ตอนที่แล้วบทที่ 13: ความโกรธเกรี้ยว(2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15: การทดสอบทักษะการต่อสู้ภาคปฏิบัติ (1)

บทที่ 14: ความโกรธเกรี้ยว(3)


[โปรดกลับไปอ่านตอนที่ 1 ใหม่นะครับ มีแก้ไขอะไรหลายอย่างเลย]

บทที่ 14: ความโกรธเกรี้ยว (3)

หลังจากนั้นไม่นาน การดวลของธีโอกับไอรีนก็สิ้นสุดลง

แน่นอนว่าธีโอแพ้

ธีโอจับต้นขาของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง ประคองร่างที่เกือบจะล้มของเขาในขณะที่เขาสูดลมหายใจอย่างขาดห้วง

'ช่างเป็นช่วงเวลาที่สิ้นหวังนัก'

เมื่อสิบนาทีที่แล้ว เขาคิดว่าเขามีโอกาส แต่นั่นเป็นเพียงความเข้าใจผิดของเขาเอง

ดาบไม้ของเขาไม่แม้แต่จะเฉียดเสื้อผ้าของไอรีน สิ่งที่น่าสิ้นหวังยิ่งกว่าคือความจริงที่ว่าเธอแค่ป้องกันเท่านั้น

"ฮู้ววว..."

ไอรีนอาจใช้กำลังที่แท้จริงไม่ถึง 10%

ค่าสถานะและทักษะมีความสำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะฝีมือดาบของไอรีนนั้นโดดเด่นมาก

แม้จะไม่รู้สึกว่ารุนแรงเท่าน็อคต้าร์ที่ควงขวาน แต่เธอก็สามารถเบี่ยงเบนการโจมตีเต็มแรงทั้งหมดของเขาได้อย่างง่ายดาย

เขาได้รู้สึกถึงการมีอยู่ของกำแพงที่ข้ามผ่านไม่ได้อย่างแท้จริง

ไอรีนแอบมองธีโอ

เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ เขาก้มหน้าลง หายใจเข้า

ชุดฝึกซ้อมที่เปียกโชกของเขาได้แนบชิดติดกับร่างกายของเขา เผยให้เห็นร่างกายที่ผอมเพรียวและกระชับ

'อ๊ะ เอ่อ...'

ไอรีนรู้สึกว่าใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาจึงรีบมองไปที่พื้น

ไอรีนก็ค่อนข้างประหลาดใจพอสมควรที่ธีโอแข็งแกร่งกว่าที่เธอคิด

ถ้ามีใครพูดถึงสองส่วนที่สำคัญที่สุดของการต่อสู้ระยะประชิด มันก็คือการใช้ร่างกายหรือวิชา

ร่างกายของธีโอนั้นยอดเยี่ยมมาก พลังที่เขาส่งมายังดาบไม้นั้นไม่ควรดูถูกเลย

ด้วยระดับนี้ เขาคงจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของสายอัศวินได้อย่างแน่นอน ทว่าด้วยความที่สายฮีโร่ที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะ อย่างน้อยเขาก็คงจะอยู่ระดับกลางๆ

'การเคลื่อนไหวของเขาน่าประทับใจมาก เขาคงไปฝึกวิชาบางอย่างมา'

แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะดูแข็งทื่อ แต่เขาก็ยังรู้วิธีใช้วิชา

ตระกูลอัสลันของไอรีนเป็นตระกูลอัศวินอันทรงเกียรติ เธอเติบโตมากับการเฝ้าดูและเรียนรู้จากอัศวินที่มีชื่อเสียง

เธอรู้ว่ามีคนมากมายในโรงเรียนที่แข็งแกร่งกว่าเธอ แต่ในแง่ของฝีมือดาบเพียงอย่างเดียว เธอมั่นใจว่าเธอจะไม่แพ้ใคร

เธอจึงได้กลายเป็นหัวเรือใหญ่ของชั้นเรียน เธอไม่เพียงเชี่ยวชาญในการต่อสู้ภาคปฏิบัติเท่านั้น แต่เธอยังเก่งด้านทฤษฎีด้วย ดังนั้นเธอจึงใช้เวลาไม่นานในการระบุจุดอ่อนของธีโอ

'ส่วนสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้คือ...'

การเพิ่มความชำนาญของวิชาของเขา ถ้าเขาสามารถพัฒนาในด้านนี้ได้ ทักษะของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแน่

การศึกษาวิชาอื่นก็มีความสำคัญเช่นกัน แต่นั่นเป็นเรื่องที่เอาไว้ก่อน

เพราะธีโอไม่ใช่อัจฉริยะ เขาต้องทำสิ่งต่างๆ ทีละขั้นตอน โดยเริ่มจากสิ่งที่เขาทำได้และสิ่งที่ง่ายก่อน

ไอรีคิดในใจ

"ฉันจะพูดอย่างตรงไปตรงมากับนายเลยนะ"

"เอาได้เลย"

"พูดตามตรง นายเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้มาก ร่างกายของนายได้รับการฝึกฝนมาเกือบเต็มที่แล้ว นายเพียงแค่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนวิชาต่างๆ ต่อไป ถ้าเกิดนายเชี่ยวชาญวิชาที่นายใช้อยู่ นายก็คงจะแข็งแกร่งขึ้นมากกว่านี้"

เธอไม่ค่อยชมผู้อื่นนัก เขารู้เรื่องนี้เช่นกัน

สำหรับเธอการที่พูดเช่นนี้ มันถือว่าเป็นคำชมอย่างสูงที่สุด

“…อย่างนั้นเหรอ?”

แต่ธีโอดูไม่พอใจนัก

ไอรีนตกใจมาก

เธอคิดว่าเขาจะยินดีเสียอีก

ทำไมเขาถึงดูไม่พอใจกันล่ะ?

"นายดูไม่ค่อยพอใจเลยนะ ทั้งที่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน มันถือว่าเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก คงไม่มีใครที่พัฒนาความแข็งแกร่งได้เร็วเท่านายในเวลาอันสั้นแบบนี้อีกแล้ว นายควรจะภูมิใจนะ"

คำชมได้พรั่งพรูออกมาจากปากของไอรีน

ถึงกระนั้น สีหน้าของธีโอก็ยังคงไม่พอใจ

'เขาเป็นอะไรไป...'

ความอยากรู้อยากเห็นได้เกิดขึ้นในตัวไอรีน

ธีโอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงจากตัวตนในอดีตของเขา

กระทั่งรูปร่างหน้าตาของเขาตอนนี้ เขายังแตกต่างจากช่วงประเมินการสอบภาคปฏิบัติของภาคเรียนแรกเลย

การจะพัฒนาได้ขนาดนี้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในหนึ่งหรือสองเดือน

ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามปีด้วยซ้ำ

ความคิดของไอรีนปรากฏขึ้นมามากมาย

'แต่ในระหว่างการประเมินภาคปฏิบัติครั้งล่าสุดในภาคเรียนแรก เขาวิ่งหนีออกไปด้วยเหตุผลไร้สาระ แถมฉันก็ไม่เคยเห็นเขากำลังฝึกซ้อมเป็นพิเศษด้วย'

...หรือว่า...?

เขาแสร้งทำเป็นโง่และไร้ความสามารถมาตลอดเวลาเลยเหรอ?

ไอรีนรู้สึกสับสนเมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ร่างกายมันไม่โกหก

ความแข็งแกร่งภายนอกของเขาเป็นของจริง

'แต่ทำไม? แล้วด้วยเหตุผลอะไรกันล่ะ?'

เธอไม่สามารถหาคำตอบที่ชัดเจนได้ว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนั้น

ในทางหนึ่งเขาก็ดูน่าสงสาร

ใครจะรู้ว่าเขาต้องดิ้นรนพยายามคนเดียวมานานแค่ไหนโดยไม่มีใครรู้

มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำแบบนั้น จนถูกทุกคนดูถูกเหยียดหยามกันล่ะ?

ไอรีนคิดไม่ออกเลย

'เป็นไปได้ไหมว่า...มันเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นเมื่อเจ็ดเดือนก่อน'

เหตุการณ์ที่ทำให้ความณู้สึกของเธอที่มีต่อเขาหายไปทันที

ไม่ว่าเธอจะคิดถึงเรื่องนี้มากแค่ไหน เธอก็ไม่สามารถยอมรับมันได้

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น ความรังเกียจก็ผุดขึ้นในในของเธอ

ใบหน้าที่สงบนิ่งของไอรีนเต็มไปด้วยความรังเกียจ

ยามนั้นเอง

"...ฉันอยากจะชนะ"

คำพูดของธีโอได้ทำลายความคิดของไอรีนลงไป

ไอรีนมองมายังธีโอด้วยสีหน้าสับสน

มันเป็นคำตอบที่บริสุทธิ์และคาดไม่ถึงยิ่ง

ด้วยดวงตาที่พร่ามัว ธีโอมองไปทางไอรีนและพูดอย่างเชื่องช้า

"ช่วยฉันด้วยเถอะนะ"

"...!"

ไอรีนเริ่มลังเล

เสียงสะท้อนจากคำพูดของเขาช่างไพเราะจับใจ

มันทำลายความรังเกียจที่ปกคลุมไปทั่วใบหน้าของเธอในทันที

เสียงสะท้อนนั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง

ทว่าความคิดของเธอก็ได้ปิดกั้นหัวใจของเธอเอาไว้

ธีโอ ผู้ชายคนนี้ไม่ควรให้อภัยโดยเด็ดขาด

"...ทำไมต้องเป็นฉันด้วย?"

ไอรีนพยายามตะเบ่งเสียงดังที่สุดเท่าที่เธอสามารถตะโกนออกมาได้

จากนั้นเธอก็มองไปทางธีโอ

ศีรษะของเขาก้มลง ดวงตาของเขายากจะเข้าใจ

สีหน้าบึ้งตึงและเศร้าโศกเหมือนแมวที่หยิ่งยโส

'อา.'

กึด

เธอกัดฟันราวกับบอกตัวเองว่า 'ฉันต้องไม่ยอมแพ้'

การจ้องมองแบบนั้นมันกำลังล่อลวงเธอชัดๆ เธอจะต้องไม่สนใจ แต่ตอนนี้เธอสับสนเกินไปแล้ว

ในยามนั้นเอง ธีโอมองไปที่เธอและพูดขึ้นมา

"ไอรีน"

"อะไร?"

ไอรีนพยายามสบตาเขาและย้ำเตือนตัวเองเสมอว่าอย่ายอมแพ้

แต่แล้ว...

"ฉันไม่มีใครนอกจากเธอแล้ว ได้โปรดช่วยฉันด้วย"

ความคิดในภวังของเธอสลายไปในทันที

***

หลังจากได้รับคำแนะนำด้านทักษะดาบจากไอรีนและวิชาบางอย่างของเธอแล้ว ฉันก็ทานอาหารเย็นคนเดียวที่ร้านอาหารใกล้ๆ

ฉันชวนใไอรีนไปด้วย แต่เธอปฏิเสธ เธอบอกว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย ใบหน้าของเธอแดงก่ำตลอดเวลาที่เธอสอนฉัน และดูเหมือนเธอจะป่วยหนักพอสมควร

"เฮ้อ"

ฉันหวังว่าเธอจะไม่ป่วยจริงๆ หรอกนะ เพราะถ้าไม่มีเธอ ฉันคงไม่มีใครมาสอนแล้ว

ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงได้เผชิญหน้ากับความจริงที่ฉันพยายามหลีกเลี่ยง

ตัวฉันไม่มีพรสวรรค์อยู่เลยสักนิดเดียว

ฉันไม่เข้าใจวิชาที่ไอรีนสอนฉันเลย แม้ว่าฉันเคยเห็นพวกมันหลายสิบครั้งในเกม แต่ฉันไม่สามารถเข้าใจมันได้

เมื่อฉันดู ฉันก็คิดว่า 'เป็นแบบนี้สินะ' แต่เมื่อฉันลองทำดู ฉันก็ทำไม่ได้

ไม่มีทางอื่นแล้ว

ฉันกลับไปที่ห้อง อาบน้ำและเปิดหน้าต่างร้านทันที

ฉันต้องการหลีกเลี่ยงการพึ่งพาของพวกนี้มากที่สุด แต่นี่เป็นวิธีเดียวที่จะเพิ่มโอกาสในการชนะการทดสอบในวันศุกร์

“แย่ชะมัด”

ฉันซื้อ [ดวงตาของผู้สังเกตการณ์]

[ซื้อเสร็จแล้ว]

[เงินปัจจุบัน: 1 เหรียญทอง 10 เหรียญเงิน]

เช่นเดียวกับตอนที่ฉันซื้อ [ลบล้างเวทมนตร์] มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจากการเด้งขึ้นมาของหน้าต่างข้อความ

เมื่อหมดแรง ฉันก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที มันยังเร็วเกินไปที่จะนอน แต่ฉันรู้สึกง่วงนอนทันทีที่ล้มตัวลงไปบนเตียง

ไอรีนบอกว่าเธอจะช่วยฉันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ ฉันจะตั้งใจเรียนรู้ทุกอย่าง

ฉันจะขอให้เธอแสดงความสามารถทุกอย่างที่เธอมี

จากนั้นฉันก็หลับลงไปในทันที

***

สี่วันต่อมา วันศุกร์ เวลา 7.00 น.

พื้นที่ฝึกฝนเฉพาะสายฮีโร่ของโรงเรียนอิลิเนีย

ฉันอยู่ในห้องๆ หนึ่งจากหลายๆ ห้องที่อยู่ติดกับพื้นที่ฝึกซ้อม ท่ามกลางการฝึกจำลอง

ตามที่คาดไว้ ห้องที่นี่กว้างมากอย่างไม่น่าเชื่อ

ตรงด้านหน้าฉันก็มีตุ๊กตาเวทมนตร์ในร่างมนุษย์ยืนอยู่ ตุ๊กตาตัวนี้มีขนาดใกล้เคียงกับ ราล์ฟ ไวโอล ที่ถือไม้กระบองอยู่ในมือ

สถานที่ฝึกของสายฮีโร่รองรับการฝึกจำลองประเภทต่างๆ เช่น การดวลเวทย์มนตร์และการต่อสู้ระยะประชิด มันเป็นเทคโนโลยีเหนือจินตนาการ ทว่าน่าประหลาดที่มันไม่มีปืน

ของสิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยโอดิอุสและสหายของเขา นักเวทย์ระดับ 9 คนสุดท้ายในทวีป

[การตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์ โปรดตอบว่า 'ใช่' เมื่อคุณพร้อม]

เสียงประหลาดได้ดังขึ้น

"ใช่"

หุ่นเชิดเวทมนตร์เริ่มเคลื่อนไหว

แม้จะเป็นหุ่นเชิด แต่การเคลื่อนไหวของมันก็คล้ายกับมนุษย์ ฉันยังสามารถตั้งค่าสถานะของมันให้ใกล้เคียงกับของราล์ฟได้ ดังนั้นฉันจึงตั้งค่าให้เป็นแบบนั้น

แน่นอนว่ามีข้อจำกัดที่ชัดเจนคือการที่มันไม่สามารถใช้ลักษณะหรือทักษะส่วนบุคคลได้

ขาดบางสิ่งไป แต่ก็ยังมีประโยชน์มากทีเดียว

จากนั้นฉันก็ตะโกนออกมา

"เข้ามา"

ราวกับว่าเข้าใจคำพูดของฉัน หุ่นเชิดเวทมนต์ตัวใหญ่ก็พุ่งมาที่ฉัน

***

หลังจากฝึกจำลองประมาณสองชั่วโมง ฉันก็ชะล้างร่างกายที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อในห้องอาบน้ำที่อยู่ติดกับสนามฝึก ซึ่งฉันก็ยังนำเครื่องสำอางและน้ำหอมมาด้วย

แม้ว่าฉันจะเตรียมการอย่างละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

ตั้งแต่วันอังคารจนถึงตอนนี้ ฉันได้รับคำแนะนำจากไอรีนหลังจากเลิกเรียนที่โรงเรียนและตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อไปฝึกคนเดียว

แม้ว่าจะฝึกกับแค่หุ่นเชิดเวทมนตร์ แต่วิชาที่ฉันเรียนรู้จากไอรีนก็ใช้ได้ผลดีทีเดียว

การดวลอาจนานถึง 5 นาที ฉันต้องแข่งรอบที่ 39 เร็วที่สุดมันก็คงจะเริ่มหลังช่วงเวลาอาหารกลางวันกระมัง

แม้ว่าฉันจะอยากฝึกมากกว่านี้ แต่การดูวิชาของนักเรียนคนอื่นๆ ก็คงช่วยฉันได้มากเช่นกัน

"ฉันจะต้องชนะ"

พอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ฉันก็ทุบหน้าอกและมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียน

0 0 โหวต
Article Rating
4 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด