บทที่ 80 - ตัวเลือกปรากฏขึ้นอีกครั้งและเป้าหมายคือสลัก
ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay
บทที่ 80 - ตัวเลือกปรากฏขึ้นอีกครั้งและเป้าหมายคือสลัก
“หลินเฉิน หลังจากที่สลักมาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขาก็บังคับให้ยึดลูกแก้วมังกรของดาวเคราะห์นาเม็กและเรียกโปรุนก้าออกมา”
“จากนั้นเขาก็ทำตามความปรารถนาสามอย่างของเขาผ่านโปรุนก้า”
“ความปรารถนาแรกคือให้เขาฟื้นคืนความเยาว์วัย”
“ความปรารถนาที่สองคือการมีชีวิตที่ยืนยาวกว่าเดิม”
“และความปรารถนาที่สามทำให้สลักมีพลังฟื้นฟูของร่างกายที่เกือบจะเป็นอมตะ ตราบใดที่แกนสมองของเขายังคงมีอยู่ เขาก็สามารถฟื้นฟูร่างกายของเขาได้อย่างไม่มีขีดจำกัด”
ขณะที่เขาฟังสิ่งที่ผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กกำลังพูด หลินเฉินก็เริ่มขมวดคิ้วอันเต็มไปด้วยความสงสัย
“ผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็ก ทำไมท่านไม่เรียกข้าหรือดาวเคราะห์เบจิต้า เมื่อสลักบุกเข้ามา? ทำไมท่านถึงปล่อยให้เขาเอาลูกแก้วมังกรไป?”
หลินเฉินสัญญากับผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กว่าเขาจะปกป้องดาวเคราะห์นาเม็ก หากพวกเขาขอความช่วยเหลือในเวลานั้น แม้ว่าหลินเฉินจะไม่อยู่ ผู้คนบนดาวเคราะห์เบจิต้าก็คงรีบเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา
จากสิ่งที่ผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กกำลังพูด สลักยามนั้นคงจะแก่และมีสุขภาพที่ไม่ดีนัก ดังนั้นถึงเขาจะเป็นซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว แล้วทำไมพวกเขาถึงทนอยู่อย่างเงียบๆ จนปล่อยให้อีกฝ่ายขอพรแล้วถึงมาเรียกพวกเขากัน?
หลินเฉินชักรู้สึกว่าเรื่องมันประหลาดมาก
เมื่อถูกหลินเฉินถาม ผู้อาวุโสยิ่งใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบและหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดกับเนลว่า: “เนล ข้าอยากคุยกับหลินเฉินตามลำพัง ได้โปรดออกไปก่อนด้วย”
"ขอรับ"
เนลตอบกลับไปอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กก็กล่าวว่า “หลินเฉิน เมื่อสลักมาถึง เป็นข้าเองที่บอกเนลและผู้อื่นว่าอย่าขอความช่วยเหลือจากเจ้า และข้ายังขอให้ผู้อาวุโสทั้งหมดส่งมอบลูกแก้วมังกรให้กับสลักด้วย”
"อะไรกัน? ทำไมกันล่ะ?” หลินเฉินรู้สึกสับสนกว่าเดิม
ผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กได้แต่ถอนหายใจออกมา: “หลินเฉิน พูดตามตรง สลักเป็นลูกของข้า…”
"อะไรนะ?"
“เมื่อดาวเคราะห์นาเม็กพบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของเราต่อไป ชาวนาเม็กหลายคนอย่างข้าจึงได้รวบรวมแก่นแท้ทั้งหมดของเราและให้กำเนิดเด็กๆ ก่อนที่จะส่งพวกเขาไปยังอวกาศ โดยหวังว่าจะรักษาสายเลือดของชาวนาเม็กไว้ได้”
“สุดท้ายพระเจ้าจากดาวของเจ้าและสลักคือเด็กพวกนั้นที่รอดมาได้จากไม่กี่คนสินะ”
“ยามนั้นสลักได้หลบหนีไปยังดาวเคราะห์ที่เรียกว่าทาก ข้าส่งเขาไปที่นั่นเพราะผู้คนบนดาวนั้นอ่อนแอและแม้ว่าเขาจะเป็นเด็ก แต่สลักก็คงสามารถอยู่รอดได้”
“แต่น่าเสียดายที่ข้าพลาดสิ่งหนึ่งไป นั่นคือดาวเคราะห์ทากเป็นดาวเคราะห์ที่ผู้แข็งแกร่งอยู่รอด! ความคิดที่ชั่วร้ายบนดาวเคราะห์ดวงนั้นทำให้สลักกลายเป็นชาวดาวนาเม็กที่ชั่วร้ายอย่างแท้จริง!”
เมื่อผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็กพูดจบ เขาก็ถอนหายใจยาวออกมา
หลินเฉินกอดแขนของเขาและฟังอดีตที่ไม่เคยได้รับรู้นี้อย่างเงียบๆ
“ดาวทากไม่มีแสงแดดตลอดทั้งปี ท้องฟ้าเหนือดาวเคราะห์ถูกปกคลุมด้วยเมฆหนาแน่นเสมอ ดังนั้นทรัพยากรบนดาวเคราะห์ดวงนั้นจึงไม่เพียงพอ เพื่อความอยู่รอด สิ่งมีชีวิตบนดาวจะฆ่ากันทั้งวันเพื่อความอยู่รอดแทน”
“ชาวดาวนาเม็กเด็กก็เป็นเหมือนกระดาษเปล่าที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอกอย่างง่ายดาย ในเวลานั้นเองที่สลักได้ปนเปื้อนความชั่วร้ายมากเกินไป และกลายเป็นชาวดาวนาเม็กชั่วร้ายที่บริสุทธิ์”
หลินเฉินเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็ก พระเจ้าของโลกก็ได้ถูกความชั่วร้ายของโลกครอบงำเช่นกัน จนต้องแยกราชันมารผู้ยิ่งใหญ่ พิคโกโร่ ที่เป็นด้านชั่วของเขาออกมาเลยไม่ใช่หรือ?
เห็นได้ชัดว่าสลักคงพบเจอดาวที่ชั่วร้ายมากกว่าพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นชาวดาวนาเม็กที่ชั่วร้ายบริสุทธิ์ ซึ่งแตกต่างจากพระเจ้าของโลกที่สามารถรักษาจิตใจด้านดีอยู่ได้
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเฉินก็กล่าวว่า “ผู้เฒ่าสูงสุด เป็นเพราะความรู้สึกผิดหรือไม่ที่ท่านปล่อยให้สลักใช้ลูกแก้วมังกร?”
ผู้เฒ่าสูงสุดถอนหายใจและพูดว่า “ใช่แล้ว เมื่อสลักมาที่ดาวเคราะห์และขอลูกแก้วมังกร ข้าก็จำเขาได้ทันที ในเวลานั้นเพื่อที่จะทำให้สลักเปลี่ยนไป ข้าบอกเขาเกี่ยวกับอดีตของเขาโดยหวังว่าเขาจะสามารถเปลี่ยนไปได้ หลังจากที่สลักได้ยินข้าบอกไป เขาก็บอกว่าเขาจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่หากข้ามอบลูกแก้วมังกรให้ แต่ข้าไม่คิดเลยว่าปีศาจในใจของสลักจะแข็งแกร่งเกินไป …”
ท่านไร้เดียงสาเกินเดินไปแล้ว…
หลินเฉินพึมพำในใจ เขาไม่ได้คิดเลยว่าแม้แต่ผู้เฒ่าที่ฉลาดที่สุดจะกลายเป็นคนโง่เมื่อเผชิญหน้ากับคนในครอบครัวของตนเอง
“หลังจากฟื้นคืนสู่วัยหนุ่มแล้ว สลักก็จากไปโดยไม่ทำร้ายชาวดาวนาเม็ก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ข้าได้ยินมาว่าเขาเริ่มจัดระเบียบกองกำลังของเขาใหม่และดาวเคราะห์หลายดวงก็ถูกเขาโจมตี…”
“เพราะข้า…เพราะข้ายอมให้สลักแข็งแกร่งขึ้น การตายของคนเหล่านั้นเป็นความผิดของข้าทั้งหมด…ดังนั้นเจ้า หลินเฉิน ได้โปรดตามหาสลักและหยุดเขาไม่ให้ทำชั่วต่อไปเถิด!”
จัดการกับสลักใช่ไหม?
หลินเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ดราก้อนบอล ในฐานซูเปอร์ชาวดาวนาเม็ก กล่าวกันว่าสลักนั้นแข็งแกร่งกว่าฟรีเซอร์และซูเปอร์ไซย่าเสียอีก
ก็มันเป็นหนังโรงฉบับภาพแยกของเขาเลยนี้นะ
แต่ว่านี่คือโลกแห่งความเป็นจริงที่แตกต่างจากงานเขียนต้นฉบับ มันยากที่จะบอกว่าสลักแข็งแกร่งแค่ไหน...
"ติ้ง! ผู้ใช้มีความปรารถนา กระตุ้นตัวเลือกที่แข็งแกร่งที่สุด”
“ทางเลือกที่ 1: ปฏิเสธผู้อาวุโสยิ่งใหญ่ รางวัล: คะแนนเวลา 1 จุด”
“ทางเลือกที่สอง: รับสัญญากับผู้เฒ่าสูงสุดและตามหาซูโนเพื่อยืนยันตำแหน่งของสลักและฆ่าเขาอย่างรวดเร็ว รางวัล: ความสามารถในการฟื้นฟูของชาวดาวนาเม็ก”
“ทางเลือกที่สาม: ค้นหาสลักโดยไม่ต้องใช้กองกำลังภายนอกและนำเขากลับไปที่ดาวเคราะห์นาเม็กทั้งเป็น รางวัล: บทฝึกสอนจิตใจ พลังจิตเริ่มต้น ”
เมื่อเห็นว่าระบบทางเลือกได้ถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง หลินเฉินก็ตกตะลึงเล็กน้อย
หากเขาปฏิเสธผู้เฒ่าสูงสุดแห่งดาวนาเม็ก แต่เขาไม่คิดจะเลือกทางนี้เลย
ดังนั้นเขาจึงพิจารณาสองทางเลือกถัดไป
ทั้งสองทางเลือกสามารถเข้าใจได้อย่างแท้จริงทางเลือกหนึ่งเป็นทางออกที่รวดเร็วและอีกทางเลือกหนึ่งใช้เวลานาน ทั้งยังต้องการความพยายามอย่างมาก
แต่รางวัลของทั้งสองตัวเลือกนั้นค่อนข้างน่าสนใจ
ไม่จำเป็นต้องอธิบายความสามารถในการฟื้นฟูของชาวดาวนาเม็กเลย มันเป็นรองแค่ความสามารถในการฟื้นฟูของเผ่าจอมมาร ถ้าหลินเฉินสามารถได้รับมันมา ควบคู่ไปกับร่างกายของซูเปอร์ไซย่าในตำนานของเขา ผลคือเขาจะสามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็วไม่แพ้กับเซลล์เลย
ส่วนพลังจิตใจ หลินเฉินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และเข้าใจอย่างรวดเร็ว
ในโลกดราก้อนบอล มีพลังอยู่สี่ประเภท
หนึ่งคือความแข็งแกร่งของร่างกายที่บริสุทธิ์หรือความแข็งแกร่งทางกายภาพ
การชกและการเตะทั้งหมดนี้ล้วนใช้พลังกาย
อีกประการหนึ่งคือพลังชี่ คลื่นพลังงานและลูกบอลพลังงานทั้งหมดเกิดจากพลังนี้
ทั้งสองสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นการโจมตีทางกายภาพ
นอกจากนี้ยังมีพลังอีกสองประเภท ซึ่งเกี่ยวข้องกับจิตใจ
พลังหนึ่งคือเวทย์มนตร์ จอมมารบูและพ่อมดบาบีดี้ชำนาญเรื่องพลังนี้มาก
พลังที่สองคือพลังจิต ในเนื้อเรื่องของดราก้อนบอล เจาสึเป็นผู้ใช้พลังจิตและฟรีเซอร์ก็ดูเหมือนจะมีพลังจิตด้วย ในงานเขียนดั้งเดิม ฟรีเซอร์ได้ใช้พลังจิตเพื่อฆ่าคุริริน
