ตอนที่แล้วบทที่ 14 ควบคุมอารมณ์ (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 15 งานประดิษฐ์ข้าวโพด

บทที่ 14 ควบคุมอารมณ์ (2)


ในตอนที่เดินลงมาจากชั้นบน ฮุยมาม่ายังไม่ทันจะเดินลงบันไดไป

“แม่...แม่นางเสิ่น...” ก่อนหน้านี้ฮุยมาม่าได้ยินอย่างชัดเจน ที่จริงแล้วในตอนที่ท่านอ๋องมาป้อนยาให้กับคุณชายเจ็ด จะเป็นการบีบบังคับเสียส่วนมาก บางครั้งก็อดทนพูดกับคุณชายเจ็ด แต่การกินยาอย่างราบรื่นเช่นวันนี้น้อยครั้งนักที่จะได้เห็น แม่นางเสิ่นผู้นี้มีความสามารถอยู่บ้าง แต่ยิ่งมีความสามารถ ฮุยมาม่าก็ยิ่งรู้สึกกังวลอยู่ภายในใจ

ความรู้สึกกังวลนี้ ไม่ใช่ว่าไม่หวังดีต่อคุณชายเจ็ด คุณชายเจ็ดสามารถดื่มยาได้ ความรู้สึกที่หนักอึ้งอยู่ภายในใจฮุยมาม่าย่อมผ่อนคลายลง ทว่านางก็ยังรู้สึกสับสน

ในตอนที่ฮูหยินคลอดคุณชายเจ็ดนั้นเป็นการคลอดก่อนกำหนด ทำให้ร่างกายบาดเจ็บ รักษาไม่หายดีเสียที ต่อมาฮูหยินก็จากโลกนี้ไป จึงเป็นนางที่คอยเลี้ยงดูคุณชายเจ็ดตลอดมา

แม่นางเสิ่นเพิ่งได้พบกับคุณชายเจ็ดเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำให้คุณชายเจ็ดกินยาได้ แต่เมื่อผ่านความรู้สึกแปลกใหม่นี้ไปแล้ว บางทีอาจจะใช้ไม่ได้ผลอีก

ที่จริงแล้วฮุยมาม่ารู้สึกกังวลใจ

โดยเฉพาะเมื่อได้ยินช่วงสุดท้ายนั้น ที่บอกว่าจะพาคุณชายเจ็ดไป ‘โรงเรียนอนุบาล’ ความกังวลของฮุยมาม่าจึงยังคงมีอยู่ คุณชายเจ็ดจะไปจากนางไม่ได้ หากไปโรงเรียนอนุบาลนั่นแล้ว แม้แม่นางเสิ่นจะอดทนได้หนึ่งครั้ง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีความอดทนต่อเด็กทุกครั้ง นางกลัวว่าจะเป็นเหมือนโมโม่คนก่อนมากที่สุดที่เพียงเอาใจต่อหน้าเจ้านาย แต่ลับหลังกลับกล้าใส่สิ่งของลงไปในน้ำ เรื่องเช่นนี้ก็ยังทำลงไปได้...

ฮุยมาม่ารู้สึกกังวลอยู่ตลอดเวลา

“ฮุยมาม่า มีเรื่องอยากจะพูดกับท่านพอดี ท่านสะดวกคุยด้วยหรือไม่?” เสิ่นเยว่เดินลงบันไดไปพร้อมกับฮุยมาม่า

มีผู้ดูแลจวนเถาอยู่ ฮุยมาม่าไม่สามารถพูดอะไรมากได้ จึงได้แต่พยักหน้า

เสิ่นเยว่ตั้งใจหลบเลี่ยงผู้ดูแลจวนเถา ภายในใจฮุยมาม่าจึงรู้สึกว่าคาดเดาความคิดของนางไม่ได้

ที่ชั้นล่าง เสิ่นเยว่อธิบายสถานการณ์ให้ฮุยมาม่าฟังก่อน “เสี่ยวชีกินยาเรียบร้อยแล้ว ชุนอวี่กำลังดูแลอยู่ ฮุยมาม่าไม่ต้องเป็นกังวลมากไป”

ฮุยมาม่ากระแอมเบาๆ แล้วพยักหน้าให้กับนาง

เสิ่นเยว่ยิ้มพลางกล่าวอีกครั้ง “อีกประเดี๋ยวข้าจะไปเรือนเถาจือสักหน่อย พรุ่งนี้ไม่แน่ว่าจะมาที่นี่ได้ มีหลายอย่างที่อยากจะพูดกับฮุยมาม่าก่อน”

ในดวงตาฮุยมาม่าแสดงความตกใจเล็กน้อย “แม่นางเสิ่น...ยังต้องไปที่เรือนเถาจืออีกหรือ?”

ก่อนหน้านางคิดว่าการไปเรือนเถาจือและเรือนฉงฮวาเป็นเพียงฉากบังหน้า คิดว่าท่านอ๋องและผู้ดูแลจวนเถาทำไปเพื่อต้องการให้แม่นางเสิ่นดูแลคุณชายเจ็ด แต่เมื่อฟังจุดประสงค์ของแม่นางเสิ่นแล้ว ดูเหมือนจะไม่ใช่เช่นนั้น...

เสิ่นเยว่ยิ้ม “เมื่อวานรับปากเถาเถาว่าวันนี้จะไปพบนาง นี่ก็ดึกแล้ว อีกสักพักเถาเถาต้องเข้านอน ไม่สามารถรั้งรอเวลาได้ มิเช่นนั้นจะกลายเป็นคนไม่รักษาคำพูด”

มุมปากฮุยมาม่าแย้มออกเล็กน้อย

เสิ่นเยว่พูดอย่างกระชับ “ฮุยมาม่า สถานการณ์ของเสี่ยวชีก่อนเข้าโรงเรียนอนุบาล ข้าอยากจะหาเวลาพูดคุยรายละเอียดกับท่านสักหน่อย รวมถึงการอยู่อาศัย ความเคยชินในการดื่มกิน ความชอบส่วนตัวที่เป็นปกติของเสี่ยวชี เพื่อเป็นการประเมินสถานการณ์โดยรวมของเสี่ยวชีก่อนเข้าโรงเรียน เพราะในโรงเรียนอนุบาลกับในเรือน คนที่เด็กต้องเผชิญหน้าแตกต่างกัน นิสัยที่แสดงออกจึงแตกต่างกันไป ดังนั้นหวังว่าก่อนเสี่ยวชีเข้าโรงเรียนจะได้แบ่งปันความคิดเห็นเรื่องเหล่านี้กับท่าน”

ฮุยมาม่าชะงักไป “โรงเรียนอนุบาลกับในเรือน?”

ไม่ใช่ว่าจะรับเสี่ยวชีไป?

ในดวงตาฮุยมาม่าแสดงความประหลาดใจ

เสิ่นเยว่กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน “ถูกต้อง ทุกวันประมาณยามเฉินจะต้องรบกวนฮุยมาม่านำเสี่ยวชีมาส่งที่ข้า ประมาณยามโย่ว [1] ซานเค่อ [2] หลังจากที่เสี่ยวชีรับประทานอาหารเย็นที่โรงเรียนอนุบาลแล้ว ฮุยมาม่าค่อยมารับเสี่ยวชีกลับเรือนซือจู๋”

ยามเฉินถึงยามโย่วซานเค่อ...

ฮุยมาม่าคล้ายกับมีการตอบสนอง “มิใช่ว่าส่งตัวคุณชายเจ็ดไปโรงเรียนอนุบาลโดยตรงหรือ?”

เสิ่นเยว่หัวเราะพลางกล่าว “ไม่ใช่เจ้าค่ะ โรงเรียนอนุบาลและในเรือนล้วนเป็นสภาพแวดล้อมในการเติบโตของเสี่ยวชี ขาดไปไม่ได้แม้แต่อย่างเดียว ในโรงเรียนอนุบาลเสี่ยวชีจะได้ทดลองเล่นเกม เรียนรู้การทำงานอย่างอิสระ เรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้อื่นและเด็กคนอื่นๆ ในจวน ส่วนภายในเรือนก็จะยังเป็นฮุยมาม่าที่คอยดูแลการอยู่อาศัยของเขาไม่ต่างจากตอนนี้ สามารถเข้าใจได้ว่าโรงเรียนอนุบาลเป็นโรงเรียนส่วนตัวในจวนของเด็กเล็ก แต่ก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ในโรงเรียนข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวชี เถาเถา และเสี่ยวอู่”

สีหน้าของฮุยมาม่าคล้ายกับผ่อนคลายลงครึ่งหนึ่ง “ที่แท้...โรงเรียนอนุบาลก็หมายความว่าเช่นนี้...”

เสิ่นเยว่กล่าวอีกครั้ง “โรงเรียนอนุบาลและภายในเรือนสำหรับเสี่ยวชีล้วนเป็นสภาพแวดล้อมที่สำคัญมาก ทุกเดือนข้าจะหาเวลาเล่าถึงรายละเอียดสถานการณ์ของเสี่ยวชีในหนึ่งเดือน แต่ก็ยังมีจุดที่ต้องขอความร่วมมือจากฮุยมาม่าอยู่”

“เช่นนั้นก็ดีมาก” ฮุยมาม่าแสดงรอยยิ้มที่หาได้ยากออกมา

เมื่อเห็นว่าฮุยมาม่าไม่มีท่าทีถือสานางเช่นก่อนหน้านี้ เสิ่นเยว่จึงพูดอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง “ฮุยมาม่า หากเป็นเช่นตอนนี้ท่านจะต้องยิ้มเมื่ออยู่ต่อหน้าเสี่ยวชีให้มาก และต้องคอยให้กำลังใจเขาทำกิจกรรมที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เขาจะได้มีความมั่นใจมากขึ้น ไม่มีทางคิดว่าตนเองเป็นเด็กร่างกายอ่อนแออีก การที่เสี่ยวชีคิดว่าตนเองอ่อนแอก็เป็นเพราะเหตุนี้ เด็กเล็กจะเลียนแบบท่าทางและวิธีจัดการเรื่องเรื่องหนึ่งของผู้ใหญ่เป็นพิเศษ หากผู้ใหญ่ท้อถอย เขาเองก็จะรู้สึกว่าอาการป่วยเป็นเรื่องที่ผ่านไปได้ยากลำบาก หากผู้ใหญ่ให้กำลังใจมากขึ้น บอกว่าเขากล้าหาญ เอาชนะอาการป่วยได้ เช่นนั้นเขาก็จะรู้สึกว่าตนเองมีความสามารถในการจัดการปัญหาที่ยากเย็นในภายภาคหน้าโดยมีผู้ใหญ่คอยให้ความช่วยเหลือและให้ความร่วมมือ”

“ฮุยมาม่า ท่านสำคัญต่อเสี่ยวชีมาก ดังนั้นในภายภาคหน้าเราอยากให้เสี่ยวชีเติบโตมามีนิสัยอย่างไร ก็จำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากัน เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้ทดลองควบคุมและปรับเปลี่ยนอารมณ์ของตนเอง” เสิ่นเยว่กล่าวเสียงเบา “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพื่อเสี่ยวชี พวกเราจำเป็นต้องฝึกฝน”

……

จากที่ไกลๆ เถาตงโจวเห็นฮุยมาม่าพยักหน้าให้เสิ่นเยว่ไม่หยุด

ก่อนหน้านี้เถาตงโจวกังวลใจว่าเพราะนิสัยของฮุยมาม่า นางอาจคิดถือสาเสิ่นเยว่ แต่ตอนนี้คล้ายกับว่าเขาจะคิดมากไป

ประจวบเหมาะที่มีเสี่ยวซือเดินมา “ผู้ดูแลจวนเถา เมื่อครู่ท่านอ๋องสั่งให้คนกลับมาบอกว่าเขาไปพบองค์หญิงหกแล้ว วันนี้เกรงว่าจะกลับจวนดึกสักหน่อย หากแม่นางเสิ่นยังอยู่ ขอให้ผู้ดูแลจวนเถาพาแม่นางเสิ่นไปปลอบใจคุณชายเจ็ดสักหน่อย ดูว่าสามารถทำให้คุณชายเจ็ดกินยาได้หรือไม่”

เถาตงโจวยิ้มเล็กน้อย “ตอบกลับท่านอ๋องไป แม่นางเสิ่นสามารถทำให้คุณชายเจ็ดกินยาได้แล้ว ท่านอ๋องโปรดวางใจ”

-------------------------------------

(1) ช่วง 17.00 น. - 19.00 น.

(2) 45 นาที

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด