ตอนที่แล้วตอนที่ 70 หลี่กุย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 72 ทยอยมาทีละคน

ตอนที่ 71 ไว้หน้าข้าหน่อยเถอะ


“คารวะท่านบรรพบุรุษตระกูลเฉินท่านช่างสุภาพมากจริงๆ”

ซู่เฉิงเฟิงเดินมาด้านหน้าแล้วโค้งคำนับเฉินเจินหนานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

“ท่านซู่เฉิงเฟิงไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นกับข้าก็ได้ เอาล่ะข้าขอถามหน่อยแล้วว่าใครคือนายน้อยซู่เฮาเที่ยนผู้เก่งกาจคนนั้นน่ะ?”

ความสุภาพของซู่เฉิงเฟิงนั้นเป็นสิ่งที่เฉินเจินหนานไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาอยากรู้คือใครคือซู่เฮาเที่ยนที่อยู่ในกลุ่มของพวกเขามากกว่า เพราะอันที่จริงเขานั้นเกรงกลัวต่อซู่เฮาเที่ยนมากกว่าซู่เฉิงเฟิงเสียอีก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะไม่แม้แต่จะกล้าพูดแบบนี้กับซู่เฉิงเฟิงเลยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขาจะต้องมีความสุภาพ ซึ่งทำให้เฉินเจินหนานแอบถอนหายใจอยู่ในใจของเขาเท่านั้น

“ฮ่าๆๆ บรรพบุรุษของตระกูลเฉินต้องการพบกับข้าด้วยตัวเองเลยงั้นรึ? ในฐานะนายน้อยนั้นข้ารู้สึกเป็นเกรียติมากจริงๆ!

เสียงหัวเราะได้ดังออกมาพร้อมกับซู่เฮาเที่ยนที่กำลังเดินออกจากมารถม้าพร้อมกับไป๋ซู่เจินและจือเสีย ก่อนที่เขาจะไปค่อยๆเดินไปหาเฉินเจินหนานแล้วไปยืนอยู่ต่อหน้าของเขาโดยที่เอามือไพล่หลังเอาไว้

เนื่องจากซู่เฮาเที่ยนเป็นที่มีผิวพรรณที่ดี มีอายุที่ยังน้อย แถมยังมีหน้าตาหล่อเหลา เท้าสวมรองเท้าทะยานปฐพี สวมเสื้อคลุมผ้าไหมสีม่วง และกำลังยืนอยู่อย่างสง่างาม

นี่จึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกได้ว่าซู่เฮาเที่ยนในตอนนี้ดูเหมือนชายที่เรียบร้อยและเป็นที่ต้องการของสาวๆ (แค่รูปร่างภายนอกเท่านั้น ส่วนนิสัยตรงกันข้ามมากๆ)

โธ่ ไอ้ในฐานะนายน้อยเจ้าจะต้องพาผู้หญิงในตระกูลทั้งหมดออกไปด้วยสิ แต่ทำไมกลับมีเพียงสองคนเท่านั้นที่ได้เดินไปกับเขาด้วย ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ

เมื่อได้เห็นรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและสง่างามของซู่เฮาเที่ยนแล้ว ชุ่ยเหมียวเหมี่ยวก็ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะคิดด้วยสีหน้าที่แดงก่ำขึ้นมาเล็กน้อย

อีกทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ด้านข้างเธอนั้นจ้องมองชุ่ยเหมียวเหมี่ยวด้วยความสงสัย และทุกคนก็พากันส่ายหัว แต่มีผู้ชายคนหนึ่งในทั้งสี่คนนั้นจ้องมองไปที่แผ่นหลังของซู่เฮาเที่ยนด้วยสีหน้าที่บูดบึ้งโดยไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

“นายน้อยซู่เปรียบเสมือนมังกรที่แข็งแกร่งในหมู่คนหนุ่มสาวจริงๆ เหมาะสมแล้วที่จะมีชายาทั้งสองเดินเคียงข้างอยู่ด้วยแบบนี้”

เฉินเจินหนานรู้สึกผงะกับรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาและระดับการฝึกตนที่สูงของซู่เฮาเที่ยน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเอ่ยคำชมซู่เฮาเที่ยนอย่างไม่กระดากปาก

“บรรพบุรุษของตระกูลเฉินท่านก็พูดเกินไป ความสำเร็จของข้านั้นไม่ได้เกี่ยวกับระดับการฝึกฝนของข้าเลยด้วยซ้ำ และระดับของข้าก็ยังไม่สามารถเทียบกับท่านได้เลยด้วยซ้ำ!”

“ไม่เลยแม้แต่น้อย ตระกูลของท่านจะต้องภาคภูมิใจที่ท่านอยู่ในระดับที่สูงขนาดนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย บางทีท่านอาจได้เป็นแบบอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ในตระกูลของท่านในอนาคต!”

“ไม่หรอก ใครๆต่างก็รู้ว่าบรรพบุรุษของตระกูลเฉินนั้นต่างก็เป็นที่รู้จักในอาณาจักรเที่ยนซวนแห่งนี้ เด็กอย่างข้าคงไม่อาจก้าวไปถึงจุดนั้นอย่างท่านได้เป็นแน่”

“ไม่เลย ไม่เลย ยังมีผู้ฝึกตนอีกมากที่อยู่เหนือกว่าข้าและในอนาคตท่านอาจจะได้อยู่ในระดับที่เหนือข้าขึ้นไปอีกคนก็เป็นได้”

“ท่านบรรพบุรุษก็ยกย่องข้าเกินไป เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านข้าเองก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยเท่านั้น”

ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สองคนนี้ต่างยกย่องชมเชยกันไปมาโดยไม่มีใครคิดที่จะหยุดพูดเลย

เสียงของคำประจบของทั้งคู่นั้นดังลั่นจนทำให้ทุกคนที่ได้เห็นนั้นถึงกับอึ้งและชื่นชมในทักษะการประจบสอพลอที่หาตัวจับได้ยากของทั้งสองคนนั้นในใจ

“เฮ้ยไอ้เด็กบ้า ข้าได้ยินมาว่าเจ้าแข็งแกร่งมากเลยงั้นรึ ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย ข้าชื่อเฉินเจินเอ๋อเป็นหนึ่งในบุตรทั้งสิบสามของอาณาจักรเที่ยนซวน เจ้าจงฟังให้ดีว่าข้าขอท้าเจ้าต่อสู้ในตอนนี้!”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยและหัวเราะกันก็มีหญิงสาวคนหนึ่งตะโกนขึ้นลายบรรนากาศ

เธอสวมเสื้อคลุมสีเหลืองขณะที่จ้องมองมาที่ซู่เฮาเที่ยนด้วยรอยยิ้ม ผิวของผู้หญิงคนนั้นขาวราวกับหิมะรอยยิ้มของเธอเปรียบเหมือนดอกไม้และดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความแวววาว ชัดเจน สดใส น่ามองเป็นอย่างมาก

“เจินเอ๋อ เจ้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน? แล้วเจ้าไม่รู้งั้นรึว่าชายผู้นี้คือนายน้อยซู่เฮาเที่ยนน่ะ เจ้ารีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!!”

ทันใดนั้นสีหน้าของเฉินเจินหนานก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาได้เห็นผู้หญิงคนนี้ เขากำลังหวาดกลัวอย่างมาก

เฉินเจินหนานจึงรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “เจินเอ๋อ นี่เจ้าไม่เห็นหัวข้าเลยงั้นรึ? ที่สำคัญเจ้าควรจะระวังคำพูดของเจ้าด้วยเพราะชายผู้นี้คือผู้ที่ทรงพลังมาก เขาสามารถทำให้ผู้ฝึกตนระดับราชาแห่งจิตวิญญาณตายได้ด้วยน้ำมือของเขาเอง แล้วเจ้ายังต้องการที่จะท้าทายอะไรอีกงั้นรึ?”

“ไม่ ข้าไม่กลับ ข้าเป็นถึงหนึ่งในบุตรทั้งสิบสามคน ข้าจะกู้ชื่อเสียงของบุตรทั้งสิบสามแห่งอาณาจักรเที่ยนซวนกลับมาให้ได้”

เด็กสาวคนนั้นยังคงไม่สะทกสะท้านเมื่อถูกบรรพบุรุษดุด่า แต่กลับยืนอย่างไม่สะทกสะท้านด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

“นายท่าน ยัยเด็กบ้านั่นอยู่ในระดับขั้นที่สูงกว่าท่านหนึ่งขั้น ท่านอยากให้ข้าจัดการยัยนั่นด้วยตัวข้าเองหรือไม่?”

หลี่กุยชายใบหน้าดำและสูงใหญ่เหมือนกับหมีเดินเข้ามาข้างๆซู่เฮาเที่ยนก่อนที่จะเลียริมฝีปากที่หนาของเขา และพูดด้วยความสนใจอย่างเต็มที่

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด