ตอนที่แล้วเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 10 – การสังหารหมู่ในเมืองแห่งน้ำ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 12 – ป้องกัน

เล่นมายคราฟในต่างโลก เล่มที่ 3 บทที่ 11 – จุดสิ้นสุดของบ่อชำระล้างแห่งสายธาร


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

เล่มที่ 3 บทที่ 11 – จุดสิ้นสุดของบ่อชำระล้างแห่งสายธาร

(เดริชา)

วอลสัน – เจ้าของร้านอาหารผู้มีทักษะและลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อได้ถูกเคลื่อนย้ายไปพร้อมกับข้าไปยังชั้นใต้ดินที่ 70 ที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองอเวจี" เพราะความโง่เขลาของเจ้างี่เง่าตระกูลเร็กซ์ วิธีเดียวที่จะรอดผ่านที่นี่ไปได้คือการออกจากเขาวงกตทางชั้นบน หรือพิชิตเขาวงกต ซึ่งไม่มีใครในประวัติศาสตร์เคยทำได้มาก่อน

ในเขาวงกต ข้าได้สร้างสายสัมพันธ์ที่เรียกว่า【ปาร์ตี้】กับวอลสัน เนื่องจากสถานะของข้าในฐานะเจ้าหญิงแห่งประเทศนี้ ข้าจึงไม่เคยสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับใครมาก่อน เนื่องจากข้ายุ่งอยู่กับการหลีกเลี่ยงเรื่องทางการเมืองและสิ่งที่เรียกว่า "สายเลือดขุนนางชั้นสูง" จากปากของพวกขุนนางที่โง่เขลา...แต่ในสถานการณ์พิเศษตอนนี้ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยสำหรับข้าที่จะต้องสร้างปาร์ตี้ขึ้นมา

…ซึ่งอันที่จริง ข้าเองก็ชอบความรู้สึกของการต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับใครบางคนมาก

ตลอดภารกิจนับไม่ถ้วนที่ข้าทำในฐานะนักผจญภัยเดี่ยว ข้าได้ลองจัดปาร์ตี้ชั่วคราวกับคนอื่นๆ หลายครั้งในอดีต แต่ความรู้สึกที่ข้าได้รับเมื่ออยู่กับพวกเขานั้นไม่สามารถเทียบกับความรู้สึกในวันนี้ได้เลย

ข้าไม่รู้ว่าทำไม มันอาจเป็นเพราะคนที่ข้าอยู่ในปาร์ตี้ด้วยคือวอลสันกระมัง? ส่วหนนึ่งก็คงเพราะเมื่อข้าอยู่กับเขา ข้าไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีมอนสเตอร์เข้ามาลอบโจมตีข้างหลังข้า

คนที่อยู่ข้างหลังข้าไม่เพียงแต่เป็นคนที่ข้าต้องปกป้องเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นคนที่สามารถปกป้องข้าได้อีกด้วย

ทีมนักผจญภัยที่ข้าเคยไปร่วมมาด้วยมีผู้ใดทำเช่นนี้ได้ไหมล่ะ?

ข้า...อิจฉาพวกเขามาก...

เป็นเวลานานแล้วที่ข้าได้ต่อสู้อย่างสนุกสนานเช่นนี้ แถมเรื่องที่เขามอบอาวุธให้ข้ามันก็น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง…ใช่แล้ว เขาให้อาวุธแก่ข้า เขาบอกว่ามันถูกเรียกว่า "หอกต่อต้านเมลอน" แม้ว่าชื่อเดิมของมันจะยาวกว่า แต่มันก็ถูกทำให้เรียบง่ายขึ้น

เดี๋ยวนะ หอกต่อต้านเมล่อน…เมล่อนคือสิ่งใดกัน? มันคือสัตว์ประหลาดเหรอ? หรือเป็นชื่อของคน? อาวุธนี้สร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับคนที่มีนามเช่นนั้นหรือ?

อาวุธที่สร้างจากโอริคัลคุมที่ทรงพลังเช่นนี้ มันถูกสร้างขึ้นมาต่อต้านสิ่งใดกัน? เมื่อถือหอกต่อต้านเมล่อนที่สามารถทนต่อพลังเวทย์มนตร์ทั้งหมดของข้าได้ ข้าก็รู้สึกเหมือนข้าถูกยกขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

ตอนนี้ข้าสามารถเอาชนะมอนสเตอร์ที่มีระดับสูงกว่า 80 ได้อย่างง่ายดาย แต่ในขณะเดียวกันข้าก็รู้สึกถึงความแปลกประหลาดในตนเอง

ยามนี้เรากำลังนั่งอยู่ในเรือเร็วพิเศษที่ผลิตโดยวอลสัน ซึ่งถูกเรียกว่า "สปีดโบ๊ท" ที่กำลังพาเราจมดิ่งลงไปในความมืด

อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถหนีไปไหนได้…เพราะมอนสเตอร์ขนาดมหึมาตัวนั้นได้ไล่ตามหลังเรามา

ใครจะคิดกันล่ะว่าเขาวงกตที่ราชาเตกิตตันสร้างขึ้นเมื่อนานมาแล้วในอดีต กลับกลายเป็นว่ามีสัตว์ประหลาดปลาที่น่าสะพรึงกลัวอาศัยอยู่ที่ชั้นล่างสุด!?

.

มอนสเตอร์ปลาตัวนี้เดิมทีเป็นปลาเล็กๆ ที่ดุร้ายที่อาศัยอยู่ในเขาวงกต – หรืออย่างน้อยมันควรจะเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน

แต่พอชั้นลึกขึ้นไป ปลาพวกนี้ก็มีขนาดใหญ่และแข็งแรงมาก จนข้ารู้สึกไร้พลังเพียงแค่ยืนอยู่ข้างหน้ามัน นั่นคือสิ่งที่ข้าคนเก่าจะพูด แต่ตอนนี้ข้ายินดีที่จะต่อสู้เคียงข้างสมาชิกปาร์ตี้ที่เพิ่งสร้างขึ้นบนเรือลำเดียวกันของข้าจนกว่าจะตัวตาย

จะว่าไปแล้ว ปลาขนาดมหึมาเช่นนี้มันต้องมีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวมันอย่างแน่นอน

…แม้ว่าการเก็บเกี่ยวในปีนี้จะยังคงอุดมสมบูรณ์ แต่จริงๆ แล้วมันน้อยกว่าปีที่ผ่านมามาก เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นเทพธิดาแห่งน้ำเองก็ได้มีการปรากฏตัวลดลงไป

เรื่องทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะความผิดปกติบางอย่างหรือเปล่า?

แม้ว่าเราจะรีบเข้าไปในทางเดินน้ำที่นำไปสู่ทางเข้าด้านล่าง แต่เราก็ยังไม่สามารถหนีจากอันตรายได้

เหตุผลหนึ่งคือทางเดินน้ำมันกว้างมาก

มอนสเตอร์ปลายักษ์ตัวนั้นจึงตามเราเข้ามาด้วย

“โอมมม พายุหนาม!” ข้าปลดปล่อย [อาร์เต้] ที่เดิมทีจัดเป็นการโจมตีระยะสั้นออกไป เวทมนตร์นี้จะปลดปล่อยมากพอที่จะบดขยี้หัวของมอนสเตอร์ระดับสูง แต่มันกลับทำให้เกิดเพียงบาดแผลขนาดเล็กบนปลายักษ์เท่านั้น

กะโหลกปลาขนาดยักษ์ดูแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แถมข้าก็ยังไม่สามารถโจมตีมอนสเตอร์จากมุมที่ดีกว่านี้ได้แล้ว ข้าไม่สามารถชะลอการเคลื่อนไหวของมันได้เลย

เราไม่สามารถหลีกหนีจากมันได้เลย เพียงแค่มันอ้าปากกว้างของมันออกมา เราก็จบสิ้นกันแล้ว

“บ้าจริง…ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะตามทันแน่…เฮ้! หมอบลง!”

อุปกรณ์ของวอลสันยิงใยแมงมุมที่พันรอบเท้าของข้าทำให้ข้าสะดุดลง

…ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งที่ข้าเห็นคือมีกระสุนหลายนัดได้ปล่อยแรงกระแทกทะลุผ่านอากาศในจุดที่ข้าเคยยืนอยู่ก่อนหน้านี้ .

“มุมนี้แกคงหลบไม่ได้แล้ว มาดูกันว่าหัวของแกจะแข็งแกร่งกว่ากระสุนปืนใหญ่หรือเปล่า!” ใยแมงมุมพุ่งออกมาอีกครั้ง คราวนี้มันติดมือของข้ากับตัวเรือด้วย จากนั้นวอลสันก็ดึงวัตถุทรงกระบอกที่ดูแปลกประหลาดออกมาจากที่ไหนสักแห่ง

"หา? เจ้าตั้งใจจะไปทำอะไรกัน...?”

จากนั้นพอคำพูดของข้าหยุดลง เลือดของปลาก็ได้สาดกระเซ็นไปทั่ว

สัตว์ร้ายขนาดยักษ์หยุดส่งเสียงโหยหวนของมัน - มันไม่สามารถส่งเสียงใดๆ ได้เลยเพราะมีรูที่เจาะทะลุกะโหลกศีรษะของมัน

แต่เรือสูญเสียความเร็วไปแล้ว ภายในไม่กี่วินาที มันก็คงจะถูกกลืนโดยฝูงปลา

“ดูเหมือนว่ามันจะได้ผล แต่ความเร็วของเรือไม่พอแล้ว” วอลสันสวมถุงมือใหม่และกำแพงหินก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่สกัดกั้นการโจมตีที่พุ่งเข้ามา

แม้ปลายักษ์จะตายไปแล้ว แต่ปลาที่เหลือยังคงพุ่งเข้าใส่

วอลสันพลิกตัวและกระแทกท้ายเรือกลางอากาศ เรือสั่นสะเทือนและความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นทันที ทิ้งเพียงวอลสันและศพปลายักษ์ไว้ข้างหลัง

“ขอโทษทีนะ ข้าจะจัดการที่เหลือเอง ระหว่างทางเจ้าก็ระวังตัวด้วย”

สิ่งสุดท้ายที่ข้าเห็นคือรอยยิ้มของเขาและกลุ่มมอนสเตอร์ปลาที่พุ่งเข้าใส่เขา

ไม่นะ ไม่

เขาจะเสียสละตัวเองแบบนั้นจริงๆ งั้นเหรอ!?

...ไม่ได้นะ

ได้โปรดเถอะ...

ในขณะที่จิตใจของข้าเริ่มอ่อนแรงด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง สิ่งที่ยังคงอยู่ต่อหน้าต่อตาของข้าคือเพดานที่พร่ามัว เนื่องจากการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงของเรือ หลังจากที่ผ่านไปสักพัก สายตาของข้าก็กลับมาชัดเจนเช่นเดิม

ข้ามาถึงชั้นถัดไปแล้ว แต่มีเพียงข้าคนเดียวที่ผ่านมันมาได้

ข้าฉีกใยแมงมุมออกจากมือและลุกขึ้นยืน เรือไม้อยู่ในสภาพใกล้พังแล้ว ข้ามองไปรอบๆ อย่างกังวล

เมื่อเทียบกับชั้นก่อนหน้า พื้นที่นี้แคบกว่ามาก มันเป็นพื้นที่ครึ่งทรงกลมทั่วไป ไม่มีอะไรผิดแปลก แตกต่างจากชั้นก่อนหน้านี้ที่เป็นรูปร่างคล้ายบล็อค มันไม่มีเสาหิน แต่กลับมีแท่นเล็กๆ อยู่กลางน้ำที่มีบ้านหลังเล็กอยู่บนนั้น

น้ำที่ไหลลงมาจากท้องฟ้าเป็นจุดที่ข้าได้เข้ามา ไม่มีสัญญาณจากมอนสเตอร์หรือสัตว์ร้ายใดๆ… ในตอนนี้ ข้าสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนของเวทมนตร์ที่ผิดธรรมชาติในสถานที่แห่งนี้

นี่คือ…มิติแยกงั้นหรือ? จากนั้น ข้าก็จำอะไรบางอย่างได้

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ข้าเคยอ่านในหนังสือเล่มหนึ่งว่าเขาวงกตขนาดใหญ่มักจะมีพื้นที่ ซึ่งถูกเรียกว่ามิติแยกอยู่ มันเป็นสถานที่ปลอดภัย

พื้นที่ปลอดภัยนี้จะมีกำแพงคอยกั้นอยู่รอบๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มอนสเตอร์และสัตว์ร้ายเข้ามาใกล้ ทำให้นี่เป็นเขตปลอดมอนสเตอร์

ทุกคนบอกว่านี่คือสิ่งที่ผู้สร้างเขาวงกตแสดงความเมตตาต่อนักสำรวจดันเจี้ยน สร้างพื้นที่อันเงียบสงบนี้เพื่อให้พวกเขาได้พักผ่อน

ถ้าเกิด…ถ้าข้าทนได้อีกหน่อย ถ้าข้าต่อสู้ร่วมกับเขา บางทีวอลสันก็จะไม่...

"ตู้ม!!!!!!!"

ก่อนที่ข้าจะได้คิดต่อ เสียงระเบิดครั้งใหญ่ก็สะท้อนออกมาจากเพดานและมวลสารสีแดงสดจำนวนมากก็กระเด็นลงไปในน้ำ

ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีมือข้างหนึ่งจับขอบเรือที่ข้าอยู่และดึงตัวเองขึ้นไป

นั่นวอลสัน

“เวรเอ้ย… ฮึก…การใช้ตัวจุดระเบิดในที่แคบๆ แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับการแส่หาความตายเลยสักนิด…นึกว่าข้าจะตายไปแล้ว…จะว่าไปเจ้าดูกังวลมากเลยนะ ลืมไปแล้วเหรอว่าเราอยู่ปาร์ตี้เดียวกัน? แค่ตรวจสอบสถานะของข้าก็สิ้นเรื่องแล้ว อย่ามาคิดว่าข้าจะด่วนตายไปก่อนสิ! เจ้าเป็นเจ้าหญิงที่ไร้หัวใจจริงๆ …”

…จากนั้นเราทั้งคู่ก็ตกลงไปในน้ำด้วยกัน ขณะที่ข้าพุ่งเข้าใส่เขาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรวมกันที่มุมดวงตาของข้า

ร่างกายของข้าเริ่มเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ก่อนที่จิตใจของข้าจะประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้น

ข้ากอดเพื่อนร่วมทางที่เกือบหายไปไว้แน่น เพื่อนร่วมทางเพียงคนเดียวที่เกือบจะเสียสละตัวเองเพื่อข้า

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด