ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 34
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 36

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 35


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 35

“เรียกผมไปพบเหรอครับ?”

รารอนหรี่ตาลง  เกล็นเรียกเขาให้เข้าไปพบทันทีหลังจากจบการประลองงั้นเหรอ…

“เอ่อ… อันที่จริงแล้วเขาบอกให้ฉันพาตัวแทนของผู้ฝึกฝนไปพบเขาน่ะ”

ริมเมอร์ยักไหล่

'ผู้ฝึกฝนอันดับหนึ่งน่ะเหรอ?'

ก็แปลว่ามันไม่ได้สำคัญว่าเป็นจะเป็นใครน่ะสิ ขอแค่เป็นผู้ฝึกฝนอันดับที่หนึ่งก็พอ  บางทีเกล็นอาจจะคิดว่ามาร์ธาเป็นคนชนะในการต่อสู้

'หึๆ'

เขาอยากหัวเราะออกมาอยู่เหมือนกัน ดูเหมือนว่าเขาจะเอาชนะผู้ฝึกฝนที่เกล็นคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นที่หนึ่งได้ทีละคน ทั้งเบอร์เรนและคราวนี้ก็มาร์ธา

“แล้วทำไมเขาถึงต้องเรียกไปพบล่ะครับ?”

“ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ?”

ริมเมอร์ยักไหล่และส่ายหัว  แต่ดูจากสีหน้าของเขาแล้ว ดูเหมือนว่าเขารู้เหตุผลอย่างแน่นอน เขาแค่ยังไม่อยากบอกราอน

“แล้วผมต้องไปตอนไหน?

ราอนถามออกไปพร้อมกับลูบไล้ที่กล่องไม้

"ตอนนี้เลย!"

“…เข้าใจแล้วครับ”

เขาพยักหน้าและปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าของเขาออก

“เธอจะไปแบบนั้นเหรอ?  จะไม่ไปเปลี่ยนชุดก่อนรึไง?”

"ครับ"

“เธอไม่กลัวท่านเจ้าตระกูลรึไง?”

“แล้วทำไมผมต้องกลัวด้วย?  เขาไม่ได้จะกินผมสักหน่อย”

แน่นอนว่าสายตาเย็นชาของเกล็นทำให้เขาอึดอัดมาก แต่เขาไม่จำเป็นต้องกลัว

“เธอนี่ตลกจังแฮะ”

ริมเมอร์พยักหน้างึกๆและหัวเราะคิกคักไปด้วย  เขาแตะที่ไหล่ของราอนด้วยสีหน้าพึงพอใจ

"งั้นก็ไปกัน!"

"ครับ"

ราอนเดินตามริมเมอร์ที่มุ่งหน้าไปทางห้องโถงในคฤหาสน์หลัก

“คุณหนูมาร์ธาเป็นฝ่ายแพ้จริงๆงั้นหรือ?”

“แพ้ให้เด็กตัวเล็กแค่นี้…”

“เหลือเชื่อเลย”

“พรสวรรค์ของพวกเขาแตกต่างกันจะตายไป”

“เขาแค่โชคดีแน่ๆ  ไม่มีทางเป็นเพราะอย่างอื่นไปได้หรอก!”

ในระหว่างทางเขาก็พบกับผู้คนที่ต่างแอบมองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจและคาดไม่ถึง

“เหมือนทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นคนเอาชนะมาร์ธาได้”

ริมเมอร์ยิ้มให้เขา

"งั้นเหรอครับ?'

“เพราะว่าพื้นที่ของซีกฮาร์ตก็มีอยู่แค่นี้…”

เพราะพื้นที่ของซีกฮาร์ทเป็นพื้นที่ปิดที่ห้ามไม่ให้ใครเข้าหรือออกได้ง่ายๆ ข่าวลือจึงแพร่กระจายไปทั่วได้อย่างรวดเร็ว

“มาร์ธาเก่งมากจนเธอสามารถเอาชนะเด็กทุกคนในสายตรงได้เลย  เป็นเรื่องปกติที่ข่าวจะแพร่ไปเร็วขนาดนี้”

"งั้นเหรอครับ..."

“เธอก็ต้องระวังตัวไว้ให้ดีนะ เดี๋ยวนี้ข่าวลือแบบไหนก็แพร่กระจายออกไปเร็วเหมือนๆกันหมด ทั้งข่าวด้านบวกและด้านลบ...”

แล้วริมเมอร์ก็ชี้ไปที่ตัวเอง ดูเหมือนเขาจะหมายถึงว่าตอนที่ศูนย์พลังงานของเขาพังไปนั้น ข่าวก็แพร่กระจายออกไปเร็วเหมือนกัน

“ยังไงก็ดีใจด้วยอีกครั้งนะ ต่อไปจะเป็นโอกาสที่ดีมากแล้วก็ฉันจะขอให้ผ่านไปด้วยดี”

ริมเมอร์เดินไปตามทางเดินในคฤหาสน์พร้อมกับผิวปาก ดูเหมือนว่าอัศวินในคฤหาสน์จะรู้อยู่แล้วว่าพวกเขามาเข้าพบผู้เป็นหัวหน้าตระกูลและไม่ได้เข้ามาขัดขวางพวกเขา

“ท่านเจ้าตระกูลกำลังรออยู่เลยครับ”

เมื่อพวกเขาเดินผ่านทางเดินยาวบนชั้น1จนไปถึงห้องโถง พ่อบ้านของเกล็นก็มาต้อนรับพร้อมกับเปิดประตูให้พวกเขาด้วยรอยยิ้ม

แอดดด

ประตูเหล็กบานคู่ขนาดใหญ่เปิดออกจากกัน เสียงของมันดังจนแทบทำให้ใจเขาหยุดเต้น พลังงานอันหนักหน่วงแผ่ความกดดันออกมาจากหลังบานประตู

ราอนกุมหน้าอกด้านซ้ายของเขา

'ออร่าของเขามันหนักขนาดนี้ตลอดเลยเหรอ…?'

แล้วเกล็นก็ปล่อยความกดดันของเขาออกมามากขึ้นอีก  ราอนไม่สามารถหยุดมือของเขาจากการสั่นได้เลย

ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นมนุษย์ธรรมดา…

น้ำเสียงของราธก็สั่นเทาเช่นเดียวกัน

“ตอนนี้เธอรู้สึกถึงออร่าได้แล้วใช่ไหม?”

ริมเมอร์ยิ้มให้ราอนทั้งๆที่มีเหงื่อหยดหนึ่งไหลลงบนหน้าผากของเขา

“นั่นไงล่ะ... ราชาของพวกเรา”

เขายกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไป

“อึก”

ราอนกลืนน้ำลายและเดินตามเขาไป  ยิ่งเข้าใกล้เขาก็ยิ่งรู้สึกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ  ความรู้สึกเหมือนไหล่ของเขาถูกกดทับด้วยพลังงานอันทรงพลัง

“สวัสดีครับท่านเจ้าตระกูล!”

ราอนซึ่งอยู่ข้างๆพร้อมกับริมเมอร์คุกเข่าลง  ในที่สุดคลื่นพลังงานที่เกล็นปล่อยออกมาก็ลดลง

แม้แต่พลังของเดรุสก็ยังเทียบไม่ได้เลย

"ยืนขึ้นได้"

ราอนรู้สึกโล่งใจในทันทีและยืนขึ้นตามคำสั่งของเขา เมื่อสายตาได้สบดข้ากับดวงตาสีแดงของเกล็นก็ทำให้ดวงตาของเขาเริ่มพร่ามัว มันเป็นความกดดันที่มหาศาลมากจริงๆ

“ผมพาผู้ฝึกฝนอันดับหนึ่งมาตามที่ท่านบอกแล้ว”

“…”

เกล็นจ้องไปที่ราอนโดยไม่แม้แต่จะสนใจริมเมอร์

ไม่แน่ใจว่าเขากำลังหงุดหงิดหรือเปล่า ราอนไม่สามารถอ่านความคิดของเขาได้เลย

“เธอได้รับ 'หมื่นเปลวเพลิง' หรือยัง?”

"ได้แล้วครับ"

“แล้วใช้เวลานานเท่าไหร่?”

“ใช้เวลาประมาณเจ็ดเดือนครับ”

“ช้าไปนะ”

เกล็นเอียงหัวเล็กน้อย  แล้วมองเขาด้วยสายตาดูถูก

“งั้นแสดงออร่าให้ฉันดูทีสิ”

เมื่อได้ยินคำสั่งของเกล็น ราอนก็หันไปมองริมเมอร์ ราอนส่งสายตาถามประมาณว่าเขาควรแสดงออร่าให้เกล็นเห็นหรือเปล่า

“ปกติแล้วก็ไม่ควรทำนะ แต่ท่านเจ้าตระกูลเป็นคนขอ…”

“เข้าใจแล้วครับ”

ราอนลุกขึ้นยืน กำหมัดของเขาขึ้นมาด้านหน้า

ฟรึ่บ!

เปลวไฟสีแดงค่อยๆปรากฏขึ้นมา  เปลวไฟอันแรกจากหมื่นเปลวเพลิง... ‘เปลวเพลิงลำดับที่หนึ่ง’

“นั่นมัน‘เปลวเพลิงลำดับที่หนึ่ง’ใช่หรือไม่?”

สายตาของเกล็นดูเหมือนจะวูบไหวเล็กน้อย

“จินตภาพของออร่าที่เธอคิดไว้คืออะไร?”

“ผมอยากให้มันเป็นเปลวไฟที่ไม่มีวันดับครับ”

“ไม่ดับงั้นเหรอ?”

“ผมจินตนาการถึงเปลวไฟที่ไม่มีวันดับไว้ครับ... ไม่ว่ามันจะได้เจอลมหรือฝนก็ตามก็จะไม่ดับ”

เกล็นจ้องมองเปลวไฟที่ลุกไหม้บนมือของราอนเป็นเวลานานโดยไม่พูดอะไรออกมา

“ก็ดีแล้วนี่”

"ว่าไงนะครับ?"

นี่เขาได้รับคำชมจากเกล็นงั้นเหรอ เขายื่นมือไปจับที่ใบหูของเขา เผื่อว่าเขาอาจจะได้ยินผิดไป

“นักดาบหรือนักเวทย์ธาตุไฟมักจะมีพลังโจมตีที่ยอดเยี่ยมแต่ความคงทนและการป้องกันของพวกเขากลับด้อยมาก เปลวไฟที่ไม่มีวันดับอาจช่วยให้เธอเอาชนะความอ่อนแอเหล่านั้นได้ ไปศึกษามันให้ดีๆล่ะ'

“…ข-เข้าใจแล้วครับ”

ราอนพยักหน้าด้วยดวงตาที่ประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดเคยฝันว่าเกล็นจะให้คำแนะนำแบบนี้กับเขา ดังนั้นน้ำเสียงของราอนจึงสั่นเล็กน้อย

“มันอาจจะแปลกไปหน่อยที่ฉันพึ่งจะมาแนะนำเธอในตอนนี้ ฉันควรจะบอกเธอตั้งแต่พิธีทดสอบแล้ว”

“ครับ…”

อาจจะหมายถึงเรื่องที่เกล็นได้ให้คำแนะนำกับทุกคนยกเว้นราอนไปแล้วในระหว่างพิธี เขาเลยมาแนะนำราอนในตอนนี้แทน

'เป็นคนที่อ่านยากมากเลย'

ภายนอกของเกล็นเป็นคนที่เย็นชาราวกับถูกแกะสลักออกมาจากธารน้ำแข็ง แต่จริงๆแล้วเขาก็เอาใจใส่คนอื่นอยู่บ้างเหมือนกัน

เขาเป็นคนที่ตรงกันข้ามกับเดรุสโดยสิ้นเชิง เดรุสรับเด็กมากมายมาอยู่ในการดูแลแล้วใช้งานพวกเขาเหมือนทาส

“แล้วก็ต่อไป ฉันจะบอกเธอถึงเรื่องสำคัญ…”

เกล็นวางเท้าคาง และจ้องมองลงไปที่ราอน

“ในปีหน้า ฉันจะให้ผู้ฝึกฝนทุกคนเริ่มออกทำภารกิจ”

“ภารกิจเหรอครับ?”

“พวกเธอทุกคนก็ฝึกฝนกันมาเกือบหนึ่งปีและก็มีออร่ากันหมดแล้วด้วย... พวกเธอเป็นนักดาบมือใหม่แล้วและก็ควรจะออกไปหาประสบการณ์”

“เอ่อ…”

“เธอคิดว่าตัวเองยังเด็กเกินไปหรือเปล่า?  ฉันว่าอายุไม่ใช่สิ่งสำคัญในการต่อสู้หรอกนะ ตราบใดที่เธอเป็นนักดาบและมีดาบอยู่บนมือเธอก็ต้องสู้”

'ไม่ใช่แบบนั้น... ฉันแค่คิดว่าตัวเองแก่เกินไปต่างหาก'

ในชีวิตก่อนหน้า เขาได้รับภารกิจลอบสังหารครั้งแรกตอนอายุแปดขวบ เขาเลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เด็กเกินไปแต่แก่เกินไปต่างหาก

“ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวหรอกนะ ไปบอกให้ผู้เข้าร่วมการฝึกฝนทุกคนให้เตรียมตัวให้พร้อมด้วย ไม่รู้หรอกนะว่าจะได้ภารกิจแบบไหนแต่พวกเธอก็ต้องผ่านไปให้ได้”

“…เข้าใจแล้วครับ”

“ออกไปได้แล้ว”

เกล็นโบกมือไล่ ราอนคุกเข่าและลุกขึ้นเพื่อโค้งคำนับเขา จากนั้นจึงออกจากห้องโถง

“ถึงเวลาที่พวกเธอจะได้ทำภารกิจแล้ว!”

ริมเมอร์ยิ้มและคว้ามือของเขาขึ้นมาให้ประสานกัน

“จะเป็นภารกิจแบบไหนเหรอครับ?”

“ยังไม่มีการตัดสินใจน่ะ อาจจะเป็นการปราบสัตว์ประหลาด การปกป้องคน หรือไม่ก็กำจัดโจร… แต่ก็นั่นล่ะนะ ถึงยังไงพวกเธอก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสถานการณ์อยู่แล้ว แบบที่ท่านเจ้าตระกูลได้บอกไว้เมื่อสักครู่นี้ไง”

“แล้วอาจารย์ไม่ไปกับพวกเราด้วยเหรอครับ?”

“ฉันไปแน่ แต่ภารกิจของฉันแตกต่างจากของพวกเธอนะ ภารกิจของผู้ฝึกสอนคือการปกป้องเด็กๆอย่างเดียว”

"โอเคครับ"

“หือ?”

ดวงตาของริมเมอร์ฉายแววประหลาดใจ

'แน่นอนสิ ก็มันเป็นภารกิจของฉันเองนี่'

ในชีวิตก่อนหน้านี้เวลาที่เขาทำภารกิจเขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือเลยแม้แต่นิด ขนาดตอนที่เขาแปดขวบเองก็ไม่มีใครมาคอยตามดูแล ผู้ฝึกสอนจะคอยปกปิดหลักฐานเวลาพวกเขาทำพลาดครั้งใหญ่เท่านั้น

'ตระกูลซีกฮาร์ทนี่ดีกว่าที่ฉันคิด'

ราอนทิ้งริมเมอร์ที่กำลังตกใจไว้ข้างหลัง เขาเดินออกจากคฤหาสน์ด้วยรอยยิ้ม

* * *

* * *

หลังจากที่ราอนไปที่อาคารรองแล้ว ริมเมอร์ก็ย้อนกลับไปที่ห้องโถง

“นายท่านของฉันดูมีความสุขมากเลยนะ”

ริมเมอร์ยิ้มและมองดูเกล็นซึ่งยืนอยู่บนแท่น

“ฉันปกติ”

“เห… แต่มุมปากของนายยกขึ้นสูงกว่าปกติสองมิลลิเมตรนะ”

“หยุดพูดจาไร้สาระแล้วรายงานอาการของมาร์ธามาให้ฉันเดี๋ยวนี้”

“เธอมีรอยฟกช้ำค่อนข้างเยอะ แต่ได้พักไม่นานก็คงหายดีนั่นแหละ ปัญหาคือเหมือนเธอจะมีอาการช็อคทางจิตใจ”

“หากเธอผ่านเรื่องนั้นไปไม่ได้เธอก็ไม่ควรจะใช้ชื่อซีกฮาร์ทต่อ”

หลักการของซีกฮาร์ทไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครทั้งนั้น แม้กระทั่งกับมาร์ธาที่พึ่งได้เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรมของคนในสายตรง

“นายช่วยราอนวาดจินตภาพของเขาหรือเปล่า?”

“ฉันเป็นอาจารย์ก็จริงนะ แต่ราอนเป็นคนวาดมันขึ้นมาเอง ฉันแค่ให้คำแนะนำเขานิดหน่อย”

ริมเมอร์ยักไหล่แล้วพูดต่อ

“นายรู้สึกยังไงที่ได้เห็นออร่าที่เหมือนกับออร่าของท่านเจ้าตระกูลคนแรกที่นายอยากเห็นมันมานาน?”

“ออร่ามันเหมือนกับที่บันทึกเอาไว้ทุกอย่าง ทั้งสวยงามราวกับดอกไม้ไฟ และเมื่อเทียบกับออร่าขนาดเดียวกันแล้วก็ถือว่าเป็นออร่าที่ทรงพลังมากที่สุด”

"ใช่แล้วล่ะ ออร่าของราอนทำลายออร่าไททันของมาร์ธาที่ฝึกมากว่าสี่ปีได้ มันเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่อมากๆเลย ว่าแต่…สีของมันควรจะเป็นสีทองไม่ใช่เหรอ?”

“สีของมันขึ้นอยู่กับพลังของไฟ นายก็คอยสั่งสอนเขาในเส้นทางที่ถูกต้องด้วยล่ะ”

“...นายก็ใจดีกับเขาตลอด”

“……”

เกล็นไม่ตอบอะไรกลับไป เขาเพียงหลับตาแล้วโบกมือไล่ริมเมอร์เพราะเขาเริ่มทำตัวน่ารำคาญ

“งั้นก็เลือกแต่ภารกิจดีๆมาให้ละกันนะ”

“นั่นมันเป็นงานของฝ่ายบริหารทั่วไปไม่ใช่งานของฉัน อย่ามากังวลเรื่องนั้นแล้วไปช่วยฝึกฝนให้เด็กๆผ่านภารกิจทุกรูปแบบไปได้เถอะ”

"เชื่อมือฉันได้เลย! ฉันจะคอยสั่งสอนพวกเขาเป็นอย่างดีไม่ให้พวกเขาแอบขี้เกียจแน่นอน”

“….นายควรดูตัวเองก่อน”

เกล็นแอบหัวเราะ เมื่อเห็นการแสดงออกอย่างมั่นอกมั่นใจของริมเมอร์

“นี่เรียกว่าอาจารย์สองหน้าต่างหากล่ะ”

ริมเมอร์ยิ้มตอบ

***

“หืม?”

จูเดียลที่กำลังถอนวัชพืชในแปลงดอกไม้ต้องหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลังเธอ

“ส... สวัสดีค่ะคุณชายราอน!”

ทันทีที่ได้สบตากับเขา เธอก็รู้สึกหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“กลับมาแล้วเหรอคะ!”

เธอยืนขึ้นและสำรวจภายนอกของเขา เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยฝุ่นแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนเลย

'ไม่มีทาง... เขาชนะเธอหรือเปล่า? ชนะมาร์ธาน่ะเหรอ?

เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะชนะกลับมาแบบไม่ได้รับบาดเจ็บเลย

“คุณชายชนะการประลองใช่ไหมคะ?”

"คิดว่าไงล่ะ?"

ราอนยิ้ม..

“เอ่อ…”

เมื่อได้มองดูรอยยิ้มแห่งชัยชนะของเขาก็ทำให้เธอนึกถึงวันนั้น  แสงสะท้อนจากดวงตาสีแดงของเขาที่ลอยอยู่บนทะเลสาบ…ถ้าบอกว่าเขาเป็นปีศาจเธอก็คงจะเชื่อในทันที

'….แสดงว่าปีศาจแบบเขาไม่ได้พ่ายแพ้ให้กับแค่เด็กอัจฉริยะคนเดียวสินะ

เธอตระหนักได้อีกครั้งว่าราอนเป็นคนแบบไหน

“ศูนย์บัญชาการกองทัพคงจะติดต่อเธอมาอีกครั้งในเร็วๆนี้ เพื่อสั่งให้เธอตรวจสอบฉันให้ละเอียดยิ่งขึ้น”

“ค-ค่ะ”

“เขียนสิ่งที่เธอคิดว่าควรจะรายงาน แล้วนำมาให้ฉัน”

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เขาฉีกยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ทำให้เธอขนลุก แล้วเดินเข้าไปในอาคารรอง จูเดียลถึงกับเผลอปล่อยเศษหญ้าออกจากมือ และแผ่นหลังของเธอก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

“สัตว์ประหลาดก็ต้องเอาชนะอัจฉริยะได้อยู่แล้ว…”

***

“ราอน!”

ทันทีที่ราอนเข้าไปในอาคารเสริม เขาก็ได้เจอกับซิลเวียที่กำลังจะสวมเสื้อตัวนอก

"แม่กำลังจะไปไหนเหรอครับ?"

“แม่จะไปไหนงั้นเหรอ?! แม่ก็กำลังจะออกไปตามหาลูกยังไงล่ะ! ลูกควรจะมาถึงที่นี่ได้ตั้งนานแล้ว”

ซิลเวียพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วที่มากกว่านักดาบทั่วๆไปเสียอีก

"ลูกสบายดีใช่ไหม? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”

ดวงตาของเธอสำรวจราอนไปทั่วทุกมุม

“ผมไม่ได้รับบาดเจ็บเลยครับ”

"เฮ้อ…"

ซิลเวียถอนหายใจและลูบหน้าอกของเธอด้วยความโล่งอก แต่ดวงตาของเธอก็ยังไม่เลิกจ้องไปตามร่างกายของราอน

“การประลองถูกยกเลิกเหรอ?”

“ไม่ใช่ครับ คือผมเป็นคนชนะ…”

“แล้วลูกก็ไม่มีแผลเลยงั้นเหรอ?”

“เพราะผมป้องกันไว้ได้…”

“ล…ลูกชนะโดยที่ป้องกันไว้ได้ทั้งหมด?”

“อึ้ม”

“จริงเหรอคะ?”

เฮเลนเผลอปล่อยเสื้อชั้นนอกของซิลเวียลงพื้น

เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าความสามารถของมาร์ธานั้นยอดเยี่ยมพอๆกับคนในสายตรง ปฏิกิริยาที่ประหลาดใจของพวกเขาจึงไม่ได้น่าแปลกใจเท่าไหร่

“ถ-ถ้าไม่เจ็บงั้นก็มาทานข้าวก่อน! เฮเลนไปเตรียมอาหารเร็วเข้า!”

"ไม่เป็นไรหรอกครับ"

"ห๊ะ? แต่ลูกยังไม่ได้ทานมื้อเย็นเลย”

“ผมยังมีเรื่องต้องทำน่ะครับ…”

ราอนส่ายหัวและแอบล้วงมือไปแตะกล่องไม้ในกระเป๋าที่บรรจุยาอมฤตไว้

นี่จะเป็นเวลาที่น่าตื่นเต้น เพราะเขากำลังจะได้แข็งแกร่งขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด