ตอนที่แล้วบทที่ 8 การทำสัญญา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 การขโมยไผ่

บทที่ 9 การต่อสู้ครั้งแรก


สองชั่วโมงต่อมา

ซืออวี๋ออกจากฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็กด้วยความพึงพอใจ

หน้าหกของสารบัญ

[ทักษะ] : การเคลือบแข็ง

[ระดับทักษะ] : ต่ำ

[หมายเหตุ] : มันเป็นทักษะประเภทโลหะที่สามารถทำให้ร่างกายแข็ง ผลกระทบของมันเปรียบเสมือนเกราะล่องหนและสามาราถพัฒนาการโจมตีได้

[สถานะ] : ไม่มีเป้าหมาย

ขั้นตอนของซืออวี๋ในการคัดลอกการเคลือบแข็งนั้นยังคงง่ายและราบรื่นมา สิ่งที่เขาทำนั้นเรียบง่ายมากซึ่งก็คือการให้อาหารอสูรกินเหล็ก

ต่างจากอสูรกินเหล็กเด็กที่ยังไม่ได้ปลุกทักษะการเคลือบแข็งของพวกมัน อสูรกินเหล็กโตเต็มวัยไม่ได้แทะไผ่เหล็กราวกับกระดูก แต่พวกมันกลับใช้ทักษะการเคลือบแข็งของพวกมันเพื่อเสริมพลังให้กับฟันของพวกมันก่อน

จากนั้นพวกมันก็จะกินไผ่เหล็กซึ่งแข็งราวกับเหล็ก ด้วยวิธีนี้ ประสิทธิภาพการกินของพวกมันจึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า โดยการกัดทีละคำ

ซืออวี๋ให้อาหารอสูรกินเหล็กด้วยไผ่เหล็กและค่อยๆ ลูบหลังมัน จากนั้นเขาก็ได้รับทักษะนี้

“ฉันจะไม่กลับมาอย่างน้อยหนึ่งเดือน”

ซืออวี๋ผู้ที่กลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรที่แท้จริงก็ได้ออกจากฐานเพาะพันธุ์ไผ่เหล็ก

ในเวลานี้ นอกเหนือจากการรับลูกอสูรกินเหล็กแล้ว เขายังแบกถุงไผ่อีกเช่นกัน นี่คืออาหารสำหรับวันพรุ่งนี้ของอีเลฟเว่น

ต่างจากไผ่บน ‘โลก’ พืชกลายพันธุ์ที่นี่ยังคงมีคุณค่าทางสารอาหารสูง คุณค่าทางสารอาหารของพวกมันนั้นไม่ด้อยไปกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดเลย ยิ่งกว่านั้น อวัยวะย่อยอาหารของอสูรกินเหล็กนั้นแตกต่างจากแพนด้ายักษ์ธรรมดาเหล่านั้น ดังนั้นยตราบใดที่คุณภาพของไผ่นั้นดี อสูรกินเหล็กอาจไม่จำเป็นต้องกินอาหารหลายสิบกิโลกรัมต่อวันเพื่อเติมเต็มสารอาหาร

อย่างไรก็ตาม ไผ่เหล็กนั้นเป็นเพียงอาหารซึ่งพื้นฐานที่สุดของอสูรกินเหล็ก มีอาหารราคาแพงยิ่งกว่าไผ่เหล็กอีกหลายอย่าง แต่ซืออวี๋อาจไม่สามารถจัดหาพวกมันได้ในขณะนี้

การหาเงิน!

หลังจากกลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูร เขาก็หาวิธีได้รับเงินก่อน

สำหรับเขาแล้ว ตราบใดที่เขาไม่ตายก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเขาต้องการให้อสูรกินเหล็กเติบโตอย่างรวดเร็ว การมีทักษะทุกประเภทนั้นไม่เพียงพอ มันต้องมีสารอาหารเพียงพอด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านั้น เขาต้องรีบกลับบ้านและให้อีเลฟเว่นคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่

อาหาร น้ำ และที่พักนั้นมีความสำคัญมาก

ในไม่ช้า ซืออวี๋ก๋กลับมาถึงบ้าน

มีอาคารสูงหลายแห่งในเขตผิงเฉิง แต่บ้านของซืออวี๋นั้นเป็นพื้นที่บ้านชั้นเดียวขนาดใหญ่

สำหรับซืออวี๋แล้ว บ้านชั้นเดียวนั้นดีกว่าห้องพักในอาคารสูงมาก

ท้ายที่สุด ตอนนี้เขาได้กลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรแล้ว มันไม่สะดวกสำหรับเขาที่จะฝึกสัตว์อสูรของเขาในอาคาร

หากเขาอาศัยอยู่ในห้องพักของอาคารสูง เขาต้องเช่าอีกห้องหนึ่งแยกต่างหากเพื่อฝึกฝนสัตว์อสูรของเขา แต่มันวุ่นวายและเสียเงินเพิ่ม

ในทางกลับกัน แม้ว่าสถานที่แห่งนี้นั้นจะเก่าเล็กน้อย แต่มันก็ว่างเปล่าและเป็นสนามฝึกที่ดีมาก

หลังจากกลับมาถึงบ้าน ซืออวี๋ก็โยนกระเป๋าของเขาลงบนพื้น เมื่อเขาตระหนักว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยฝุ่น เขาก็ตัดสินใจทำความสะอาดมันก่อน

แต่เขาจะทำความสะอาดเพียงลำพังได้ยังไงกัน…?

แพนด้าอีเลฟเว่น คู่หูของข้า!

ได้เวลาแล้ว! อัญเชิญ!

กลุ่มวงกลมโปร่งใสปรากฎขึ้นตรงหน้าซืออวี๋ ภายใต้การกระเพื่อมราวกับน้ำ อสูรกินเหล็กอีเลฟเว่นก็คลานออกมา

ตามระดับของมิติฝึกสัตว์อสูร สีบาร์เรียจิตวิญญาณและค่ายกลการอัญเชิญนั้นจะแตกต่างกัน

สำหรับนักฝึกสัตว์อสูรฝึกหัดเช่นซืออวี๋ บาร์เรียจิควิญญาณและค่ายกลการอัญเชิญนั้นโปร่งใส แทบจะไร้สี

อีเลฟเว่นผู้ที่ถูกอัญเชิญออกมาจากมิติฝึกสัตว์อสูรนั้นดูว่างเปล่าราวกับว่ามันเเพิ่งจะตื่นนอน

มันสะบัดร่างกายของมันอย่างรวดเร็วสองสามครั้ง แกว่งขนนุ่มสีดำขาวไปมา หลังจากที่ทั้งร่างกายของมันผ่อนคลายลง มันก็เริ่มหันมามองซืออวี๋ผู้ที่อัญเชิญมันออกมา

อีเลฟเว่นสะบัดหางที่สั้นของมันเล็กน้อย เมื่อกลายเป็นสัตว์อสูรของซืออวี๋ มันไม่มีความรู้สึกเช่น ‘ไม่มีวันเป็นทาส’ หรือ ‘ไร้ความหวาดกลัว’ เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป มีเพียงแค่ความรู้สึกใกล้ชิดตามธรรมชาติระหว่างพวกเขา

การเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณนี้ใกล้ชิดกันยิ่งกว่าสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวเสียอีก

อีเลฟเว่นเดินไปที่ด้านข้างของซืออวี๋และถูกับขาของเขาทำให้หัวใจของซืออวี๋หลอมละลาย

ดูราวกับว่า… มันจะเชื่อิฟังมากยิ่งขึ้น!

ซืออวี๋รู้สึกพึงพอใจและเผยรอยยิ้มของพ่อ

“มา ให้ข้าสอนการเคลือบแข็งให้เจ้า!”

การทำความสะอาดนั้นเขาทำคนเดียวก็พอแล้ว อสูรกินเหล็กนั้นน่ารักเกินไป

เอาล่ะ ก่อนอื่นเขาควรสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของเขาในหัวใจของอสูรกินเหล็ก

“อู๋?” อสูรกินเหล็กอีเลฟเว่นยืนขึ้น

การเคลือบแข็ง?

มันชูกำปั้นของมัน และในวินาทีต่อมา กำปั้นที่มีขนสีดำนั้นก็เข้มและแข็งขึ้นทันทีด้วยผิวโลหะที่เคลือบไว้ มันคือทักษะการเคลือบแข็ง

หลังจากการนอนหลับในมิติฝึกสัตว์อสูร ในที่สุดอีเลฟเว่นก็ปลุกมันได้

ที่นั่นสบายอย่างแท้จริง อีเลฟเว่นไม่รู้สึกหิวอีกต่อไปและนอนหลับได้สบายมากยิ่งขึ้น ร่างกายของมันอบอุ่น และหัวของมันก็ปลอดโปร่งมาก

การเคลือบแข็งที่ไม่สามารถปลุกได้ก่อนหน้านี้นั้นถูกปลุกหลังจากการนอนหลับที่นั่น

ซืออวี๋ : “?”

ซืออวี๋ : “?”

ซืออวี๋ขยี้ตาของเขาและมองไปที่กำปั้นของอีเลฟเว่น

อะไรกัน?!

มันปลุกแล้วเหรอ?

ข้าเพิ่งกล่าวว่าข้าจะสอนให้เจ้า แต่เจ้าเรียนรู้มันล่วงหน้าแล้วเหรอ?

ซืออวี๋เงียบไป

หลินซิ่วจูนั้นเชื่อถือได้หรือไม่? นางไม่ได้บอกว่าจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการปลุกทักษะการเคลือบแข็งเหรอ? มันจะเร็วเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

ซืออวี๋มีความสุขมาก แต่ท้องไส้ก็ปั่นป่วนเช่นกัน เมื่อคิดว่าเขาตั้งหน้าตั้งตาคอยความเคารพบนใบหน้าของอสูรกินเหล็กหลังจากที่มันเรียนรู้การเคลือบแข็ง

“งั้นมาทำความสะอาดลานกันเถอะ”

อีเลฟเว่น : o((⊙_⊙))o??

ทะ—ทำความสะอาดเหรอ?

“ลืมไปเถอะ” เมื่อเห็นสีหน้าอันว่างเปล่าของอีเลฟเว่น ซืออวี๋จึงตัดสินใจปล่อยมันไป

เขาไม่รีบร้อนที่จะทำความสะอาด ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าสารบัญทักษะสามารถสอนทักษะที่เรียนรู้ไปแล้วได้

การสอนทักษะที่มันเรียบรู้ไปแล้วจะเพิ่มความเชี่ยวชาญของทักษะ!

ความเชี่ยวชาญทักษะนั้นก็มีความสำคัญเช่นกัน หากเป็นทักษะที่สัตว์อสูรตัวหนึ่งที่เพิ่งเรียนรู้มันและสัตว์อสูรอีกตัวมใช้มันมาแล้วนับ 10 ปี… ผลกระทบนั้นจะแตกต่างกันอย่างแน่นอน

เป็นไปไม่ได้ที่ทักษะระดับต่ำที่มีความเชี่ยวชาญสูงจะบดขยี้ทักษะระดับสูงที่มีความเชี่ยวชาญต่ำ

ซืออวี๋พบคู่มือการฝึกอสูรกินเหล็กพื้นฐานที่หลินซิ่วจูมอบลให้แก่เขา

ทักษะการเคลือบแข็ง… ไม่สิ ทักษะทั้งหมดที่อสูรกินเหล็กเชี่ยวชาญนั้นสามารถแบ่งได้ออกเป็นห้าขั้น

คู่มือได้สรุปว่าความเชี่ยวชาญทักษะสามารถอธิบายได้ด้วยห้าคำ

เรียนรู้ คุ้นเคย พัฒนา ชำนาญ และเปลี่ยนแปลง!

พวกมันเป็นตัวแทนของขั้นเริ่มต้น ขั้นช่ำชอง ขั้นชำนาญ ขั้นสมบูรณ์ และขั้นเหนือธรรมชาติ

ตัวอย่างเช่นทักษะการเคลือบแข็งของอีเลฟเว่นนั้นอยู่ในขั้นเริ่มต้น มันเพิ่งเรียนรู้และเคลือบแข็งได้เฉพาะส่วนหนึ่งของร่างกายมันเท่านั้น

ตามคู่มือแล้ว มันสามารถเคลือบแข็งทั้งร่างกายหลังจากไปถึงขั้นช่ำชอง

โดยทั่วไปแล้ว จะใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนในการฝึกฝนอย่างจริงจังเพื่อฝึกฝนทักษะระดับต่ำจากขั้นเริ่มต้นไปถึงขั้นช่ำชอง

ซืออวี๋อยากรู้อย่างมาก

หากเขาใช้สารบัญทักษะในการสอนหนึ่งครั้ง มันจะเทียบเท่ากับการฝึกฝนกี่วันกัน?

เขามองไปที่อีเลฟเว่นที่กำลังสังเกตรอบข้าง และตกอยู่ในห้วงความคิด

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ การใช้สารบัญทักษะดูเหมือนจะใช้พละกำลัง

ต้องใช้พละกำลังมากแค่ไหนในการสอนทักษะการเคลือบแข็งระดับต่ำ?

ซืออวี๋ผู้ที่ไม่เคยลองมันมาก่อนนั้นไม่แน่ใจ ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเล็กน้อยในตอนนี้

จะเป็นยังไงหากเขาตายจากความเหนื่อยล้าจากการสอนทักษะระดับต่ำ?

“ทำไมข้าถึงไม่ใช้ทักษะที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในสารบัญทักษะ ไหมหนอน เพื่อทดสอบการใช้พละกำลังล่ะ?”

ท้ายที่สุด ยิ่งทักษะระดับต่ำมากเท่าไหร่ การใช้พละกำลังก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเขาควรจะลองดู…

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ซืออวี๋ต้องหาตัวทดลองอื่นเพราะอสูรกินเหล็กและทักษะไหมหนอนนั้นไม่มีความเข้ากันได้เลยและไม่สามารถสอนได้

มันยากเกินไปที่จะทำให้อสูรกินเหล็กพ่นไหม

“เนื่องจากเจ้ามีทักษะการเคลือบแข็งแล้ว ทำไมเจ้า… ไม่ลองต่อสู้ครั้งแรกล่ะ?”

จากนั้นซืออวี๋ก็มองไปที่ต้นพลับสองต้นในลานบ้านของเขาอย่างกะทันหัน

กล่าวให้ถูก เขากำลังมองไปที่ร่างสีเขียวบนหนึ่งในต้นพลับ

หนอนไหมเขียวกำลังนอนอยู่บนกิ่งไม้ พักผ่อนอย่างสงบสุข มันกล้ามากและไม่กลัวที่จะถูกนกที่บินผ่านไปมากิน

ในฐานะความอัปยศแห่งโลกสัตว์อสูร พลังต่อสู้ของหนอนไหมเขียวนั้นต่ำมาก แม้ว่าจะไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นนอกกระจอกธรรมดาที่ไม่ผ่านการวิวัฒนาการ มันก็มีโอากสสังหารหนอนไหมเขียวได้

ในขณะเดียวกัน พวกมันก็พบได้ทุกหนแห่ง เมื่อซืออวี๋เห็นมัน เขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามันเป็นตัวทดลองได้

เห็นได้ชัดว่าหนอนไหมเขียวตัวนี้นั้นขาดสารอาหาร มันตัวบางกว่าหนอนไหมเขียวในฐานเพาะพันธุ์เสียอีก

โดยทั่วไปแล้ว หนอนไหมเขียวเช่นนี้จะไม่สามารถวิวัฒนาการได้… พวกมันส่วนใหญ่จะจบลงด้วยการเป็นอาหารนก… อย่างไรก็ตาม หนอนไหมเเขียวตัวนี้ควรจะถือว่าโชคดีที่ได้มาพบกับซืออวี๋

ข้าจะให้โอกาสแก่เจ้าในการเพิ่มความเชี่ยวชาญของทักษะไหม!

“จับมันอย่างอ่อนโยนนะ”

หลังจากซืออวี๋ออกคำสั่ง อีเลฟเว่นก็มองไปที่หนอนไหมเขียวและตกตะลึงเล็กน้อย

คู่ต่อสู้ตัวแรกของมันก็คือเจ้าตัวเล็กนี่เหรอ?

อย่างไรก็ตาม มันยังคงทำตามคำสั่งของนักฝึกสัตว์อสูร ทันใดนั้นมันก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้และหักกกิ่งไม้ที่หนอนไหมเขียวเกาะอยู่ด้วยการตบหนึ่งครั้ง ทักษะการเคลือบแข็งของมันนั้นไม่จำเป็นเลย และหนอนไหมเขียวก็ตกลงมาพร้อมกับกิ่งไม้

การตกลงมาทำให้หนอนไหมเขียวตกตะลึง

“อู๋(เราชนะ เราชนะ!)” อสูรกินเหล็กอีเลฟเว่นตะโกนอย่างมีความสุข

ชัยชนะก็คือชัยชนะสำหรับการต่อสู้ครั้งแรก ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใครก็ตาม!

“ทำได้ดีมาก!” ท้ายที่สุด อสูรกินเหล็กนั้นยังเด็กมาก ดังนั้นซืออวี๋จึงชมมันเล็กน้อย

การฝึกสัตว์อสูรก็เปรียบเสมือนการเลี้ยงเด็ก เขาต้องชมมันให้มากยิ่งขึ้นและไม่ดุด่ามันตลอดเวลา

หนอนไหมเขียวนั้นไร้คำกล่าว

Fanpage : ผีเสื้อกลางคืน

Link : https://www.facebook.com/translatemoth

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด