ตอนที่ 958 แหล่งพลังงานแห่งใหม่
ตอนที่ 958 แหล่งพลังงานแห่งใหม่
“ตะกี้พูดว่าอะไร ฉันไม่เข้าใจ นายหมายถึงอะไร” หลี่ซวนมองไปที่เฟิง ชิวเยี่ยนด้วยใบหน้างงงวย
“เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองตระกูล เมื่อผมยังเด็ก ผมมักจะตามพี่หลิงไปเล่นด้วยกันเหมือนผู้ติดตามตัวน้อยๆ ครั้งหนึ่งผมตามพี่หลิงไปเล่นที่ชายหาดใกล้ๆ และสิ่งมีชีวิตต่างมิติไม่ค่อยปรากฏให้เห็น ดังนั้นจึงมีเพียงเราสองคนกำลังเล่นอยู่ที่ชายหาด” เฟิง ชิวเยี่ยนอธิบาย
“ผมจำได้ไม่คอยชัดเจน ดูเหมือนว่ามีสิ่งมีชีวิตต่างมิติวิ่งขึ้นมาจากทะเลและรีบตรงมาหาพวกเราที่ชายหาดโดยมีกลิ่นคาวเป็นพิเศษ ผมได้กลิ่นนั้น ผมก็รู้สึกเวียนหัว ราวกับว่าผมกำลังจะหมดสติ ในขณะนั้น ผมอยู่ในความงุนงงและเห็นพี่หลิงกลายร่างเป็นรูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัวและวิ่งตรงไปที่สิ่งมีชีวิตต่างมิติแล้วผมก็หมดสติไป” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เฟิง ชิวเยี่ยนพูดต่อ
“เมื่อผมตื่นขึ้น ผมเห็นพี่หลิงอยู่ข้างๆ แต่ผมไม่เห็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติแล้ว แต่เมื่อผมพูดถึงสิ่งมีชีวิตต่างมิติ พี่หลิงก็บอกว่าไม่เห็นมีและบอกผมว่าผมเหนื่อยเกินเพราะเล่นมาทั้งวันแล้ว ผมแค่ฝันร้ายหลังจากนั้นก็ผล็อยหลับไป” เฟิง ชิวเยี่ยน พูดอย่างแปลกๆ “แต่ผมไม่คิดว่ามันเป็นความฝัน แต่ผมไม่พบรอยเท้าของสิ่งมีชีวิตต่างมิติในบริเวณนั้น ๆ ดังนั้นผมจึงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจและไม่ได้บอกใคร”
“ตอนนั้นนายอายุเท่าไหร่” หลี่ซวนถาม
“สามหรือสี่ขวบครับ” เฟิง ชิวเยี่ยนกล่าว
“ฉินหลิงตอนนั้นอายุเท่าไหร่” หลี่ซวนถามอีกครั้ง
“สิบสามไม่ก็สิบสี่” เฟิง ชิวเยี่ยนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ
“เป็นเรื่องปกติที่เด็กอายุสามหรือสี่ขวบจะมีจินตนาการ บางที่นายอาจจะง่วงมาก ถ้าฉิน หลิงอายุสิบสามหรือสิบสี่ปี เธอไม่ควรมีพลังระดับตำนานในเวลานั้น โดยพื้นฐานแล้วไม่มีความเป็นไปได้ที่เธอจะสามารถใช้สัตว์อสูรคู่หู...” หลี่ซวนวิเคราะห์
“แต่ผมรู้ว่าที่ผมเห็นคือเรื่องจริง” เฟิง ชิวเยี่ยนพูดอย่างมั่นใจ
“ถ้านายมั่นใจจริงๆว่านั้นเป็นเรื่องจริง ฉินหลิงก็มีบางอย่างที่ผิดปกติ” โจวเหวินกล่าว
"ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่า ดังนั้นผมต้องการขอให้โค้ชกับประธานช่วยตรวจสอบว่าตอนนั้นเป็นความฝันของผมหรือเรื่องจริง" เฟิง ชิวเยี่ยนกล่าว
“จะให้เราทำยังไง เราไม่สามารถดึงฉิน หลิงมาทุบตีและถามเธอว่าเธอสามารถกลายเป็นสัตว์ประหลาดได้หรือเปล่าหรอกนะ แม้ว่าพวกเราจะกล้าถามเธอแต่เธอก็คงไม่ยอมรับหรอก” หลี่ ซวนกล่าวว่า
“ผมก็รู้ว่ามันไม่ง่าย แต่ผมสามารถพึ่งพาแค่โค้ชกับประธาน
ได้เท่านั้น” เฟิง ชิวเยี่ยนกล่าว
“ได้ มาลองดูกัน เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะค้นพบความจริงเรื่องนี้” โจวเหวินคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูด
"โค้ชผมหวังว่าเรื่องนี้จะทำในที่ลับ ไม่ว่าผลออกมาเป็นยังไง อย่าให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ยกเว้นแค่เรา" เฟิง ชิวเยี่ยนดีใจมากและพูดกับโจว เหวิน
“เราเข้าใจ” โจวเหวินเห็นด้วย
“มีแผนอะไร” หลังจากที่เฟิง ชิวเยี่ยนหาที่พกให้ทั้งสองคนและเขาขอตัวไปพบผู้อาวุโสในตระกูล หลี่ซวนก็ถามโจวเหวิน
“ไม่รู้ ดูไปก่อน ชิวเยี่ยนไม่ได้บอกหรอว่าเขาจะติดต่อฉิน หลิงให้เรา ถึงเวลานั้นเราค่อยหาวิธี” โจวเหวินกล่าว
“ฉันได้หนอนแมลงชนิดหนึ่งมาจากเขตใต้ มันสามารถยึดติดกับคน มันก็จะส่งผลต่อความคึดของบุคคลนั้น นายอยากจะลองไหม?” หลี่ซวนกล่าวด้วยดวงตาที่แคบลง
“ไม่ เราไม่ต้องใช้มัน เราเป็นแขก มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าถูกจับได้โดยตระกูลเฟิง” โจวเหวินส่ายหัวและพูด
“ฉันว่าจะไปหาฮุย ไห่เฟิง นายอยากไปกับฉันไหม” โจวเหวินถามหลี่ซวน
“ไม่ ฉันไม่คุ้นเคยกับเขา ไปที่นั่นไม่มีอะไรที่น่าสนใจ นายไปเองเหอะ ฉันว่าจะไปเดินดูรอบๆบ้าน” หลี่ซวนกล่าว
หลังจากที่ทั้งสองแยกจากกัน โจว เหวินก็พาหยาเอ๋อไปที่ตระกูลฮุ่ย ตระกูลฮุ่ยเป็นตระกูลใหญ่ในกุ้ยไห่ เขาไม่จำเป็นต้องถามทาง ก็สามารถพบบ้านของพวกเขาได้โดยง่าย
ก่อนมาถึง โจวเหวินโทรหาฮุ่ยไห่เฟิงและฮุ่ยไห่เฟิงก็มารอที่ประตูเพื่อรอรับเขา
“ฉันไม่คิดว่านายจะมาถึงเร็วขนาดนี้” ฮุ่ยไห่เฟิงยิ้มและกอดโจวเหวิน
"การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น แต่สถานการณ์ทางด้านนี้ดูจะเลวร้ายมาก" โจวเหวินไม่คุ้นเคยกับความกระตือรือร้นดังกล่าว
“เลวร้ายจริงๆ เดือนนี้แย่สุดๆ มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติในทะเลขึ้นมาบนบกสองรอบ แม้ว่าจะไม่มีผู้บาดเจ็บล้มตาย แต่หากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นทุกเดือน มันจะทำให้ผู้คนเหนื่อยล้าและมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาได้ง่าย ยิ่งกว่านั้นสิ่งมีชีวิตต่างมิติในทะเลที่ขึ้นฝั่งในตอนนี้อยู่ในระดับระดับมหากาพย์ แต่ใครจะไปรู้ว่าจะมีสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับเร้นลับจะขึ้นฝั่งในอนาคตหรือไม่ สถานการณ์ในตอนนี้ลำบากมาก” ฮุ่ยไห่เฟิงพยักหน้า
“นายคิดที่จะย้ายไปที่แผ่นดินใหญ่ไหม?” โจวเหวินถาม
“จะย้ายออกไปง่ายๆได้ซะที่ไหนล่ะ ไม่ต้องพูดถึงว่าตระกูลและธุรกิจของตระกูลอยู่ในกุ้ยไห่ แม้ว่าจะทิ้งธุรกิจของตระกูลและย้ายไปที่เมืองอื่น แต่คนในตระกูลก็ต้องกินต้องใช้ ไหนจะฝึกฝนอีก ไหนจะทรัพยากรการฝึกฝนอีก?” ฮุ่ย ไฮเฟิงเดินเข้ามานำทางโจวเหวิน “หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ ฉันจะแสดงสิ่งดีๆ ให้นายได้ดู”
บ้านตระกูลฮุ่ยมีขนาดใหญ่ มันไม่ถือเป็นบ้านธรรมดาอีกต่อไปแล้ว มันเป็นเหมือนฐานทัพมากกว่า
เมื่อเขามาถึงสถานที่ๆเหมือนโกดัง ฮุ่ยไห่เฟิงก็เปิดประตู ชี้เข้าไปข้างในแล้วพูด “ดูนี้?”
โจวเหวินเห็นว่าโกดังเต็มไปด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ เครื่องมือต่างๆ และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ทางด้านซ้ายของโกดังมีอุปกรณ์คล้ายลู่วิ่งจำนวนมากและสัตว์อสูร
จำนวนมากวิ่งอยู่บนนั้น
“สัตว์อสูรคู่หูสามารถฝึกแบบนี้ก็ได้หรอ?” โจวเหวินมองดูสัตว์อสูรคู่หูเหล่านั้นด้วยความประหลาดใจและพูด
"นี่คือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ใช้พลังของสัตว์อสูรคู่หูเพื่อขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ปล่อยให้มันวิ่งแล้วเก็บพลังงานไฟฟ้าที่สร้างขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อสัตว์อสูรคู่หูไม่จำเป็นต้องต่อสู้ ถ้าไม่มีอะไรทำ นายสามารถใช้พลังของพวกเขาและปล่อยให้พวกเขาออกกำลังกายได้” ฮุ่ยไห่เฟิง กล่าว
โจว เหวิน เคยได้ยินมาก่อนว่ามีการใช้สัตว์อสูรคู่หูในการผลิตกระแสไฟฟ้าในหลายๆ แห่ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง
“นี่คือแหล่งพลังงานใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่?” โจวเหวินกล่าวแล้วหัวเราะ
"ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ แต่สัตว์อสูรคู่หูสามารถฟื้นฟูความแข็งแรงของร่างกายได้โดยอัตโนมัติและไม่จำเป็นต้องเติมพลังงาน มันเป็นวิธีที่ง่ายๆ" ฮุ่ยไห่เฟิง
ยังคงเดินเข้าไปในโกดังต่อ
เมื่อเข้าไปถึงส่วนในสุดของโกดัง มีห้องหนึ่งคั่นด้วยกระจก และมีเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงมากมายอยู่ในนั้นและคนงานจำนวนมากยุ่งอยู่กับมัน
ฮุ่ยไห่เฟิงและโจว เหวินเปลี่ยนเป็นชุดพิเศษก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในห้องกระจก จากนั้น ฮุ่ยไห่เฟิง ก็ชี้ไปที่บางสิ่งบางอย่างในถังเพาะปลูกและกล่าว "ดูนี่สิ นี่คือทิศทางการวิจัยหลักของเราในตอนนี้"
โจวเหวินมองไปที่ถังเพาะเลี้ยงและเห็นสิ่งสีขาวจำนวนมากในนั้น ซึ่งดูเหมือนชิ้นส่วนของไขมันสีขาวและยังดูเหมือนเชื้อรา
