ตอนที่แล้วบทที่ 2: สิงร่าง (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 4: ร้านค้า (2)

บทที่ 3: ร้านค้า (1)


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 3: ร้านค้า (1)

โดยปกติแล้วนักเรียนในแผนกฮีโร่ จะใช้คำพูดที่ไม่เป็นทางการกับเพื่อนๆ โดยไม่คำนึงถึงอันดับ อายุ หรือเชื้อชาติ

ประเพณีนี้สืบทอดมามากว่า 200 ปีตั้งแต่ โรงเรียนเอลิเนียก่อตั้งขึ้น

ในตอนแรกมีการต่อต้านจากเหล่าขุนนาง

พวกเขาแย้งว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ที่ลูก ๆ ของพวกเขาจะถูกพูดเช่นนี้กับชนชั้นล่าง

อย่างไรก็ตาม ดยุค ผู้ก่อตั้งและอาจารย์ใหญ่คนแรกของสถาบันได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ไป

ในตอนนั้น ดยุคเป็นฮีโร่ที่แข็งคนเดียวของทวีปและเป็นบุคคลที่เคารพนับถือมากกว่าใคร

เขาบอกขุนนางที่คัดค้านว่า "ถ้าไม่ชอบก็อย่าสมัคร"

ด้วยความโกรธ พวกเขาจึงรวมตัวกันเพื่อสร้างสมาคมและประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมสถาบันการศึกษา

อย่างไรก็ตาม สมาคมอยู่ได้ไม่นานนัก

ผู้สำเร็จการศึกษาที่เป็นสามัญชนจากสถาบันนั้นแข็งแกร่งเกินไป

ฮีโร่ที่เกิดในสามัญชนค่อยๆ ล้มล้างสิทธิพิเศษที่ถูกยึดถือโดยเหล่าขุนนาง

สมาคมขุนนางที่เพิ่งตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา ก็หลังจากที่สูญเสียอำนาจไปเป็นจำนวนมาก

พวกเขาตามระบบการศึกษาที่สถาบันตั้งไว้ไม่ทัน

ในที่สุดสมาคมขุนนางได้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือระยะยาวกับสถานศึกษาและได้ยุบสมาคมของพวกเขาอย่างเป็นทางการ

นั่นเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของเกมนี้

ในตอนแรก นักเรียนที่ลงทะเบียนใหม่หลายคนรู้สึกอึดอัดใจที่จะใช้คำพูดที่ไม่เป็นทางการ แต่พวกเขาก็ปรับตัวได้หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งเดือน

แผนกฮีโร่นั้นความแข็งแกร่งเท่านั้นที่สำคัญ

แม้แต่ผู้ที่มาจากตระกูลขุนนางก็ไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดี หากขาดซึ่งทักษะ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม

ทายาทของตระกูลดยุค

เจ้าชายแห่งเผ่ามนุษย์สัตว์

และเจ้าหญิงเอลฟ์แห่งผืนป่า

ถึงสื่อสารอย่างเป็นกันเองกับคนทั่วไปภายในสถาบัน

เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามัญชนในตอนนี้ แต่เมื่อสำเร็จการศึกษา พวกเขาก็จะได้เข้าร่วมกลุ่ม "ฮีโร่" ที่มีสิทธิพิเศษ

อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นอยู่เสมอ

บางครั้งมีคนมองว่าเป็นเรื่องน่าอายที่จะแบ่งปันพื้นที่เดียวกับคนที่ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน

หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือตัวละครอย่าง ธีโอ

เป็นเวลาค่อนข้างนานแล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มออกกำลังกาย

"อึก!"

ดูเหมือนว่าจะผ่านไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง แต่นีกี้และปิเอลไม่มีทีท่าว่าจะหยุดออกกำลังกาย ดังนั้นฉันจึงต้องทำต่อไปเช่นกัน

มันเจ็บปวด แต่ก็คุ้มค่าพอสมควร

ตอนนี้ฉันกำลังเล่นเดดลิฟท์ด้วยน้ำหนักที่มาก,kpoyd

ฉันจิบน้ำเป็นครั้งคราว แต่แทบไม่ได้พักเลย

ประสิทธิภาพทางกายภาพระดับนี้คงไม่มีทางที่ตัวเขาบนโลกใบเก่าจะทำได้เลย

ทว่าความอดทนของเขาเกินขีดจำกัดมานานแล้ว

"แฮ่กๆ..."

แต่ตอนนี้ร่างกายของเขาถึงขีดจำกัดแล้ว

ร่างกายของเขาสั่นไหวเหมือนใบไม้

ฉันอยากจะทำมากกว่านี้ แต่...ฉันควรจะหยุดอยู่แค่นี้ก่อนดีกว่า

ฉันเช็ดตัวที่เปียกโชกด้วยผ้าขนหนู

จากนั้นหน้าต่างภารกิจก็ปรากฏขึ้นโดยไม่คาดคิด

[ท่านได้เคลียร์ภารกิจลับแล้ว ท่านได้รับ 10 เหรียญเงินสำหรับร้านค้าเป็นรางวัล]

: เพิ่มค่าสถานะโดยไม่ต้องใช้ไอเท็มช่วย (ทำซ้ำได้)

[ท่านได้เคลียร์ภารกิจลับเป็นครั้งแรก ท่านได้รับ 1 เหรียญทองสำหรับร้านค้าเป็นรางวัล]

[ท่านได้เพิ่มสถานะของท่านเป็นครั้งแรก ท่านได้รับ 1 เหรียญทองสำหรับร้านค้าเป็นรางวัล]

[รางวัลทั้งหมด: 2 เหรียญทองสำหรับร้านค้า 10 เหรียญเงินสำหรับร้านค้า]

...นี่คืออะไร?

ฉันเอียงศีรษะและอ่านหน้าต่างภารกิจหลายครั้ง

เมื่อฉันตรวจสอบสถานะของฉัน ความอดทนของฉันก็เพิ่มขึ้นเป็น 3

แม้ว่าจะมีการฝึกฝนอย่างเข้มข้น สถานะของฉันก็ไม่ควรเพิ่มขึ้นเร็วขนาดนี้สิ...หรือเป็นเพราะว่ามันต่ำมากเหรอ?

แต่มันก็เป็นเรื่องดีที่มีรางวัล...

ชู่วว-

ขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่นั้น หน้าต่างโปร่งใสที่ส่องแสงอย่างนุ่มนวลเหมือนหน้าจอข้อมูลก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาฉัน

แต่เหมือนกับว่าฉันเคยเห็นหน้าต่างแบบนี้ที่ไหนมาก่อน

อา... ใช่ เหมือนร้านค้าจากแพทช์โน้ตของเกมต้นฉบับ

[สกุลเงินที่เป็นเจ้าของ: 2 เหรียญทองร้านค้า 10 เหรียญเงินร้านค้า]

สกุลเงินที่เป็นเจ้าของแสดงขึ้น เหมือนกับรางวัลภารกิจ

แสดงว่ามีร้านค้าสินะ...งั้นฉันจะซื้ออะไรได้บ้าง?

'ไคเรน เซน่า' เป็นเกมที่ยาก ซึ่งนอกจากคุณจะเลือกเส้นทางที่ง่ายอย่างนักเวทย์หรือพาลาดินแล้ว ทางเลือกอื่นก็โหดหินทั้งนั้น

เนื่องจากระบบร้านค้าถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อลดความยาก...จึงมีโอกาสสูงที่มันจะมีของที่เป็นประโยชน์

"หือ"

ฉันโชคดีจริงๆ

ดูเหมือนว่าแม้ว่าฉันจะกลายเป็นตัวละครเกรดบี แต่ก็มีของช่วยอยู่

แถมยังมีระบบภารกิจลับด้วย

ในเกมดั้งเดิม การเคลียร์พวกมันมักจะไม่ให้รางวัลพิเศษ ดังนั้นมีเพียงผู้เล่นฮาร์ดคอร์อย่างฉันเท่านั้นที่ชอบเคลียร์ภารกิจลับ

ฉันหยุดพักและมองดูของในร้าน

***

หลังจากนั้นไม่นาน,

“เฮ้อ! เสร็จแล้ว!”

ดูเหมือนว่า นีกี้จะออกกำลังกายเสร็จแล้ว

เป็นการออกกำลังกายที่ยาวนานและเหน็ดเหนื่อย,kd

ฉันปิดหน้าต่างร้านและแสร้งทำเป็นยืดตัวเงี่ยหูฟัง

ปัง -

นีกี้ วางบาร์เบลที่ดูหนักกว่าที่ฉันสามารถยกได้อย่างน้อยสองเท่า

อย่างที่คาดไว้ สำหรับคนที่มีสถานะเฉลี่ย 12 คน ถือว่าเป็นยอดมนุษย์อย่างแท้จริง

ปิเอล ซึ่งเป็นยอดมนุษย์อีกคนที่มีสถานะเฉลี่ย 11 คน ก็วางบาร์เบลของเธอลงด้วยสีหน้าขมขื่น

"แพ้...อีกแล้ว"

"ไม่หรอก แค่วันนี้ฉันบังเอิญฟิตเต็มร้อยน่ะ"

นีกี้เผยรอยยิ้มอันแสนใจดีออกมา และปิเอลก็จ้องมองเขาด้วยสีหน้าละอายใจ

"พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่"

"แน่นอน ปิเอล ยินดีต้อนรับเสมอ"

ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันต่อ

จากนั้นนีกี้ก็พูดต่อไปด้วยรอยยิ้ม

ในขณะที่ปิเอลตอบโดยไม่เต็มใจนัก

มันเป็นเหมือนกับในเกมเป๊ะ

ในช่วงแรกของเรื่อง นีกี้เป็นคนที่บริสุทธิ์และใจดีมากจนดูเหมือนคนโง่

พูดตามตรง เขาก็เหมือนตัวเอกทั่วไป

ทำให้ในบางเนื้อเรื่อง บางเส้นทางเลือก ตัวเอกอย่างนีกี้จะถูกทรยศอยู่เสมอ

แม้จะดูตอนจบที่แตกต่างกันมากกว่า 100 ครั้ง ฉันก็ยังคงรู้สึกเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม พวกเขาถือว่าคุยกันค่อนข้างน้อยเลย...

ดูเหมือนบทสนทนาของพวกเขาจะไม่จบลงในเร็ววันcoj

[ศักดิ์ศรีของขุนนางบิดเบี้ยว]

ฉันแสร้งทำเป็นยืดร่างกายต่อไป

ฉันต้องรักษาท่าทีที่ทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่พวกเขาคุยกัน

ในไม่ช้า นีกี้ก็พูดถึงฉัน

" ธีโอ...เขาดูจะออกกำลังกายตลอดเลยนะ”

“ไม่มีทางหรอกน่า เจ้าหมอนั่นมีแค่ชื่อตระกูลประดับอยู่เท่านั้นแหละ ไม่มีทางหรอกที่มันจะไปมีความพยายามอะไรได้”

เสียงของปิเอลเต็มไปด้วยความดูถูกได้ดังมาถึงหูของฉัน

คำสบประมาทที่จะทำให้ใครต่อใครโกรธเคือง

"..."

แต่ฉันตัดสินใจที่จะทนมัน

ฉันต้องไม่สนใจและมองภาพรวม

เป้าหมายของฉันตอนนี้คือการมีส่วนร่วมในการสนทนากับนีกี้

ไม่ใช่การต่อสู้กับ ปิเอล

ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยนะที่ได้ยินแบบนี้

...เพราะธีโอ เป็นคนแบบที่เธอว่าไม่มีผิด

แต่ต่อให้อ่อนแอแค่ไหน ได้ยินแบบนั้นก็คงต้องรู้สึกโกรธใช่ไหมล่ะ?

"ฟู่วววว..."

ฉันอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เอาจริงๆ พอฉันได้ยิน มันก็ทำให้ฉันรู้สึกโกรธไม่น้อย

ฉันรู้ว่าชื่อเสียงของ ธีโอนั้นแย่ แต่ฉันไม่คิดเลยว่ามันจะแย่ขนาดนี้

ชื่อเสียงของนักเรียนก็ได้ถูกรวมอยู่ในระบบการให้คะแนนของโรงเรียนfh;p

ดูเหมือนฉันต้องแก้ไขภาพลักษณ์ของฉันอย่างเร่งด่วน

จริงสิ ในเมื่อพวกเขากำลังพูดถึงฉัน

ก็คงเป็นเวลาที่ดีที่จะเข้าร่วมการพูดคุยแล้ว

เมื่อยืดเส้นยืดสายเสร็จแล้ว ฉันก็เข้าไปหาทั้งสองคนที่นั่งลงอยู่

"นีกี้ นายพอมีเวลาคุยกันสักหน่อยไหม...”

อ๊ากกก

ดูเหมือนว่านิสัยของฉันจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง อาจเพราะฉันคุยกับนีกี้ที่เป็นเพียงสามัญชน

ฉันฝืนยิ้มท่ามกลางความเจ็บปวด

นีกี้มองมาที่ฉันอย่างประหลาดใจ

“อืม ได้สิ ถ้าไม่นานเกินไป พรุ่งนี้เรามีเรียนเช้า  ว่าแต่มีอะไรเหรอธีโอ?”

"มันไม่ใช่เรื่องที่จะพูดตอนมีคนอื่นอยู่ด้วย "

ฉันชำเลืองมองที่ปิเอลชั่วครู่แล้วเบี่ยงสายตาไป

ฉันเผลอพูดออกมาอย่างหยาบคาย เพราะนิสัยติดตัวของตัวละครกำลังสร้างความเจ็บปวดให้แก่ฉัน

แม้ว่านีกี้จะไม่ว่าอะไร แต่ปิเอลไม่ใช่เช่นนั้น มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่ต่อฉันมากลงไปอีก

ปิเอลพูดออกมาด้วยท่าทางรำคาญ

“ชัดเจนอยู่แล้วว่านายต้องการจะพูดอะไร ก็คงเหมือนกับก่อนหน้านี้ใช่ไหม? ที่นายจะด่าว่าเขาเพราะเขาเป็นสามัญชน—”

"ไม่ใช่"

ฉันตัดบทคำพูดของปิเอล

“นีกี้ ฉันอยากจะพูดถึงเรื่องการฝึกฝนของนาย”

ฉันคิดว่าถ้าฉันได้ยิวิธีการฝึกของนีกี้ ฉันก็จะสามารถรู้ได้ว่าเขากำลังเลือกเส้นทางไหน

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า นีกี้จะคาดไม่ถึงเลย จนทำให้เขาลังเลที่จะพูด

ปิเอล 'เจ้าหมอนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร'dyo

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง นีกี้ก็ถามออกมา

“ผมเหรอ? วิธีการฝึกฝนของผม? นายหมายความว่ายังไงนะ?”

"เอ่อ มันไม่ใช่เรื่องที่จะคุยถ้ามีคนอื่นอยู่ด้วย... มันน่าอายนิดหน่อยน่ะ แต่พอดีฉันแค่อยากรู้เกี่ยวกับวิธีการฝึกของนาย"

"ธีโอ ผมบอกได้นายนะ...แต่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? เมื่อสองวันก่อน นายยังบอกว่ามันน่าขยะแขยงที่จะพูดคุยกับคนธรรมดาไม่ใช่เหรอ?"

นีกี้ ดูอยากรู้อยากเห็นมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉัน

ปิเอลพยักหน้าจากด้านข้าง

“ช่างเรื่องนั่นเถอะน่า ฉันรู้แล้วว่าชนชั้นของคนๆ หนึ่งไม่เกี่ยวกับพละกำลัง นายน่ะแข็งแกร่ง นายช่วยบอกฉันถึงวิธีการฝึกฝนของนายหน่อยจะได้ไหม?”

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด