ตอนที่แล้วตอนที่ 60 เกี่ยวอะไร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 62 จะกลายเป็นครอบครัวเงินล้านแล้ว?

ตอนที่ 61 ฉันไม่ใช่เด็ก


“เฮ้ เจียงไฮ่ คุณมาทำอะไรที่นี่ แอร์ของผู้อำนวยฉีซ่อมเสร็จแล้วเหรอ”

เมื่อเห็นเฉินเจียงไฮ่อยู่หน้าโรงงาน หลินว่านชิวก็รู้สึกประหลาดใจ

“ฮิฮิ เสร็จแล้ว วันนี้ผมไม่มีอะไรทำ เดี๋ยวผมจะพาไปกินข้าวข้างนอก”

เฉินเจียงไฮ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ต้อง ฉันจะกินในโรงอาหาร!”

หลินว่านชิวโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า

"มาเถอะ ผมอุสาต์มารับ"

เฉินเจียงไฮ่อดไม่ได้ที่จะดึงภรรยาของเขาขึ้นมาบนจักรยาน

เขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อนำหลินว่านชิวออกมาเพื่อพัฒนาชีวิตของเธอให้ดีขึ้น

หลินว่านชิวนั่งอยู่บนจักรยาน กอดเอวของเฉินเจียงไฮ่และเอนใบหน้าของเธอลงบนหลังของชายคนนี้ หลินว่านชิวรู้สึกหวานชื่นไม่น้อย

"เจียงไฮ่ เราจะไปที่ไหนกัน"

ระหว่างทาง หลินว่านชิวอดไม่ได้ที่จะถาม

"อ้อ เดี๋ยวไปหาฉางกุ่ยก่อน เขาอยู่ที่โกดัง!"

เฉินเจียงไฮ่ตอบอย่างสบายๆ

"อืม!"

หลินว่านชิวพยักหน้า จ้าวฉางกุ่ยเป็นคนติดตามของเขา เขาพูดให้เธอฟังแล้วเมื่อวาน

เฉินเจียงไฮ่ปั่นจักรยานไปที่โกดัง และเห็นจ้าวฉางกุ่ยนั่งอยู่ที่หน้าประตูจากระยะไกล

ตอนนั้นเองเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้บอกจ้าวฉางกุ่ยว่าช่วงเช้าเขาจะไม่ได้มาซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จ้าวฉางกุ่ยคงจะมารอนี่ตั้งแต่เช้าตรู่

ดูเหมือนว่าเขาต้องให้กุญแจกับจ้าวฉางกุ่ยไว้

ไม่เช่นนั้นเขาคงจะรอหน้าประตูจนเย็นแน่นอน

"ฉางกุ่ย นายกินข้าวรึยัง" เฉินเจียงไฮ่โบกมือถาม

จ้าวฉางกุ่ยส่ายหัว: "ยังไม่ได้กิน"

“ไปกินข้าวกัน เราจะไปรับน้องสาวนายระหว่างทาง” เฉินเจียงไฮ่กล่าว

จ้าวฉางกุ่ยมองไปที่หลินว่านชิวที่ด้านหลังและพูดอย่างรวดเร็ว "ไม่ ไม่ เธอทำอาหารกินเองที่บ้าน เดี๋ยวผมจะกลับไปกินภายหลัง"

“ฉันไม่รู้ว่านายกินอาหารกันทุกวันรึเปล่า แต่น้องสาวนายกำลังโตอยู่ นายต้องไม่ทำให้เธออด เอาละ ฉันจะรอนายอยู่ที่ร้านอาหารเล็กๆตรงนั้น นายปั่นจักรยานไปรับเธอมาที่นี่เถอะ”

หลังพูดจบ เฉินเจียงไฮ่ก็โบกมือให้หลินว่านชิวลงมา จากนั้นก็เข็นจักรยานไปอีกด้านทันที

จ้าวฉางกุ่ยมองไปที่เฉินเจียงไฮ่และไม่ได้พูดอะไร เขาขึ้นจักรยานแล้วจากไป

เมื่อเขามาถึงร้านอาหารเล็กๆที่อยู่ทางเข้าซอย เฉินเจียงไฮ่ก็เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง หลังจากได้น้ำโซดาเย็นหนึ่งแก้วให้หลินว่านชิวแล้ว เขาก็หยิบเมนูขึ้นมาและสั่งอาหารสองสามอย่างอย่างชำนาญ

หลินว่านชิวที่นั่งอยู่ข้างๆเห็นอาหารที่เขาสั่ง แม้ว่าเธอจะรู้สึกสิ้นเปลืองเงินไปสักหน่อย แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้พูดอะไร

เมื่อจ้าวฉางกุ่ยพาจ้าวหยู่ซีมา เฉินเจียงไฮ่โบกมือและตะโกนเรียก "อยู่นี่ๆ!"

"โอเค!" พวกเขารีบตอบรับและรีบเดินมา

เมื่อเห็นเฉินเจียงไฮ่ จ้าวหยู่ซีมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด: "พี่เจียงไฮ่ พี่ชายของฉันบอกว่าพี่ให้ฉันมาเรียนที่โกดัง?"

“ใช่ เธออยู่บ้านคนเดียว ทำให้พี่ชายเธอไม่สบายใจ” เฉินเจียงไฮ่ยิ้มและพยักหน้าให้

“ขอบคุณค่ะพี่เจียงไฮ่” จ้าวหยู่ซียิ้มอย่างสดใส

เฉินเจียงไฮ่โบกมือให้นั่ง "มากินข้าวกันเถอะ!"

จนถึงตอนนี้ จ้าวหยู่ซีดูเหมือนจะไม่สังเกตเห็นหลินว่านชิวที่นั่งอยู่ข้างเฉินเจียงไฮ่เลย

ทันทีที่เธอเห็นหลินว่านชิว รอยยิ้มบนใบหน้าของจ้าวหยู่ซีก็แข็งค้างไป

แต่แล้วเธอก็พูดออกมาอย่างไพเราะ "สวัสดีพี่สะใภ้"

หลินว่านชิวเห็นได้ชัดว่ารู้จักกับจ้าวหยู่ซี เธอพยักหน้าให้และกล่าวด้วยรอยยิ้ม "สวัสดี"

หลังจากที่ทั้งสี่คนนั่งลงแล้ว บรรยากาศก็แปลกขึ้นเล็กน้อย

โชคดีที่พ่อครัวทำอาหารเร็วพอ หลังจากที่พวกเขามาถึงไม่นาน อาหารก็มาเสริฟทีละจาน

หลังจากกินไปได้สักพักหนึ่ง

เฉินเจียงไฮ่กับหลินว่านชิวก็จ้องไปที่จ้าวฉางกุ่ยอย่างตกตะลึง

เขากินข้าวชามที่สามแล้ว

จ้าวหยู่ซีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปดึงเสื้อของจ้าวฉางกุ่ย "พี่ชาย พี่กินน้อยลงหน่อยสิ พี่จะทำให้พี่เจียงไฮ่และพี่สะใภ้ดูเป็นเรื่องตลกนะ"

เมื่อได้ยินจ้าวหยู่ซีพูดแบบนี้ เฉินเจียงไฮ่ต้องการจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่จ้าวฉางกุ่ยก็พูดขึ้นมาก่อน

“พี่เฉินไม่ใช่คนนอก มันไม่ใช่เรื่องตลกอะไรอย่างนั้น เราจะมีแรงทำงานเมื่อเรากินอิ่ม”

หลังจากพูดจบ จ้าวฉางกุ่ยก็เติมข้าวลงไปอีกชาม

หลินว่านชิวที่อยู่ด้านข้างเกือบจะหัวเราะออกมาดังๆ

แน่นอน สำหรับเฉินเจียงไฮ่มันไม่สำคัญว่าเขาจะกินมากแค่ไหน

หากเขาสามารถเป็นผู้ช่วยที่ดีได้ แค่เลี้ยงอาหารเขาจะเป็นอะไรไป

เฉินเจียงไฮ่คีบไก่สีขาวชิ้นหนึ่งให้หลินว่านชิวที่นั่งอยู่ข้างๆ จากนั้นมองไปที่จ้าวฉางกุ่ยที่กำลังกินอยู่ "ฉางกุ่ย นายซื้อของที่ฉันให้ซื้อเมื่อวานหมดแล้วรึยัง"

“ผมซื้อมาหมดแล้ว เดี๋ยวผมจะย้ายเข้าไปภายหลัง” จ้าวฉางกุ่ยตอบอย่างคลุมเครือโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา

จ้าวหยู่ซีขมวดคิ้ว "พี่ชาย พี่ไม่จำเป็นต้องซื้อของพวกนั้น มันเปลืองเงินเปล่าๆ"

“รู้อะไรไหม ถ้าเธอคิดเรื่องการออมเงินอยู่ ในอนาคตเธอต้องร้องไห้แน่ถ้าเธอต้องใส่แว่น” เฉินเจียงไฮ่หัวเราะ

หลินว่านชิวไม่พูดอะไรและพยักหน้าอย่างเห็นด้วย

จ่าวหยู่ซีทำหน้าบึ้งและพูดด้วยเสียงต่ำ "ฉันไม่ใช่เด็ก ฉันเรียนมัธยมแล้ว ฉันจะเป็นผู้ใหญ่ในไม่ช้า"

“ในสายตาของฉัน เธอก็ยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง” เฉินเจียงไฮ่ส่ายหัวและยิ้มออกมา อดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ

จ้าวหยู่ซีโกรธทันที "พี่ชาย พี่สะใภ้ พี่เจียงไฮ่เขารังแกฉัน"

“เธอไม่สามารถให้พวกเราช่วยอะไรได้ พี่สะใภ้กับฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา” จ้าวฉางกุ่ยโยนประโยคนั้นทิ้งไปทันทีและฝังหัวอยู่กับการกินต่อไป

หลินว่านชิวยิ้ม

จ้าวหยู่ซีโกรธขึ้นอีก เธอมองไปที่เฉินเจียงไฮ่แล้วพูด "หืม ฉันจะไม่สนใจพี่แล้ว"

เฉินเจียงไฮ่มองฉากนี้ด้วยรอยยิ้ม

เด็กๆกำลังเติบโต โดยเฉพาะสาวน้อยที่น่ารักคนนี้ มันชั่งน่าสนุกทีเดียว

หลังจากรับทานอาหารเสร็จ หลินว่านชิวก็กลับไปทำงาน ส่วนเฉินเจียงไฮ่กลับไปที่โกดังและยุ่งอยู่กับการประกอบทีวี

สำหรับจ้าวฉางกุ่ยเขาพาจ้าวหยู่ซีกลับบ้านและย้ายทุกสิ่งที่เขาซื้อเข้ามา

หลังจากนั้น เฉินเจียงไฮ่หยิบกุญแจออกมาและให้จ้าวฉางกุ่ยเก็บไว้กับตัวเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องรอเขาที่หน้าประตูอีก

"พี่เฉิน ไม่ต้องกังวลที่พี่ฝากกุญแจไว้กับผม ผมจะไม่ทำให้น็อตในโกดังหายแม้แต่ชิ้นเดียว!"

เมื่อเห็นว่าเฉินเจียงไฮ่เชื่อใจเขามาก จ้าวฉางกุ่ยก็ให้คำมั่นสัญญาทันที

...

วันที่ 22 สิงหาคม หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปในชั่วพริบตา ช่วงนี้เฉินเจียงไฮ่ยุ่งมากจนไม่มีเวลาพักผ่อน

ฝางไอกั๋วและจ้าวฉางกุ่ยได้เริ่มรับสินค้าจากพี่เกวียงแล้ว

โกดังที่เฉินเจียงไฮ่อยู่นั้นได้เต็มแล้ว

ยกเว้นที่ที่จ้าวหยู่ซีเรียนอยู่ ทุกที่ก็ต่างเต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า

ความคิดที่จะเช่าร้านค้าบนถนนโปซีของเฉินเจียงไฮ่มีมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาทำสิ่งนั้นเลย ดังนั้นจึงฝากฝางไอกั๋วเป็นคนหา

ฝางไอกั๋วแนะนำสถานที่หลายแห่งๆให้กับเฉินเจียงไฮ่ในทุกวัน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ค่อยพอใจนัก

ในปัจจุบันธุรกิจการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเฉินเจียงไฮ่กำลังเฟื่องฟู ทำให้ผู้คนต่างอิจฉา เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเขาต้องการที่จะเช่าร้าน ผู้คนต่างก็พูดถึงและเริ่มนินทาพวกเขา...

ดังคำกล่าวที่ว่าผู้คนกลัวที่จะมีชื่อเสียงและหมูกลัวที่จะแข็งแกร่ง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด