ตอนที่แล้วตอนที่ 4166 : ตราของผู้ปกครอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4168 : ผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ทะยาน

ตอนที่ 4167 : ดินแดนลับระดับสูงสุด


ตอนที่ 4167 : ดินแดนลับระดับสูงสุด

“มีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์มากมายในทวีปสวรรค์แดนใต้ผ่านมาหลายปี แต่อาณาจักรรศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงเดิม”

หยุนเหอพูดขึ้นมา  “ ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เป็นฝ่ายเดียวกันบรรพชนของเขา

ผู้ก่อตั้งอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม มีแค่สมาชิกในฝ่ายที่จะสืบทอดตราผู้ปกครองได้ ตราผู้ปกครองนั้นบอกได้ว่าเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่รวบรวมโชคของสวรรค์และโลกที่เทพแห่งการสร้างสรรค์ได้ทิ้งเอาไว้ ที่ทรงพลังกว่าวัตถุศักดิ์สิทธิ์ระดับโดดเด่นที่มีจิตวัตถุสมบูรณ์ในเมืองหลวงของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

แม้ว่าผู้ปกครองนั้นจะไม่ใช่อริยะเทพ แต่เขาหรือนางก็มีพลังของอริยะเทพเช่นกัน หากอยู่ด้านนอกเมืองหลวงและอยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

ผู้ปกครองจะมีพลังของเทพสูงสุดขั้นปลาย แม้ว่าตัวเองจะเป็นเพียงเทพสูงสุดขั้นต้นก็ตามตราบใดที่ครอบครองตราผู้ปกครอง ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกครองนั้นไร้เทียมทาน หากผู้ปกครองถูกฆ่าด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตน

คนอื่นๆจะไม่อาจจะยึดตราผู้ปกครองไว้ได้ ตราผู้ปกครองนั้นจะกลับไปยังเมืองหลวงและราชวงศ์ หากมีใครพยายามชิงตราผู้ปกครองไป แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นถึงเทพสูงสุดขั้นสูงแต่อีกฝ่ายก็ไม่อาจจะหนีความตายไปได้ ! ”

ต้วนหลิงเทียนได้ยินเช่นนั้นก็ต้องสะดุ้ง เขาไม่กล้าจะที่จะประมาทอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในทวีปสวรรค์แดนใต้ต่ำอีกต่อไป แม้ว่าผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ส่วนมากในทวีปสวรรค์แดนใต้นั้นจะเป็นแค่อริยะเทพขั้นต้น แต่พวกเขาก็ครองครองตราผู้ปกครองที่ทำให้พวกเขาไร้เทียมทานในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตน แม้แต่อริยะเทพขั้นสูงก็ยังไม่อาจจะทำอะไรพวกเขาได้

‘ เทพแห่งการสรรค์สร้าง...ดูเหมือนว่าตราของผู้ปกครองนั้นจะเป็นสมบัติสูงสุดที่ยอดฝีมือระดับสูงทิ้งเอาไว้ให้กับผู้ปกครองอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคือรากฐานของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการที่มีพวกเขาอยู่ ตำแหน่งผู้ปกครอง      ก็จะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูล.... ’

....

แม้ว่าศัตรูจะเป็นอริยะเทพขั้นสูงและผู้ปกครองเป็นอริยะเทพขั้นต้น แต่ศัตรูก็ไม่อาจจะกล้าแย่งบัลลังก์จากผู้ปกครอง ยังไงตราบใดที่ผู้ปกครองนั้นยังอยู่ในอาณาเขตของตน เขาหรือนางก็จะมีพลังของเทพสูงสุดขั้นสูงด้วยตราผู้ปกครอง

“ตราของผู้ปกครองนั้นถือว่าเป็นของสำคัญในการสืบทอด ซึ่งมีพลังไม่อาจจะมีอะไรเทียบได้...” หยุนเหอพูดขึ้น สีหน้าเขาดูจริงจัง ตาของเขาสะท้อนถึงความเคารพออกมาตอนที่พูดถึงตราของผู้ปกครอง

‘ ตราของผู้ปกครอง... ’ ต้วนหลิงเทียนแปลกใจกับพลังในตราของผู้ปกครอง ด้วยตรานี้ ผู้ปกครองก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใครในอาณาเขตตนเอง แม้แต่กองกำลังชั้นนำที่มีอริยะเทพขั้นสูงก็ไม่อาจจะทำอะไรเขาได้

ตราบใดที่พวกนั้นอยู่ในอาณาเขตของเขา ทางเดียวคือหากผู้ปกครองนั้นออกจากอาณาเขตของตนเองไป ตราของผู้ปกครองถึงไร้ค่า

ตอนนั้นเองต้วนหลิงเทียนก็ถามถามหยุนเหอด้วยความสงสัย “หุบเขาโชคชะตานั้นไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ใดในทวีปสวรรค์แดนใต้...ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไม่กังวลว่าจะตายหลังจากที่ออกจากอาณาเขตของตนหรือ ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยุนเหอก็ยิ้มออกมาก่อนจะตอบกลับ “ การต่อสู้ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นทุกๆหมื่นปี ทุกๆหมื่นปีนั้นราชวงศ์ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จะทำการบูชายัญเพื่อสวรรค์ เป้าหมายของพิธีนี้ก็เพื่อขอให้เทพแห่งการสรรค์สร้างได้มองพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแก่ผู้ปกครองและตราของผู้ปกครอง ตลอดหนึ่งปีนั้น ตราของผู้ปกครองจะได้รับพลังหากพวกเขายังอยู่ในอาณาเขตของทวีปสวรรค์แดนใต้

เป็นเพราะเช่นนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการออกจากอาณาเขตตนเองเมื่อพวกเขายังมีพลังของตราผู้ปกครองอยู่ เพราะตอนนั้นหุบเขาโชคชะตาจะเปิดแค่ 10 เดือนในแต่ละครั้ง ระหว่าง 1 เดือนแรก ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จะพาผู้ใต้สังกัดของตนมายังหุบเขาโชคชะตา พวกเขาจะกลับไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตนก่อนที่จะสิ้นเดือนสุดท้าย ไม่เช่นนั้นแล้วตอนที่ตราของผู้ปกครองกลับเป็นปกติ ผู้ปกครองก็เสี่ยงที่จะตาย.... ”

เมื่อได้ยินคำอธิบายนี้ ในที่สุดต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ต่างๆถึงได้มั่นใจที่จะออกมาจากอาณาจักรของตนและพาผู้ใต้สังกัดมาที่หุบเขาโชคชะตาด้วยตนเอง เพราะพิธีบูชายัญ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องที่จะมีคนสร้างปัญหาด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาหรือในหุบเขาโชคชะตา

ก่อนหน้านี้ต้วนหลิงเทียนเคยได้ยินว่ามีขุมกำลังที่แข็งแกร่งมากมายด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ กองกำลังเหล่านี้มียอดฝีมือหลายคนที่เป็นอริยะเทพขั้นกลางและสูงหลายกองกำลังนั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เลย

ตอนนั้นต้วนหลิงเทียนคิดว่ามันคงไม่ยากที่กองกำลังเหล่านี้จะสร้างปัญหาในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หากพวกเขาต้องการ แต่ตอนนี้เมื่อเขารู้เรื่องตราของผู้ปกครอง เขาก็ตระหนักได้ว่าแม้ว่าพวกนั้นจะแข็งแกร่ง แต่กองกำลังเหล่านี้ก็ไม่อาจจะสร้างปัญหาในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ ด้วยการปกป้องของตราของผู้ปกครองและเทพแห่งการสรรค์สร้าง ซึ่งไม่มีใครยึดบัลลังก์อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ไปได้ นอกจากว่าจะเป็นความต้องการของเทพแห่งการสรรค์สร้าง

‘ ผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นั้นไร้เทียมทานในอาณาเขตของตนเอง พิธีทุกๆหมื่นปีนั้นจะเป็นการยกเว้นพวกเขาระหว่างที่เปิดหุบเขาโชคชะตา เพราะเช่นนั้นจึงไม่น่าที่ผู้ปกครองจะใช้โอกาสนี้เพื่อขยายอาณาเขตของตน

ยังไงเหตุผลที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์และขุมกำลังต่างๆด้านนอกนั้นยังคงอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้ก็เพราะตราของผู้ปกครอง.... ’

ต้วนหลิงเทียนครุ่นคิดตลอดที่เดินทางจากตระกูลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม เขาคาดเดาหลายอย่างและยืนยันได้หลายอย่างจากการพูดคุยกับหยุนเหอ

ตอนที่เดินทางอยู่นั้น หยุนเหอก็ได้ยกมือขึ้นหยุดการทำงานของหยกสื่อสาร หลังจากนั้นสักพักเขาก็ยิ้มออกมาและมองไปที่ต้วนหลิงเทียนก่อนจะพูดขึ้น “น้องหลิงเทียน ข้าได้รับคำตอบจากผู้ปกครองของเราแล้ว เขาบอกให้ขาพาเจ้าไปหาเขาทันทีที่ไปถึงเมืองหลวง ผู้ปกครองนั้นให้ความสำคัญกับคนมีพรสวรรค์ เขาต้องดูแลเจ้าดีเป็นแน่ น้องหลิงเทียน”

แม้ว่าผู้ปกครองของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นั้นจะไรเทียมทานในอาณาเขตของตน แต่ก็ไม่เช่นนั้นหากพวกเขาออกจากพื้นที่ของตน หลังจากที่ออกจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตนเองแล้ว พวกเขาคงเทียกับคนส่วนมากในกองกลังภายนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

เพราะเช่นนั้นผู้ปกครองจึงพยายามคว้าโอกาสที่จะผูกมิตรกับคนที่แข็งแกร่ง

ในอดีตตลอดเวลาตอนที่หุบเขาโชคชะตาเปิดออก มีผู้ปกครองหลายคนพร้อมกับคนใต้สังกัดที่พึ่งตราของผู้ปกครองในการทำตัวหยิ่งทะนงและทำให้กองกำลังชั้นนำหลายแห่งไม่พอใจ

เพราะเช่นนั้นแม้ว่ากองกำลังชั้นนำเหล่านั้นไม่อาจจะยึดอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ พวกเขาจะรอจนกว่าตราของผู้ปกครองนั้นจะกลับเป็นปกติก่อนที่พวกเขาจะไปรออยู่ด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะฆ่าคนที่ออกมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คนของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จึงไม่กล้าออกมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้พวกเขาพลาดโอกาสไปมากมาย แม้แต่ผู้ปกครองก็ไม่กล้าจะออกไปเช่นกันเนื่องจากตราของผู้ปกครองนั้นจะไร้ค่าทันทีที่พวกเขาออกไป

เพราะบทเรียนจากอดีต อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งจึงระวังตัวกันอย่างมาก แม้ว่าตราของผู้ปกครองนั้นจะใช้ได้ผลด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ตลอด 1 ปีที่หุบเขาแห่งโชคชะตาเปิด

แต่พวกเขาต้องเก็บตัวและไม่กล้าหาเรื่องคนอื่นๆ ในทางกลับกันแล้วตราบใดที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หาเรื่องพวกเขา กองกำลังชั้นนำก็ไม่หาเรื่องอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์โดยไม่มีเหตุผล

หากโจมตีคนที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เช่นนั้นก็ไม่ต้องเดาเลยว่าอีกฝ่ายนั้นผิด แต่ถ้าหากฆ่าคนที่เคยหาเรื่องตนเองมาก่อน เช่นนั้นก็ไม่อาจจะถือโทษกับการกระทำนี้ได้

“ขอบคุณที่ชมเชยข้า พี่หยุนเหอ” ต้วนหลิงเทียนพูดขึ้น ไม่ยากที่เขาจะเดาออกว่าหยุนเหอนั้นต้องชมเขาให้ผู้ปกครองฟัง

หยุนเหอพยักหน้าตอบรับ แม้ว่าทั้งสองคนที่มาด้วยจะเป็นคนสนิทของเขา แต่ก็ชัดแล้วว่าเขาไม่อยากให้สองคนนี้ได้ยิน เขาจึงพูดผ่านทางจิต “ ตอนที่ไปพบผู้ปกครอง ก็ไม่จำเป็นต้องสำรวม

นอกจากนี้แล้วก็ไม่จำเป็นที่เจ้าจะพูดตรงๆ ตราบใดที่เจ้าบอกทางอ้อมว่าเจ้าไม่ใช่คนที่ลืมบุญคุณคน แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ผู้ปกครองนั้นไร้เทียมทานในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ชอบธรรม แต่เขาไม่ต่างจากเทพสูงสุดขั้นต้นเมื่อออกจากอาณาจักรไป เพราเช่นนั้นถึงเขารู้ถึงโชคที่อยู่ด้านนอก เขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้นอกจากมองดูคนอื่นๆแย่งชิงมันไป

ผู้ปกครองหลายคนผูกมิตรกับยอดฝีมือด้านนอกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของตน บางคนถึงกับผูกมิตรกับกองกำลังชั้นนำด้านนอกผ่านการแต่งงาน ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีนี้ ผู้ปกครองจึงได้รับการปกป้องจากกองกำลังชั้นนำพวกนั้น เป็นเพราเช่นนั้นผู้ปกครองจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการออกจากอาณาเขตของตนเองเพื่อไปหาสมบัติ ”

“ ผู้ปกครองหลายคนที่เป็นเทพสูงสุดขั้นกลางนั้นก้าวขึ้นไปเป็นเทพสูงสุดขั้นสูงเพราะสมบัติที่พวกเขาพบด้านนอกอาณาจักรของตน หากไม่มีสมบัติ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่าจะทะลวงผ่านในหุบเขาโชคชะตา แต่เจ้าก็รู้  หุบเขาโชคชะตานั้นไม่ได้เปิดอยู่ตลอด

นอกจากนี้แล้วหากพวกเขาโชคดี สมบัติอาจจะปรากฏขึ้นในอาณาจักรของพวกเขา พวกเขาจะคว้าโอกาสในการทะลวงผ่านไว้ในมือ ”

หยุนเหอเงียบสักพักก่อนจะพูดต่อ “น้องหลิงเทียน ด้วยพรสวรรค์ที่สูงเสียดฟ้าของเจ้าและทักษะในการทำความเข้าใจแล้ว เจ้าต้องเปิดดินแดนลับระดับสูงสุดที่เต็มไปด้วยสมบัติได้แน่ เจ้าแค่แสดงพรสวรรค์ที่จะก้าวเป็นเทพสูงสุดต่อหน้าผู้ปกครองก็เพียงพอได้ใจของผู้ปกครองมาแล้ว”

ต้วนหลิงเทียนใจเต้นผิดจังหวะเมื่อได้ยินที่หยุนเหอบอกมา

‘ มีดินแดนลับระดับสูงสุดตอนที่ทะลวงผ่านกลายเป็นเทพสูงสุดเหมือนกับตอนที่ทะลวงผ่านเป็นจักรพรรดิเทพหรือ ? ’      ต้วนหลิงเทียนคิดกับตัวเองและถอนหายใจออกมา ‘ น่าเสียดาย...

แม้ว่าข้าจะมั่นใจว่าจะก้าวเป็นเทพสูงสุดได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำเช่นนั้นในการทดสอบของเทพ ข้าสงสัยว่าหากทะลวงผ่านเป็นเทพสูงสุดบนสนามรบเขตแดน จะมีดินแดนระดับสูงสุดปรากฏขึ้นหรือไม่ ? ’

ต้วนหลิงเทียนรู้สึกว่าเขามีโอกาสสูงที่จะก้าวเป็นเทพสูงสุดบนสนามรบเขตแดน แต่เขาไม่มั่นใจว่าจะทำให้เกิดดินแดนลับระดับสูงสุดได้หรือไม่

‘ ข้าจะลองถามพี่สามเรื่องนี้หลังจากที่ข้าออกไป... ’ ต้วนหลิงเทียนคิดกับตัวเอง

ต้วนหลิงเทียนและหยุนเหอยังพูดคุยกันต่อก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะเดินแยกออกไปหาที่บ่มเพาะ เมื่อเห็นเช่นนั้น หยุนเหอก็นั่งขัดสมาธิและหลับตาลงเช่นกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขาบ่มเพาะจริงหรือไม่

สำหรับสองคนที่มากับหยุนเหอด้วย พวกเขายังยืนอยู่และจับตาดูรอบข้างเรือบินผ่านกระจกภาพในเรือบิน ยังไงเสียแม้ว่าพวกเขาจเดินทางด้วยความเร็วของจักรพรรดิเทพขั้นสูง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะปลอดภัย ซึ่งมันมีนักล่ามากมายที่เป็นเทพสูงสุดในป่า

5 1 โหวต
Article Rating
6 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด