ตอนที่แล้วตอนที่ 46 ชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 48 พวกนั้นต้องการอะไร

ตอนที่ 47 เก็งกำไร!


ถ้าขายทีวีหนึ่งเครื่อง จะได้เงินห้าสิบหยวน แต่ถ้าขายได้สิบเครื่อง ก็จะได้รับถึงห้าร้อยหยวน!

ปัจจุบันผู้คนที่ทำงาน มีรายได้เดือนละเท่าไหร่?

ที่สำคัญกว่านั้น หลังจากขายวิทยุครั้งที่แล้ว ฝางไอกั๋วมีประสบการณ์และฐานลูกค้าแล้ว

ฝางไอกั๋วเชื่อว่าทีวีที่ตกแต่งใหม่เหล่านี้ จะขายออกได้ในไม่ช้า

หากสิ่งต่างๆยังคงเป็นเช่นนี้ ครอบครัวเงินล้านที่เฉินเจียงไฮ่พูดคงอยู่อีกไม่ไกล

เฉินเจียงไฮ่ตบไหล่ฝางไอกั๋วแล้วพูด "น้องชาย ถ้านายขยัน ฉันจะไม่ปฏิบัติต่อนายไม่ดีแน่นอน"

ค่าตอบแทนเป็นสิ่งที่เขาพิจารณามานานแล้ว

ในชาติที่แล้วฝางไอกั๋วนั้นเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับเขา เขาต้องตอบแทนฝางไอกั๋วอย่างดีแน่นอน

การขายวิทยุครั้งล่าสุด ก็ทำให้เฉินเจียงไฮ่เห็นถึงความสามารถการขายของฝางไอกั๋วแล้ว

ดังคำกล่าว สอนให้คนจับปลาเองดีกว่าหาปลาให้กับพวกเขา

เฉินเจียงไฮ่ต้องการฝึกฝนความสามารถและความมั่นใจของฝางไอกั๋ว แม้ว่าในอนาคตเฉินเจียงไฮ่จะจากไป ฝางไอกั๋วต้องเดินได้ด้วยตัวเองและไม่พึ่งพาพ่อแม่ให้เลี้ยงดูไปตลอดชีวิต

ที่สำคัญกว่านั้น ค่าใช้จ่ายในการรวบรวมทีวีมือสองอยู่ประมาณ 20 ถึง 30 หยวน และค่าอะไหล่อีกประมาณ 10 หยวน รวมตกแต่งทั้งหมดไม่เกิน 50 หยวนเท่านั้น

ในแง่ของค่าแรง เฉินเจียงไฮ่เป็นคนลงมือเองทำให้มีค่าใช้จ่ายเล็กน้อย

หากฝางไอกั๋วขายได้ในราคา 300 หยวน และให้ค่าตอบแทน 50 หยวน เขาจะมีกำไรประมาณ 200 หยวนต่อเครื่อง

ผลตอบแทนเกือบสี่เท่า!

คาร์ล มาคส์(1) กล่าวว่าหากมีกำไร 50 % มันก็ยังคงมีความเสี่ยงต่างๆอยู่

หากมีกำไร 100% ก็สามารถเหยียบย่ำกฎของโลกได้

กำไร 300 % มันอาจจะมองว่าเป็นการก่ออาชญากรรมได้เลย

แต่ถ้ากำไร 400% ผลตอบแทนแบบนี้คงไม่มีใครกล้าที่จะคิดถึง แต่ถ้าพวกเขากล้าคิด พวกเขาก็คงเป็นเพียงพวกสิ้นคิดเท่านั้น

แต่นี้คือช่วงปี 1990 มันเป็นไปที่จะสามารถทำได้

ด้วยผลตอบแทนที่สูงขนาดนี้ เฉินเจียงไฮ่ไม่สนค่าตอบแทนที่มอบให้ฝางไอกั๋วเลย

ฝางไอกั๋วพูดอย่างตื่นเต้น: "พี่ไฮ่ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังแน่นอน"

“เอาล่ะ กลับไปพักผ่อนก่อน ไปผ่อนคลายสองแล้วมาเริ่มงานพรุ่งนี้”

เฉินเจียงไฮ่ตบไหล่น้องชายที่แสนดีของเขา

ฝางไอกั๋วจากไปด้วยความทะเยอทะยาน ดูเหมือนคืนนี้เขาคงจะนอนไม่หลับเป็นแน่

หลังจากผ่านวันที่วุ่นวายมาทั้งวัน เฉินเจียงไฮ่เก็บข้าวของและเตรียมที่จะกลับบ้าน

ทันทีที่เขาเดินออกจากประตู เฉินเจียงไฮ่เห็นคนๆหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลกำลังจ้องมองไปที่โกดัง

เมื่อเขาเห็นเฉินเจียงไฮ่ออกมา ชายคนนั้นก็หันหลังกลับไปทันที

เฉินเจียงไฮ่ชำเลืองมองชายคนนั้น ไม่ได้สนใจอะไร ปิดประตูและจากไปทันที

...

ระหว่างอาหารเย็น หลินว่านชิวไม่ได้สนใจทีวี เธอเหมือนลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง

“ว่านชิว เกิดอะไรขึ้น” เฉินเจียงไฮ่ถาม

หลินว่านชิวบิดตัวไปมาครู่หนึ่ง "เจียงไฮ่ ตอนนี้... ธุรกิจเป็นไปด้วยดีไหม?"

คำถามนั้นปกติมาก แต่เฉินเจียงไฮ่รู้ว่าหลินว่านชิวต้องการพูดอะไร

ไม่กี่วันก่อน เขาสามารถหาเงินได้ และฝากไว้ที่ว่านชิว

จุดประสงค์การกระทำของเฉินเจียงไฮ่คือสร้างความมั่นใจให้กับหลินว่านชิวเพื่อให้เธอรู้ว่า เขามีความสามารถจริงๆ และเพื่อทำให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น

แต่ตอนนี้งานประกอบยังไม่ได้เริ่มขาย มันไม่ปลอดภัยที่จะฝากเงินมากเกินไป

แถมความปลอดภัยในที่สาธารณะในช่วง 1990 นั้นยังห่างไกลจากอนาคต ตอนนี้ยังคงมีโจรล้วงกระเป๋ามากมาย

"ตอนนี้หาซ่อมได้น้อยลงมาก ได้แค่วันละสิบถึงยี่สิบหยวนเท่านั้น" เฉินเจียงไฮ่พูดตามความจริง

เมื่อได้ยินเฉินเจียงไฮ่พูดเช่นนี้ หลินว่านชิวก็เริ่มเป็นกังวล

“แล้วเราจะทำยังไงดี ทำไมไม่ลองมาทำงานในโรงงานของฉันละ มันมีรายได้ที่มั่นคง เราจะได้มีความมั่นคงในอนาคต” หลินว่านชิวแสดงความคิดเห็นออกมา

เฉินเจียงไฮ่ยิ้ม "ว่านชิว ไม่ต้องกังวล ผมพบวิธีใหม่ในการหาเงินแล้ว"

"คืออะไรเหรอ?" หลินว่านชิวถามด้วยความสงสัย

"ขายทีวี!"

เฉินเจียงไฮ่ไม่ได้ซ่อนมันจากหลินว่านชิว

"ขาย...ขายทีวี?"

หลินว่านชิวตกตะลึง "นั่นมันไม่ถูกเลย คุณมีทุนมากขนาดนั้นเลย?"

เฉินเจียงไฮ่วางชามลงบนโต๊ะและบอกหลินว่านชิวทุกสิ่งที่เขาทำเมื่อเร็วๆนี้

"คุณ...ประกอบทีวีได้ด้วยเหรอ"

หน้าของหลินว่านชิวเต็มไปด้วยความตกใจ เธอจ้องมองราวกับว่าเธอต้องการทำความรู้จักชายคนนี้อีกครั้ง

เฉินเจียงไฮ่พูดตามตรง "แปลกตรงไหนที่ผมสามารถซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ แล้วจะไม่สามารถประกอบพวกมันได้"

“แล้วมันทำเงินได้เหรอ” หลินว่านชิวถามอย่างลังเล

เฉินเจียงไฮ่พยักหน้า จับมือหลินว่านชิวแล้วพูด "ถ้าไม่ได้เงินผมคงไม่ทำหรอก! ว่านชิว คุณไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ ผมสามารถหาเงินได้แน่นอน"

เมื่อได้ยินเฉินเจียงไฮ่พูดเช่นนี้ หลินว่านชิวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ในดวงตาของเธอยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อย

เฉินเจียงไฮ่เห็นความกังวลของหลินว่านชิวเช่นกัน แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายตอนนี้

ด้วยนิสัยที่ระมัดระวังของภรรยาเขา เว้นแต่ว่าเขาจะสามารถนำเงินออกมา และวางไว้ต่อหน้าเธอตอนนี้  เธอก็คงจะไม่หายกังวล

แต่ในไม่ช้า

ถ้าฝางไอกั๋วขายทีวีเสร็จเรียบร้อย ความกังวลของหลินว่านชิวก็คงหมดไป

...

เช้าวันรุ่งขึ้น ฝางไอกั๋วตื่นแต่เช้าไปที่โกดังเพื่อนำทีวีออกมา และนำไปที่ร้านอาหารของเขา

"ไอกั๋วลูกเอาทีวีมาจากไหน" หวงชุยเฟิงถามด้วยความประหลาดใจเมื่อเธอเห็นมัน

ฝางไอกั๋วพูดอย่างภูมิใจ "แม่ นี่พี่ไฮ่ประกอบขึ้นมาเอง น่าทึ่งไหม?"

ดวงตาของหวงชุยเฟิงเป็นประกายหลังจากได้ยิน "เจียงไฮ่มีความสามารถขนาดนั้นเลย"

"แน่นอน ความสามารถของพี่ไฮ่นั้นยอดเยี่ยมมาก!" ฝางไอกั๋วยืดอกขึ้นอย่างภูมิใจ

หวงชุยเฟิงถามต่อ "แล้วลูกได้ค่าตอบแทนเท่าไหร่"

ฝางไอกั๋วก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด "ถ้าผมขายได้ พี่ไฮ่จะให้ห้าสิบหยวน!"

"เท่าไหร่นะ? ลูกพูดว่าเท่าไหร่?"

หวงชุยเฟิงสูญเสียความสงบไปทันทีและถามด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

“ขายหนึ่งชิ้นได้ห้าสิบหยวน!”

ฝางไอกั๋วยื่นนิ้วทั้งห้าออกมาแล้วส่ายไปมาด้วยความภูมิใจ

หวงชุยเฟิงขมวดคิ้ว "จริงหรือ? หนึ่งชิ้นต่อห้าสิบ?"

"แม่!"

ฝางไอกั๋วบ่น " ผมจะพูดเล่นทำไม! "

มีความกังวลบนหน้าของหวงชุยเฟิง: "ลูกเอ้ย หาเงินได้ง่ายขนาดนั้นเลย"

"ถูกต้อง!" ฝางไอกั๋วยิ้มอย่างสดใส

หวงชุยเฟิงเตือนอย่างจริงจัง: "ลูก ไม่สำคัญหรอกว่าจะหาเงินได้แค่ไหน แต่ลูกต้องไม่ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เข้าใจไหม!"

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คาดคิดว่าแม่ของเขาจะพูดแบบนี้ และเริ่มกังวลทันที: "แม่! แม่กำลังพูดอะไร! ทำไมผมต้องทำผิดกฎหมายด้วย"

หวงชุยเฟิงพูดอย่างกังวล: "รัฐบาลจะปล่อยให้ลูกขายเกร็งกำไรเยอะขนาดนี้ได้ยังไง? อย่าทำลายชีวิตเพียงแค่เงินเล็กน้อยแค่นี้!"

(1) คาร์ล ไฮน์ริช มาคส์ (Karl Heinrich Marx) เป็นนักปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎีการเมือง นักสังคมวิทยา นักหนังสือพิมพ์และนักสังคมนิยมปฏิวัติของเยอรมัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด