ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 146 - สิ้นสุดการเปลี่ยนแปลง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 148 - วานรยักษ์

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 147 - อีกหนึ่งทักษะพิเศษ-การมองเห็นในที่มืด


ตอนแรกเดวิดยิ้มออกมา เมื่อคิดว่าตัวเองไขปริศนาเกี่ยวกับลิสเธอร์ได้บางอย่างแล้ว แต่หลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล

เพราะถึงแม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่ระหว่างที่ทำการฝึกฝนแบบนี้ มันมีความยุ่งยาก และอันตรายเป็นอย่างมาก ถ้าจะกล่าวอย่างซื่อสัตย์ เดวิดอาจจะตายไปเลยก็ได้ ถ้าเขาทำอะไรผิดพลาดไปมากกว่านี้ หรือไม่ได้มีความสามารถในการควบคุมร่างกายได้อย่างสมบูรณ์ วิธีนี้มันอันตรายเกินไปสำหรับลิสเธอร์

เขากลัวว่าเธอจะไม่ได้เตรียมตัวมาอย่างดีพอ แต่หลังจากคิดไตร่ตรองซ้ำอีกครั้งแล้ว เดวิดก็เริ่มสบายใจขึ้นได้บ้าง ลิสเธอร์ดูไม่เหมือนกับคนโง่ เธอคงต้องเตรียมตัวเองมาอย่างเหมาะสมแน่นอน คงจะไม่เสี่ยงทำอะไรอย่างโง่ ๆ เหมือนเขาแน่!

เดวิดถอนหายใจออกมา ก่อนที่จะมองสังเกตแขนและมือของตัวเองอีกครั้ง ผิวของเขานั้นดูนุ่มเนียนเป็นอย่างมาก และหลังจากลองหยิกมันดูด้วยความสงสัย เดวิดก็พบว่ามันเหนียวและยืดหยุ่นเหมือนกับหนังสัตว์ที่ผ่านการฟอกมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วอย่างหนัก คือการที่สภาพร่างกายนั้นสกปรก และส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาอย่างรุนแรงมาก

และเมื่อกวาดตามองผ่านไปที่ข้อมือตัวเอง เขาก็แตะนิ้วลงไป ก่อนจะส่งเสียงเรียก “เฮเซล เธอยังอยู่มั้ย?”

“แน่นอน ฉันต้องอยู่สิ จะให้ฉันไปที่ไหนอย่างนั้นหรือ?” เสียงของเฮเซลดังตอบกลับออกมา

“อืม? ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าพลังงานของเธอกลับมาแล้วใช่มั้ย?” เขาเคลื่อนที่ออกไปโดยไม่รอให้ AI ของตัวเองตอบกลับ เดวิดลองใช้ความเร็วเต็มที่ มุ่งหน้าไปยังตำแหน่งที่กล่องอุปกรณ์สีเงินนั่นวางอยู่ทันที เงาร่างที่จุดเริ่มต้นยังไม่ทันจางลงด้วยซ้ำ ร่างจริงของเขาก็มาปรากฏอยู่ที่หน้ากล่องนั่นเรียบร้อยแล้ว เดวิดไม่ได้ใช้ทักษะท่าเท้า 3 ชั้นออกมา แต่ความเร็วที่ทำได้กลับเทียบเท่ากับความเร็วสูงสุดก่อนหน้านี้ของเขาเลย

เมื่อเฮเซลกลับมามีพลังงานแล้ว มันหมายความว่าป้ายประจำตัวของเขาก็ต้องกลับมาใช้ได้แล้วเช่นกัน เดวิดจึงกลับมาเปิดกล่องอุปกรณ์ระดับกลางนี่อีกครั้ง หลังจากที่ความพยายามในครั้งแรกและครั้งที่ 2 ไม่ประสบความสำเร็จ แต่คราวนี้ไม่น่าจะมีอะไรมารบกวนเขาอีกแล้ว

เดวิดสั่งให้ไฟฉุกเฉินเปิดขึ้น ก่อนที่จะวางมือลงไปสแกนอีกครั้ง ไม่ถึง 2 วินาที เสียง ‘คลิก’ เบา ๆ ก็ดังขึ้น มันเป็นสัญญาณที่แสดงว่ากล่องถูกปลดล็อคเรียบร้อยแล้ว

เขารีบเปิดฝาของกล่องออกอย่างตื่นเต้น นี่เป็นกล่องอุปกรณ์สีเงิน! เดวิดคาดหวังกับสิ่งที่อยู่ภายในไม่น้อย มันต้องไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีระดับต่ำอย่างแน่นอน ยิ่งคิดถึงสิ่งที่เขาต้องประสบมากว่าที่จะเปิดกล่องนี้ได้ ความคาดหวังของเขายิ่งสูงมากขึ้นไปอีก

แต่เดวิดก็ต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นสิ่งที่วางอยู่ด้านใน เขาหยิบมันออกมาสำรวจให้ชัดเจนว่าตัวเองไม่ได้มองมันผิดไป ก่อนจะกระพริบตาปริบ ๆ อย่างหมดหวัง มันเป็นเพียงทองคำที่เป็นแท่งยาวราว ๆ ครึ่งเมตร มีลักษณะโค้งงออยู่เล็กน้อย ดูจากลวดลายที่ปรากฏ มันเหมือนกับเป็นกระดูกสันหลังของมนุษย์ที่ทำมาจากทองคำไม่มีผิด แต่มันก็แค่นั้น นอกจากทำจากทองแล้ว มันไม่เหมือนว่าจะใช้ทำประโยชน์อะไรได้เลย

เดวิดสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามที่จะไม่ตะโกนออกมาด้วยความผิดหวัง เขาต่อสู้กับหมาป่าราตรีทั้งฝูง เพื่อสิ่งของที่ไร้ประโยชน์แบบนี้? นี่มันอะไรกัน? หมายความว่าเขาเหนื่อยเปล่าอย่างนั้นหรือ? เขาต้องเจ็บตัวฟรีใช่มั้ย?

เดวิดยังยืนนิ่งอยู่กับที่ พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อีกหลายครั้ง เขาควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ให้ระเบิดออกมา เพราะความผิดหวังของเขานั้นกลายเป็นความโมโหอย่างมากไปแล้ว แล้วดวงตาทั้งคู่ของเขายังรู้สึกเจ็บขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนกับจะซ้ำเติมกันอีกด้วย

หลังจากสงบสติอารมณ์ตัวเองลงได้บ้างแล้ว เดวิดยื่นมือไปแตะที่กล่องใส่อุปกรณ์อีกครั้ง มันกระจายตัวกลายเป็นเครื่องจักรนาโนขนาดเล็ก และวิ่งไต่มาตามแขนของเขาไปรวมตัวกันเป็นกระเป๋าเป้อยู่ที่หลัง ขนาดของมันใหญ่และดูแข็งแรงกว่ากระเป๋าใบเดิมไม่น้อย เดวิดย้ายของทั้งหมดมาใส่ไว้ในกระเป๋าใบใหม่นี้ รวมทั้งเจ้าทองคำท่อนยาวนั้นด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์อย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะไร้ประโยชน์จริง ๆ เสียหน่อย พอกลับไปที่สถาบันเขาอาจจะหาวิธีใช้ประโยชน์จากมันได้ หรืออย่างน้อยก็แลกมันเป็นคะแนนจีโนได้

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เดวิดก็พร้อมที่จะออกจากอาคารหลังนี้แล้ว แต่เหตุที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเสียก่อน ดวงตาทั้งคู่ของเขาเจ็บขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันไม่ใช่อาการเจ็บเล็กน้อยเหมือนครั้งแรกแล้ว!

ความเจ็บปวดนี้เกิดขึ้นเร็วมาก กระพริบตาถี่เพื่อบรรเทามันเอาไว้ก่อน และพยายามคิดว่าอะไรคือสาเหตุของการเจ็บตาแบบนี้ แต่สิ่งที่เขาทำนั้นมันไม่ช่วยอะไรเลย ความเจ็บปวดเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น และสายตาของเขาเริ่มพร่ามัวจนแทบจะมองไม่เห็น เดวิดรีบใช้มือนวดขมับของตัวเอง พยายามทำให้ความเจ็บปวดนั้นลดลง และเขาก็เริ่มรู้สึกว่ามีน้ำไหลออกมาจากดวงตาทั้งคู่พร้อม ๆ กัน

“น้ำตาไหลเลยรึ?” เดวิดอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นปาดของเหลวนั่นมาสังเกตดู เขาต้องเอามือเข้าใกล้กับดวงตาของตัวเองมาก จึงจะสามารถมองเห็นของเหลวนั่นได้อย่างชัดเจน มันไม่ใช่น้ำตาธรรมดา ๆ แน่นอน เพราะสีของมันนั้นดำสนิท และมีกลิ่นบางอย่างกระจายออกมา

นี่ทำให้เดวิดเริ่มเกิดอาการตระหนกแล้ว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร ได้แต่คอยเช็ดน้ำสีดำนั้นออกจากตาของตัวเองไปเรื่อย ๆ จนมันนั้นหยุดไหลไปเอง นี่ทำให้เขาเริ่มเย็นใจลงได้บ้าง แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ก็พบว่ามีแสงจ้าแยงเข้ามาที่ดวงตาอย่างเต็มที่ มันบังคับให้เขาต้องปิดตาลงอีกครั้ง

เดวิดเริ่มสับสนแล้ว เขาจำสภาพของห้องที่ตัวเองอยู่ได้เป็นอย่างดี มันไม่ได้มีแสงจ้าอะไรขนาดนี้ ไฟฉุกเฉินที่เปิดไว้ก็แค่เพียงพอมองเห็นเท่านั้น ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ในชั่วเวลาเพียงนาทีเดียวได้ เขาพยายามลืมตาขึ้นอีกครั้ง โดยคราวนี้เขาเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ แต่แสงสว่างอันเจิดจ้านั้นก็ยังแยงเข้ามาจนทำให้เขารู้สึกปวดหัว แต่เดวิดก็อดทนและลืมตาขึ้นจนเต็มที่จนได้ น้ำตาไหลออกมาเป็นทางอีกครั้ง

หลังจากกระพริบตาติดต่อกันหลายครั้ง ดวงตาของเขาก็เริ่มปรับตัวเข้ากับแสงสว่างนั้นได้ มันทำให้เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก การมองเห็นของเขานั้นยังดีเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าของเหลวสีดำนั่นจะเพียงแค่เปิดม่านตาของเขาให้รับแสงมากเกินไปเท่านั้น แต่มันไม่กระทบกับดวงตาส่วนอื่นของเขาเลย เมื่อมันปรับตัวกลับมาเป็นอย่างเดิมได้แล้ว การมองเห็นของเขาก็กลับมาเป็นปกติได้ในที่สุด

เขาสงบสติอารมณ์ที่แตกกระเจิงไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วให้กลับมาคงที่อีกครั้ง ก่อนจะหมุนตัวเดินตรงไปที่ทางออกทันที อยู่ที่ตรงนี้ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย อาการที่เกิดขึ้น คงต้องรอให้กลับไปถึงสถาบันก่อนถึงจะตรวจสอบได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนที่เขาก้าวไปถึงประตู เท้าของเขาก็ชะงักลงเองอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับหันหลังกลับไปมองที่มุมห้อง ตรงนั้นมีซากศพของรองจ่าฝูงนอนนิ่งอยู่ และบนซากศพของมัน มีลูกแก้วสีแดงเข้มขนาดเล็กวางอยู่ด้วย มันเป็นชิ้นส่วนจีโนมที่มีขนาดเล็กมาก ๆ แต่เขาก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน

เดวิดยกข้อมือซ้ายของตัวเองขึ้นมาดู และพบว่าไฟฉุกเฉินยังคงสว่างอยู่เท่าเดิม ไม่ได้ส่องแสงสว่างไปจนถึงมุมห้องด้านนั้นเลย เขากวาดตาไปยังจุดอื่นที่แสงไฟส่องไปไม่ถึงอีก และพบว่าตัวเองสามารถมองเห็นรายละเอียดของห้องนี้ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่ามันจะมีแสงหรือไม่ นี่ทำให้สติของเขาเริ่มกลับมากระเจิงอีกครั้ง!

หลังจากยืนนิ่งด้วยอาการทำอะไรไม่ถูกอยู่สักพัก เดวิดก็เริ่มคิดถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมด ก่อนจะนึกถึงของเหลวจีโนมของหมาป่าราตรีระดับสีดำขั้นสูงที่ตัวเองดูดซับไป 4 หยดขึ้นมาได้ นี่เขาได้รับทักษะของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์มาอีกแล้วใช่หรือไม่?

และในคราวนี้ มันเป็นโชคดีของเขาล้วน ๆ ด้วย ทักษะพิเศษการมองเห็นในที่มืดนี้ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อหรืออวัยวะส่วนไหนเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นความสามารถในการควบคุมร่างกายอย่างสมบูรณ์ของเดวิดไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ได้รับทักษะพิเศษนี้มาเลย มันเป็นความน่าจะเป็น 0.1 เปอร์เซ็นต์นั่น และเขาถูกหวยรางวัลใหญ่อีกครั้งเท่านั้น

ถึงแม้ว่าทักษะพิเศษแบบนี้จะเป็นแค่ทักษะระดับต่ำ และสร้างเซรั่มปรับปรุงพันธุกรรมออกมาได้ง่าย จนทางสมาคมพันธุกรรมใช้มันเป็นเงื่อนไขพื้นฐานในการคัดเลือกผู้ที่จะฝึกหัดเป็นนักพันธุศาสตร์เสียด้วยซ้ำ แต่เดวิดก็ยังรู้สึกพอใจกับโชคดีครั้งนี้ของตัวเองเป็นอย่างมาก

เขาไม่แน่ใจว่ามันจะใช้ประโยชน์ในสถานการณ์ปกติทั่วไปได้ดีแค่ไหน แต่สำหรับในการแข่งขันครั้งนี้ เดวิดรู้ว่ามันจะมีประโยชน์อย่างมากเลยทีเดียว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด