ตอนที่แล้วตอนที่ 90 ขึ้นศาลและการขอให้ไกอาตัดสิน(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 92 ก่อตั้งกิลด์เทพศาสตราวุธ(อ่านฟรี)

ตอนที่ 91 คำตัดสินของไกอาคือสิ้นสุด(อ่านฟรี)


ตอนที่ 91 คำตัดสินของไกอาคือสิ้นสุด

หลังจากคนที่โดนไล่ออกมาจากศาลก็พากันประท้วงรุนแรงมากขึ้น สิ่งที่คนธรรมดาโกรธนั้นเข้าใจได้ว่ามันเป็นผลมาจากต้นเหตุคือน้องสาวและตัวเขาที่ทำให้มอนสเตอร์บุกมาที่นี่ แต่ความผิดนี้ไม่มีเหตุผลมากพอจะเอาผิดลุคได้แล้ว

มีแค่เรื่องของการฆาตกรรมเหนือมนุษย์ 19 ศพและทหาร 20 ศพที่ต้องถูกพิจารณาและดูเหมือนจะมีการใช้สิทธิ์บางอย่างที่ไม่มีในการไต่สวนคดีของคนทั่วไป ซึ่งพวกเขาคิดว่าการที่ลุคร้องขอให้ไกอามาไต่สวนแสดงว่าลุคมั่นใจว่าเขาจะพ้นผิด

ผู้คนจึงไม่พอใจกันมากขึ้น แต่ด้านนอกก็คือด้านนอกไม่เกี่ยวอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในศาลที่ตอนนี้ได้ติดตั้งเสาเชื่อมต่อไกอาและเปิดระบบจำลองขั้นสูงแล้ว

เสามีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นมา

“ไกอาเปิดใช้งานการพิจารณาคดีรูปแบบพิเศษ”

ภายในห้องเริ่มเปลี่ยนไปพื้นถูกทำให้กลายเป็นสีขาวทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องมีแหวนเครือข่ายไกอาก็สามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เพราะมาจากเสาด้านหน้าที่ทรงพลังกว่าแหวนมาก

“เริ่มการดึงภาพและจำลองเหตุการณ์” มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้นมาอีกครั้ง ภาพที่ก่อนหน้านั้นพึ่งถูกเปิดโดยทนายฝ่ายตรงข้าม กลับถูกจำลองขึ้นมาในห้องสีขาว ทำให้ทุกคนเหมือนกับไปยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ ด้วย

“เชื่อมต่อเส้นทางของเหตุการณ์ ดึงภาพส่วนต่าง ๆ และจำลองส่วนที่ขาดหาย เพื่อพิจารณาเพิ่มเติม”

จากนั้นก็ตามมาด้วยภาพเหตุการณ์ที่ไกอาสามารถดึงมาจากกล้องและข้อมูลทุกอย่างภายในเมืองปลายฝนได้ในทันที เนื่องจากมีการลงนามของผู้ปกครองคนใหม่อย่าง มอร์แกนแล้ว

ส่วนเรื่องข้อมูลของเหนือมนุษย์ก็ได้รับการยินยอมจากอีคอนแล้วเช่นกัน

สุดท้ายภาพก็เปลี่ยนไปและเริ่มขึ้นที่โรงพยาบาลในตอนที่ลุคกำลังพาเจนวิ่งหนีออกมา ก่อนจะต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่สี่แยกไฟแดง ทุกคนประหลาดใจกับพลังและความสามารถของลุคมาก

‘นี่มันน่าเหลือเชื่อมาก เทคโนโลยีของสหพันธรัฐที่ปกปิดไว้ไปถึงไหนกันแน่’ ลุคจ้องด้วยความสงสัย

หลายคนถึงกลับหรี่ตามองลุคและมั่นใจว่านั้นคือพลังพรสวรรค์บางอย่างที่แปลกประหลาดแน่นอน แม้ลุคจะไม่อยากให้คนเหล่านั้นดู แต่นี่ก็ช่วยไม่ได้มันคือการพิจารณาคดีที่ทุกอย่างถูกใช้มาเป็นองค์ประกอบ

เรทเจอร์เห็นการต่อสู้ของลุคก็เกิดอาการสั่นไหวด้วยความกลัว โดยเฉพาะเมื่อมันฉายเหตุการณ์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปถึงตึกที่ลุคโดนมอนสเตอร์อินทรีย์ยักษ์ไล่ล่าและหนีไปยังชั้นล่าง ก่อนจะโดนขัดขวางโดยเหนือมนุษย์ระดับ E ทั้ง 5 คน

ลุคเตือนพวกเขาทั้ง 5 แต่คนพวกนั้นกลับแสดงท่าทีคุกคามและจะลงมือกับลุคก่อน แต่สุดท้ายก็โดนลุคสังหารจนหมด

“โหดเหี้ยมนัก” เหนือมนุษย์ระดับ D และ C มองลุคด้วยแววตาแห่งความโกรธ

แต่ในพวกเหนือมนุษย์ระดับต่ำกว่า E กลับแฝงความกลัวและยำเกรงไว้ เพราะไม่คิดว่าลุคที่เป็นเพียงเหนือมนุษย์ระดับ E จะฆ่าคนในระดับเดียวกันได้อย่างง่ายดายแบบนี้

ตามข้อมูลลุคเหมือนจะเป็นระดับ F ไม่ถึง 2 เดือนเท่านั้น แต่กลับขึ้นไปที่ระดับ E ได้แล้ว เขาไม่ได้มาแจ้งเรื่องการเลื่อนระดับคนอื่น ๆ จึงไม่รู้ว่าลุคเลือนระดับได้ตอนไหนกันแน่

แต่มันก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะลุคเป็นระดับ E และดูเหมือนจะพลังพรสวรรค์ที่ทำให้เขาแข็งแกร่งมากอีกด้วย พวกเขาคาดเดากันว่าพลังพรสวรรค์ของลุคเกี่ยวกับประเภทสร้างสรรค์ที่แปลกมาก

ไกอาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ นอกจากภาพจำลองดังนั้นทุกคนต้องไปเดากันเอง

ลุคยังระเบิดรถฆ่าทหารตายไปจำนวนมาก ก่อนจะไปต่อและฆ่าไปอีกหลายศพจนไม่มีใครหยุดเขาได้ แต่ในทุก ๆ เหตุการณ์กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน

คนที่เข้ามาขวางลุคได้เริ่มคุกคามแสดงเจตนาฆ่าที่ชัดเจน ไม่ก็ลงมือฆ่าก่อนก็มี สุดท้ายแม้แต่ตอนที่ลุคโดนโจมตีด้วยระดับ D และตกลงไป นั้นคือในตอนสุดท้ายที่ภาพได้แสดงออกมา เพราะเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องราวของลุคอีกต่อไปแล้ว

“สิ้นสุดการจำลองภาพเหตุการณ์ เริ่มการประกาศคำตัดสิน”

พอทุกคนได้ยินก็พากันกลั้นหายใจลุ้นว่าคำตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร แม้แต่ตัวลุคเองก็ด้วย เขาแค่เดิมพันกับการตัดสินไกอาและไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นยังไง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาก็พยายามคิดหาทางออกถ้าเขาถูกตัดสินให้ผิด แต่ก็พบว่าแทบไม่มีทางหลบหนีได้เลย โดยเฉพาะเมื่อพบว่าเหนือมนุษย์ระดับ B อย่างอีคอนมาที่นี่ด้วย

ถึงจะเป็นพ่อของอีลิก แต่ดูแล้วชายคนนี้คงไม่เอาอาชีพของตัวเองมาแลกกับการช่วยเขาแน่นอน

เสียงหญิงสาวที่ฟังดูอบอุ่นก็กล่าวต่อว่า

“ข้อกล่าวหาการฆาตกรรมเหนือมนุษย์ 19 ศพและทหาร 20 ศพ ในช่วงเกิดเหตุภัยพิบัติเหนือมนุษย์ ถูกพิจารณาและรองรับด้วยเหตุผลที่ว่า เหนือมนุษย์ทั้งหมดนั้นกระทำการคุกคามและมีเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน ต่อฮันเตอร์ ลุค ซันเดอร์ และเจน ซันเดอร์ โดยมีข้อสนับสนุนเรื่องข้อสงสัยว่า เจน ซันเดอร์ เกี่ยวข้องกับการเกิดภัยพิบัติมอนสเตอร์โจมตีเมืองปลายฝน แต่ในเหตุการณ์ช่วงนั้นข้อสนับสนุนนี้ยังไม่ได้รับการตัดสินความผิดจากศาลของเมืองปลายฝนถึงความผิดต่อสถานะพลเมืองทั่วไป จึงไม่มีสิทธิ์ในการลงมือสังหารพลเมืองของเมืองปลายฝนภายใต้สหพันธรัฐได้ และฮันเตอร์และทหารเหล่านั้นก็ไม่มีมีอำนาจในการสังหารฮันเตอร์ ลุค ซันเดอร์ เนื่องจากยังไม่ได้ทำผิดใด ๆ และมีสถานะฮันเตอร์อย่างถูกต้องกับสำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองปลายฝน ภายใต้สหพันธรัฐ ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับเหนือมนุษย์โดยตรง ข้ออ้างการโจมตีลุค ซันเดอร์และเจน ซันเดอร์ ไม่อาจจะใช้อ้างอิงได้และถูกปัดตกไป”

“ดังนั้น ลุค ซันเดอร์ จึงมีสิทธิ์ตอบโต้กลับต่อภัยคุกคามได้อย่างไร้ความผิดตามสิทธิ์ของพลเมืองทั่วไปของเมืองปลายฝนภายใต้สหพันธรัฐ สามารถใช้พลังเหนือมนุษย์ตอบโต้ได้ด้วยสิทธิ์เหนือมนุษย์ที่ขึ้นตรงกับสำนักงานเหนือมนุษย์ประจำเมืองปลายฝนและสิทธิ์ในการสังหารตามสถานะฮันเตอร์”

“ข้อกล่าวหาการฆาตกรรมเหนือมนุษย์ 19 ศพและทหาร 20 ศพของ ลุค ซันเดอร์ จึงถูกตัดสินว่าไร้ความผิด”

ทุกคนอ้าปากค้างกับคำไต่สวนและคำตัดสินของไกอา พวกเขาอยากจะโต้แย้ง แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ได้แต่ต้องยอมรับไป มันจริงอย่างที่ไกอากล่าว ในการลงมือของพวกเขาครั้งนี้เป็นการลงมือด้วยตนเอง ไม่ใช่คำสั่งหรือการตัดสินที่ถูกต้องตามกฎหมาย และลุคก็สามารถตอบโต้กลับอย่างรุนแรงได้ในฐานะเหนือมนุษย์ ถึงมีสิทธิ์ฆ่าได้อย่างถูกกฎหมายในสถานะฮันเตอร์ด้วย

ใครบอกให้พวกเขาอยากจะฆ่าลุคก่อน พอโดนฆ่าแล้วจะมาเรียกร้องได้ยังไง ไกอาเหมือนตบหน้าพวกเขาตรง ๆ

“ข้อกล่าวหาที่สอง ลุค ซันเดอร์ ขัดขวางการหยุดยั้งภัยพิบัติมอนสเตอร์ โดยการช่วยเหลือ เจน ซันเดอร์ที่เป็นสาเหตุที่มอนสเตอร์โจมตีเมืองแห่งนี้ ข้อกล่าวหานี้มีไม่สามารถระบุให้แน่ชัดได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนในระดับที่มากพอจะตัดสินโทษร้ายแรง แต่จากการพิจารณาของไกอากลับพบว่าเจน ซันเดอร์มีข้อสงสัยจริงจึงจะถูกแยกเป็นคดีใหม่ การตัดสินจะรอจนกว่าจะได้หลักฐานใหม่เพิ่มเข้ามา จึงจะกำหนดวันไต่สวนคดีขึ้นใหม่อีกครั้ง”

คำกล่าวของไกอานั้นชัดเจนมาก หมายความว่านี่มันไม่เกี่ยวกับลุค เพราะตอนที่ลุคขัดขวางนั้นยังไม่มีหลักฐานหรือคำตัดสิน แถมพอหลังจากเกิดประตูมิติและอาจจะยืนยันได้จริงว่าเจน ซันเดอร์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับมอนสเตอร์ แต่ตอนนั้นตัวลุคก็ไม่ได้ขัดขวางแล้ว

เพราะเขาอยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัส

ส่วนที่ว่าจะเอาความผิดกับเจนนะเหรอ คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจนอยู่ที่ไหน ส่วนคนที่รู้ก็ไม่กล้าไปพาตัวเจนมา

“ข้อกล่าวหาที่สอง ลุค ซันเดอร์ ขัดขวางการหยุดยั้งภัยพิบัติมอนสเตอร์ โดยการช่วยเหลือ เจน ซันเดอร์ที่เป็นสาเหตุที่มอนสเตอร์โจมตีเมืองแห่งนี้ ข้อกล่าวหานี้ต่อ ลุค ซันเดอร์จึงถือว่าพ้นผิด”

“บัดซบ” เรทเจอร์และเหนือมนุษย์คนอื่น ๆ ที่คาดหวังให้ลุครับโทษพากันตะโกนด่าในใจ พวกเขาไม่กล้าลุคขึ้นมาโวยวายแบบคนธรรมดาที่ทำก่อนหน้านี้ เพราะว่าพวกเขารู้ว่าอะไรควรไม่ควร

มีเรื่องกับไกอาหรือลุกยืนด่าไกอาเหรอ หาเรื่องตายชัด ๆ ต่อให้โกรธก็ต้องเก็บไว้ก่อน

ทั้งสองคำตัดสินถูกตัดสินออกมาแล้ว ซึ่งแน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจต่อทุกคนที่โกรธแค้นแน่นอน แต่ว่าในตอนนั้นเองไกอากลับไม่ประกาศสิ้นสุด แต่ยังคงมีการไต่สวนเพิ่มเติม ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับทุกอย่างอย่างมาก

“จากการพิจารณาเพิ่มเติมของไกอา จึงเพิ่มข้อกล่าวหาที่ 3 ให้กับลุค ซันเดอร์ เกี่ยวกับการกระทำความเสียหายต่อกองทัพเมืองปลายฝน จนเสียหายต่อแนวป้องกันและนำไปสู่การตายแบบอ้อม ๆ ต่อผู้คนในเมืองบางส่วน ไกอาพบว่าข้อกล่าวหาที่เพิ่มมานี้โดย ไกอา ปัญญาประดิษฐ์ของสหพันธรัฐอีคอนเรี่ยน พบว่ามีความผิดจริง จึงขอตัดสินลงโทษตามกฎหมายของสหพันธรัฐอีคอนเรี่ยน”

“ลุคซันเดอร์จะต้องรับโทษตามสถานะฮันเตอร์ จำกัดมอนสเตอร์ระดับ E และ F ในพื้นที่เขต 4-5 ของเมืองปลายฝนโดยไม่ได้รับเงินเครดิตที่ได้ตามสิทธิ์รางวัลของสำนักงานเหนือมนุษย์ที่ตอบแทนต่อการกำจัดมอนสเตอร์ จนกว่าสถานการณ์มอนสเตอร์ในเมืองจะถูกประเมินว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์”

“คำตัดสินถูกส่งไปที่ศาลสูงสุดของสหพันธรัฐอีคอนเรี่ยน ได้รับการรับรองจากศาลสูงสุดของสหพันธรัฐเรียบร้อย ลุค ซันเดอร์พ้นผิดในสองข้อกล่าวหาที่ 1 และ 2 แต่เพราะต้องรับโทษจากข้อกล่าวหาที่ 3 จึงไม่สามารถออกจากเมืองปลายฝนได้จนกว่าจะได้รับโทษในข้อกล่าวหาที่ 3 เรียบร้อยแล้ว”

“คำตัดสินของไกอาคือสิ้นสุด จบการพิจารณาคดี”

เสาเชื่อมต่อไกอาหยุดทำงานในทันที แต่ทุกคนยังไม่สามารถเรียกสติตัวเองกลับมาได้ จากการตัดสินสองข้อหาแรกที่กล่าวหาต่อลุค ไกอากลับตัดสินให้พ้นผิดเฉยเลย ทำให้ทุกคนโกรธและอัดอั้นในใจมาก

แต่แล้วไกอากลับมีข้อกล่าวหาที่เพิ่มด้วยตัวเองในข้อกล่าวหาที่ 3 แม้มันไม่ร้ายแรง เพราะจากโทษที่รับมันอยู่ในการลงโทษแบบบำเพ็ญประโยชน์ด้วยซ้ำ

ในเมื่อการกระทำของลุคส่งผลให้มอนสเตอร์อาละวาดสร้างความเสียหายในเมืองแบบอ้อม ๆ ถ้างั้นก็ส่งเขาไปจัดการแก้ซะ มันสมเหตุสมผลแล้ว

แต่ว่าความน่ากลัวของการลงโทษนี้คือ จนกว่าสถานการณ์มอนสเตอร์ในเมืองจะถูกประเมินว่าไม่เป็นภัยอันตรายต่อมนุษย์ พวกเขารู้สึกว่าลุคอาจจะต้องต่อสู้จนเหนื่อยตายกว่าจะกำจัดมอนสเตอร์ในเขต 4-5 ลดจนถึงการประเมินที่ไม่เป็นภัยต่อมนุษย์

มันหมายถึงมนุษย์ธรรมดากลับไปอยู่ที่นั้นได้อย่างปลอดภัย เหมือนกับก่อนหน้านั้น แต่ลุคจะทำได้ยังไง เขาเป็นพวกตัวคนเดียวจะฆ่ามอนสเตอร์จำนวนมากขนาดนั้นยังไง

ลุคเองก็รู้เหมือนกัน แม้จะไม่ติดคุกตลอดชีวิตหรือโดนประหารชีวิต แต่การต้องทำงานเป็นแรงงานทาสฆ่ามอนสเตอร์โดยไม่ได้รับเงินตอบแทนมันยากอยู่ไม่ใช่น้อย แถมยังออกจากเมืองไม่ได้ด้วย แน่นอนว่ายาก แต่ไม่ได้หมายความว่าลุคจะปฏิเสธ

เขารู้ว่านี่อาจจะเป็นเรื่องดี การไม่มีโทษเลยคือสิ่งที่เป็นอันตราย เพราะถ้าไม่ได้เลย ผู้คนจะคิดว่ามันไม่ยุติธรรมที่ลุคพ้นผิดไปซะหมด ทุกคนจะมีแต่ความโกรธแค้นมาที่ลุค แต่การที่เขายังได้รับโทษในข้อกล่าวหาที่ 3 จะช่วยระบายความโกรธในใจของผู้คน เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังได้รับโทษ ไม่มีใครมาว่าเขาได้

“คำตัดสินออกมาแล้ว ปล่อยตัวลุค ซันเดอร์” ผู้พิพากษาสั่งเจ้าหน้าที่ศาล

กุญแจถูกปลดออกจากตัวของลุค เขาก็ได้รับการปล่อยตัว แต่ยังต้องติดกำไลอีเอ็ม เพื่อกันไม่ให้ลุคออกนอกเมืองหลบหนีได้ ถ้าลุคออกพ้นนอกเมืองมันจะแจ้งเตือนและส่งตำแหน่งของลุคทันที ส่วนที่ว่าทำไมไม่ใช่กำไลที่ติดตามตำแหน่งตลอดเวลา นั้นเพราะลุคคือฮันเตอร์ มีกฏในเรื่องความลับของฮันเตอร์ที่ช่วยปกป้องตำแหน่งของเขาอยู่ กำไลอีเอ็มเส้นไม่ใหญ่มากเล็กเท่ากับยางลัดผม แต่แข็งแกร่งมากมีแค่ระดับ C เท่านั้นที่จำทำลายมันได้ และเรื่องการฆ่ามอนสเตอร์ลุคจะต้องไปทำด้วยตัวเอง โดยมีสำนักงานเหนือมนุษย์เข้าไปตรวจสอบอีกที มันเป็นเหมือนภารกิจบังคับมากกว่า

ทันทีที่ข่าวเรื่องคำตัดสินออกไปด้านนอกศาลก็สร้างเสียงกรนด่าให้กับชาวเมืองทั้งหมดที่รอดชีวิต คนพวกนี้ไม่สนใจคำอธิบายที่ไกอาตัดสินและศาลเอาออกมาเผยแพร่ด้วยซ้ำ

ซึ่งสิ่งที่ในใจพวกเขาต้องการคือ โทษใครสักคน มันก็แค่นั้น

ลุคไม่ตอบโต้กลับไป เพราะเขามีเรื่องสำคัญให้ทำมากกว่า เส้นทางต่อจากนี้เขาจะทำยังไง

“บางทีถึงเวลาที่ฉันจะต้องสร้างกิลด์ของตัวเองแล้ว” ลุคพึมพำขณะที่นั่งรถที่บอสตันเตรียมมารับขับออกไปจากพื้นที่นี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด