ตอนที่แล้วตอนที่ 76 การลงมือของผู้มองอนาคต(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 78 หายนะฆ่าล้างเมืองที่ผู้มองอนาคตมองเห็น 1(อ่านฟรี)

ตอนที่ 77 ร่างที่แท้จริงของอีลิก(อ่านฟรี)


ตอนที่ 77 ร่างที่แท้จริงของอีลิก

“พี่ลุค...พาเจนหนีไป”

อีลิกกล่าวด้วยความเสี่ยงแน่วแน่ ก่อนจะใช้เคียวยมทูตฟันโจมตีมาคัสผู้เป็นเหนือมนุษย์ระดับ D ส่วนลุคที่เห็นมาคัสลงมือโจมตีเขาก็กระโดดและบินหนีในทันที

“จับมัน”

เสียงมาคัสตะโกนดังขึ้น เหนือมนุษย์ระดับ E และ F กว่า 40 คนต่างก็เคลื่อนไหวคิดจะตามจับลุค แต่พวกเขายังไม่ทันได้เคลื่อนไหวก็พบว่าที่เท้าของทุกคนนั้นมีโซ่เลื้อยไปมาราวกับงู ก่อนจะพันตัวของพวกเขาและกระชากมารวมกัน

เป็นนิโคลที่ลงมือ ถึงพลังโจมตีของเธอจะไม่โดดเด่นแต่ในระดับเดียวกันพลังในการพันธนาการของนิโคลเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน

เธอเลือกจะช่วยอีลิกขวางเหนือมนุษย์พวกนี้ไว้

แต่ว่ายังไงซะนิโคลก็ยังเป็นเหนือมนุษย์ที่พึ่งเลือนมาเป็นระดับ E เท่านั้น จึงไม่แข็งแกร่งพอจะขวางระดับ E ทุกคนได้ มีระดับ E 5 คนหลุดออกมาและไล่ตามลุคไปได้

ส่วนระดับ E อีก 5 คนและระดับ F อีก 30 คนโดนโซ่ของเธอจับไว้ทั้งหมด

“หลุดสิวะ”

“พลังพรสวรรค์เหรอ โซ่พวกมันอะไรกัน”

“อ้า! มันรัดคอฉัน หายใจไม่...ออก”

นิโคลปลดปล่อยพลังออกมาเต็มที่

“ดี พวกแกช่วยมันดีนักและทรยศต่อคนทั้งเมืองปลายฝน” เสียงสะท้านของมาคัสดังขึ้นไปทั้งบริเวณ

มันเต็มไปด้วยความโมโหและโกรธมาก ต่อสิ่งที่อีลิกและนิโคลช่วยลุคพาเด็กสาวหลบหนี และความอ่อนหัดต่อเหนือมนุษย์ฝ่ายตนเองที่อ่อนแอจนเกินไปปล่อยให้เด็กสาวเพียงคนเดียวสามารถจับมัดรวมกันเป็นปลาตาบอดติดแหไปได้

มาคัสในตอนนี้ไม่สะทกสะท้านต่อเคียวของอีลิกแม้แต่นิดเดียว เขาใช้เพียงมือข้างเดียวจับเคียวก็รับมือกับการโจมตีด้วยเคียวของอีลิกได้แล้ว

“ต่อให้ลูกชายของผู้อำนวยการอีคอนฉันก็จะช่วยเขาสั่งสอนให้เองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรไม่ควร” มาคัสก้มไปมองหมัดขวาของเขาที่กำแน่น ก่อนจะหันไปจ้องหน้าของอีลิกที่กำลังบิดเบี้ยวต่อต้านพลังแขนที่รับการโจมตีจากเคียวยมทูตไว้

ปัง!

หมัดของมาคัสต่อยเข้าไปที่ใบหน้าของอีลิกเต็มแรงจนใบหน้าของเขาหยับเยินในหมัดเดียว แรงจากหมัดยังส่งให้อีลิกกลิ้งเป็นลูกบอลเนื้อกระแทกกับเสาไฟส่องทางริมถนนก่อนจะกระเด็นไปใส่อาคารอีกฝั่งของถนนเสียงดังโครมครามอย่างรุนแรง ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วไม่อาจจะมองเห็นได้ว่าสภาพนั้นเป็นอย่างไร

“ท่านอีลิก” สองผู้คุ้มกันสีหน้าแตกตื่น เมื่อเห็นว่าคนที่พวกตนต้องคุ้มกันกลับโดนทำร้ายและไม่รู้สภาพเป็นตายอย่างไร ทั้งสองกำลังจะเข้าไป แต่พอรู้ตัวเองอีกเกราะที่เคยบินได้ก็หายไปแล้ว

ทำให้พวกเขาต้องวิ่งข้ามถนนไปเท่านั้น

ยังไม่ทันที่จะได้ข้ามถนนไปอีกฝั่งอยู่ ๆ ในจุดที่อีลิกกระเด็นไปก็มีเงาพุ่งออกมาด้วยความเร็วสูงและต่อยเข้าไปที่ท้องของมาคัสอย่างเต็มกำลัง

“อะไร!? ...” มาคัสรีบตอบสนองใช้แขนทั้งสองไขว้ป้องกันไว้ แต่แรงหมัดที่ไม่ได้น้อยไปกว่าการโจมตีของตัวเองก็ส่งให้มาคัสลอยกระแทกกระจกของอาคารด้านหลังจนแตกกระจายไปเป็นแถบ

ตูม!

ทุกคนมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความตกใจยิ่งกว่าเดิม การโจมตีของระดับ D ในระดับ E และ F นั้นแทบจะรับรู้ถึงการโจมตีไม่ทัน กว่าพวกเขาจะรู้สึกตัวก็มีคนไปยืนแทนจุดที่มาคัสยืนอยู่แล้ว

คนที่ยืนแทนที่คือ เด็กหนุ่มผมดำ ใบหน้าหล่อละมุน แววตาแฝงความทะเล้นจริงจังไว้อย่างละครึ่ง ริมฝีปากบางเล็กชมพู ประดับด้วยคิ้วดำประดับเป็นมงกุฎบนใบหน้า ทั้งหมดเสริมให้ดูสมบูรณ์อย่างถึงที่สุดเมื่อหลอมรวมเข้ากับร่างกายที่มีกล้ามเนื้อดูดีและมีความสูงถึง 178 เซนติเมตร

เด็กหนุ่มที่ปรากฏตัวคนนี้ราวกับเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งยุค มันคือความสมบูรณ์แบบที่ชวนให้เหล่าหญิงสาวทุกคนต้องหลงใหล และชายหนุ่มต้องยกย่อง

เขาสมบูรณ์แบบเกินไป

เด็กหนุ่มคนนี้มองด้วยหน้าเยือกเย็นไปยังรูบนอาคารที่มาคัสโดนต่อยจนกระเด็นไป ก่อนจะกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“ไม่ต้องให้ใครมาสั่งสอนแทนพ่อของฉัน”

แม้แต่น้ำเสียงก็ยังนุ่มนวลและลุ่มลึกในเวลาเดียวกัน

ทุกคนเหมือนจะประติดปะต่อได้ ก่อนจะทำหน้าตกใจ สองผู้คุ้มกันก็ไม่อยากจะเชื่อ นิโคลก็เหมือนกัน จึงถามเพื่อความแน่ใจ

“นายคืออีลิก”

ใบหน้าละมุนนั้นหันกลับไปมองนิโคล ก่อนจะเผยรอยยิ้มกระชากใจที่ทำเอาแม้แต่นิโคลผู้เย็นชายังอึ้งไปกับความหล่ออยู่ไม่น้อย แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความรักแบบหนุ่มสาว แต่เป็นเพราะความหลงใหลต่อหล่อและน่ารักของหนุ่มน้อยตรงหน้า

“ใช่ครับพี่นิโคล ผมเอง” อีลิกยอมรับตรง ๆ

นิโคลพูดไม่ออก เธอไม่อาจจะเชื่อมโยงหนุ่มน้อยตรงหน้ากับอีลิกคนก่อนได้ นิโคลคืนสติ ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจว่าเธอรู้แล้ว

ตอนนั้นก็มีเสียงดังโครมครามดังขึ้นมาจากในอาคาร พร้อมกับคำตะโกนออกมา

“แก...เป็นไปได้ยังไง ทำไมถึงมีพลังมากขนาดนั้น” มาคัสคลานออกมาจากซากอาคารและไม่เข้าใจทำไมอีลิกถึงทำร้ายตนที่เป็นระดับ D ได้

เขายอมเชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นคนละคนกับอีลิกที่เป็นระดับ E คนก่อนยังดีซะกว่า เพราะเด็กที่อยู่ตรงหน้ามีพลังในระดับ D ด้วยแล้วและไม่ใช่พลังระดับ D ธรรมดาด้วย

“มันไม่สำคัญ แต่แกจะไม่มีวันไล่ตามพวกเขาได้ ตราบใดที่ฉันยังอยู่ตรงนี้ ดังนั้นฉันจะให้โอกาศกลับไปปกป้องผู้คนซะ พาพวกเขาหนีมอนสเตอร์ไปที่ปลอดภัย” อีลิกพูดอย่างเชื่อมั่นต่อพลังของตัวเอง ตอนนี้ลุคคงพาเจนหนีไปไกลแล้ว หน้าที่ของเขามีเพียงขัดขวางมาคัสระดับ D ไม่ให้ตามไป

“ฉันก็หาทางปกป้องพวกเขาอยู่ที่ไง ถ้าไม่หลบก็ตาย!” มาคัสคำรามด้วยความโกรธ พุ่งเข้าพร้อมกับใช้ดาบโลหะแวววาวที่เป็นอาวุธระดับ D คุณภาพ 5 ดาว ซึ่งเป็นอาวุธประจำตัวของตนเองฟันใส่อีลิกอย่างสุดกำลัง

หนุ่มน้อยอีลิกไม่ตื่นตระหนก กลับเพียงขยับเท้าหลบด้วยความเร็วที่สูงกว่า ก่อนจะต่อยเข้าที่สะบักไหลของมาคัสอย่างรุนแรง ทำลายพลังที่แขนทั้งหมดตามมาด้วยหมัดที่เสยเข้าไปที่ปลายคางจนตัวของมาคัสลอยขึ้นกลางอากาศ

มาคัสใบหน้าบิดเบี้ยวทั้งเจ็บปวดและอับอาย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ยอมแพ้ทันทีที่เข้าสัมผัสพื้นก็คิดจะโจมตีต่อ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับเป็นเพียงเข่าที่ลอยเข้ามาอัดใส่กลางทรวงอกตัวลอยกลับเข้าไปในอาคารที่ชั้นสองพังถล่มลงมา

ส่วนอีลิกเพียงใช้ปลายเท้าลงที่พื้นอย่างเรียบง่าย ก่อนจะยื่นมือไปรับดาบที่พึ่งจะลอยตกลงมายังกลางอากาศไว้ ราวกับว่าทุกอย่างอยู่ในการคำนวณของเขา

“มีใครอยากจะโดนอีกไหม” อีลิกหันไปถามด้วยใบหน้าที่หล่อละมุนจนไม่มีใครคิดอยากจะทำลายเขาแม้แต่คนเดียว ทุกคนส่ายหัวเบา ๆ

“ขอบคุณ พวกคุณไปช่วยคนอื่น ๆ หลบหนีจากมอนสเตอร์เถอะ” อีลิกกล่าวกับคนพวกนั้น ก่อนจะพูดกับนิโคลว่า “พี่นิโคลเราตามพี่ไปกันเถอะ จะต้องมีเหนือมนุษย์คนอื่นตามพี่เขาอีกแน่”

อีลิกค่อนข้างเป็นห่วงลุคและเจน เพราะมีเหนือมนุษย์ระดับ D หรืออาจจะเป็นระดับ C ตามล่าทั้งสองคิดอีกแน่นอน อีกอย่างอีลิกรู้ว่าพลังของเขาอยู่ไม่นาน จึงอยากจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

“อืม” ลิโคนเรียกโซ่กลับ

ทั้งสองคนรีบบินไปยังทิศทางที่ลุคหายไป

...

ลุคในตอนนี้อุ้มเจนและบินอยู่บนท้องฟ้าพยายามหลบหนีไปเรื่อย ๆ แต่เขาไม่รู้ว่าจะไปยังที่ไหน เพราะดูเหมือนจะมีก้องที่จับภาพเขาไว้เป็นระยะ แม้จะไม่มาก แต่กลับระบุตำแหน่งของเขาได้

“การเคลื่อนไหวของเราอยู่ในการคำนวณของผู้มองอนาคต ถ้าเราไปที่สำนักงานเหนือมนุษย์ก็ต้องอยู่ในการคำนวณของเขาด้วย ไม่สิ บางทีแม้แต่การเปลี่ยนแผนก็ยังถูกมองอนาคตไว้แล้ว”

“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะมองเห็นทุกอย่าง” ลุครู้ดีว่าผู้มองอนาคตไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น ต่อให้คาดเดาทิศทางที่เขาจะไปได้ แต่ต้องไม่ใช่ทั้งหมด

ลุคมีแผนในใจและสถานที่จะไปแล้วมันคือที่ซึ่งผู้มองอนาคตไม่กล้าเข้าไปใกล้ แน่นอนว่าเขาจะไม่ตรงดิ่งไปในทันที ส่วนหนึ่งเพื่อใช้การผลาญพลังมองอนาคตและทำให้การเห็นของผู้มองอนาคตผิดพลาด

ทางออกคือบินไปมั่ว ๆ หลบเลี่ยงทั้งเหนือมนุษย์และมอนสเตอร์โดยเฉพาะพวกที่คุกคามเขาได้

ตอนนี้นี่คือสงครามไล่จับที่มีฝ่ายหนึ่งหนีและอีกสองฝ่ายล่า ซึ่งสร้างความกดดันให้กับลุคอย่างมหาศาล

“เหนือมนุษย์ระดับ D” ทันทีที่ลุคพบเหนือมนุษย์ผู้นั้นก็พบเขาก่อนแล้ว มันวิ่งและกระโจนไปตามยอดตึกตามไล่ลุคไม่ลดละ อีกทั้งยังใช้กำแพงตึกขว้างปาใส่ตลอดเวลา

กรีด.............

ทันใดนั้นบนท้องฟ้าก็มีนกอินทรีตัวหนึ่งที่แข็งแกร่งในระดับ D ทิ้งตัวดิ่งมาที่ลุคด้วยเช่นกัน

“บ้าจริง!” ลุคพุ่งตัวเข้าไปในอาคาร ใช้แผ่นหลังกระแตกกระจกเข้าไป เพื่อปกป้องเจน

เพล้ง!

ทันทีที่เข้ามาได้ มอนสเตอร์นกอินทรีระดับ D ที่แข็งแกร่งตันนั้นก็ทำลายตึกทั้งชั้นด้วยพลังคลื่นลมบ้าคลั่ง แต่โชคดีที่ลุคกระโดดลงไปในช่องของลุคจนตัวตกลงไปหลายชั้นแล้ว

บึม!

อินทรีย์ตัวนั้นยังไม่ลดละความพยายาม พลังของมันแข็งแกร่งจนทำลายทั้งอาคารได้ ในอาคารยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่หลบซ่อนอยู่

เหนือมนุษย์ระดับ D ที่ตามมาในตอนแรกไม่มีทางเลือกจะต้องเข้าขัดขวางมอนสเตอร์ระดับ D ไว้ แต่ยังแจ้งตำแหน่งของลุคไปยังเหนือมนุษย์คนอื่น ๆ

ลุคลงมาถึงชั้นล่างก็มีเหนือมนุษย์ระดับ E อีก 5 คนมาดักรอเข้าในทันที

“ยอมแพ้และไปกับเราซะ” หนึ่งในคนนำกลุ่มเหนือมนุษย์กล่าว

“หลบไปซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปรานี” ลุคกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเยือกเย็น ทำเอาเหนือมนุษย์ที่ล้อมอยู่โมโหขึ้นมาไม่น้อย เพราะเห็นอยู่ว่าพวกตนมีคนมากกว่า แต่ลุคยังเย่อหยิ่งอีก

“ลงมือ ถ้าขัดขืนก็ฆ่า...” ยังไม่ทันพูดจบ ตอนนั้นก็มีเสียงดัง ฟริ้ว ฉับ! ก่อนกับเคียวที่ลอยผ่านไปปักคาที่เสาขนาดใหญ่ด้านหลัง โดยมีเลือดติดที่คบเล็กน้อย

พอรู้ตัวอีกทีหัวก็หลุดลงพื้นไปแล้ว

เหนือมนุษย์คนอื่น ๆ แตกตื่นกับความโหดเหี้ยมของลุค แต่กลับกันลุคมีแววตานิ่งเฉยมาก เขาลงมือโจมตีต่อในทันที ด้วยการเคลื่อนที่รวดเร็วจากไอเทมรองเท้าสายฟ้าทำให้เขาเร็วมากจนแทบจะมือเห็นคนอื่น ๆ ช้าลง

ก่อนที่ลุคจะตวัดขาเตะที่ละคนจนคนทั้ง 4 ไม่ทันได้ตั้งตัว กว่าจะลอยกระเด็นไปคนละทิศละทางอยากจะบอกว่าเป็นหรือตาย ลุคก็ไปถึงที่เคียวและวิ่งออกไปจากอาคารแล้ว

“บนท้องฟ้าเด่นเกินไป” ลุคเปลี่ยนแผนมาหนีบนพื้น ตอนนั้นเองก็มีรถหุ้มเกราะของทหารติดอาวุธ 3 คันขับไล่ตามลุคมา พร้อมกับซาดกระสุนใส่ไม่ยั้งในทันที

ลุคเอาตัวบังเจน เขามีเกราะกระสุนระดับ E ยากจะทำอะไรได้ แต่เจนนั้นไม่เหมือนกัน เธอไม่แข็งแกร่งพอ ลุคจึงต้องใช้ร่างกายปกป้อง

“แม้แต่พวกทหารก็มาล่าด้วย” ใบหน้าลุคบูดบึ้งมาก ทั้งเมืองกำลังล่าเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด