ตอนที่แล้วยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 696 ไปหรืออยู่ (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 698 จักรวรรดิที่น่าขยะแขยง(ฟรี)

ยอดยุทธคลิกเดียว!! ตอนที่ 697 แผนรวมดินแดน(ฟรี)


เป็นเรื่องโง่เขลามากที่จะเผชิญหน้ากับผู้ส่งสาร ต่อให้มีเวลาอีกร้อยปีก็ตาม

หลังจากที่จ้าวปกครองคนอื่นๆ จากไปแล้ว หยางเซิงก็ขอคุยกับซู่เสี่ยวไป่เป็นการส่วนตัว เพื่อจะยืนยันคำตอบของเขาอีกครั้ง

“ท่านจ้าวหนึ่งปฐพี ท่านจริงจังอย่างงั้นรึ? เมื่อตัวตนตำนานมาถึง แม้แต่ข้าเองก็ยังไม่มั่นใจเลยด้วยซ้ำว่าจะต้านทานเขาได้”

“ท่านหยางเซิง ข้าตัดสินใจแล้ว ท่านอย่าได้พูดให้เหนื่อยเปล่าอีกเลย”

ซู่เสี่ยวไป่ไม่ลังเลเลยที่จะตอบกลับ

“หากว่าท่านจะพูดเกลี้ยกล่อมข้า สู้ท่านบอกข้อมูลอันสำคัญให้ข้าฟังจะดีกว่า เมื่อข้าเข้าใจทุกอย่างแล้วข้าก็จะไป”

หยางเซิงนั้นรู้ว่าควรทำเช่นไรในสถานการณ์แบบนี้ มีแต่ต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น แม้ว่าความหวังจะน้อยนิดแต่ตัวตนนี้ก็เต็มใจที่จะอยู่ และปกป้องดินแดนแห่งนี้ต่อไป ถึงแม้ว่าจะไม่ต่างจากแมงเม่าที่รอเปลวไฟ

“ถ้างั้น ข้าจะบอกทุกอย่างที่ท่านอยากรู้”

ซู่เสี่ยวไป่จึงยิงคำถามทันที

“ผู้ส่งสารนั้นมีเขตแดนอะไรกันแน่ และตัวตนสูงส่งอีกหกคนที่เหลือคือใคร มีใครอยู่ภายใต้คำสั่งของเขาอีก”

หยางเซิงเองก็ตกใจกับคำถามเหล่านี้

“เหตุใดถึงถามเช่นนี้เล่า ผู้ส่งสารนั้นแท้จริงแล้วคือเขตแดนจ้าวภัยพิบัติแต่ขอบเขตพลังของเขาเหนือกว่าข้าไปแล้ว จักรวรรดิตำนานทั้งหกแห่ง ข้าจะระบุให้ในแผนที่ดวงดาวที่จะมอบให้ท่านต่อไป”

หยางเซิงรับรู้ได้ถึงเจตนาของซู่เสี่ยวไป่ แต่เขาไม่ได้พูดออกไปทั้งหมด เพราะบางสิ่งก็พูดไม่ได้

ซู่เสี่ยวไป่รับแผนที่ดวงดาวมา พร้อมกับเปิดออกดูอย่างใจเย็น เห็นตำแหน่งของอาณาจักรหนึ่งปฐพีเป็นเพียงจุดสีดำเล็กๆ ขนาดเท่าเมล็ดงาเท่านั้น และที่ไม่ไกลจากกลุ่มของจักรวรรดิระดับสูงมีจักรวรรดิตำนานสี่แห่ง

“อยู่ใกล้ขนาดนี้ ไม่แปลกเลยทำไมผู้ส่งสารถึงมาที่นี่”

หยางเซิงกล่าวเตือนอีกครั้ง

“ขออภัยด้วยท่านหนึ่งปฐพี ข้าอยากเตือนอะไรท่านสักอย่าง ผู้ส่งสารนั้นทรงพลังมาก และมีขุมอำนาจที่แข็งแกร่งกว่านั้นอยู่อีก หากเปลี่ยนใจ ข้าให้เวลาท่านคิดอีกครึ่งปีเพื่อร่วมกับข้า”

เมื่อพูดหยางเซิงก็เดินก้มหัวแล้วจากไป

หลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดมาแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ก็เริ่มแผนการฟื้นฟูดินแดนนี้ใหม่อีกครั้ง

เขาส่งร่างเงาออกไปยังสองจุดที่อยู่ใกล้ที่สุดในแผนที่ดวงดาว

ในเวลาเดียวกัน เมื่อการประชุมสิ้นสุดลง ทุกจักรวรรดิระดับสูงเองก็ตกอยู่ในความโกลาหลไปหมด ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากถูกเลือกให้ออกเดินทาง เพื่อแสวงหาที่อยู่ใหม่

แต่ก็มีบางคนที่คิดแบบซู่เสี่ยวไป่และจะอยู่เพื่อสู้ตายในดินแดนบ้านเกิด

เมื่อเฉี่ยวเห้อมองผ่านอุปกรณ์วิเศษไปยังพื้นที่เก่าแก่ มันก็ได้แต่ร้องออกมา

“บางจักรวรรดิก็ไม่พาทุกคนไป บางจักวรรดิก็เลือกที่จะทิ้งความหวังและอยู่สู้ตายที่นี่”

ซื่อหลิงเองก็เตรียมการทุกอย่างเงียบๆ แม้ว่าเขาไม่เลือกที่จะจากไป แต่ทุกวันก็มีเรื่องเกิดขึ้นตลอด

และแน่นอนเพราะซู่เสี่ยวไป่ตัดสินใจแล้วด้วย พวกมันก็ต้องเลือกเช่นเดียวกับนายของมัน

หลายดินแดน หลายจักรวรรดิรอบๆ ตัวซู่เสี่ยวไป่ กลายเป็นดินแดนว่างเปล่า ซู่เสี่ยวไป่จึงส่งกองทัพเข้าไปยึดครองทันที

แล้วยิ่งเป็นจักรวรรดิระดับสูงที่ทอดทิ้งดินแดนไปแล้ว ซู่เสี่ยวไป่ยิ่งให้ความสนใจเพราะครั้งหนึ่งมันคือดินแดนที่ถูกปกครองโดยจ้าวภัยพิบัติระดับสูง ทั้งอารยธรรม ความเจริญต่างๆ ยังคงหลงเหลืออยู่ในดินแดนเหลานั้น ป้อมปราการอีกมากมาย หากผนวกทั้งหมดเข้าด้วยกันมันจะกลายเป็นปราการเหล็กที่ยากจะทำลาย

“หึๆ เหลือเวลาอีกไม่ถึงร้อยปี ถ้าเขาอยากเป็นจ้าวแห่งดินแดนว่างเปล่าก็ปล่อยเขาไปเถอะ”

“ผู้ส่งสารคนนั้นจะกลับมา และถึงเวลานั้นทุกอย่างจะถูกกวาดล้างจนหมด”

“อย่าได้เสียเวลาสนใจคนโง่เขลาผู้นี้อีกเลย รีบไปหาดินแดนใหม่อยู่กันเถอะ”

จ้าวปกครองทั้งหมดที่ตัดสินใจเข้าร่วมกับหยางเซิงนั้นมองการกระทำของซู่เสี่ยวไป่ไม่ต่างจากคนเสียสติ ก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทางไปหาดินแดนแห่งใหม่

และเวลาก็ได้ผ่านไปครึ่งปี เกือบ 8 ใน 10 ส่วนของจักรวรรดิระดับสูงทั้งหมดถูกปล่อยทิ้งร้าง

คนที่ยังอยู่ก็ออกล่าดินแดน ถึงขั้นต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงพื้นที่ก็มี ซึ่งทำให้ซู่เสี่ยวไป่คิดว่าแม้แต่ในเวลาแบบนี้พวกเขาก็ยังสู้กันเอง ช่างเป็นเรื่องน่าขันยิ่งนัก

แต่นั้นอาจจเป็นหนทางระบายอารมณ์ของพวกเขาก็ได้

หลังจากที่กลุ่มพันธมิตรของหยางเซิงจากไป ก็เกิดไฟสงครามลุกโชนไปทั่ว และศพของจ้าวภัยพิบัติก็กองเป็นภูเขา ช่างเป็นภาพที่น่าอดสูอย่างมาก

ปีแรกผ่านไปทุกคนที่ยังอยู่ก็ไม่นิ่งนอนใจ ทุกคนเริ่มสะสมทรัพยากรทุกอย่างที่จะหาได้ และไม่สนใจวิธีที่จะได้มาต่อให้ต้องปล้นมาก็ตาม

แม้แต่ซู่เสี่ยวไป่เองก็ยังรวบรวมทรัพยากรเพื่อสร้างแนวป้องกัน เขาหามาจากทั้งที่ขุดได้จากดินแดนที่เพิ่มขึ้น และจากจ้าวภัยพิบัติที่พยายามบุกเข้ามาปล้นเขา

และซู่เสี่ยวไป่ปรับปรุงม่านพลังให้แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน แต่ละชั้นของม่านพลังนั้นสิ้นเปลืองทรัพยากรอย่างมาก แต่ด้วยพื้นที่ทรัพยากรที่ได้มาทำให้การกางม่านพลังสำเร็จไปได้ด้วยดี

ข่าวการดิ้นรนของจักรวรรดิที่เหลือได้ไปถึงหูของผู้ส่งสาร เขาเพียงแค่พ่นลมหายใจอย่างดูถูกออกมา

“อยากทำอะไรก็ทำไป อยากจะสร้างอะไรก็สร้างพวกแกมีเวลาแค่ร้อยปี ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำซะ ก่อนที่จะไม่ได้ทำ เมื่อถึงเวลาข้าผู้นี้จะเอาทุกสิ่งกลับคืนมาเอง และเมื่อข้าไปถึงก็อย่าหาว่าข้าอำมหิตก็แล้วกัน”

พริบตาเดียว หนึ่งปีก็ผ่านไป ซู่เสี่ยวไป่เป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ปกครองจักรวรรดิระดับสูงถึง 31 จักรวรรดิ

มีหลายดินแดนที่จ้าวปกครองทอดทิ้งประชาชนในดินแดนของเขาเอาไว้ และซู่เสี่ยวไป่ก็รับมาเป็นคนของเขาด้วย

การมาของซู่เสี่ยวไป่นั้นยังเปลี่ยนชะตากรรมของผู้คนในดินแดน และผู้คนที่ถูกทอดทิ้งก็รู้จักวิธีการสู้เพื่อรับมือกับพวกที่เข้ามาปล้นชิงทรัพยากรจากพวกเขา

“นายท่าน ท่านต้องการจะเปลี่ยนประชาชนพวกนี้เป็นทหารทั้งหมดเลยงั้นหรอ? แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับต่ำท่านก็ยังเกณฑ์มา”

เฉี่ยวเห้อคำนวนจำนวนผู้ฝึกตนที่ถูกเกณฑ์มานับได้เป็นหน่วยหมื่นล้าน ซึ่งมากมายเกินคณานับ

กองกำลังทั้งหมดนี้เพียงพอแล้วที่จะรักษาฐานอำนาจของจักรวรรดิได้ แต่พูดกันตามความจริงหากต้องเผชิญหน้ากับเขตแดนตำนานก็ยังไม่อาจจะรับมือได้

แต่ทั้งหมดนี้เป็นการเตรียมรับมือการมาของผู้ส่งสาร ดังนั้นซู่เสี่ยวไป่จำเป็นจะต้องใช้ทุกอย่างที่มี

แนวป้องกันของซู่เสี่ยวไป่ใหญ่ขึ้นทุกวัน และแข็งแกร่งขึ้น แต่ถึงอย่างงั้นเสียงของสงครามก็ไม่เคยหยุด และยังมีเสียงสัญญาณดังอยู่เสมอ

เพราะการขยายตัวของอาณาเขตของซู่เสี่ยวไป่มันได้ไปทับซ้อนกับพื้นที่ของจักรวรรดิระดับสูงอื่นอีก 10 แห่ง

และตอนนี้มีพื้นที่หนึ่ง ที่หลายคนอยากได้เอามาไว้ในครอบครอง เป็นพื้นที่ง่ายต่อการป้องกัน และบุกได้ยากอีกทั้งยังเต็มไปด้วยทรัพยากร ทางหนีก็มีพร้อม และสะดวกง่ายดาย

ทำให้หลายจักรวรรดิกำลังเล็งมาที่พื้นที่แห่งนี้กันตาเป็นมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด