ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 58 : ราชสีห์เก้าเศียรยอมแพ้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 60 : อู่หมิงเยว่ช่วยข้าด้วย

[ตอนฟรี] ตอนที่ 59 : เซียวเฉินพบทรัพย์


จวินเซียวเหยาและคนอื่นๆ เริ่มสำรวจลึกเข้าไปในวังใต้ดิน

สำหรับคลังสมบัติลับจ้าวเทวะที่มีหมอกเทาแปลกประหลาดแพร่กระจายไปทุกที่

แม้แต่คนโง่ก็รู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นในคลังสมบัติลับจ้าวเทวะแห่งนี้ มันเต็มไปด้วยลางสังหรณ์ที่เลวร้าย

ภายในวังใต้ดิน มันมีบรรยากาศที่เก่าแก่และทรุดโทรม

มองดูในแวบแรกจะเห็นถึงสายลมอันโศกเศร้าพร้อมกับหมอกเหงาแผ่ปกคลุมและกำแพงที่ล่มสลาย

บนพื้นยังมีซากศพสีดำสนิทกระจัดกระจายไปทั่ว

สิ่งที่แปลกประหลาดมากที่สุดคือซากศพเหล่านั้นล้วนมีเกล็ดสีดำกระจายออกมาจากผิวหนังของพวกเขา มันเหมือนกับว่าพวกเขากลายพันธุ์

ในขณะที่ผู้บ่มเพาะหลายคนได้ก้าวเท้าเข้าสู่วังใต้ดิน

ซากศพปีศาจแปลกๆ เหล่านั้นก็ระเบิดออกในทันทีและจ้องมองไปที่พวกเขาด้วยตาแดงก่ำ

เล็บของพวกมันคมเหมือนใบมีด มันเจาะทะลวงและฉีกร่างของผู้บ่มเพาะเป็นชิ้นๆ อย่างง่ายดาย

ผู้บ่มเพาะในขอบเขตสะพานศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถหยุดยั้งซากปีศาจเหล่านั้นได้เลย

ไม่ช้า ผู้บ่มเพาะจำนวนมากก็ถูกสังหารหมู่

อย่างไรก็ตาม ทางด้านของจวินเซียวเหยา เขาตบซากปีศาจเหล่านี้จนกลายเป็นกองเนื้อในทุกครั้งที่ลงมือ

สำหรับคนอื่น เขาไม่ได้ใส่ใจมากนักและไม่สนใจที่จะใส่ใจด้วย

จวินเซียวเหยาไม่ใช่พี่เลี้ยงของคนเหล่านั้นสักหน่อย เรื่องการเป็นคนดีที่มีคุณธรรมยิ่งแล้วใหญ่

พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง ไอ้เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับจวินเซียวเหยาเลยสักนิด

ด้านหลังของเขา เจียงเซิ่งยี จวินหลิงหลง จวินเสวี่ยฮวางและคนอื่นๆ ไม่ได้ลงมืออะไร

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากมีส่วนร่วม แต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่มีโอกาสต่างหาก

จวินเซียวเหยาเปิดทางเดินอย่างสบายๆ ไม่มีซากปีศาจตัวไหนหยุดเขาได้เลย

อีกด้านหนึ่ง หลงปี้ชรือ เซียวเฉินและคนกลุ่มอื่นก็ไม่ได้อยู่บนเส้นทางหลักอีกต่อไปและแยกย้ายไปคนละทิศละทาง

จวินว่านจี๋ก็ไม่ได้อยู่กับจวินเซียวเหยาเช่นกัน

จีเสวียนลอบมองไปที่จวินเซียวเหยาด้วยหางตา เมื่อเห็นว่าจวินเซียวเหยาไม่ได้สังเกตเขา ร่างของเขาจึงกะพริบและหายไปจากทางหลัก

หลังจากที่จีเสวียนไปแล้ว มุมปากของจวินเซียวเหยาก็โค้งขึ้นด้วยความเย้ยหยัน

เขาจะไม่เก็บเกี่ยวจีเสวียนในตอนนี้ก่อน เพราะเวลาที่สุกงอมยังมาไม่ถึง

ยิ่งเวลาผ่านไป จำนวนของผู้บ่มเพาะก็เริ่มลดน้อยลง

ผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่จะถูกสังหารโดยซากปีศาจ

“เสวี่ยฮวาง จ้างเจี้ยน พวกเจ้าทั้งสองลอบตามจีเสวียนไป แต่อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นล่ะ” จวินเซียวเหยาเอ่ย

ได้ยินคำสั่งนี้ สายตาของจวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางจึงสั่นไหว

ใต้เท้าต้องการพุ่งเป้าไปที่จีเสวียน?

นึกถึงเรื่องนี้แล้ว จวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจจีเสวียน

ใครที่ถูกจวินเซียวเหยาเพ่งเล็งจบไม่สวยสักราย

เจียงเซิ่งยีเอ่ยปากกล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “เซียวเหยา เจ้ากำลังจะโจมตีจีเสวียนหรือ? เขามีกระดูกราชานักบุญนะ ถ้าเกิดเขาจนตรอกขึ้นมาจริงๆ …”

เจียงเซิ่งยีรู้สึกเป็นกังวล

นางไม่กลัวว่าจวินเซียวเหยาจะแพ้ให้กับจีเสวียน

แต่ถ้าจีเสวียนโต้กลับด้วยความจนตรอกแล้ว นางกลัวว่ามันจะเกิดผลร้ายกับจวินเซียวเหยา

“พี่สาวเซิ่งยีกำลังเป็นห่วงข้าหรือ?” จวินเซียวเหยาพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

เจียงเซิ่งยีกัดริมฝีปากและกล่าว “ข้าเป็นน้าของเจ้านะ ถ้าข้าไม่เป็นห่วงเจ้าแล้วใครจะมาเป็นห่วงเจ้ากันล่ะ”

“หึ นั่นไม่มีความจำเป็นหรอก รุ่นเยาว์แห่งดินแดนอมตะที่ทำให้จวินเซียวเหยาผู้นี้เกรงกลัวได้ จะในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ไร้สิ้นไม่มีแม้แต่คนเดียว”

จวินเซียวเหยายิ้ม

นี่ไม่ใช่ความโอหัง แต่เป็นข้อเท็จจริง

พรสวรรค์ไร้เปรียบ แถมมีระบบอีก

ถ้าเขายังกลัวนู่นกลัวนี่อยู่อีก จวินเซียวเหยาคงดีดตัวเองให้ตายด้วยเต้าหู้ไปแล้ว

เจียงเซิ่งยีมองจวินเซียวเหยาด้วยสายตาว่างเปล่า แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย

ความมั่นใจของจวินเซียวเหยายอดเยี่ยมจริงๆ

“ไปกันเถอะ มันยังมีสมบัติบางอย่างในวังใต้ดินแห่งนี้ เราไม่อาจทิ้งมันให้สูญเปล่าได้” จวินเซียวเหยาสะบัดชายเสื้อ

ถัดไป จวินเซียวเหยาก็ได้ขี่ราชสีห์เก้าเศียรและเดินทางไปพร้อมกับเจียงเซิ่งยี

ส่วนจวินจ้างเจี้ยนและจวินเสวี่ยฮวางก็กำลังลอบติดตามจีเสวียน

อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉินที่สวมผ้าคลุมกำลังเดินผ่านวังใต้ดินที่มีเส้นทางสลับซับซ้อน

“เซียวเฉิน ไปทางซ้ายอีกรอบ จากนั้นก็ตรงไป ข้าสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกระดูกมังกรโบราณแล้ว มันอยู่อีกไม่ไกล!” ในความคิดของเซียวเฉิน น้ำเสียงที่ตื่นเต้นเล็กน้อยของปรมาจารย์ชิงหลงดังขึ้น

ขนาดปรมาจารย์ชิงหลงยังไม่อาจนิ่งสงบได้อีกต่อไป

ถ้าเขาได้รับกระดูกมังกรโบราณและนำไปผสานเข้ากับวัตถุดิบต่างๆ เขาจะสามารถสร้างร่างกายขึ้นมาได้อีกครั้ง

มันจะไม่ใช่แค่ฟื้นฟูกลับไปสู่จุดสูงสุด แต่มันอาจกระทั่งไปไกลกว่านี้อีกขึ้นหนึ่งและทะลวงขอบเขตกลายเป็นจ้าวเทวะได้เลย

แม้แต่ผู้บ่มเพาะกึ่งเทวะอย่างปรมาจารย์ชิงหลงยังไม่อาจทนต่อความตื่นเต้นได้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซียวเฉินที่กำลังตะลึงงันเลย

ความตื่นเต้นสว่างวาบในดวงตาของเขา จนมันอดไม่ได้ที่ต้องเร่งความเร็ว

ผ่านไปครู่หนึ่งหลังจากที่เซียวเฉินกำจัดซากปีศาจและผู้บ่มเพาะจำนวนหนึ่งแล้ว เขาก็ได้เข้าสู่สถานที่ที่คล้ายกับถ้ำ

พื้นที่ของถ้ำทั้งโพรงมีขนาดกว้างใหญ่มาก

เซียวเฉินกลั้นหายใจพร้อมกับมองไปรอบๆ

ทันใดนั้นภายในถ้ำอันกว้างใหญ่นี้ มันก็ปรากฏกระดูกมังกรขนาดมหึมาห้าโครง

ท่ามกลางห้าโครงกระดูกนั้น สี่โครงกระดูกมีลักษณะสีดำทองเข้มพร้อมกับอักขระลึกลับและซับซ้อนจำนวนมากถูกสลักไว้บนพื้นผิวของพวกมัน

ทั้งสี่โครงกระดูกสีดำทองนี้ แม้พวกมันจะเป็นแค่กระดูก แต่พวกมันก็เผยกลิ่นอายอันยิ่งใหญ่จนเซียวเฉินอดไม่ได้ที่จะต้องคุกเข่าลงและคำนับ

“นี่น่ะหรือกระดูกมังกรโบราณ?” เซียวเฉินตื่นเต้นมากจนนิ้วสั่นรัว

เพียงแค่ความรู้สึกอันใหญ่นี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่ากระดูกมังกรโบราณเหล่านี้แข็งแกร่งสุดขีดและสามารถช่วยให้เขาแปลงกายได้อย่างสมบูรณ์แน่นอน

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ปรมาจารย์ชิงหลงก็ส่งเสียงร้องประหลาดใจออกมาในความคิดของเขา

“นั่นมันกระดูกมังกรเทวะในตำนานรึ!”

“กระดูกมังกรเทวะ?” เซียวเฉินมีสีหน้าสับสนและหันมองไปที่กระดูกชิ้นสุดท้ายทันที

กระดูกชิ้นนั้นมันดูแตกต่างจากกระดูกมังกรสีดำทองอีกสี่ชิ้น มันแสดงให้เห็นถึงลักษณะแวววาวราวกับประติมากรรมที่แกะสลักมาจากหยกเทวะ มันดูเป็นธรรมชาติมาก

บนกระดูกมีลวดลายของอักขระอันหนาแน่นสลักไว้ มันพลิ้วไหวเหมือนดวงดาราบนท้องฟ้า ลึกลับและทรงพลัง

แม้ว่ากระดูกมังกรโบราณสีดำทองอีกสี่ชิ้นจะมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับกระดูกมังกรดึกดำบรรพ์ชิ้นนี้แล้ว พวกมันเป็นเหมือนข้าราชบริพารที่ห้อมล้อมจักรพรรดิไปเลย

“กระดูกมังกรเทวะเป็นกระดูกของมังกรในขอบเขตจ้าวเทวะที่มีสายเลือดของบรรพชนมังกร กระดูกของพวกเขาที่หลงเหลืออยู่มันล้ำค่าและทรงพลังมากกว่ากระดูกมังกรโบราณอย่างมหาศาล!” ปรมาจารย์ชิงหลงรีบกล่าว

ได้ยินแบบนี้ เซียวเฉินจึงสูดลมหายใจลึกพร้อมกับความตะลึงในดวงตาจนปิดไม่มิด

สายเลือดของบรรพชนมังกรทรงพลังขนาดไหน?

รังจู่หลง (รังบรรพชนมังกร) ทั้งหมดล้วนถูกตั้งชื่อตามบรรพชนมังกร

จักรพรรดิโบราณจู่หลงตัวจริงเป็นการคงอยู่ที่แม้แต่จักรพรรดิมนุษย์หลายคนยังต้องพ่ายแพ้ให้เขา

แต่ก็แน่นอน เห็นได้ชัดว่ากระดูกมังกรเทวะตรงหน้าของเซียวเฉินย่อมไม่ใช่กระดูกบรรพชนมังกรสายเลือดบริสุทธิ์

สำหรับสายเลือดบริสุทธิ์ของบรรพชนมังกรที่ยังหลงเหลืออยู่ เกรงว่าแม้แต่ในรังจู่หลงก็ไม่อาจพบเจอแม้แต่คนเดียว

แต่ถึงจะมีสายเลือดของบรรพชนมังกรเจือปนแค่เล็กน้อย มันก็เพียงพอที่จะทำให้กระดูกมังกรเทวะชิ้นนี้เป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้แล้ว

“ร่ำรวยแล้ว ข้าเซียวเฉินกำลังจะร่ำรวยแล้ว!”

เซียวเฉินหายใจติดขัด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย

ถ้าเขาฝึกฝนเคล็ดผันแปรมังกรฟ้าหรือถ้าเขาผสานเข้ากับกระดูกมังกรเทวะแล้วล่ะก็ เขาจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหนกัน?

ในเวลานั้น ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่าจะเป็นผู้สยบยุค อย่างน้อยก็ต้องสามารถบดขยี้เหล่ารุ่นเยาว์แห่งดินแดนอมตะหวงเทียนได้ ถูกไหม?

“เซียวเฉิน ที่นี่ไม่ควรที่จะหยุดอยู่นานนัก เจ้ารีบรวบรวมกระดูกมังกรโบราณห้าชิ้นนี้เสียก่อน” ปรมาจารย์ชิงหลงเน้นย้ำ

“ขอรับ” เซียวเฉินตอบกลับ

เขาต้องการแค่ชิงกระดูกมังกรโบราณทั้งห้านี้ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นก็หาสถานที่เร้นกายเพื่อหลอมกลั่นพวกมัน และสุดท้ายก็ตบหน้าจวินเซียวเหยาพร้อมกับล้างแค้นให้สาสม

อย่างไรก็ตาม เพียงเมื่อเซียวเฉินกำลังจะเก็บเกี่ยวกระดูก

น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจของหญิงสาวได้ดังขึ้น

“นั่นมัน…กระดูกมังกรโบราณ แล้วก็…กระดูกมังกรเทวะ!?”

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด