ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 40
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 42

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 41


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 41

“หมายความว่าให้ที่บอกให้ไปดูของจริง?”

เจ้าชายลำดับที่สามกลืนน้ำลายและถอยหลังไปหนึ่งก้าว  เพราะเขาไม่ทราบถึงตัวตนและความตั้งใจของเอลฟ์ตรงหน้าที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น เขาจึงเริ่มรักษาระยะห่าง

“ไม่ต้องกลัวกระหม่อมขนาดนั้นหรอกพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่ได้กลัว”

เขาขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไปที่เอลฟ์ผมสีแดง

“ตอบคำถามของข้ามาก่อน ที่บอกว่าให้ไปดูของจริงคืออะไร?”

“นั่นจะ…”

“ช้าก่อน”

ริมเมอร์ยังไม่ทันได้ตอบกลับ ดยุคทาร์ทันก็ปรากฏตัวขึ้นมาก่อน เขาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยที่เจ้าชายไม่ทันได้รู้ตัวและมายืนกั้นระหว่างเขากับเอลฟ์ตรงหน้า

“ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”

“เอ๊ะ!”

ดวงตาของเกรียร์เบิกกว้างเมื่อได้ยินชื่อที่ดยุคทาร์ทันใช้เรียกเอลฟ์ตรงหน้า

'ดาบแห่งแสงของซีกฮาร์ท!'

ในที่สุดเขาก็รู้ว่าเอลฟ์ตรงหน้าเป็นใคร เขาเป็นหนึ่งในผู้ติดตามที่จงรักภักดีของเกล็น ซีกฮาร์ทซึ่งมีข่าวลือว่าดาบของเขานั้นมีความเร็วเท่าๆ กับความเร็วแสง

'แต่ทำไมเขาถึงมาหาฉันล่ะ…?'

เขาเคยได้ยินเรื่องที่เขาเลิกเป็นนักดาบหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงมาตามหาเขา

“เอ่อ…ไม่ต้องตึงเครียดขนาดนั้นก็ได้มั้ง”

ริมเมอร์ยกมือและแสดงท่าทีว่าเขาไม่มีความตั้งใจที่จะต่อสู้

“แน่นอนว่าข้าไม่สามารถไว้ใจเจ้าได้  ข้าเคยเห็นเจ้าทำตัวเหมือนคนเสียสติมาหลายครั้งหลายคราแล้ว”

“ข้าเปลี่ยนไปเยอะแล้วน่า”

“หืม…”

ดยุคทาร์ทันเหลือบมองไปข้างหลังโดยไม่หยุดปล่อยแรงกดดัน

“องค์ชาย...เมื่อสักครู่นี้เอลฟ์ตนนี้พูดอะไรกับท่านเหรอพ่ะย่ะค่ะ?”

“เขาถามว่าข้าอยากไปลองดูของจริงหรือเปล่า”

“ของจริงงั้นเหรอ?  เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”

“อืม…มันอาจจะแปลกนิดหน่อยถ้าจะพูดออกมาตรงนี้”

ริมเมอร์ยกนิ้วขึ้นชี้ไปยังรอบๆ งาน  ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเลี้ยงเงียบลงแล้วและทุกคนก็หันมามองที่พวกเขา

“ไม่มีใครต้อนรับฉันจริงๆ ด้วย”

ริมเมอร์หัวเราะให้กับการที่ถูกสายตาหลากหลายคู่จ้องมองมาจากทุกหนทุกแห่งภายในงาน และเขาก็หันกลับมาในวงสนทนา

“เจ้าชายแห่งอาณาจักรโอเว่น…”

ริมเมอร์หยุดแล้วหันกลับมาขณะที่เขากำลังเดินไปที่ทางออก

“หากท่านต้องการเห็นของจริง ได้โปรดบอกคนที่พาท่านเดินชมในวันพรุ่งนี้ว่าท่านต้องการเยี่ยมชมสนามฝึกที่ห้านะพ่ะย่ะค่ะ”

เขาพูดแค่นั้นแล้วก็ออกจากโถงจัดงานเลี้ยงไป

เมื่อริมเมอร์ที่แอบเข้ามาที่นี่โดยไม่ได้รับเชิญได้ออกไปแล้ว ดนตรีก็เริ่มเล่นอีกครั้ง

คำพูดสุดท้ายของริมเมอร์กำลังดังก้องอยู่ในหัวของเกรียร์

'ของจริงอยู่ในสนามฝึกที่ห้างั้นเหรอ?'

***

“หื่อฮืมฮึม…!”

“เอ่อ…”

ราอนคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงฮัมเพลงของริมเมอร์ดังมาแต่ไกล

'เขาเป็นอะไรของเขาอีกแล้ว?'

ปกติแล้วในเวลานี้นั้นริมเมอร์ควรจะกำลังนอนงีบอยู่บนเวทีหลังจากที่ปล่อยให้เด็กๆแยกย้ายกันซ้อม แต่เขากลับมองมาที่เด็กๆด้วยแววตาใสแจ๋ว นั่นทำให้ราอนรู้สึกระแวงว่าอาจจะมีอะไรเกิดขึ้น

“เป็นอะไรของเขาอีกล่ะ?”

“ฉันกำลังจะพูดขึ้นมาเลย”

“หรือว่าเขากินอะไรแปลกๆเข้าไป?”

“เขาอาจจะได้เงินจากการเล่นพนันมาเยอะก็ได้”

เบอร์เรนและเด็กคนอื่นๆ กวัดแกว่งดาบของพวกเขาและแอบเหลือบมองริมเมอร์ไปด้วย

“อาจารย์…มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นหรือเปล่าครับ?”

ดอเรียนจอมสงสัยเดินไปถามริมเมอร์ตรงๆ

“จะมีแขกมาที่นี่แหละ”

'แขกเหรอ?'

ริมเมอร์เกลียดสิ่งที่น่ารำคาญแต่เขาดูตื่นเต้นที่จะมีคนมาที่นี่…นี่มันชวนสงสัยยิ่งกว่าเดิมอีก

'เลิกสนใจเขาดีกว่า'

ผู้ฝึกสอนเอลฟ์ตนนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกมากซะจนไม่สามารถคาดเดาความคิดหรือการกระทำได้เลย คงจะดีกว่าถ้าราอนหันไปสนใจแค่การฝึกซ้อม

ราอนดึงเอาออร่าที่ลุกโชนจากศูนย์พลังงานของเขาออกมาและยื่นเท้าขวาออกไป

ตูม!

เริ่มต้นด้วยท่าทางที่แปลกใหม่ เขาแสดงจังหวะสายน้ำและดาบผสมผสานในคราวเดียวกัน

เขาปล่อยจังหวะเท้าออกไปอย่างเป็นธรรมชาติราวกับสายน้ำแล้วดาบที่แหลมคมก็มีแสงระเบิดออกมา

ชิ้ง!

แม้ว่าจะเป็นการผสมผสานระหว่างจังหวะเท้าเพื่อป้องกันและการใช้ดาบเพื่อโจมตีแต่ก็ไม่ได้รู้สึกผิดธรรมชาติเลย นั่นเป็นเพราะว่าทั้งสองอย่างนั้นมุ่งเน้นไปที่การไหลและการผสมผสานเหมือนกัน

การไหลของมันเป็นไปตามธรรมชาติราวกับว่ามันเป็นกระบวนท่าเดียวกันอยู่แล้ว

เขาสัมผัสได้ถึงการจ้องมองจากผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ แต่เขาเคยชินแล้ว เขาจึงแสดงวิชาดาบและจังหวะเท้าต่อจนจบ

“…เฮ้อ”

ราอนปล่อยดาบของเขาลงหลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการฝึกฝนวิชาดาบและจังหวะเท้าในคราวเดียวกัน

'มันยังไม่ดีพอ'

มันยังมีส่วนที่ไม่สมบูรณ์อยู่บ้างเพราะเขาต้องพยายามอย่างมากในการผสมผสานการใช้ดาบ ฝีเท้าและออร่าเข้าด้วยกัน

เขาต้องฝึกฝนให้มากกว่านี้มันถึงจะสามารถใช้งานได้ในการต่อสู้จริง

“ลองใหม่แล้วกัน”

ในขณะที่เขากำลังจะเริ่มฝึกฝนใหม่อีกครั้ง เขาก็รู้สึกถึงการปรากฏตัวของคนหลายคนอยู่หน้าทางเข้าของสนามฝึก

“หืม?”

"ใครน่ะ?"

ผู้ฝึกสอนและผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ เองก็หยุดการกวัดแกว่งดาบและหันไปมองที่ทิศทางของเสียง

จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมา

“ไปเปิดประตูที”

"ครับ"

ริมเมอร์ชี้นิ้วไปที่ผู้ฝึกสอนคนหนึ่ง  ผู้ฝึกสอนที่ยืนอยู่ใกล้กับประตูก็เดินไปเปิดประตูทางเข้าของสนามฝึก

“ฉันคือเกสมันจากฝ่ายบริหารทั่วไป”

ใบหน้าของชายหนุ่มที่สวมชุดเครื่องแบบที่ดูเรียบร้อยโผล่ออกมา มีอัศวินที่สวมชุดเกราะสีเงินมากมายที่รออยู่ข้างหลังเขา

“ทูตจากอาณาจักรโอเว่นต้องการชมการฝึกฝนในสนามฝึกที่ห้า  มันอาจจะกระทันหันไปหน่อยแต่เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะเข้าไป”

“เชิญเข้ามาได้เลย เรายินดีต้อนรับแขกของซีกฮาร์ทเสมอ”

ริมเมอร์ย้ายตัวเองมาที่ประตูแล้วเปิดประตูออกให้กว้างมากขึ้น

“ช-เช่นนั้น เชิญเข้าไปได้ครับ”

เกสมันโค้งคำนับ เขาเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากและนำทางทูตของอาณาจักรโอเว่นเข้าไปในสนามฝึก

"อ่า…”

ราอนยิ้มแหยะพร้อมเก็บดาบฝึกไว้ที่เอว

'ยินดีต้อนรับแขกงั้นเหรอ?'

ริมเมอร์เคยบอกว่าการปล่อยให้คนมาเยี่ยมชมที่นี่เป็นเรื่องที่ไร้สาระสุดๆ ริมเมอร์ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฝึกของพวกเขาให้กับบุคคลภายนอกมาโดยตลอดแม้แต่กับนักดาบของตระกูลก็ตาม

เมื่อเขามองไปรอบๆ ก็เจอผู้ฝึกฝนคนอื่นๆ กำลังกลอกตาใส่ริมเมอร์ด้วยเช่นกัน

“ทูตของอาณาจักรโอเว่นอุตส่าห์เสียสละเวลาอันมีค่ามาเยี่ยมชมพวกเรา  ไหนลองแสดงให้พวกเขาเห็นสิว่าผู้ฝึกฝนของซีกฮาร์ทได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้แบบไหนมาบ้าง”

ริมเมอร์ปรากฎตัวขึ้นบนเวที เขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วเกินไปราวกับหายตัวได้

“แล้วเขาอยากให้เราทำอะไร?”

“เอ่อ…”

“เราก็แค่ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ...”

ผู้ฝึกฝนเริ่มสติแตกและฝึกซ้อมต่อไปแบบเก้ๆกังๆ เมื่อมีสายตาจ้องมองจากทูตแห่งอาณาจักรโอเว่น

“ตั้งใจหน่อย!  สงบสติอารมณ์ให้มากกว่านี้และทำแบบที่พวกเธอเคยทำนั่นแหละ!”

* * *

* * *

เบอร์เรนแสดงออกเหมือนอย่างปกติ  พูดอีกอย่างก็คือ เขาเคลื่อนไหวได้ดีกว่าปกติและเป็นพยายามเป็นคนคอยนำเด็กคนอื่นๆในการฝึกซ้อมในครั้งนี้

'มันได้ผล'

เบอร์เรนรู้ว่าเขาควรแสดงออกอย่างไร

“ฉันไม่ใช่ตัวตลกนะ!”

มาร์ธาตะคอกและยกมือขึ้นกอดอก  เธอแสดงความเป็นศัตรูและปล่อยแรงกดดันที่รุนแรงออกมา เธอจ้องเขม็งไปที่คนจากอาณาจักรโอเว่น

'เธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด'

มาร์ธาอาจจะอ่อนโยนกับราอนมากขึ้น แต่เธอก็ยังคงขี้โมโหและปากจัดเช่นเดิม

ส่วนรูนันไม่สนใจพวกเขาเลย  เธอกวัดแกว่งดาบโดยใช้จังหวะเท้าของเธอต่อไปโดยไม่หยุดชะงักแม้แต่นิดเดียว

'เธออาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในนี้ก็ได้'

การไม่เสียสมาธิในสถานการณ์ที่ยุ่งวุ่นวายแบบนี้ก็ถือเป็นพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้แล้ว

ราอนสำรวจแขกที่มาจากอาณาจักรโอเว่นทีละคนๆ  ในฝั่งของเด็กอัศวินฝึกหัดที่มีดวงตาสีฟ้าก็กำลังไล่สังเกตเบอร์เรน มาร์ธา และรูนันอย่างละเอียด

ดูเหมือนเขาจะรู้สึกดีใจกับอะไรบางอย่าง ปากของเขาเผยอออกเล็กน้อย

'เขาคงไม่ได้สังเกตเห็นฉัน'

ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สังเกตเห็นถึงพลังของราอนแม้ว่าจะสังเกตเห็นพลังของทั้งสามคนนั้นแล้ว

'ก็นะ...'

ราอนยิ้มเล็กน้อยแล้วดึงดาบฝึกของเขาออกมาแล้วเริ่มตั้งท่า

'ฉันควรจะแสดงออกไปดีมั้ย?'

ทั้งจังหวะสายน้ำและดาบผสมผสานมีรูปแบบและท่าทางที่เรียบง่ายมากและการถูกจ้องมองคงไม่ทำให้ใครอ่อนแอลง

ดังนั้นก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าเขาจะแสดงมันให้คนอื่นได้เห็น

ซู่ว!

ราอนผสมผสานกับการไหลของดาบและจังหวะเท้าโดยไม่สนใจสายตาของคนอื่น

***

เจ้าชายลำดับที่สามเกรียร์ เดอ โอเว่น ได้ไปเยี่ยมชมสถานที่สองแห่งก่อนที่จะมาสนามฝึกที่ห้า

ที่แห่งแรกคือสนามฝึกที่สอง ที่มีเหล่านักดาบวัยกลางคนกำลังฝึกซ้อมอยู่

'ที่นั่นน่าทึ่งมาก'

นักดาบจากสนามฝึกที่สองนั้นทรงพลังมาก สมกับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ของซีกฮาร์ท

พวกเขาไม่ได้ด้อยกว่าไปกว่ากันเลยเมื่อเทียบกับอัศวินแห่งอาณาจักรโอเว่นในเรื่องดาบ แรงกดดัน ร่างกาย และจิตใจ

'แต่สนามฝึกที่หกนั้นน่าผิดหวังไปหน่อย'

ผู้ฝึกฝนในสนามฝึกที่หกนั้นมีความสามารถ แต่ขาดการฝึกฝนที่เพียงพอ

เดิมทีเขาวางแผนที่จะให้เหล่าอัศวินประลองกับผู้ฝึกฝนของที่นี่ แต่เขาล้มเลิกไปแล้วเพราะผลลัพธ์มันจะชัดเจนเกินไป

'เท่าที่ฉันสังเกตมาก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจ'

ตอนที่เขากำลังจะมุ่งหน้ากลับเขาก็นึกถึงสิ่งที่ริมเมอร์พูดขึ้นมาได้  เขาจึงบอกคนจากฝ่ายบริหารทั่วไปที่กำลังจะนำพวกเขาไปที่อื่นว่า

เขาต้องการชมสนามฝึกที่ห้า

เขาดูสับสนเล็กน้อยแต่ก็นำทางพวกเขาไปยังสนามฝึกที่ห้าโดยไม่ปฏิเสธ

แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังไว้สูงจนเกินไปนัก

เขาคิดว่าสนามฝึกที่ห้าคงจะไม่แตกต่างไปจากสนามฝึกที่หกเท่าไหร่

แต่เขาคิดผิด

เมื่อเข้ามาแล้วเขาก็เข้าใจในทันทีว่าที่นี่มันแตกต่างออกไป

ความสามารถและปริมาณการฝึกฝนที่พวกเขาทำนั้นแตกต่างไปจากสนามฝึกที่หกโดยสิ้นเชิง

'ของจริงที่ริมเมอร์พูดถึงหมายถึงสนามฝึกแห่งนี้งั้นเหรอ'

ริมเมอร์พูดถูก  ผู้ฝึกฝนจากสนามฝึกที่ห้าอาจจะแข็งแกร่งพอๆกับอัศวินฝึกหัดของเขาเลย

เด็กผู้ชายผมสีฟ้าและเด็กผู้หญิงผมสีเงินตรงนั้นแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ ในระดับหนึ่ง

ส่วนเด็กสาวผมดำที่จ้องเขม็งมาที่พวกเขาก็มีแรงกดดันที่ท่วมท้นเช่นเดียวกัน

พวกเขาทั้งสามแข็งแกร่งพอๆ กับตัวเขาเองหรือไม่ก็อาจจะพอๆ กับเซทัน เด็กที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัศวินฝึกหัดที่แข็งแกร่งที่สุด

“ที่นี่คือของจริงจริงๆ ด้วย”

ดยุคทาร์ทันขมวดคิ้วขณะมองดูผู้ฝึกฝน

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ”

“พรสวรรค์ของพวกเขาดูแตกต่างออกไปเพียงเล็กน้อย  แต่ที่พวกเขาดูแข็งแกร่งมากอาจจะเป็นเพราะการฝึกฝน”

“อืม…”

เกรียร์พยักหน้า สนามฝึกที่ห้ามีบรรยากาศที่แตกต่างไปจากสนามฝึกที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง เขาได้กลิ่นของความมุ่งมั่นที่เต็มไปด้วยเลือดและหยาดเหงื่อของเหล่าผู้ฝึกฝน

“สามคนนั้นน่าทึ่งมาก”

ดวงตาของอัศวินฝึกหัดเซตันส่องประกายด้วยความกระหายที่จะต่อสู้ เขายังคงจ้องมองเด็กทั้งสามคนไม่ละสายตา

“ข้าอยากลองสู้กับพวกเขาดู”

“กระผมก็เช่นกัน”

เจ้าชายลำดับที่สามและเซตันเลียริมฝีปากมองดูสามคนที่พวกเขาคิดว่าน่าจะแข็งแกร่งที่สุดในสนามฝึกที่ห้า

“เป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ? อย่างที่กระหม่อมบอกไปว่าตัวจริงอยู่ที่นี่ ท่านได้เห็นแล้วใช่ไหม?”

เสียงที่เยือกเย็นราวกับสายลมดังมาจากด้านหลัง

“หืม?”

เมื่อพวกเขาหันกลับมาก็เจอริมเมอร์ก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกับเมื่อวันก่อน

“แน่นอน ข้าเข้าใจแล้วว่าทำไมเจ้าถึงบอกข้าแบบนั้น”

เกรียร์พยักหน้า

“ดูเหมือนท่านจะอยากต่อสู้  ลองซ้อมกับเด็กของเราสักคนดูไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“นี่คือเป้าหมายของเจ้างั้นเหรอ?”

“มันเป็นโอกาสที่หาได้ยากที่จะได้ประลองกับผู้มีพรสวรรค์ในราชาทั้งหก และนั่นจะเป็นประโยชน์กับท่านด้วย”

ริมเมอร์ชี้ไปที่ผู้ฝึกฝนที่กำลังจดจ่ออยู่กับดาบของพวกเขา

“อืม…”

เกรียร์หันกลับไปมองดยุคทาร์ทัน เนื่องจากดยุคทาร์ทันเป็นคนนำที่แท้จริงในการพาเขามาที่นี่ เขาจึงต้องขออนุญาตก่อน

“นั่นฟังดูดีนะครับ”

ดยุคทาร์ทันพยักหน้าให้เจ้าชายและเหลือบมองริมเมอร์ด้วยสายตาเย็นชา  สีหน้าของเขาดูเหมือนจะบอกริมเมอร์ว่าจะเชือดเขาในทันทีที่เขาทำอะไรให้เจ้าชายเดือดร้อน

“ข้าก็อยากจัดการประลอง แต่ว่า…”

ริมเมอร์ยกมือทั้งสองขึ้นแล้วยิ้ม

“ท่านพอจะมีของเดิมพันเล็กๆ น้อยๆ ไหมครับ?”

“เดิมพัน?”

"ใช่ครับ หลังจากการประลองยี่สิบครั้ง ผู้แพ้จะต้องให้รางวัลแก่ผู้ชนะ”

“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าเด็กของเจ้าจะเอาชนะเด็กของเราได้เหรอ?”

“โอ้ แสดงว่าเจ้ามั่นใจใช่ไหม?”

“แน่นอนสิ  เพราะพวกเขาเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ในหมู่อัศวินฝึกหัดของโอเว่นเชียวนะ!”

น้ำเสียงของดยุคทาร์ทันเต็มไปด้วยความมั่นใจในขณะที่เขาเสมองไปที่อัศวินฝึกหัด

"ฉันตกลง"

ริมเมอร์ยิ้มแฉ่ง ดวงตาสีเขียวเข้มของเขาดูสดใสขึ้นกว่าเดิม

“ฉันก็เชื่อใจเด็กๆ ของฉันเหมือนกัน!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด