ตอนที่แล้วนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 30
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 32

นักฆ่าเกิดใหม่กลายเป็นจอมดาบอัจฉริยะ 31


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 31

ราอนค่อยๆ ลืมตาขึ้น  เขายิ้มให้กับพลังงานที่ฝังรากเข้าไปอย่างมั่นคงในศูนย์พลังงานของเขา

'ในที่สุด!'

เขาสามารถสร้างออร่าด้วยวิธี'การปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิง'ได้แล้ว และเขาสามารถผ่านการเข้าแทรกแทรงที่รุนแรงของราธมาได้

ยิ่งไปกว่านั้น ออร่าที่เขาได้รับยังเป็นออร่าขนาดใหญ่และไม่ซับซ้อนเท่าที่เขาคิด

'ไม่ได้มีแค่ออร่าจาก’การปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิง'เพียงอย่างเดียว’

นอกจากออร่าที่จับกันเป็นทรงกลมคล้ายก้อนลาวาแล้ว ยังมีก้อนน้ำแข็งคล้ายกับธารน้ำแข็งในมหาสมุทรอยู่ถัดจากมันอีก

มันเป็นผลมาจากการที่เขาผลักความเย็นของราธออกไปได้โดยการใช้ความร้อนจากเตาเผา

'ไม่นึกเลยว่าเรื่องร้ายๆจะกลายเป็นดีแบบนี้'

ออร่าจากการปลูกฝังหมื่นเปลวเพลิงมีขนาดใหญ่กว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้เป็นเท่าตัว และยังมีออร่าน้ำแข็งก็ก่อตัวขึ้นข้างๆ

สำหรับการอดทนต่อความเจ็บปวดมหาศาลและต้องเอาชีวิตของเขาเป็นเดิมพัน มันเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่เกินความคาดหมายของเขาเลย

“ฮ้า…”

ราอนมองดูข้อความที่ปรากฏตรงหน้าเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรง

[คุณได้รับ 'หมื่นเปลวเพลิง']

[สร้างคุณสมบัติ 'หมื่นเปลวเพลิง(หนึ่งดาว)'ขึ้นแล้ว]

['หมื่นเปลวเพลิง' ขึ้นเป็นระดับสองดาวหลังจากได้ดูดซับอานุภาพความร้อน]

['การต้านทานไฟ(สองดาว)' ถูกสร้างขึ้นด้วยผลพวงจาก 'หมื่นเปลวเพลิง(สองดาว)']

'หมื่นเปลวเพลิง'ถึงระดับสองดาวทันทีที่เขาสร้างมันได้สำเร็จงั้นเหรแ…

'ก็คงอย่างนั้นแหละนะ’

เพราะออร่าจาก'หมื่นเปลวเพลิง' ที่อยู่ในศูนย์พลังงานของเขานั้นยิ่งใหญ่กว่าที่คาดไว้มาก เขาจึงคิดว่าคงเป็นระดับสองดาวแล้ว

'และฉันจะสามารถใช้ดอกไม้ได้แล้ว'

เมื่อ'หมื่นเปลวเพลิง'มาถึงระดับสองดาว เขาจะสามารถเรียกใช้ดอกไม้แห่งไฟได้

ราอนยิ้มอย่างคาดหวัง และข้อความชุดที่สองก็ปรากฏขึ้น

['คำสาปเยือกแข็ง'สองสาย ละลายลงแล้ว]

[สถานะ 'พลังกายย่ำแย่' ถูกลบ]

[น้ำแข็งที่ถูกละลายได้ควบแน่นเข้าด้วยกัน กลายเป็น'ผลึกเยือกแข็ง']

['ผลึกเยือกแข็ง'ขึ้นเป็นระดับสองดาวแล้ว ด้วยการดูดซับพลังความเย็นอันทรงพลังจาก'ราธ']

“โอ้!”

เสียงอุทานออกมาจากเขาเอง

มีข้อความเกี่ยวกับคำสาปสองสายที่ละลายลงและสถานะพลังกายย่ำแย่ที่หายไปแล้ว แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดนั้นอยู่ข้างล่าง

ข้อความที่ระบุไว้ว่า น้ำแข็งภายในวงจรมานาของเขาถูกควบแน่นเป็นสิ่งที่เรียกว่า'ผลึกเยือกแข็ง' ...ซึ่งมันน่าจะหมายถึงออร่าน้ำแข็งที่อยู่ถัดจากออร่าหมื่นเปลวเพลิง…

'น้ำแข็งงั้นเหรอ…'

จริงๆแล้วเขาแค่พยายามเพิ่มระดับให้การต้านทานน้ำของเขา ด้วยการเอาน้ำแข็งของวงจรมานาเข้าไปแทนที่

เขาได้รับ'ผลึกเยือกแข็ง'มาอย่างไม่คาดคิด เขารู้สึกดีใจแต่มันก็ทำให้เขาสับสนเช่นกัน

ก่อนที่เขาจะทำความเข้าใจข้อความทั้งหมดได้ ข้อความชุดที่สามก็ปรากฏขึ้น

[คุณอดทนต่อการขัดจังหวะของ'ราธ'ในช่วงเวลาวิกฤตไว้ได้]

[ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้น 3 แต้ม เป็นรางวัลสำหรับการแสดงจิตตานุภาพของคุณ]

ค่าสถานะของเขาเพิ่มขึ้นในทันที เขาดีอกดีใจอย่างมาก หัวใจของเขากระโดดโลดเต้นไปก่อนแล้ว

'นี่คือความฝันหรือเปล่า?'

เขาแค่พยายามที่จะได้รับ'หมื่นเปลวเพลิง' แต่เขาก็สามารถทำให้ระดับมันเป็นสองดาวได้ทันทีพร้อมกับพลังน้ำแข็งสองดาวอีก และค่าสถานะของเขาก็เพิ่มขึ้น

ต้องขอบคุณการเข้ามาขัดจังหวะของราธจริงๆ มันทำให้เขาได้รับทักษะเพิ่มเติมที่ปกติแล้วจะต้องฝึกฝนกันเป็นปีๆ

ให้ตายเถอะ!

ราอนยิ้มและกดปิดข้อความ เสียงของราธก็ดังขึ้นมา

เจ้าเป็นตัวบ้าอะไรกันแน่! เจ้าจะเอาชนะสิ่งนั้นได้อย่างไรกัน!

ราธอารมณ์พลุ่งพล่านไปด้วยความโกรธอย่างที่สุด

‘ฉันบอกแกแล้วไงว่า ถึงยังไงแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก'

ราอนพูดทับถมใส่ราธและโบกมือของเขา

ไม่มีทาง! นี่มันไม่จริงแน่ๆ! ราชาแห่งแก่นแท้ไม่เคยประสบกับความอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อน… เจ้าใช้กลอะไรกันแน่!

'ยอมรับเถอะน่า’

แม้ว่าสถานการณ์จะสงบลงแล้วแต่เขาก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังจะตาย เขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเขาคอยสังเกตพลังงานรอบๆเตาเผาอยู่เสมอ

'เกือบไปซะแล้วสิ… ต่อไปนี้ฉันต้องระวังให้มากขึ้น'

กับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เขาต้องหมายหัวราธไว้ให้ชัดเจนไปเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่เปิดเผยจุดอ่อนหรือความลับให้มันอีก

“เธอ… เธอโอเคนะ?”

ขณะที่ราธโกรธจัด วัลแคนก็เข้ามาใกล้เขา  ดวงตาของวัลแคนเบิกกว้างจนเหมือนว่ามันจะกลิ้งออกมา

"ผมไม่เป็นไรแล้วครับ"

ราอนดันตัวของเขาขึ้น  ร่างกายของเขาเบาขึ้นราวกับขนนก ด้วยค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นและออร่าทั้งสองประเภทที่เขาได้รับ

“ถ้าอย่างนั้น… เธอได้มันมาหรือยัง?”

ริมฝีปากของวัลแคนยังคงสั่น

“ได้แล้วครับ ขอบคุณมากเลยนะครับ”

เขาพยักหน้างึกๆ ร่างกายของเขารู้สึกเติมเต็มขึ้นมา ต้องขอบคุณออร่าในศูนย์พลังงานของเขาเลย

“คือผมต้องขอโทษด้วยนะครับ  เตาเผาต้องมาพังเพราะผมแท้ๆ…”

ราอนชี้ไปที่เตาเผาที่พังทลายจากการระเบิด มันเป็นความผิดของเขาที่เตาเผาถ่านต้องไปอยู่ในสภาพแบบนั้น

"ไม่เป็นไร…"

ขณะที่เขาโค้งคำนับเพื่อขอโทษ วัลแคนก็แตะไหล่ของเขาและเดินเข้าไปใกล้เตาเผา

“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้วล่ะ เตาเผาถ่านมันสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้… หืม?”

ดวงตาของวัลแคนเบิกกว้างขณะที่เขาตรวจสอบเตาเผาถ่านที่พังทลาย

* * *

* * *

'นี่มัน…'

หลังจากสำรวจเตาเผาถ่านที่พังทลาย เขาใช้ที่คีบหยิบถ่านขึ้นมาทั้งหมดสามก้อน ทุกก้อนล้วนมีสีทองเปล่งประกาย

'นี่มันอะไรน่ะ?'

เขาเคยเห็นถ่านสีขาวและสีดำมาก่อนอย่างแน่นอน แต่เขาไม่เคยเห็นถ่านที่ส่องแสงเหมือนทองคำแบบนี้เลย

“อ๋อ!”

ราอนพึ่งนึกขึ้นได้ วัลแคนบอกเขาว่าเขากำลังพยายามสร้างถ่านสีทองอยู่ ดูเหมือนนี่จะเป็นถ่านสีทองที่เขากล่าวถึง

“ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ได้เจอเรื่องที่่น่าตกใจ…”

“อ่า…”

“สิ่งนี้คือถ่านทองคำ… มันเป็นถ่านที่มีความร้อนสูงกว่าถ่านขาว และทนทานกว่าถ่านดำ”

วัลแคนวางถ่านซึ่งเปล่งความร้อนสีทองไว้บนแผ่นเหล็ก

“ฉันพยายามทำถ่านมองคำมากว่าสิบปีแล้ว ในที่สุดวันนี้ก็สำเร็จ… ชีวิตนี่เต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจจริงๆ”

เขามองดูถ่านทองคำด้วยความปีติยินดีบนใบหน้าของเขา

“ทั้งหมดนี้เพราะคุณเลยครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆ”

“ลมหายใจของเธอชุบชีวิตให้กับเปลวไฟได้อีกครั้ง ไหนจะตอนที่เตาเผาก็สั่นสะเทือนได้เองเวลาเธอทำสมาธิอีก… ฉันมันแค่คนงี่เง่าที่ใช้เป็นแต่ค้อน มันเป็นฝีมือเธอคนเดียวเลยนะ ฉันสิต้องขอบคุณ”

เมื่อราอนกำลังจะปฏิเสธ วัลแคนก็รีบพูดแทรก

“เป้าหมายของเธอคืออะไรเหรอ?”

"เป้าหมายเหรอครับ?"

เขาไม่สามารถตอบได้ในทันที เขาไม่แน่ใจว่าทำไมวัลแคนถึงถามคำถามนั้น แต่สายตาที่จริงจังของเขาบ่งบอกว่าเขาต้องตอบ

'เป้าหมายของฉัน…'

เขาตัดสินใจสิ้นสุดการเดินทางของเขาด้วยการการล้างแค้นเดรุส  แต่สิ่งสำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือซิลเวีย… เขาอยากให้ซิลเวียมีความสุข

และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย...

แทนที่จะมุ่งไปที่พละกำลังที่โหดเหี้ยม เขาต้องการพละกำลังที่ไม่โอนเอนและไม่พ่ายแพ้ในทุกสถานการณ์

…เป็นคบเพลิงที่ไม่มีวันดับแบบที่เขาได้สร้างไว้ในจินตภาพ

“…ผมอยากเป็นนักดาบที่แข็งแกร่งและจะไม่แพ้ใครครับ”

“จะไม่แพ้เลยเหรอ?  เด็กอย่างเธอพูดว่าจะไม่แพ้เลยงั้นเหรอ?”

วัลแคนหัวเราะ แต่เป็นการหัวเราะแบบเอ็นดูเขามากกว่าการเยาะเย้ย

“ราอน ซีกฮาร์ท”

วัลแคนเรียกชื่อเขาเป็นครั้งแรก  ดูเหมือนว่าเขาจะยอมรับในตัวราอนแล้ว

“อีกนานแค่ไหนเธอถึงจะได้ใช้ดาบส่วนตัวล่ะ?”

“ไม่แน่ใจครับ…คิดว่าคงอีกประมาณสามถึงห้าปี”

วิธีการที่จะได้ใช้ดาบส่วนตัวนั้น เขาต้องเสร็จสิ้นการฝึกขั้นพื้นฐานและผ่านการทดสอบทักษะการใช้ดาบ โดยปกติจะใช้เวลาประมาณสามถึงห้าปี

"เข้าใจแล้ว"

วัลแคนพึมพำว่าเขาน่าจะรอได้

“เมื่อเธอได้มีจิตใจอันแข็งแกร่งแล้วค่อยมาหาฉันอีกครั้ง ฉันจะเก็บถ่านพวกนี้ไว้ให้”

วัลแคนเขย่าถ่านสีทองบนแผ่นเหล็กอย่างระมัดระวัง

“หมายความว่าคุณจะตีดาบให้ผมเหรอครับ? คุณไม่ได้เลิกตีดาบไปแล้วหรอ?”

“การเปลี่ยนใจหลังเกษียณเกิดขึ้นได้บ่อยๆแหละน่า”

เขายิ้มอย่างร่าเริง  รอยเหี่ยวย่นของเขาซึ่งเคยเต็มไปด้วยความอ่อนล้าในครั้งแรกเต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงแล้ว

“อย่าเพิ่งรีบตายล่ะ”

วัลแคนโบกมือลา แล้วออกไปจากภูเขา เป็นการบอกลาที่เรียบง่ายมาก แต่มันก็สมกับเป็นวัลแคน

“อืม”

เขามองดูแผ่นหลังของวัลแคนภายใต้แสงแดดที่กำลังเดินจากไป

'ทุกอย่างจบลงด้วยดีแล้วล่ะนะ'

เมื่อราอนแบมือออก เปลวเพลิงสีแดงก็ลุกโชนขึ้นมาเหมือนลิ้นงู มันเป็นออร่าจาก'หมื่นเปลวเพลิง'

เขาไม่จำเป็นต้องพยายามควบคุมมันด้วยซ้ำเพราะมันเป็นระดับสองดาว เปลวไฟจาก'หมื่นเปลวเพลิง'ทำตามความนึกคิดของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

วูบ!

พอเขาประกบมืออีกข้างลงไป เปลวไฟก็ดับลง เหลือเพียงความร้อนเล็กน้อย

'แล้วตอนนี้... หืม?'

ในขณะที่เขากำลังจะลองใช้'ผลึกเยือกแข็ง' เขาก็รู้สึกถึงการปรากฏตัวของคนจากบนต้นไม้ทางขวา

เขาสัมผัสมันได้น้อยมากจนเกือบเข้าใจผิดว่าเป็นนกหรือสัตว์เล็กๆบนภูเขา  แต่ราอนก็รู้แล้วว่าเขาคือใคร

“ออกมาเถอะครับ”

ราอนปัดฝุ่นออกจากมือขณะที่จ้องมองไปทางต้นไม้ต้นนั้นอย่างนิ่งๆ แล้วริมเมอร์ก็กระโดดลงมาจากต้นไม้เหมือนกับลิง เขาทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“แหะๆ… เธอรู้ตัวด้วยเหรอ?”

เขายิ้มแบบแห้งๆและเกาหัว

“ก็สักพักได้แล้วครับ”

“เฮอะ..แต่ก็นั่นแหละ  ฉันชอบไฟของเธอนะ”

ริมเมอร์เดาะลิ้นของเขา ดวงตาสีเขียวเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“อาจารย์แอบตามผมมาตลอดเลยเหรอ?”

“ไม่ใช่นะ! คือว่านี่ครั้งแรกเลย”

เขายิ้มแต่สายตากลับล่อกแล่ก  เหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าโกหก

'เรื่องปกติของเขาแหละ'

ริมเมอร์ไม่ใช่คนใจแข็ง เขาไม่มีทางเลิกสนใจราอนไปแบบง่ายๆ ดูเหมือนว่าสามเดือนที่ผ่านมาเขาจะตามมาดูราอนตลอด

"ขอบคุณมากเลยนะครับ"

ราอนโค้งคำนับ

“บอกแล้วไงว่าฉันไม่—เอ่อ…”

ริมเมอร์มองไปทางอื่นขณะที่เกาหัวของเขา

'เขาก็เป็นคนที่แปลกๆอยู่แล้ว…'

เขาไม่ยอมรับคำขอบคุณจากเขา…เขาดูจะเขินอายมากเลย… เอลฟ์ก็ยังเป็นเอลฟ์ล่ะนะ

“ถึงจะสายไปนิดหน่อยแต่ก็ยินดีด้วยนะ เธอได้รับออร่าแล้ว”

"ขอบคุณครับ มันไม่ได้ช้าไปเลยนะครับ”

ราอนเสกเปลวไฟสีแดงขึ้นมาที่ปลายนิ้วของเขา ริมเมอร์ขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้เห็น

“เธอเรียกใช้ออร่าได้ทันทีเลยเหรอ…?”

เขาถอนหายใจด้วยท่าทางเอือมระอา

“มันไม่ปกติเหรอครับ?”

“นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนที่พึ่งได้ออร่ามาแล้วเรียกใช้มันได้ทันที”

ริมเมอร์พูดอีกว่าโดยปกติจะใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์ถึงหนึ่งเดือนถึงจะใช้ออร่าได้อย่างชำนาญ

“งั้นตอนนี้เธอลงไปจากภูเขาเถอะ การฝึกใกล้จะเริ่มแล้ว”

ริมเมอร์แตะไหล่และยิ้มให้เขา

“แล้วอาจารย์ล่ะครับ?”

“ฉันต้องอยู่ทำความสะอาดก่อน”

เขาชี้ไปที่เตาเผาถ่านที่พังทลาย  ไฟมันดับไปแล้วแต่ยังมีความร้อนหลงเหลืออยู่บ้าง

"เดี๋ยวผมช่วย"

“ไม่ต้องเลย!”

ริมเมอร์ส่ายหน้าและรีบดึงตัวราอนซึ่งกำลังจะเข้าไปช่วยเขา

“เด็กฝึกหัดไม่ควรไปสายนะ  แต่ฉันไปสายได้เพราะฉันเป็นอาจารย์”

“……”

สีหน้าของราอนกำลังถามริมเมอร์ว่า'นั่นมันเหตุผลบ้าอะไรกัน' แต่ริมเมอร์ไม่สนใจเขาแม้จะโดนปัดมือออก

“แล้วฉันจะตามไปหลังจากทำความสะอาดเสร็จแล้ว เธอต้องรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

"…โอเคครับ ขอบคุณนะครับ"

หลังจากโค้งคำนับอีกครั้ง เขาก็ลงจากภูเขา

“เฮ้ออออ”

หลังจากแน่ใจว่าราอนออกไปแล้ว ริมเมอร์มองไปที่เตาเผาถ่าน วัลแคนได้ออกแบบให้มันไม่ลามไฟเขาจึงไม่จำเป็นต้องสัมผัสมัน

เหตุผลที่เขายังอยู่ที่นี่ไม่ใช่เพราะเตาเผาที่พัง…

“ออกมาได้แล้ว”

เขาตะโกน แบบเดียวกับที่ราอนเรียกเขา

อากาศค่อยๆ แปรปรวน ชายชราผมทองในชุดสีดำยาวกระโดดลงมา เป็นเกล็น ซีกฮาร์ท

“เป็นยังไงบ้างล่ะ?”

“……”

เกล็นหันมองดูเตาเผาถ่านและจุดที่ราอนเคยนั่ง

“นายมาเยี่ยมที่นี่ทุกวันและเป็นห่วงหลานชายขนาดนี้… ทีนี้วางใจได้แล้วนะ”

“ฉันไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อย”

เขาส่ายหัวและยกนิ้วขึ้น

หวืด!

ซากของเตาเผาที่เคยพังทลายไปรวมกันตามคำสั่งของเกล็น

บูม!

เศษซากดินถูกบีบอัดแล้วหายไปในพริบตา

ถ้าไม่เห็นร่องรอยของการเผาไหม้บนพื้นดินก็คงไม่มีใครรู้ว่าที่นี่เคยเป็นเตาเผามาก่อน  มันเป็นการควบคุมออร่าของคนที่มีความชำนาญเป็นพิเศษ

“ปริมาณและความบริสุทธิ์ของออร่านั้นรุนแรงมาก อาจเป็นเพราะเขาได้ดูดซับความร้อนทั้งหมดจากเตาเผาถ่าน  ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เริ่มใช้มันได้ทันทีหลังจากมันเสถียร  เป็นพรสวรรค์ที่น่าทึ่งจริงๆ”

"เขาไม่ได้ทำได้แค่นั้นหรอก"

เกล็นหลับตาลง แล้วเขาก็มองไปทางถนนในป่าที่ราอนเดินลงไป

“เขายังทำให้สิ่งที่เข้ามาขัดขวาง กลายเป็นพลังของเขา”

***

ทางตอนใต้ของที่ดินซีกฮาร์ท มีเมืองๆหนึ่งซึ่งไม่เคยหลับไหล นั่นคือหมู่บ้านเมียร์ตัน เมืองแห่งช่างตีเหล็ก ซึ่งมีช่างตีเหล็กใช้ค้อนตีอาวุธกันทั้งกลางวันและกลางคืน

ในหมู่บ้านแห่งนั้นมีโรงตีเหล็กทรงกลมที่ตั้งอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุด ที่นั่นมืดมิดมากว่าสิบปีซึ่งในที่สุดวันนี้ก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง

"นั่นมัน?! โรงตีเหล็กของหัวหน้าหมู่บ้านคนก่อนสว่างขึ้นแล้ว!”

“หัวหน้าหมู่บ้าน! ไม่สิ หัวหน้าหมู่บ้านคนก่อนกลับมาแล้ว!”

“เขากลับมาเหรอ? แต่เขาเกษียณไปแล้วนี่!”

“เขาไม่ได้กลับไปบ้านเกิดหรอกหรือ?”

ช่างตีเหล็กทุกคนในหมู่บ้านถึงกับหยุดการกระทำของพวกเขา แล้วแห่กันไปที่โรงตีเหล็กแห่งนั้น

พวกเขาอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงกลับมา

"ฉันสัญญาเลย…"

วัลแคนซึ่งเป็นหัวหน้าคนก่อนของหมู่บ้านเมียร์ตันและเป็นช่างตีเหล็กระดับตำนานกำลังปัดฝุ่นอุปกรณ์ตีดาบ

“ฉันรอให้วันนั้นมาถึงไม่ไหวแล้ว”

เขายิ้มอย่างพอใจในขณะที่ยกค้อนขึ้นและจุดเตาไฟ

“ฉันจะต้องสร้างดาบที่เหนือกว่าดาบศรัทธาสวรรค์ให้ได้”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด