ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 : ไม่จบไม่สิ้น

ตอนที่ 1 : โดนเด็กบ้าเล่นเข้าแล้วไง


ตอนที่ 1 : โดนเด็กบ้าเล่นเข้าแล้วไง

ภายในลานบ้านที่ดูเรียบง่ายและสะอาดตา บางครั้งก็มีเจ้าไก่น้อยสองสามตัววิ่งเล่นไปมาอย่างเริงร่าอยู่ภายในลานสวน ภายในลานที่ถูกล้อมรั้วไม้มีต้นหอมขึ้นสูงประมาณผ่ามือเด็ก และต้นกล้าเล็ก ๆ ของพืชผักเขียวขจีขึ้นอยู่เต็มแปลง

ภายในบ้านอิฐขนาดห้าห้องนอน มีเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งนอนหลับตาสนิทอยู่บนเตียง บนหัวของเธอมีร่องรอยบาดแผลจากการบาดเจ็บ

สวีฮุ่ยรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากหัวของเธอ ความเจ็บปวดนี้ทำให้เธอค่อย ๆ มีสติขึ้นมา แต่เปลือกตาของเธอมันช่างหนักอึ้งเสียเหลือเกิน

ในตอนนี้เอง ได้มีเงาร่างสองเงากำลังเดินย่องมาทางห้องนอนสวีฮุ่ย เมื่อสองเงานั้นยื่นหน้าชะเง้อคอมองและเห็นว่าไม่มีใคร ทั้งสองจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“แอ๊ด” เสียงเปิดประตูดังขึ้น

“ท่านแม่ ดูเหมือนในบ้านจะเหลือแค่เจ้าเด็กตัวน้อยคนนั้น โอกาสที่พวกเราจะได้ลงมือมาถึงแล้ว !”

สวีชิวเยี่ยนไม่ถูกชะตากับครอบครัวของบ้านรองมานานแล้ว โดยเฉพาะลูกสาววัยหกขวบครึ่งของพี่ชายต่างมารดาของนาง เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่เด็กชนบทดูบ้าน ๆ คนหนึ่ง แต่กลับมีผิวพรรณที่ขาวผุดผ่องกว่านาง ดวงตากลมโตกว่านาง ยิ่งตอนยิ้ม ปากก็ดูเรียวเล็กทว่าอวบอิ่ม ทำเอาชาวบ้านในหมู่บ้านต่างพากันชื่นชมว่านางเป็นเทพธิดากลับชาติมาเกิด !

“พวกเรารีบลงมือกันเถิด เดี๋ยวนางเติ้งจะมาเห็นเข้า” มารดาของสวีชิวเยี่ยนมีนามว่าจ้าวยวี่จือ แท้จริงแล้ว ที่นางมาวันนี้ไม่ใช่เป็นเพราะมาช่วยระบายอารมณ์ให้ลูกสาวของตนเท่านั้น แต่ยังมาเพื่อระบายความแค้นของตนเองอีกด้วย

นางจงเกลียดจงชังครอบครัวของบ้านรองยิ่งกว่าลูกสาวของนางอีก เพราะคนพวกนั้นแย่งสามีนางไป ทำให้นางมีครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ และต้องใช้ชีวิตเป็นตัวตลกให้คนอื่นหัวเราะ !

สวีชิวเยี่ยนยังคิดไม่ออกว่าจะจัดการหลานสาวคนนี้อย่างไร ถึงจะระบายความโกรธของตนได้ จ้าวยวี่จือก็ชิงตัดหน้ายื่นมือไปดึงผ้าห่มเนื้อหยาบมา จากนั้นจึงคว้าตัวสวีฮุ่ยที่นอนหลับตานิ่งโยนไปบนผ้าห่ม ก่อนจะม้วนตัวของเด็กน้อยด้วยผ้าห่มแล้วอุ้มขึ้นมาหอบไว้ข้างกาย

สวีฮุ่ยที่ถูกผ้าห่มม้วนคลุมตัวเอาไว้แอบด่าในใจว่า “นังปีศาจเฒ่า ทำไมถึงโหดเหี้ยมเพียงนี้ ต้องการทำร้ายกันให้ถึงตายเลยหรือไร ?”

สวีฮุ่ยที่ถูกพันไว้ในผ้าห่มกลับขยับแขนขยับขาได้ นี่เป็นเรื่องที่ดีเลยทีเดียว อย่างน้อยก็ยังทำให้นางคิดหาทางเอาตัวรอดได้

“รีบไปจากที่นี่กันเถอะ รีบกำจัดนางก่อนที่คนในบ้านรองจะกลับมา แล้วเราค่อยกลับเทศมณฑลจากทางเดิม” จ้าวยวี่จือหอบหนูน้อยสวีฮุ่ยไว้ที่ข้างแขน พร้อมกับลากลูกสาวสุดรักที่เดิมทียังอยากจะรื้อค้นสิ่งของเอาติดไม้ติดมือกลับไปเสียหน่อย

สวีฮุ่ยพยายามเปิดช่องว่างของผ้าห่มออก เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนนี้กำลังจะพานางออกไปจากประตู ในขณะที่เท้าของจ้าวยวี่จือกำลังก้าวพ้นธรณีประตูนั้น สวีฮุ่ยก็ดันตัวเองไถลออกมาจากผ้าห่ม แล้วกลิ้งลงไปบนพื้น

จ้าวยวี่จือและสวีชิวเยี่ยนไม่คาดคิดว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่หายใจรวยรินราวกับคนใกล้ตายจะตื่นขึ้นมาในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ สวีฮุ่ยใช้แรงของเด็กวัยฟันน้ำนมผลักจ้าวยวี่จือให้ผละออกไป จากนั้นนางก็รีบปิดประตู แล้วลากม้านั่งตัวยาวด้านข้างมา ก่อนจะปีนขึ้นไปปิดสลักกลอนประตู

นางทำทุกอย่างนี้ในช่วงอึดใจเดียว ไม่ล่าช้าแม้แต่น้อย เพราะสวีฮุ่ยกลัวว่าหากนางช้าแม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียว สองคนนั้นอาจจะบุกเข้ามาในบ้าน และนางคงไม่มีโอกาสได้หนีอีกแล้ว

สวีฮุ่ยนั่งลงบนพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

ผนังดินที่เต็มไปด้วยรอยด่าง บานหน้าต่างที่ซีดจนมองไม่เห็นสีเดิม ไหนจะชุดโต๊ะน้ำชาที่ทำจากไม้ด้วยรูปแบบง่าย ๆ เตียงไม้ธรรมดาที่ด้านบนมีผ้าห่มเนื้อหยาบอยู่หนึ่งผืน

ที่นี่คือที่ใด ? สวีฮุ่ยค่อย ๆ ยกมือตัวเองขึ้นมา

แม่เจ้า ! มือคู่นี้มัน…..ถึงมันจะดูขาวเนียนอ่อนเยาว์ แต่มันเล็กไปหน่อยหรือไม่! ขนาดมือเท่านี้อย่างมากก็มือเด็กอายุหกเจ็ดขวบนะ !

อย่าบอกนะว่าข้าไม่เพียงแต่ทะลุมิติมาเท่านั้น ? แต่ยังกลายเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งอีกด้วย……!!

“ฮุ่ยฮุ่ยอ่า ! รีบเปิดประตูให้ย่าใหญ่เร็วเข้า ย่าใหญ่จะพาเจ้าไปกินซาลาเปาเนื้อ ไปซื้อชุดใหม่ดีไหม !” จ้าวยวี่จือพยายามผลักประตู ในขณะที่เกลี้ยกล่อมสวีฮุ่ยไปด้วย

“เดี๋ยวอาจะพาเจ้าไปซื้อดอกไม้ใยบัว พรุ่งนี้มีงานวัด เจ้ายังจะได้ซื้อของเล่นอีกตั้งมากมาย รีบเปิดประตูให้อาเถิดเด็กน้อย พวกเราจะได้ไปกันตอนนี้เลย !” สวีชิวเยี่ยนแสร้งทำเป็นพูดเสียงหวาน

สองคนนี้ คนหนึ่งคือย่าใหญ่อีกคนของเจ้าของร่างเดิม อีกคนคืออาของนาง แต่กลับคิดที่จะหลอกพาเด็กน้อยอายุเพียงแค่ไม่กี่ขวบไปฆ่าตาย ทำไมจิตใจถึงโหดเหี้ยมขนาดนี้ !

ยามนี้บานประตูสั่นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่ากลอนอาจจะหลุดเพราะแรงของผู้ใหญ่สองคนนี้ได้ ไม่ได้การแล้ว ต้องคิดหาทางหนีออกไป อยู่รอความตายในห้องนี้ไม่ได้เด็ดขาด !

สวีฮุ่ยวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วคุ้ยหากางเกงออกมาจากในนั้นสองสามตัว ในขณะที่นางกำลังผูกกางเกงเข้าด้วยกัน ปากของนางก็กำลังหลอกล่ออีกฝ่าย “ย่าใหญ่ ท่านจะพาข้าไปกินซาลาเปาเนื้อจริง ๆ น่ะหรือ ?” สวีฮุ่ยปีนขึ้นไปบนตั่งก่อน จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนโต๊ะ

“จริงสิ รีบเปิดประตูให้ย่าเร็ว !”

“ท่านอา ท่านจะพาข้าไปงานวัดจริงหรือ ?” สวีฮุ่ยฉีกกระดาษที่หุ้มหน้าต่างออก แล้วใช้ปลายกางเกงด้านหนึ่งผูกปมไว้ที่กรอบหน้าต่าง ส่วนปลายอีกด้านถูกโยนออกไปด้านนอก

“แน่นอนสิ ข้าเป็นอาแท้ ๆ ของเจ้าเชียวนะ รีบเปิดประตูให้อาเถิด หากประตูพังคงไม่ดีกระมัง” สวีชิวเยี่ยนนวดแขนที่เริ่มปวด ขณะกัดฟันพูดไปด้วย

พวกเจ้าสองคนคิดว่าข้าเป็นเด็กจริง ๆ หรือไร ! สวีฮุ่ยอดที่จะมองค้อนกลับไปไม่ได้ นางออกแรงปีนขึ้นหน้าต่างอย่างยากลำบาก นางลองก้าวขาออกไปข้างหนึ่งก่อน หลังจากหายใจเข้าแล้ว นางก็ก้าวขาอีกข้างออกไปด้านนอกหน้าต่าง

สองมือของนางคว้ากางเกงเอาไว้ แล้วค่อย ๆ ปีนขึ้นไปตามกางเกง เมื่อเท้าของนางเหยียบที่ขอบหน้าต่างด้านนอก เมื่อนางเหยียบที่ขอบหน้าต่างได้แล้ว นางก็ตะโกนเบา ๆ เพื่อเรียกพลังของตัวเอง จากนั้นก็ไถลตัวลงไปต่อ กระทั่งกรอบหน้าต่างส่งเสียงดัง “กึก กึก” สวีฮุ่ยถึงได้เร่งความเร็วมากขึ้น เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงปลายสุดของเชือกแล้ว นางก็กัดฟัน หลับตาปี๋กระโดดลงพื้น แม้ว่านางจะเจ็บบริเวณก้นจ้ำเบ้า แต่ก็ถือว่านางถึงพื้นอย่างปลอดภัย

ในขณะที่คิดว่ากำลังจะไปซ่อนตัวที่ไหนนั้น หางตาของสวีฮุ่ยได้เหลือบไปเห็นเชือกวางอยู่ขอบหน้าต่างข้าง ๆ นางจึงรีบกระโดดไปคว้ามัน จากนั้นวิ่งย่องหาก้อนหินตามลานบ้านมาได้หลายก้อน นางก็ลากตั่งไม้มาแล้วปีนขึ้นไปบนขอบหน้าต่างอีกครั้ง

ด้วยความพยายามของแม่ลูกจ้าวยวี่จือและสวีชิวเยี่ยน ในที่สุดประตูก็ถูกเปิดออก ทั้งสองวิ่งเข้ามาในบ้านราวกับแม่เสือหิว เตรียมที่จะจับตัวสวีฮุ่ยไปโยนลงบ่อน้ำ

“นางปีศาจเฒ่า นางคนอัปลักษณ์ ข้าอยู่นี่ !” สวีฮุ่ยหยิบก้อนหินขึ้นมาแล้วเล็งไปที่สวีชิวเยี่ยนเป็นคนแรก

‘นางรักสวยรักงามนักไม่ใช่หรือ ? เป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของยายปีศาจเฒ่าไม่ใช่หรือ ? เช่นนั้นในฐานะผู้เป็นหลานสาวอย่างข้าจะช่วยเปลี่ยนโฉมนางเอง เฮ้อ เดี๋ยวนี้หาไม่ได้แล้วผู้ที่ตอบแทนความแค้นด้วยคุณธรรมอย่างข้า’

สวีฮุ่ยหลงตัวเองเข้าแล้ว !

ไม่รู้ว่าเชือกทั้งสองเส้นทำมาจากวัสดุใด ความเหนียวของมันค่อนข้างสูง สวีฮุ่ยแรงน้อย อีกทั้งนางยังมีอาการบาดเจ็บที่หัวร่วมด้วย นางต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีถึงจะดึงเชือกได้

หินก้อนหนึ่งพุ่งไปที่ปากของสวีชิวเยี่ยน สวีฮุ่ยยังจงใจแกล้งชักจูงให้อีกฝ่ายอ้าปากพูดอีกด้วย “นางคนอัปลักษณ์ ข้างามกว่าเจ้าเสียอีก เจ้าคงจะโกรธแย่แล้วสิ !”

สวีชิวเยี่ยนโกรธจนตัวสั่น นางแทบอยากจะถลาไปบีบคอนังเด็กน้อยผู้นี้เสียตอนนี้เลย นางกล้าพูดได้เยี่ยงไรว่าข้าไม่งาม คงเบื่อชีวิตมากแล้วสินะ !

ในขณะที่นางอ้าปากกำลังจะด่าทอ จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่ามีวัตถุบางอย่างกระแทกเข้ามาในปากของนาง นางจึงรีบเอามือปิดปาก ทำให้เลือดอุ่น ๆ หยดลงที่นิ้วของนาง ตอนนี้ริมฝีปากของนางเริ่มบวมเป่งและเจ็บปวดอย่างทรมาน

“ท่านแม่ !” สวีชิวเยี่ยนอุทานออกมาด้วยความตกใจ ในตอนที่มือของนางออกจากปากนั้น ที่ฝ่ามือของนางมีฟันเปื้อนเลือดหลุดออกมาสองซี่ !

จ้าวยวี่จือตกใจที่เห็นว่ามือและปากลูกรักของนางเต็มไปด้วยเลือด นางไม่สนใจคิดบัญชีแค้นกับสวีฮุ่ยแล้ว ตอนนี้ที่นางต้องทำคือการปลอบใจลูกสาวของตน

“เหตุใดถึงเป็นเยี่ยงนี้ได้ ! นังเด็กเหลือขอคนนั้นมันตีลูกหรือ ?” จ้าวยวี่จือมองไม่ชัดว่าสวีฮุ่ยใช้อะไรทุบ นางไม่คาดคิดว่าแรงของเด็กน้อยจะมีมากถึงเพียงนั้น ถึงขั้นทำให้ฟันของลูกสาวนางหลุดออกมาตั้งสองซี่ !

“ข้าจะฆ่านาง !”

ปีนี้สวีชิวเยี่ยนอายุครบ 15 ปีแล้ว ถึงวัยที่ควรพูดเรื่องแต่งงานเสียที แต่ตอนนี้นางถูกนังเด็กเหลือขอคนนั้นทำให้ฟันหักไปตั้งสองซี่ ใครเขาจะมาอยากแต่งงานด้วย ! สวีชิวเยี่ยนรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะเป็นบ้าเข้าไปทุกที !

อย่าว่าแต่แต่งกับคนรวยหรือพวกคุณชายบ้านไหนเลย ขนาดบุรุษชาวนาชาวไร่ยังจะมีผู้ใดที่ชอบสตรีไม่มีฟัน !

ยังทำสิ่งที่หวังไม่สำเร็จก็ต้องพังไม่เป็นท่าเสียแล้ว สวีชิวเยี่ยนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่จ้าวยวี่จือนิ่งงันไปพักใหญ่ นางไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าผู้ใหญ่สองคนกลับต้องมาถูกเด็กตัวกระจ้อยร่อยเล่นงานเข้าเสียได้ หากพูดเรื่องนี้ออกไป ใครเขาจะไปเชื่อ !

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด