ตอนที่แล้วตอนที่ 1275 ตัดรากถอนโคน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1277 เป็นสิ่งที่ดีด้วยกันกับทั้งสองฝ่าย

ตอนที่ 1276 เยาวชนผู้มีอารยธรรม


ฉากแปลกประหลาดนี้.. ทําให้ทุกคนในหมู่บ้านชิงหนิว ตกตะลึง แม้แต่คนที่หันหลังเตรียมจะวิ่ง หรือคนที่วิ่งไปแล้วก็หันกลับมามอง..

คนชั่วสามคนนั้นดูน่าอับอายจริงๆ แล้วนี่เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขากันแน่?

ไม่นานนัก หลินฟาน และพวกเขาก็มาถึง เมื่อเห็นว่าชาวบ้านยังอยู่จริงๆ หลินฟาน ก็รู้สึกมีความสุขมากซึ่งนี่ก็ช่วยประหยัดเวลาร่วมถึงความพยายามของเขาไปได้มาก

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ ก็เกิดเป็นกังวลขึ้นมา ก่อนหน้านี้พวกเขาทําให้ผู้คนทั้งหมดหมู่บ้านขุ่นเคือง และก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็ไม่เคยสนใจชาวบ้านธรรมดาเหล่านี้ ..มาก่อน แต่ตอนนี้พวกเขาเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หากชาวบ้านเหล่านี้ปล่อยสุนัขออกมา ไม่.. แค่ทุกคนในตอนนี้ก็สามารถเอาชนะพวกเขาได้แล้ว นี่จะไม่ทำให้พวกเขาเกรงกลัวได้อย่างไร?

“พี่รอง น้องสี่ เราพยายามแสร้งทําเป็นว่าพวกเราไม่เป็นไร ให้พวกเขาเห็นว่าพวกเราสบายดีก็พอ” ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ได้พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำออกมา เพื่อเตือนทั้งสองคน

ดังนั้นพวกเขาจึงแยกกันออกไป พากันเดินเอง และพยายามแสร้งทําเป็นว่า ..ไม่เป็นไร แต่พวกเขาเพิ่งถูกทำลายฐานการบ่มเพาะ และจุดตันเถียนของพวกเขานั้นก็ระเบิดความเจ็บปวดออกมาอย่างรุนแรง เดินแค่ก้าวเดียวก็เจ็บปวดมากแล้ว การมาแกล้งทําเป็นว่าไม่เป็นไรนั้นมันช่างสร้างความเจ็บให้ทุกย่างก้าวจริงๆ ทั้งท่าเดินของพวกเขาก็เช่นกัน มันช่าง ..ดูตลกมาก

ขณะนั้น หัวหน้าหมู่บ้านจึงออกมาถาม หลินฟาน ว่า : “พี่ชาย นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกคุณไม่ได้ไปที่หยุนเหมินนั้นหรือ? แล้วกลับมากันทำไม?”

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “ไม่ใช่ผมกลับมา แต่พวกเขาเปลี่ยนใจ และตัดสินใจไม่ไปแล้ว”

เปลี่ยนใจ?

ก่อนหน้านี้คนชั่วสามคนนี้ได้รวบรวมคนทั้งหมู่บ้านของพวกเขาให้มารวมตัวกันเพื่อบังคับถามถึงที่อยู่ของหยุนเหมิน ทั้งยังขู่คุกคามต่างๆ นาๆ นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาต้องการไปที่หยุนเหมินจริงๆ แต่.. มาตอนนี้พวกเขา ..เปลี่ยนใจแล้ว

มันไม่ง่าย มันต้องไม่ง่ายเช่นนี้..

“ฮ่าๆ ใช่ พวกเราไม่ไปแล้ว มาตอนนี้เราก็พร้อมที่จะไปแล้ว!” ชายที่มีตาสามเหลี่ยม พยายามทําให้น้ำเสียงของตัวเองดูสงบที่สุด พูดพลางเขาก็เดินต่อไปไม่หยุด เพียงแค่อยากรีบกลับไปที่รถโดยเร็ว

แม้ว่า หัวหน้าหมู่บ้าน จะรู้สึกว่าพวกเขาสามคนดูแปลกๆ แต่เขาก็ไม่กล้าถามมาก อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้คนชั่วสามคนนี้ก็ได้คุกคามเขามาก่อน ดังนั้นมันจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ไปยั่วยุคนชั่วเหล่านี้

แต่ ณ เวลานี้ อาจเป็นเพราะอาการประหม่า หรืออาการบาดเจ็บ ชายร่างผอม ได้สะดุดกับก้อนหินบนถนน และกระโจนล้มหน้าคว้ำลงกับพื้นไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังครวญครางออกมา พร้อมกับเหงื่อที่ไหลอาบท่วมตัว กอปรกับใบหน้าที่ดูซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ตกใจ และพูดด้วยเสียงจริงจังออกไปว่า : “พี่รอง ช่วยรีบลุกขึ้นเร็ว!”

ชายร่างผอม ก็รู้ว่าการหกล้มในเวลานี้มันไม่ดี เขาได้พยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้น แต่เขาพยายามแล้ว แต่.. มันลุกขึ้นไม่ได้ เขาได้พยายามลุกไปอีกทางหนึ่ง แต่ก็กลับล้มลงไปอีกครั้ง

เนื่องจากออกแรงมากเกินไป หน้าผากของเขาที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลอย่างง่ายๆ ตอนนี้บาดแผลที่หน้าผากของเขาก็ได้เปิดออก และมีเลือดไหลซึมออกมา

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม เมื่อเห็นเช่นนี้ก็ไม่สนใจอะไรมากแล้ว เขาได้รีบยื่นมือออกไปจับดึง ชายร่างผอม ขึ้นมา เขาไม่กล้ามองไปที่ฝูงชน เอาแต่ก้มหน้าก้มตา แล้วต้องการรีบออกไปจากที่นี่

“เดี๋ยวก่อน!”

ชายร่างกำยำคนหนึ่ง พาคนมาหยุดขวางทางพวกเขา และจ้องมองไปที่พวกเขาด้วยสายตาเย็นชา และเขาก็เป็นลูกชายของ หัวหน้าหมู่บ้านชราคนนั้น

เขาได้เห็นแล้วว่าคนชั่วทั้งสามคนนี้.. ดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ และก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมาเพียงเล็กน้อยแน่ๆ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่แทบเดินไม่ได้เช่นนี้!

คนชั่วสามคนนี้ก่อนหน้านี้ได้จับพ่อของเขาที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้าน เขาเองได้พยายามต่อต้าน แต่ถูกอีกฝ่ายปราบลงไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นโอกาสเช่นนี้ เขาจะยอมกลืนความโกรธเคืองในตอนนั้นไปได้อย่างไร!

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย เขาได้เอาแต่ก้มหน้าลงประคอง ชายร่างผอม ไว้ แล้วจึงเดินอ้อมคนที่ขวางทาง และเดินจากออกไปเรื่อยๆ จิตใจของเขาในเวลานี้รู้สึกหดหู่จริงๆ นี่มันก็เหมือนเสือถูกสุนัขรังแกจริงๆ(1) ก่อนหน้าเขาก็คิดจะฆ่าคนพวกนี้ แต่กลับมาตอนนี้ เขากลับไม่กล้ายั่วยุ ..พวกเขา

“ฉันบอกว่าเดี๋ยวไง!” ชายร่างกำยำ ได้พูดอย่างเย็นชา และยื่นมือออกไปผลัก ชายที่มีตาสามเหลี่ยม

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม เดินโซเซถอยหลังออกไปโดยไม่สามารถหยุดได้ และคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะล้มลงไปกับพื้น

เมื่อกี้นั้นเป็นเพียงการทดสอบเท่านั้น ตอนนี้ ชายร่างกำยำ ได้ยืนยันมันอย่างสมบูรณ์แล้ว คนชั่วทั้งสามคนนี้ ตอนนี้กลายเป็นคนอ่อนแอเปราะบางไปแล้วจริงๆ

ไม่จำเป็นต้องถาม นี่มันต้องเป็นผลงานชิ้นเอกของ หลินฟาน และแน่นอน.. เหตุผลมันไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคนชั่วทั้งสามคนตอนนี้ มันได้กลายเป็นแมวป่วยไปแล้ว!

ถ้าไม่แก้แค้นตอนนี้ งั้นจะให้รอถึงเมื่อไหร่!

“ให้ตาย.. พวกเราทุบตีมัน!”

ชายร่างกำยำได้สั่งทันที พร้อมกับวิ่งกระโจนเข้าไปก่อนแล้ว เขาได้ไปคว้าตัว ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ไว้ ไปพร้อมกับประเคนทั้งหมัด ทั้งเท้า เข้าไปแบบไม่ยั้ง

ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงหนิว ที่ทั้งเกลียด และหวาดกลัวคนชั่วทั้งสามคนนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขากลัวเพราะด้วยความแข็งแกร่งของทั้งสามคน แน่นอนในตอนนั้นพวกเขากล้าโกรธ แต่ไม่กล้าพูด แต่มาตอนนี้มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว พวกเขาแต่ละคนก็แทบรอไม่ไหวที่จะเข้าไปเหยียบซ้ำ และถ่มน้ำลายใส่

ในชั่วขณะหนึ่ง ชาวบ้านก็พากันแห่กันเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง และเข้ารุมทุบตีทั้งสามคน

พวกเขาทั้งสามหวาดกลัวมาก ตอนนี้พวกเขาไม่มีแม้แต่กำลังจะตอบโต้ ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองถูกทุบตีเท่านั้น

“ไว้ชีวิตพวกเราเถอะ พวกเรารู้ว่าเราผิด ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”

“หยุดตี หยุดตี ขอร้องอย่าตีเลย!”

“พวกเรายอมรับแล้วว่าเราผิด หยุด.. อั่ก!”

แม้ว่าทั้งสามจะร้องขออย่างหนัก แต่พวกชาวบ้านที่ไหนจะยอมปล่อยพวกเขาไป ยิ่งร้องขอความเมตตา พวกเขาก็กลับยิ่งทุบตีมากขึ้น

เฉือะ!

มีชาวบ้านคนหนึ่ง ได้ถือจอบเหล็กวิ่งไปทางศีรษะของ ชายที่มีตาสามเหลี่ยม แล้วยกขึ้นจามจอบลงไปที่หัวของ ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ทันใดนั้น ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ก็ดูตัวแข็งทื่อ ทั้งยังมีเลือดไหลออกมาจากศีรษะของเขาอย่างรวดเร็วจนใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดเต็มไปหมด

เมื่อ หัวหน้าหมู่บ้าน ที่อยู่ข้างๆ รู้ว่ามีบางสิ่งผิดปกติแล้ว จึงร้องเรียกให้ทุกคนหยุดมือ เมื่อก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบ ก็พบเห็นว่า ชายที่มีตาสามเหลี่ยม ดวงตาเบิกกว้าง ไม่ขยับเขยื้อน ..เขาเองก็คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะถูกทุบตีจนตาย!

อีกสองคนก็ดูไล่เลี่ย แต่ไม่ถึงกับตาย พวกเขาถูกทิ้งให้นอนกองอยู่กับพื้น ฐานการบ่มเพาะพวกเขาถูกทำลาย จุดตันเถียนของพวกเขาก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง และตอนนี้พวกเขาก็อ่อนแออย่างมาก ที่ไหนจะทนทุกข์ทรมานจากการถูกทุบตีเช่นนี้ได้ ในตอนนี้พวกเขาเหลือเพียงลมหายใจอันแผ่วเบาเท่านั้น

ทำคนตาย ทำไงดี ชาวบ้านต่างพากันตื่นตระหนกเล็กน้อย และพากันจ้องมองไปที่ หัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อรอให้ หัวหน้าหมู่บ้าน ตัดสินใจ

หัวหน้าหมู่บ้านชราเองก็ค่อนข้างลําบากใจ แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าหมู่บ้านชิงหนิวของพวกเขาอยู่ค่อนข้างห่างไกล และยากที่จะมีคนนอกเข้ามาตลอดทั้งปี แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าที่นี่เป็นสถานที่นอกกฎหมาย หากมีคนตาย หรือมีการฆ่ากันตาย หากเรื่องนี้แพร่ออกไปก็ย่อมนำพาปัญหา ความเดือดร้อนเข้ามา

หัวหน้าหมู่บ้านมอง หลินฟาน แล้วพูดว่า “พี่ชาย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทําไมพวกเขาถึงอ่อนแอขนาดนี้ได้?”

หลินฟาน ยิ้มเล็กน้อย : “ก่อนหน้านี้ผมบอกว่าจะพาพวกเขาไปที่หยุนเหมิน เพื่อช่วยพวกคุณ แต่จริงๆ แล้วผมเองก็ไม่รู้ว่าหยุนเหมินอยู่ที่ไหน แต่ถูกพวกเขามองออกแล้ว ตอนนั้นพวกเขาก็อยากจะฆ่าผม ผมก็ได้แต่ต้องตอบโต้กลับ และทําร้ายพวกเขาจนบาดเจ็บ ในตอนแรกผมอยากจะเตือนพวกคุณว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บอยู่จะได้ไม่ถูกทุบตี…”

คนที่ฆ่าคนคือชาวบ้านเหล่านี้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับเขา เขาเป็นเยาวชนผู้มีอารยธรรมสมัยใหม่ทั้งยังมีการศึกษาสูงในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ที่ไหนจะไปลงมือฆ่าคนด้วยมือของตัวเอง…

ชายที่มีตาสามเหลี่ยม คิดว่า หลินฟาน ไม่ฆ่าพวกเขา ในที่สุดพวกเขาก็รอดชีวิตมาได้แล้ว แต่พวกเขากลับเพิกเฉยไปว่า.. ยังมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งในหมู่บ้านชิงหนิวที่เกลียดชังพวกเขาเข้ากระดูกอยู่ และเมื่อพบว่าพวกเขาได้รับบาดเจ็บ ..จะไม่คิดฉวยโอกาสนี้แก้แค้นพวกเขาหรือ แต่เมื่อพวกเขารู้ตัว มันก็สายเกินไปเสียแล้ว

ชาวบ้านในหมู่บ้านชิงหนิว ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะฆ่าพวกเขาทั้งสามคน เพียงแค่ต้องการแก้แค้น และระบายความโกรธเท่านั้น แต่พวกเขาจะคิดได้อย่างไรว่า พวกเขาที่ได้ลงมือทุบตีอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละขนาดนี้อีกฝ่ายจะยังมีชีวิตได้อยู่…

“แล้ว.. พี่ชาย คุณเป็นใคร ทําไมถึงได้มาที่หมู่บ้านชิงหนิวของเรา?” หัวหน้าหมู่บ้าน ได้ถามออกมา ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้ และเขาก็ดูเหมือนจะมีสมองมากกว่าชาวบ้านคนอื่นๆ

หลินฟาน กล่าวว่า : “ผมเหรอ? ผมแค่มาล่าสัตว์บนภูเขา นี่.. รถของผมยังจอดอยู่ที่นั่นไหม?”

ปรากฏว่ารถ Hummer ที่จอดอยู่ทางเข้าหมู่บ้านเป็นของ หลินฟาน ชาวบ้านในก่อนหน้านี้ก็สงสัยอยู่ว่ารถคันนี้เป็นของใคร?

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า : “หัวหน้าหมู่บ้าน ผมเป็นใครนั้นไม่สําคัญ ตอนนี้มีคนตายแล้ว ลองคิดดูสิว่าจะทําอย่างไรกัน อยากให้ผมโทรแจ้งตํารวจให้พวกคุณไหม?”

(1)[เสือล้มลงในผิงหยางถูกสุนัขรังแก (虎落平阳被犬欺)] - เป็นคำเปรียบเปรยของผู้ที่มีอำนาจ หรือผู้มีอิทธิพล ซึ่งสูญเสียอำนาจ หรือข้อได้เปรียบของตนไป 

    ครั้นเสือมาถึงที่ราบ (“ผิงหยาง, 平阳” แปลว่า “ที่ราบ”) หากไม่มีป่าปกคลุม พลังความแข็งแกร่งของมัน รวมถึงความได้เปรียบในการซุ่มโจมตีเหยื่อก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป และแม้แต่สุนัขล่าสัตว์ของนักล่าก็จะไม่กลัวพวกมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด