าเสียก่อน”

ซืออวี๋พยักหน้า อันที่จริง เราไม่ควรกัดมากเกินกว่าจะเคี้ยวไหว เขาไม่สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญทักษะในปัจจุบันของอสูรกินเหล็กได้อย่างสบายใจในตอนนี้

สำหรับหมัดปืนใหญ่… ลืมมันไปเถอะ

อสูรกินเหล็กธรรมดาอาจขาดทักษะนี้ แต่อสูรกินเหล็กของเขาไม่ขาดเลย ทักษะที่คล้ายกันเช่นฝ่ามือสายฟ้าก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้หมักปืนใหญ่ธาตุไฟเพื่อเพิ่มพลังโจมตี

แม้ว่าจะมีเงื่อนไขดังกล่าว แต่เขาก็ยังคงจะใช้ช่องทักษะในสารบัญทักษะสำหรับทักษะระดับสูงในอนาคตอย่างแน่นอน

“มีบันทึกเกี่ยวกับฝ่ามือสายฟ้าในโลกภายนอกน้อยมาก ต่อไป ข้าจะพาเจ้าไปที่สนามฝึกและอธิบายรายละเอียดของฝ่ามือสายฟ้า”

“ก่อนหน้านั้น ข้าจะแนะนำให้เจ้ารู้จักกับศิษย์คนอื่น ในอนาคต เมื่อเจ้ามาศูนย์ฝึก เจ้าจะต้องพบกับพวกเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้”

“สำหรับโรงฝึกต่างๆ ในศูนย์ฝึก ข้าจะให้ซิ่วจูพาเจ้าไปทำความคุ้นเคย”

หลินซิ่วจูมีคำถามมากมาย แต่นางไม่กล้าเอ่ยขัดในตอนที่พ่อของนางกำลังพูด

ในลำดับชั้นของตระกูล นางอยู่ต่ำกว่าพ่อของนางซึ่งต่ำกว่าแม่ของนาง

“เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้…” หลินฮงเหนียนมองไปที่ซืออวี๋

“แม้ว่าข้าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้าจากเอี้ยนฉีมาก่อน แต่ข้ายังไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจ้าเลย”

“เจ้าไม่คิดจะต่อสู้กับศิษย์ของศูนย์ฝึกเราเพื่อให้ข้าเข้าใจสถานการณ์เฉพาะของเจ้าเหรอ?”

“นั่นดีเลย” หลินซิ่วจูตอบกลับแทนซืออวี๋ การต่อสู้นั้นเป็นเรื่องดี และนางก็ต้องการเห็นว่าซืออวี๋และอสูรกินเหล็กของเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง

(ω • ω • ω •) ́) ได้เวลาสู้แล้ว!

ซืออวี๋สงบมาก เขาอยู่ยงคงกระพัน ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด