ตอนที่ 81 พี่ชายของคุณรู้หรือไม่
ระหว่างทางกลับ เฉินเจียงไฮ่บังเอิญผ่านที่ทำการโทรมานาคม เขาคิดบางอย่างและหยุดรถจักรยาน
หลังจากเดินไปมารอบๆประตู ในที่สุดเฉินเจียงไฮ่ก็เข็นจักรยานไปจอดข้างถนนและเดินเข้าไปในที่ทำการโทรมานาคม
หลังเข้าไป เฉินเจียงไฮ่ก็เดินไปที่ตู้โทรศัพท์ เฉินเจียงไฮ่ลังเลอยู่นานและกดหมายเลขสองสามหมายเลข
แต่ก่อนที่สายจะติด เฉินเจียงไฮ่ก็ทำการวางสายไป
ตอนนี้ เฉินเจียงไฮ่ยังไม่พร้อมที่จะติดต่อพ่อแม่ของเขา
ต้องรู้ว่าครอบครัวของเฉินเจียงไฮ่ในตอนนี้ค่อนข้างไปได้ดี ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่สามารถให้ของขวัญของหมั้นมากมายเพื่อแต่งงานกับภรรยาที่สวยงามอย่างหลินว่านชิวได้
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา เฉินเจียงไฮ่มักจะเพ้อฝันเกี่ยวกับการทำเงินให้ได้มากๆและเอาเงินของครอบครัวไปลงทุน แต่การที่เขาทำอย่างนั้น เขาเกือบจะสูญเสียทรัพย์สินของครอบครัวที่มีไปทั้งหมด
สิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับเขาอย่างสิ้นเชิงคือการที่เขาขายบ้านของพวกเขาไปเพื่อทำธุรกิจของเขา
ผลลัพธ์ก็ชัดเจน มีเพียงแค่สี่คำ ‘สูญเสียทุกอย่าง’
ชายชราทั้งสองมองดูบ้านของบรรพบุรุษพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้ พวกเขามีแต่คำว่าสิ้นหวังอยู่ในใจ
ด้วยเหตุนี้เองที่พี่ชายของเฉินเจียงไฮ่พาชายชราทั้งสองคนไปด้วยความโกรธ และกันไม่ให้เฉินเจียงไฮ่เจอกับพวกเขาอีก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอาจกล่าวได้ว่าครอบครัวนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับเฉินเจียงไฮ่อีก
เฉินเจียงไฮ่หายใจเข้าลึกๆจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดต่อสายตาที่สิ้นหวังของพ่อแม่เขาในตอนนั้น
บางทีพวกเขาอาจไม่ต้องการที่จะจำหรือเห็นลูกชายคนนี้อีกต่อไป
ปัง
เฉินเจียงไฮ่วางโทรศัพท์และยืดตัวขึ้นด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง พร้อมที่จะออกจากที่ทำการโทรมานาคม
เมื่อเดินไปที่ประตู เฉินเจียงไฮ่ก็หยุดกะทันหันแล้วหันกลับมา
พ่อแม่ของเขานั้นแก่แล้วและเขาไม่ได้กตัญญูเลยแม้แต่วันเดียว
ในที่สุดเขาก็ทำเงินได้บ้างแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องส่งเงินไปให้พ่อแม่บ้าง
เมื่อเขาไปที่เคาน์เตอร์ เฉินเจียงไฮ่หยิบรายการโอนเงินมา เขียนชื่อที่อยู่ของพี่ชาย แล้วควักเงินห้าร้อยหยวนออกมา
เมื่อถึงตอนให้กรอกชื่อผู้ส่งเงิน เฉินเจียงไฮ่ก็ลังเลขึ้นมาและไม่ได้เขียนชื่อของตัวเองลงไป
ถ้าเขาเขียนชื่อเขาเอง เขาเกรงว่าพี่ชายของเขาคงจะไม่รับเงิน
หลังจากเสร็จเรียบร้อย เฉินเจียงไฮ่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
สิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ได้ทำลายหัวใจพ่อแม่และพี่ชายของเขา เขาตัดสินใจที่จะชดเชยความผิดพลาดนี้ด้วยความพยายามของเขาทั้งหมด
...
เมื่อเขามาถึงโกดัง จ้าวฉางกุ่ยนั่งหน้าประตูบนเก้าอี้ตามปกติ
เมื่อเขาเห็นเฉินเจียงไฮ่มา เขาก็ทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อย แม้ว่าเฉินเจียงไฮ่จะกล่าวทักทายเขาไปแล้วก็ตาม
เฉินเจียงไฮ่คิดว่าบุคลิกที่น่าเบื่อและแข็งเป็นไม้ของจ้าวฉางกุ่ยคงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้
“พี่เจียงไฮ่ พี่มาแล้วเหรอ!” จ้าวหยู่ซีที่อยู่ภายในตะโกนอย่างมีความสุข
เฉินเจียงไฮ่ยิ้ม "หยูซี วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอ?"
“พี่เจียงไฮ่ มันยังปิดเทอมฤดูร้อนอยู่เลย!” จ้าวหยู่ซีทำปากมุ่ย
เฉินเจียงไฮ่ตบหน้าผาก "ฮ่าฮ่า ฉันลืมไปว่าไม่ต้องไปเรียนในช่วงวันหยุดฤดูร้อน"
ในปัจจุบัน นักเรียนไม่มีโรงเรียนกวดวิชาให้เรียนมากนักในช่วงวันหยุด โดยปกติแล้ว พวกเขาเพียงทำการบ้านภาคฤดูร้อนให้เสร็จอยู่ที่บ้าน อย่างมากที่สุดพวกเขาสามารถซื้อหนังสือและเรียนรู้ด้วยตัวเอง
แน่นอนว่าความยากของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นก็ไม่ได้น้อยเลย แถมยังเป็นสะพานไม้แผ่นเดียวอีกด้วย คุณอาจจะตกไปตอนไหนก็ได้
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เฉินเจียงไฮ่ก็อดไม่ได้ที่จะจู้จี้ขึ้นมา
“หยู่ซี พี่ชายของเธอทำงานหนักเพื่อให้เธอได้เรียนหนังสือ เธอต้องตั้งใจเรียนและเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีให้ได้นะ”
จ้าวหยู่ซีขมวดคิ้ว: "พี่เจียงไฮ่ ทำไมพี่ต้องพูดด้วยน้ำเสียงเดียวกับครูในโรงเรียนด้วย"
เฉินเจียงไฮ่อดไม่ได้ที่จะโบกมือ "ตกลง ฉันจะไม่พูดอีกแล้ว เธออ่านหนังสือต่อเถอะ!"
หลังจากนั้น เฉินเจียงไฮ่ก็เริ่มยุ่งกับงานของตัวเองต่อ
สองวันที่ผ่านมามีหลายอย่างมากเกินไป เฉินเจียงไฮ่ไม่มีเวลารื้อทีวีหลายเครื่องที่เข้ามาเลย
แต่ตอนนี้ หลินว่านชิวบอกว่าเธอจะทำอาหารเย็นแทน ทัศนคติของเธอก็มั่นคงมาก ดังนั้นเฉินเจียงไฮ่ทำได้เพียงแค่ตกลงเท่านั้น
ด้วยเหตุผลนี้เขาสามารถทำงานได้อย่างสบายใจ
เฉินเจียงไฮ่ที่กำลังยุ่งอยู่ภายใน แต่มีเสียงของจ้าวฉางกุ่ยดังมาจากข้างนอก
“ฉางกุ่ยกำลังพูดกับใครอยู่ข้างนอกรึเปล่า?”
เฉินเจียงไฮ่อดไม่ได้ที่จะถามจ้าวหยู่ซีที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ
จ้าวหยู่ซีฟังอย่างระมัดระวังแล้วพูด "ใช่ เป็นเสียงของพี่ชาย"
“เฮ้ พี่ชายของเธอรู้แจ้งแล้วเหรอ”
เฉินเจียงไฮ่รู้สึกประหลาดใจ "ทำไมเขาพูดคุยกับคนอื่นได้ แต่กับฉัน เขากลับไม่พูดอะไรด้วยสักคำ"
จ้าวหยู่ซีมองไปที่เฉินเจียงไฮ่และยิ้มอย่างสนุกสนาน "พี่ชายของหนูบอกว่าพี่ฉลาดเกินไป เขาไม่สามารถเข้าใจได้เมื่อพูดคุยกับพี่"
เฉินเจียงไฮ่พูดไม่ออก การประเมินแบบนี้คืออะไร...
“ฉันจะไปดูสักหน่อย”
เฉินเจียงไฮ่รู้สึกสงสัยว่าใครคือคนที่ทำให้จ้าวฉางกุ่ยที่สนทนาด้วยมากมาย
จ้าวหยู่ซีไม่ได้สนใจและอ่านหนังสือต่อ
เมื่อเขาเดินออกไปนอกประตู เขาเห็นชายวัยกลางคนอายุราวๆสามสิบปียืนอยู่ข้างๆจ้าวฉางกุ่ย
เป็นชายสวมแว่นตา เสื้อผ้าของเขาเรียบร้อยมาก และผมของเขาถูกหวีอย่างพิถีพิถัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านั่งของเขาที่หลังตั้งตรงเหมือนกับเสา เหมือนทหารคนหนึ่ง
เมื่อเห็นเฉินเจียงไฮ่ออกมา จ้าวฉางกุ่ยรีบแนะนำด้วยน้ำเสียงอู้อี้ "นี่คือพี่ชายเฉิน และนี่คือเหลียงห่าวหยางเพื่อนของผม"
เป็นบทแนะนำที่กระชับมาก ตรงตามสไตล์ของจ้าวฉางกุ่ย
ด้วยน้ำเสียงของจ้าวฉางกุ่ย สายตาของชายคนนั้นจับจ้องไปที่เฉินเจียงไฮ่
เฉินเจียงไฮ่เดินเข้ามาและทักทายอย่างอบอุ่น "สวัสดี"
เหลียงห่าวหยางหัวเราะออกมาและกล่าวทักทาย "สวัสดี สวัสดี"
"บุหรี่!"
เฉินเจียงไฮ่กำลังหยิบบุหรี่ออกมายื่นให้ แต่ชายคนนั้นเอื้อมมือไปหยุดไว้
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้สูบ”
เหลียงห่าวหยางยิ้มและปฏิเสธออกมา
เฉินเจียงไฮ่ไม่ได้บังคับเช่นกัน เขายื่นบุหรี่ไปให้จ้าวฉางกุ้ยแทน
จ้าวฉางกุ่ยหยิบบุหรี่ขึ้นมาเหน็บไว้หลังหู ไม่ได้รีบจุดไฟ
เฉินเจียงไฮ่ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาทำการจุดบุหรี่ขึ้นมา
เหลียงห่าวหยางที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้วและรีบถอยหลังไปสองก้าว
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ เฉินเจียงไฮ่เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง เขารีบดับบุหรี่ทันที
เหลียงห่าวหยางผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของเฉินเจียงไฮ่ จากนั้นเขาก็กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
“พวกนายคุยกันต่อเถอะ ฉันแค่ออกมาสูบบุหรี่” เฉินเจียงไฮ่พูดด้วยท่าทางปกติ
เหลียงห่าวหยางมองไปที่เฉินเจียงไฮ่ "พี่เฉิน ผมได้ยินฉางกุ่ยพูดถึงพี่หลายครั้งแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน"
“เขาพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับฉันรึเปล่า” เฉินเจียงไฮ่พูดหยอกล้อออกมา
เหลียงห่าวหยางโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า: "ไม่ ไม่ เขาบอกว่าพี่มีความสามารถมาก พี่เป็นคนที่มีความสามารถจริงๆ!"
"ใช่ๆ มีความสามารถจริงๆ" จ้าวฉางกุ่ยกล่าวเพิ่มด้วยเสียงที่หยาบ
เฉินเจียงไฮ่ถอนหายใจแรงออกมาอย่างเกินจริง "เฮ้! มันไม่ง่ายเลยที่ฉันจะได้ยินสิ่งนี้ออกจากปากของจ้าวฉางกุ่ย!"
"มันเป็นความจริง"
เห็นได้ชัดว่าจ้าวฉางกุ่ยไม่เข้าใจว่าเฉินเจียงไฮ่ล้อเล่นกับเขาอยู่ เขาจึงพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
เฉินเจียงไฮ่เพียงยิ้มและเปลี่ยนเรื่องทันที "น้องเหลียงทำงานที่ไหน?"
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของเหลียงห่าวหยางก็อายขึ้นมาเล็กน้อย