ตอนที่แล้วบทที่ 15: ซือซือจะออกจากหอนางโลมงั้นหรือ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17: สตรีโฉมงามเช่นนี้มาสารภาพรัก เจ้ากล้าปฏิเสธหรือ?

บทที่ 16 – ไม่ว่าใครจะตายหรือบาดเจ็บไป มันก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่ประชาชน!


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 16 – ไม่ว่าใครจะตายหรือบาดเจ็บไป มันก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่ประชาชน!

หลี่ซือซือรังเกียจเหล่าข้าราชการที่ทุจริตมาก

เพราะเดิมทีนางก็เกิดในตระกูลชนชั้นสูง มีมารดาที่รักและบิดาคอยช่วยเหลือ

บิดาของนางเป็นข้าราชการระดับห้าที่เคยใฝ่ฝันที่จะเป็นข้าราชการที่ดีบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม

ทว่าเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มืดมนและฉ้อฉล เขาก็ได้รับอิทธิพลโดยไม่รู้ตัวและกลายเป็นข้าราชการที่ฉ้อฉลตาม หลังจากที่การกระทำผิดของเขาถูกเปิดเผย เขาถูกประหารชีวิตโดยราชสำนักและถูกตัดหัวไป

ชีวิตของนางจึงได้เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม่ของนางรับไม่ได้และเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วย ในขณะที่นางยังถูกตราหน้าว่าเป็นโสเภณีเพราะมลทินที่พ่อเของนางก่อ สุดท้ายนางก็ต้องเข้ามายังเรือนร้อยบุปผา ไม่เช่นนั้นชีวิตต่อจากนั้นของนางคงจะย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง

ดังนั้นนางจึงรังเกียจข้าราชการที่ทุจริตและการติดสินบนมาก!

ความเกลียดชังอย่างรุนแรงได้ผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจนาง!

ด้วยเหตุนี้ การที่นางจะเสนอตัวต่อข้าราชการทุจริตเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน!

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนอย่างหลินเป่ยฟาน ซึ่งเป็นข้าราชการหน้าใหม่ แต่กลับอาจหาญกล้าทุจริตมากมายมหาศาล นางยิ่งรับไม่ได้!

“ขอโทษค่ะคุณหนู ข้าลืมนึกถึงอดีตอันน่าเศร้าของที่ท่านเคยเล่าให้ข้าฟังไป!” เสี่ยวกุ้ยได้แต่เอ่ยขอโทษออกมา

หลี่ซือซือยิ้มอย่างฝืนๆ พลางจับมือเสี่ยวกุ้ยและพูดเสียงเบาไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก เสี่ยวกุ้ย มันเป็นเรื่องราวในอดีตไปแล้ว!”

หญิงสาวทั้งสองคนอาศัยอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พวกนางเป็นนายหญิงและคนรับใช้ แต่จริงๆ แล้วพวกนางสนิทกันเหมือนพี่สาวน้องสาว

เพียงปรายตามอง พวกนางทั้งสองก็รู้แล้วว่ากำลังคิดสิ่งใดกันอยู่

“คุณหนู ในเมื่อท่านไม่ต้องการเลือกนักวิชาการชั้นสูงคนนั้นแล้ว เรามาเลือกสามีในอุดมคติคนอื่นดีไหม!” เสี่ยวกุ้ยกล่าว

“มีใครอื่นอีกหรือ? เกายาไนได้พูดออกมาแล้ว คงไม่มีใครกล้าขัดขืนหรอก! ดูเหมือนว่าทั้งชีวิต ข้าคงจะไม่สามารถหลุดรอดจากเงื้อมมือของเขาไปได้สินะ!” ใบหน้าของหลี่ซือซือดูขมขื่นอย่างยิ่ง

เมื่อนางคิดถึงชีวิตของนาง มันมักจะมาพร้อมกับความยากลำบากเสมอ

บางครั้งนางก็คิดว่าจะจบทุกอย่างลง

แต่ก็ยังมีสิ่งที่นางไม่อาจละทิ้งได้ เช่นเสี่ยวกุ้ย

ถ้าเกิดนางจากไป ก็คงไม่มีผู้ใดปกป้องเสี่ยวกุ้ยอีกต่อไป

“คุณหนู …” เสี่ยวกุ้ยอ้าปาก ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกังวล

หลี่ซือซือครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของนางพลันแน่วแน่ “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเลือกข้าราชการระดับสูงคนนั้นเถอะ!”

“แต่คุณหนูคุณเกลียดข้าราชการทุจริต แล้วเหตุใดถึงได้…” เสี่ยวกุ้ยรู้สึกประหลาดใจมาก

“เมื่อเทียบกับเกายาไนที่เป็นตัวไร้ค่าแล้ว ข้าราชการระดับสูงที่ได้รับตำแหน่งใหม่อย่าง หลินเป่ยฟาน ย่อมเป็นคนที่โดดเด่นกว่ามาก เขามีความสามารถและหล่อเหลา อีกทั้งจักรพรรดินียังทรงโปรดปรานเขา! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทำไมข้าถึงไม่เลือกเขามาแต่งงานกันล่ะ?” หลี่ซือซือกล่าว

“ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าข้าแต่งงานกับข้าราชการระดับสูงผู้นี้ พวกเขาจะต้องขัดแย้งกันอย่างแน่นอน! คนหนึ่งเป็นลูกชายของข้าราชการระดับสอง และอีกคนหนึ่งเป็นที่ชื่นชอบของจักรพรรดินี คงจะต้องมีคนใดคนหนึ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้แน่! ไม่ว่าใครจะตายหรือบาดเจ็บไป มันก็ย่อมเป็นประโยชน์แก่ประชาชน!” หลี่ซือซือยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “นี่อาจเป็นคุณค่าเดียวที่ข้ามี!”

“คุณหนู …” เสี่ยวกุ้ยพยายามโน้มน้าวใจอีกฝ่าย

“เสี่ยวกุ้ย อย่าพยายามเลย ข้าได้ตัดสินใจแล้ว!”

ในขณะนั้นเอง หลินเป่ยฟานก็กำลังดื่มไวน์ดอกไม้ ทันใดนั้นความโกลาหลพลันเกิดขึ้น “แม่นางซือซือกำลังออกมาแล้ว!”

“ทุกคนดูสิ แม่นางซือซือออกมาแล้ว!”

“ช่างเป็นคนที่สวยอะไรเช่นนี้!” หลินเป่ยฟานหันศีรษะไป เห็นสตรีที่น่าทึ่งและอ่อนโยนกำลังเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างสง่างาม นางเปล่งความสง่างามและความประณีตออกมา จนเหล่าสตรีนางอื่นในหอนางโลมไม่มีใครเทียบได้เลย หลินเป่ยฟานอดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมนาง ช่างงดงามเหลือเกิน! ไม่น่าแปลกใจที่หลายคนหลงไหลในตัวนาง คงไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีจากความเย้ายวนใจของนางได้หรอก!

ในขณะเดียวกัน นางก็หันศีรษะและมองไปที่หลินเป่ยฟาน ในใจของนาง นางคิดว่าเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษที่หล่อเหลา อีกทั้งยังมีเสน่ห์มากล้นเหลือ! ซึ่งด้วยความสามารถที่มากมายของเขา นางพร้อมที่จะอุทิศตัวให้กับเขา ถ้าเพียงแต่เขาไม่ใช่ข้าราชการฉ้อราษฎร์บังหลวง นั่นก็คงจะดีแล้ว!

ในขณะนั้นเอง หลี่ซือซือได้มาถึงกลางเวทีแล้ว ริมฝีปากสีแดงเข้มของนางโค้งงอเบาๆ และเสียงของนางก็ดังกังวาน “ข้าหลี่ซือซือ ขอมอบเเพลงนี้ให้แก่ท่าน!”

"เยี่ยม! คุณหนูซือซือ เอาเลย!” ทุกคนพลันปรบมือ

"ข้าจักขอเริ่มการแสดงบัดเดี๋ยวนี้!" หลี่ซือซือนั่งลงและนิ้วหยกเรียวของนางก็ปัดสายพิณเป็นท่วงทำนอง หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็มีเสียงบรรเลงเพลงที่เศร้าโศกและไพเราะดังขึ้นมา

ทุกคนฟังด้วยความสุข เหมือนตกอยู่ในภวังค์ หอนางโลมที่มีชีวิตชีวาเริ่มเงียบสงบและเหลือเพียงเสียงของพิณเท่านั้น หลินเป่ยฟานจิบไวน์อย่างเงียบๆ ขณะที่เขาชื่นชมการแสดง

ต้องยอมรับเลยว่าหลี่ซือซือเล่นพิณได้ดีมาก อีกทั้งนางก็ดูดีเช่นกัน เมื่อเทียบกับดาราจากอีกโลกหนึ่ง คงไม่มีผู้ใดสามารถทัดเทียมนางได้เลย! นางดูดีและมีความสามารถมากกว่าผู้ใดที่เขาเคยรู้จัก! เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว รัศมีของนางคงจะเจิดจ้าจนแผดเผาได้ทุกผู้คนเลย

แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า เพราะหลินเป่ยฟานรู้สึกเหมือนกับว่าหลี่ซือซือกำลังจ้องมองเขาอยู่ สายตาของนางดูแปลกๆ เหมือนทั้งรู้สึกชื่นชมและเสียใจในคราวเดียวกัน

เมื่อบทเพลงจบลง ทั้งห้องก็ส่งเสียงตะโกนออกมา "ยอดเยี่ยม! เล่นได้ดีมาก!”

“ยังคงเป็นดนตรีของแม่นางซือซือที่ทำให้หัวใจของข้าหวั่นไหวมากที่สุด!”

“ให้รางวัลแก่นาง!” หลี่ซือซือโค้งคำนับและขอบคุณทุกคนด้วยความยินดี

“ขอบคุณแรงสนับสนุนจากพวกท่าน! ขอบคุณรางวัลที่พวกท่านนำมามอบให้! ทว่าวันนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าได้จัดแสดงแล้ว!”

ทุกคนต่างชะงักไป "ทำไมกันล่ะ?"

“เพราะ …” หลี่ซือซือยิ้มเล็กน้อย “ข้าพบคนที่ข้าต้องตาแล้ว! จากนี้ไป ข้าจะติดตามสามีของข้าและเลี้ยงดูลูกๆ ของข้า ข้าคงจะไม่ได้แสดงอีกต่อไปแล้ว! ได้โปรดให้อภัยข้าด้วย!”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด