ตอนที่แล้วเริ่มต้นด้วยการเป็นราชาซุปเปอร์ไซย่า 4
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเริ่มต้นด้วยการเป็นราชาซุปเปอร์ไซย่า 6

เริ่มต้นด้วยการเป็นราชาซุปเปอร์ไซย่า 5


ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

บทที่ 5 - ทางเลือกในอนาคตและอาณาจักรไซย่า

“ท่านผู้ใช้ต้องการผสานรวมเข้ากับสายเลือดซูเปอร์ไซย่าในตำนานในทันทีหรือไม่?”

พอเปลี่ยนกลับเป็นร่างมนุษย์จากลิงยักษ์ หลินเฉินก็ได้ยินเสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง

“ระบบ มันจะมีผลข้างเคียงจากการรวมเข้ากับสายเลือดหรือไม่?” หลินเฉินถาม

“สายเลือดซุปเปอร์ไซย่าในตำนานมีร่างกายที่ยิ่งเจอสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่ง พวกเขาก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น และยิ่งบาดเจ็บหนัก พวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้น! เพื่อให้ได้รับพลังนี้ ร่างกายของผู้ใช้ต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง!”

“ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการผสาน?”

"ห้าปี!"

อะไรนะ ใช้เวลาห้าปีเลยเหรอ?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเฉินก็ไม่ได้ตอบในทันที เขากลับมองไปข้างหลังเขาแทน

หลังจากการต่อสู้สิ้นสุดลง ชาวไซย่าก็ค่อยๆ เปลี่ยนกลับคืนสู่ร่างมนุษย์ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่สถานที่ที่ยานอวกาศของ ฟรีเซอร์ เคยอยู่ พวกเขารู้สึกตื่นเต้นมาก

“เราฆ่าทรราชผู้นั้นได้แล้ว!”

“ชาวไซย่าจะอยู่ยงคงกระพัน!”

“ราชาลิงค์จงเจริญ!”

แม้ว่าในตอนแรกหลายคนจะสงสัยเกี่ยวกับการโจมตีของฟรีเซอร์

แต่เมื่อ ฟรีเซอร์ ถูกกำจัดจริงๆ ความเย่อหยิ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในกระดูกของ ชาวไซย่า ก็ระเบิดออกมาทันที

เมื่อมองไปที่ชาวไซย่าที่มีความสุขอย่างล้นหลาม หลินเฉินก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมีความสุข

แม้ว่า ฟรีเซอร์ จะถูกกำจัดชั่วคราวเพื่อป้องกันการทำลายล้างของ ดาวเคราะเบจีต้า แต่ฟรีเซอร์ตายจริงหรือ?

หลินเฉิน ผู้ซึ่งคุ้นเคยกับเนื้อเรื่อง รับรู้ถึงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของฟรีเซอร์ดี

แม้ว่าเขาจะไม่มีความสามารถในการงอกใหม่เหมือนชาวดาวนาเม็ก แต่ฟรีเซอร์ยังสามารถฟื้นคืนชีพได้ แม้ว่าร่างกายของพวกเขาจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

และแม้ว่าฟรีเซอร์จะเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ อย่าลืมว่านอกจากฟรีเซอร์แล้ว ยังมีราชาโคลพ่อของเขา และโคลด์พี่ชายของเขา วันหนึ่งคนเหล่านี้อาจโจมตีพวกเขาเพื่อล้างแค้นฟรีเซอร์ก็เป็นได้

ด้วยเหตุผลนี้ เขาต้องหาวิธีจัดการ มิฉะนั้น มีโอกาสมากที่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาหลังจากห้าปี ดาวเคราะเบจีต้าคงจะถูกทำลายไปแล้ว

ดังนั้น……

“ระบบ อย่าเพิ่งรวมสายเลือดในตอนนี้ รอคำสั่งของฉัน”

“เข้าใจแล้ว……”

ขณะที่ตกลง ระบบก็ได้พูดออกมาอีกครั้ง:

“ติ๊ง! รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้ใช้ ทำการกระตุ้นทางเลือกที่แข็งแกร่งที่สุด”

“ทางเลือกที่หนึ่ง: ละทิ้งความเป็นชาวไซย่า และกลายเป็นชาวไซย่าพเนจร รางวัล: ฉายา: ราชาชาวไซย่าผู้โดดเดี่ยว เอฟเฟกต์: ระดับพลัง +1 ล้าน”

“ทางเลือกที่สอง: ไล่ล่าเผ่าพันธุ์ฟรีเซอร์ในเวลาจำกัด รางวัล: ได้รับข้ารับใช้ฟรีเซอร์

“ทางเลือกที่สาม: ปกป้องดาวเบจิต้า สร้างอาณาจักรชาวไซย่า รางวัล: การเคลื่อนย้ายก้าวพริบตาของคิบิโตะ”

“คำเตือนที่เป็นมิตรจากระบบ! รางวัลการเลือกในครั้งนี้จะเป็นการมอบให้ล่วงหน้า แต่ถ้าผู้ใช้ทำภารกิจที่เลือกไม่เสร็จ มันจะถูกลบทิ้ง!”

เขาไม่คาดคิดเลยว่าหลังจากทางเลือกก่อนหน้านี้เสร็จสิ้นลง ทางเลือกใหม่ก็จะถูกเพิ่มเข้ามา

เมื่อมองไปที่รางวัลทั้งสามที่ระบบมอบให้ หลินเฉินก็เริ่มคิด

เขาลบตัวเลือกแรกออกไปเลย ด้วยระดับพลังเพียง 1 ล้าน เขาเชื่อว่าตราบใดที่เขารวมเข้ากับสายเลือดซุปเปอร์ไซย่าในตำนาน เขาก็สามารถบรรลุพลังระดับนั้นได้อย่างง่ายดายโดยธรรมชาติ

ตัวเลือกที่สองดูดีและหมายความว่าเขาจะมีคนของเผ่าพันธุ์ฟรีเซอร์เข้ามาช่วยด้วย

แต่ตัวเลือกนี้ หลินเฉินไม่คิดจะสนใจ

เพราะตัวเลือกนี้คือกับดัก

ตามล่าเผ่าพันธุ์ฟรีสเซอร์ภายในเวลาจำกัด แต่ระยะเวลาจำกัดเท่าไรกันล่ะ?

หากเป็นเวลาห้าปี มันก็เป็นช่วงเวลาที่เขาตื่นขึ้นจากการหลับใหลไม่ใช่หรือ?

แต่ถ้าเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ เขาจะไม่ได้รวมเข้ากับสายเลือดซุปเปอร์ไซย่าในตำนาน เขาจะตามล่าเผ่าพันธุ์ฟรีสเซอร์ได้อย่างไรกัน?

หลินเฉินจึงได้แต่ดูทางเลือกนี้

ระบบ เลือกทางเลือกที่สาม!”

“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ที่เลือกตัวเลือก รางวัลถูกส่งแล้ว! ต่อไป โปรดปกป้อง ชาวไซย่า เมื่อดาวเคราะห์เบจิต้าถูกทำลาย ผู้ใช้จะถูกลบพลังทันที”

หลังจากที่ หลินเฉิน เลือกแล้ว ไม่กี่วินาทีต่อมา ระบบก็ดังขึ้น

ในเวลาเดียวกัน จิตใจของ หลินเฉินก็ได้รับความรู้ทันทีเกี่ยวกับวิธีการเคลื่อนย้ายก้าวพริบตาทันที

การเคลื่อนย้ายก้าวพริบตาของคิบิโตะนั้นแตกต่างจากการเคลื่อนย้ายก้าวพริบตาของโกคูเล็กน้อย ด้วยการก้าวพริบตาของคิบิโตะ เราสามารถไปถึงดาวเคราะห์ใดๆ ในโลกมนุษย์ของจักรวาลได้ทันที ไม่จำเป็นต้องกะพลังงาน แต่การเคลื่อนย้ายก้าวพริบตาเช่นนี้ไม่สามารถมองหาคนได้อย่างแม่นยำ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้หลินเฉินสามารถเคลื่อนที่ไปรอบๆ จักรวาลได้ตามต้องการ แทนที่จะเสียเวลาอันมีค่าไปกับการเดินทางในอวกาศเหมือนในอดีต

รวมถึงดาวเคราะห์นาเม็กที่เขาเคยไปด้วย เขาจะใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ไปถึงแล้ว

ต่อไปเขาควรเตรียมการเพื่อรวมเข้ากับสายเลือดซุปเปอร์ไซย่าในตำนาน

ทว่าก่อนอื่น เขาต้องเตรียมหลักประกันสำหรับชาวดาวเบจิต้า เพื่อให้แน่ใจว่าก่อนที่เขาจะตื่นขึ้น ชาวไซย่ากลุ่มนี้จะไม่ต้องเผชิญชะตากรรมของการสูญพันธุ์อีก

หลังจากนั้นไม่นาน ชาวเบจีต้า ภายในพระราชวังของราชา

นอกพระราชวัง ชาวไซย่าที่เอาชนะจักรพรรดิแห่งจักรวาลกำลังปาร์ตี้กันอยู่ มีเนื้อสัตว์และไวน์โปรดทุกชนิดของชาวไซย่าในปริมาณไม่จำกัด

ภายในพระราชวัง หลินเฉิน ซึ่งเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนมากที่สุดในชัยชนะของการต่อสู้ครั้งนี้ ได้เรียกชาวไซย่าสามคนแยกกัน

ชาวไซย่าทั้งสามคือราชาเบจิต้า บาร์ดัค และพารากัส

หลินเฉินจะเก็บตัวเป็นเวลาห้าปี ในช่วงห้าปีนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าชาวเบจีต้าจะไม่ถูกทำลาย เขามีวิธีการอยู่แล้ว แต่ความคิดนี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ

ต้องบอกว่าชาวไซย่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ค่อนข้างบ้าคลั่ง ความแข็งแกร่งโดยเฉลี่ยของพวกเขาไม่แข็งแกร่งขนาดนั้น หลายเผ่าพันธุ์ในจักรวาลแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก แต่ชาวไซย่าพวกนี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบการต่อสู้และชอบสร้างปัญหา

ในเวลาห้าปี หลินเฉิน สามารถรับประกันได้ว่าศัตรูจะไม่มาที่ประตูของพวกเขา แต่ก็เป็นการยากที่จะรับประกันว่าชาวไซย่าจะไม่ก่อความวุ่นวาย ดังนั้นเขาจึงต้องการใครสักคนที่สามารถดูแลสถานการณ์โดยรวมในช่วงห้าปีนี้

และเขารู้สึกว่าราชาเบจิต้าองค์ก่อนและนักรบชั้นยอดบาร์ดัคคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด

ราชาเบจิต้าเป็นที่นิยมในหมู่ชาวไซย่า ในขณะที่บาร์ดัคมีวิจารณญาณที่ชาวไซย่าขาด สัมผัสของความเป็นมนุษย์ บวกกับพลังแห่งการทำนายที่เขาได้รับจากคานาสซัน

เมื่อมีพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน มีความเป็นไปได้สูงที่ความทะเยอทะยานของไซย่าจะถูกกันเอาไว้ และพวกเขาคงจะไม่สร้างปัญหา

ส่วนพารากัส…

ผู้ชายคนนี้ไม่มีพลัง แต่ โบลี่ ลูกชายของเขาคือระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่บน ดาวเคราะห์เบจีต้า

โบลี่ ซึ่งมีอายุเพียง 1 ปีมีระดับพลัง 10,000 แล้ว ในห้าปี เด็กคนนี้จะเติบโตเป็นชาวไซย่าที่ทรงพลังอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาจะเต็มไปด้วยอันตรายด้วย ความประมาทเลินเล่อเพียงเล็กน้อยอาจทำลาย ดาวเคราะเบจีต้า ได้

ดังนั้น แผนของ หลินเฉิน คือทำให้โบลี่ไปที่อื่น เพื่อที่เขาจะได้เติบโตอย่างสงบสุขที่นั่น

ตามโครงเรื่องในความทรงจำของ หลินเฉิน ตราบใดที่โบลี่ไม่ถูกยั่วยุ เขาก็จะกลายเป็นเด็กที่ชอบพูดคุยกับผู้อื่น กตัญญู และให้ความสำคัญกับมิตรภาพ บุคลิกของเขาคล้ายกับโกคูมาก

เขาไม่เหมาะที่จะอยู่ร่วมกับชาวไซย่าที่ดุร้ายและโหดร้าย แต่ควรอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์ที่สงบสุข

หลังจากจัดให้ พารากัซเป็นผู้ดูแลของชาวไซย่าและทำให้เขาเป็นคนที่สามรองจาก ราชาเบจีต้า และ บาร์ดัค หลังจากที่เขาจากไป หลินเฉินก็บอกถึงสิ่งที่เขาต้องการทำกับโบลี่

ส่วนเรื่องความตั้งใจของหลินเฉิน พารากัซไม่สงสัยในตัวเขาเลย

หากไม่ใช่เพราะหลินเฉิน พ่อและลูกชายของพวกเขาคงถูกราชาเบจิต้าเนรเทศไปแล้ว

ติดตามเป็นกำลังใจให้ผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:BamแปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด