ตอนที่แล้วบทที่ 9: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11: ชิ้นส่วนชิ้นแรกที่ซ่อนอยู่ (3)

บทที่ 10: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (2)


บทที่ 10: ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก (2)

ฉันลงจากรถม้าและเดินไปอย่างไร้จุดหมาย

เป็นเวลานานแล้วที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป

ฉันอาศัยแสงจากไฟฉายเพียงอย่างเดียวขณะเดิน

- จิ้ด จิ้ด จิ้ด

ในป่าที่เงียบสงบ เสียงของแมลงดังก้องอยู่ในอากาศเป็นจังหวะ

ป่าตะวันออกเปิดรับนักเรียนตามปกติ

แน่นอนว่าไม่มีสัตว์ประหลาด

ไม่มีความตึงเครียด

มันค่อนข้างน่าเบื่อจริงๆ

คงจะดีไม่น้อยหากมีคนมาเดินเคียงข้างด้วย

บางทีการคิดแบบนั้นทำให้รู้สึกเหมือนมีบางอย่างกำลังตามฉันมา

ฉันมองย้อนกลับไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น

'ผีไม่ควรมีอยู่จริง'

แต่ในโลกนี้ผีมีจริง

ถ้ามีมานา ก็จะมองเห็นวิญญาณได้

แน่นอนว่าฉันไม่เห็นพวกมัน เพราะมานาของฉันเป็นศูนย์

-อึก อึก.

หลังจากเดินไปประมาณหนึ่งชั่วโมงฉันก็ดื่มน้ำ

น้ำยังพอมีเหลืออยู่

การไปที่ไหนในโลกนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือน้ำดื่ม

ฉันนำมามากพอสมควรและน่าจะเพียงพอสำหรับฉันที่จะกลับไปในวันพรุ่งนี้

ร่างกายของฉันรู้สึกอ่อนล้าน้อยลง อาจเป็นเพราะค่าความอดทนของฉันเพิ่มขึ้นเมื่อวาน

"อึก เฮ้อ"

หลังจากพัก 10 นาที ฉันก็ยืดเส้นยืดสายและเดินต่อ

เวลาปัจจุบันคือ 02.00 น.

ฉันเดินไปมาประมาณแปดชั่วโมงแล้วตั้งแต่ลงจากรถม้าตอน 18.00 น.

คงได้เวลาที่ฉันจะมาถึงแล้ว...

เมื่อคิดอยู่ในใจ ฉันก็ส่องไฟฉายไปข้างหน้าและพบกับป้ายบอกทาง

เป็นหลักฐานว่าฉันเกือบจะถึงแล้ว

ถ้าฉันทำอย่างนี้ต่อไปอีกประมาณสามนาที ฉันจะไปถึงจุดที่ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรก

ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรกไม่ใช่อุปกรณ์อย่างอาวุธหรือชุดเกราะ

แต่มันเป็นยา

เป็นไอเทมผูกมัดที่มีผลทันทีที่ใช้

กึก กึก กึก

ตามที่คาดไว้ หลังจากนั้นประมาณสามนาที ฉันก็เห็นหินก้อนใหญ่ผิดปกติ

ราวกับมันอยู่มาตั้งแต่สมัยอดีต เพราะต้นไม้นานาพันธุ์โอบล้อมปกคลุมพื้นผิวหินไว้

ฉันใช้กริชฟันต้นไม้ที่พันกันยุ่งไปหมด

จากนั้นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของหินที่มีรูพรุนก็ถูกเปิดเผย

ดูเหมือนจะมีมากกว่ายี่สิบรูทั่วหินเลย

ในต้นฉบับ มันมี 23 รู

ฉันลองนับพวกมัน ทั้งตำแหน่งและจำนวนหลุมเหมือนกันเป๊ะ

ตอนนี้ ฉันต้องอุดสามรูนี้พร้อมกัน

ฉันสอดนิ้วเข้าไปในรูทันที

ในไม่ช้า ก้อนหินก็สั่นเล็กน้อยและแยกออกเป็นสองส่วน

ภายในเป็นขวดแก้วขนาดเล็กบรรจุของเหลวสีน้ำตาล

ชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่ชิ้นแรกคือ ยาเพิ่มพลัง

ตามชื่อที่บอกไว้ การดื่มของเหลวนี้จะเพิ่มความแข็งแกร่ง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเพิ่มค่าสถานะ

ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง มันยังสามารถมอบอัตราการเพิ่มขึ้นของค่าสถานะได้ด้วย

ทว่าเมื่อค่าสถานะมากกว่า 15 ทั้งความสามารถแบบติดตัวและแบบพิเศษนี้จะหายไป ดังนั้นจึงมีประโยชน์ในช่วงแรกเท่านั้น

ในเส้นทางของผู้ใช้หอก นีกี้จะมีสถานะทั้งหมดถึง 15 ในช่วงปีที่สอง ถึงนีกี้จะเอาสิ่งนี้ไปใช้ มันก็คงมีผลแค่หนึ่งปีครึ่งเท่านั้น

เหตุการณ์น่าสลดจะเริ่มตั้งแต่ปีที่สาม กล่าวก็คือ นีกี้ไม่ต้องการเจ้าสิ่งนี้มาช่วยหรอก

แต่กลับกัน หากเป็นเขาที่มีค่าสถานะเพียง 7 ก็ถือว่าช่วยได้มากทีเดียว

ทว่าข้อมูลเกี่ยวกับชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่กลับไม่ปรากฏให้เห็น

?? [ระดับ: ??]

: ไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้

อย่างที่คาดไว้ ฉันห่อขวดแก้วอย่างระมัดระวังด้วยผ้าเช็ดหน้าและใส่ไว้ในกระเป๋าของฉัน

ฉันจะกลับไปที่ห้องและค่อยดื่มมัน

หลังจากทานยาเพิ่มพลัง ผู้ดื่มจะหลับไป 12 ชั่วโมง ที่นี่ไม่ค่อยอันตรายเพราะไม่มีสัตว์ประหลาด แต่การนอน 12 ชั่วโมงในป่าที่มืดและชื้นเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเลย

ตอนนี้ฉันได้รับชิ้นส่วนที่ซ่อนอยู่แล้ว ฉันจึงงีบสักพักแล้วค่อยออกจากปา

ฉันเตรียมตั้งแคมป์ทันที ฉันหยิบกิ่งไม้ที่กระจายอยู่รอบๆ แล้วก่อไฟ

ร่างกายของฉันอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

ฉันนำแจ็กเก็ตขนเป็ดหนาๆ และผ้าห่มมาด้วยเผื่ออากาศจะหนาว แต่ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ต้องการผ้าห่ม

ฉันสวมเสื้อแจ็กเก็ตแล้วนั่งพิงหลังพิงต้นไม้ใหญ่ ความง่วงได้เข้ามาหาฉันทันที

แม้ว่าฉันจะหยุดพักบ้าง แต่ฉันก็เดินนานกว่า 8 ชั่วโมง

ขณะที่ฉันกำลังจะหลับ

ครืดด ครืดด—

เสียงเหยียบใบไม้ดังมาจากใกล้ๆ

ฉันจับดาบสั้นที่เอวด้วยมือข้างหนึ่งและส่องไฟฉายไปที่แหล่งที่มาของเสียงด้วยอีกมือหนึ่ง

"...เหวอ!"

มีเด็กผู้หญิงผมสีเงินยาวคล้ายฉัน

“…ไอชา อะไรทำให้เธอมาที่นี่ได้?”

ฉันลดไฟฉายลงและมองไปที่ไอชา เธอไม่สบตากับฉันและพูดอย่างงุ่มง่าม

"อา... ฉันไม่มีอะไรทำในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันก็เลยตามนายมา"

ฉันจ้องมองไอชาอย่างเงียบๆ

ผมที่ยุ่งเหยิง และเครื่องแบบที่สะอาดของเธอมีรอยสกปรกเป็นบางจุด

เหนือสิ่งอื่นใดคือริมฝีปากของเธอ ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้นแตกระแหงเหมือนดินแห้งหลังฝนตก

เห็นชัดเลยว่าเธอไม่ได้ดื่มน้ำมานานแล้ว

"เฮ้อ"

ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ

เธอสะดุ้งและมองไปทางอื่น ก้มศีรษะของเธอลง ราวกับกำลังรอสำเร็จโทษ

"…"

บอกตามตรงว่าฉันโกรธ มันเหมือนกับถูกสะกดรอยตาม

ฉันมองเข้าไปในกองไฟและพูด

"ไอชา"

เสียงของไอชาเต็มไปด้วยความสั่นเครือ

"นั่งลง"

“นั่งสิ อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง”

ไอชาลังเลแล้วนั่งลงตรงที่เธอยืนอยู่

.....ที่จริงเธอควรจะเข้ามาใกล้กองไฟและค่อยนั่งลงนะ

อากาศในป่าช่วงกลางคืนหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก

แม้แต่นักเรียนจากสายฮีโร่ก็อาจเป็นหวัดได้หากพวกเขาอยู่อย่างนั้น

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ชอบฉันจริงๆ

เธอโกรธมากเหรอที่ถูกปฏิเสธคำชวนไปทานอาหารเย็น?

"......ฉันหมายถึงมานั่งใกล้กองไฟ"

"อ้อ....จริงสินะ!"

ไอชารีบเข้าไปนั่งใกล้กองไฟ

เปลวไฟที่ริบหรี่ได้ส่องสว่างบนใบหน้าของเธอ

แก้มของเธอดูซูบผอมมาก

ริมฝีปากของเธอแห้งและแตก

ฉันมองไปที่ไอชาครู่หนึ่งแล้วพูดว่า

“เธอไม่ได้เตรียมอะไรสำหรับการเดินทางเลยเหรอ?”

ใบหน้าของไอชาเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด

"·....ค-คือว่าฉัน..."

"ดื่มสิ"

ฉันยื่นขวดน้ำให้เธอ

"......หา?"

ไอชากระพริบตาปริบๆ มองไปมาระหว่างขวดน้ำในมือกับใบหน้าของฉัน

“แขนฉันเริ่มล้าแล้วนะ”

“อ-อา อืม!”

ไอชารีบหยิบขวดน้ำ

แล้ว

อึก อึก อึก อึก─

เธอต้องกระหายมากแน่ เพราะเธอดื่มขวดน้ำของคนอื่นหมดขวดโดยไม่ลังเลเลย

หลังจากดื่มน้ำไปสักพัก เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและในที่สุดก็เอาปากออกจากขวดน้ำ

"ข-ขอบคุณนะ ธีโอ"

ไอชาคืนขวดน้ำให้ฉัน

• ·····.

ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันตามมา

สิ่งที่ทำลายความเงียบคือ

-โครกกก

เสียงจากท้องของไอชา

ดวงตาของเธอเบิกกว้างและเธอเริ่มพูดติดอ่าง

"อ๊ะ! นะ-นี่ นี่มัน! ไม่ใช่อย่างนั้น แค่เอ่อ······"

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงคล้ายสตรอเบอร์รี่

ในเรื่องดั้งเดิมไอชามักมีรอยยิ้มที่เย็นชาบนใบหน้าของเธอเสมอ ซึ่งก็สมกับตัวละครที่มักเป็นนักวางแผน

แต่เด็กสาวที่ลุกลี้ลุกลนอยู่ตรงหน้าเขาแตกต่างจากตัวละคร ที่เขาเคยเห็นอย่างมาก

ผู้หญิงขี้อายคนนี้จะพยายามฆ่าเขาจริงๆ เหรอ?

ขณะที่ฟังเธอพูดตะกุกตะกัก ฉันก็หยิบกระทะและอาหารออกมาจากกระเป๋า

“รอเดี๋ยวนะ”

ฉันยื่นขนมปังกรอบ ไส้กรอก และขนมปังที่ปรุงแล้วให้ไอชา

[มันเป็นเรื่องของตระกูล]

ไอชาไม่สามารถลืมสิ่งที่ธีโอพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้

ถึงมันจะดูเหมือนเป็นข้ออ้าง แต่การกล่าวถึงเรื่องตระกูลนั้นเป็นอะไรที่แปลกมาก

เธอแน่ใจว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่

แม้ว่าเธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่สัญชาตญาณของเธอบอกเธอเช่นนั้น

เธอจำเป็นต้องรู้เรื่องโดยเร็ว

หลังจากที่ธีโอออกจากห้องเรียน ไอชาก็ตามเขามาทันที

จากนั้นเธอก็ขึ้นรถม้าคันเดียวกับเขา

เธอลงป้ายหนึ่งหลังจากที่ธีโอลงจากรถแล้ว

โชคดีที่รอยเท้าของเขายังคงอยู่

แม้ว่าจะมีร่องรอยแค่นี้ แต่ก็ต้องใช้เวลาเดินถึง 20 นาที

และเนื่องจากเธอกำลังสะกดรอยเขาไป เธอจึงต้องไม่ทำให้เขารู้ตัว

ทว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เธอคงเดินตามไม่ทันแน่ๆ

ไอชาดึงมานาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับดวงตาและขาของเธอ จากนั้นเธอก็วิ่ง

แต่ความสามารถในการเสริมแกร่งของเธอยังไม่ชำนาญ

มานาที่เสียไปนั้นมากกว่ามานาที่ใช้ไปมาก

มานาของเธอหมดลงอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ยกเลิกการเสริมแกร่งและยังคงไล่ตามธีโอต่อไป

'เขาจะไปที่ไหนกันนะ...'

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาไอชาก็เริ่มหมดแรง

เธอรู้สึกเหมือนจะล้มลง แต่เธอก็พยายามฝืนใจไว้และลืมตาให้กว้างเพื่อไม่ให้คลาดสายตาจากเขา

ทว่าขีดจำกัดของเธอไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยความมุ่งมั่นเพียงอย่างเดียว

เธอไม่ได้เตรียมน้ำหรืออาหารมาเลย

คอของเธอแห้งผาก ท้องก็หิว และร่างกายของเธอก็โซเซเนื่องจากมานาเริ่มจะหมด

คงไม่แปลกถ้าเธอจะสลบไปตอนไหนก็ได้

เธอไม่สามารถรักษาความเร็วของเธอได้อีกต่อไป

ในที่สุดธีโอก็หายไปจากสายตาของเธอ

'ถ้าอย่างนั้นขอพักสักหน่อย... ฉันค่อยตามเขาไปทีหลัง รอยเท้าของเขาคงจะยังอยู่แหละนะ'

เมื่อคิดได้อย่างนั้น ไอชาก็เอนกายพิงต้นไม้ใหญ่แล้วหลับตาลง

นั่นคือตอนที่ธีโอเจอเธอเข้า

เธอตั้งใจจะหลับตาลงเพียงชั่วครู่ แต่ก็หลับสนิท

เมื่อธีโอส่องไฟฉายไปที่เธอ ความคิดเดียวที่แวบเข้ามาในหัวของเธอคือ 'มันจบแล้ว... ฉันพลาดแล้ว'

เธอไม่สามารถคิดหาขออ้างได้

เธอจึงโพล่งสิ่งที่อยู่ในใจของเธอออกมา

แต่ธีโอไม่ได้ตำหนิเธอ

เขากลับดูแลเธอแทน

น้ำเสียงของเขาเหมือนทุกครั้ง แต่คราวนี้เขากลับอ่อนโยนมาก

เมื่อรู้สึกอิ่มและอบอุ่นด้วยเปลวไฟจากกองไฟ ความง่วงงุนก็เข้าครอบงำเธออย่างรวดเร็ว

'อ่า รู้สึกดีมากเลย...'

ปกติเธอมักจะมีข้าวกล่องหรูหราที่คนรับใช้ของเธอเป็นคนทำให้แทนที่จะไปทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารของนักเรียน และเธอก็จะทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร

อาหารอร่อยเป็นแหล่งพลังของไอชา

แต่ไส้กรอกและขนมปังที่ธีโอย่างให้เธอกลับมีรสชาติดีและอุ่นกว่าอาหารใดที่เธอเคยกินมา

เธอเกือบจะหลั่งน้ำตาขณะกินลงไป

เธอชำเลืองมองไปที่ธีโอขณะที่เธอหันศีรษะเล็กน้อย

เขากำลังทำความสะอาดกระทะด้วยใบไม้

“อา ให้ฉันจัดการให้เธอ!”

“ไม่เป็นไร เธอพักผ่อนเถอะ”

เขามองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็ทำความสะอาดกระทะต่อ

'เขาทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ?'

เธอลอบมองธีโอขณะคิดเรื่องต่างๆ

เขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วยื่นให้เธอ

"นี่"

มันเป็นผ้าห่ม

“ขอบคุณนะธีโอ...”

“ฉันจะไปนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์”

พูดจบธีโอก็พิงต้นไม้แล้วหลับตาลง

ไม่นานก็ผล็อยหลับไป

ฉันได้ยินเสียงหายใจสม่ำเสมอ

ไอชาจ้องมองไปที่ใบหน้าที่หลับใหลของธีโอ

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นญาติห่างๆ ที่ค่อนข้างมีลักษณะภายนอกคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วพวกเขาก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้ากัน

ตระกูบของเธอแยกจากสายตรงของเขาเมื่อหลายศตวรรษก่อน

พวกเขาเชื่อมต่อกันด้วยเลือดที่แบ่งปันกันเพียงไม่กี่หยด

ไอชาห่อตัวเองไว้ในผ้าห่ม

เธอสามารถได้กลิ่นของเขาอย่างชัดเจน

"หลับฝันดีนะ..."

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด