ตอนที่แล้วบทที่ 4 ฮองเฮา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 6 ฮ่องเต้

บทที่ 5 ชีวิตใหม่ในวังหลัง


เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก วันใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น

“เสียวจู่ ถึงเวลาที่ท่านต้องตื่นได้แล้ว วันนี้ท่านต้องไปเคารพฮองเฮานะเพคะ” หยินผิงกล่าว

“อืม~ ขอแป๊บเดียว แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวข้าตื่นเอง” ฉินชิงอยู่ในสภาพที่เหมือนกึ่งฝันกึ่งตื่น ไม่ยอมลุกขึ้นมา

เมื่อมองไปยังฉินชิงที่ท่าทางไม่อยากจะลุกขึ้น หยินผิงก็รู้ว่านางต้องการนอนต่อ ดังนั้นจึงกล่าวว่า

“เสียวจู่ ตอนนี้พวกเราอยู่ในวังแล้วนะ ตอนที่ท่านอยู่ที่จวน ฮูหยินก็มักจะดุท่าน แต่เพราะฮูหยินรักท่าน เลยไม่ทำอะไรท่าน”

“แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว พวกเราอยู่ในวัง ถ้าท่านไปเข้าเฝ้าฮองเฮาช้า ท่านจะถูกเรียกว่าไร้การศึกษา ตระกูลของเราก็จะถูกคนอื่นนินทา หาว่าการสั่งสอนของตระกูลเราไม่ดี เสียวจู่จะทนเห็นน้องสาวของท่านแต่งไม่ออกได้หรือ”

เมื่อก่อนอยู่ในจวน ทุกครั้งที่ฉินชิงนอนบนเตียงอย่างขี้เกียจ ถ้าไม่มีเรื่องใหญ่อะไร หยินผิงจะปล่อยให้ฉินชิงนอนต่อ ถึงอย่างไรเมื่อถึงเวลาฮูหยินก็จะเรียกฉินชิงไปกินข้าว ฉินชิงจะไม่ลุกก็ไม่ได้ แต่ถ้ามีเรื่องใหญ่ หยินผิงจะไม่หยุดบ่น ทำให้การนอนขี้เกียจอยู่บนเตียงเป็นเรื่องใหญ่ ทุกครั้งที่ฉินชิงไม่อยากฟังคำบ่นของนาง นางก็จะลุกขึ้น

“หยินผิง เจ้าช่างเหมือนป้าแก่ๆ ขึ้นทุกวัน ข้ายังไม่ลุกไม่ได้หรือ?” ฉินชิงลุกขึ้นนั่ง เรียกให้คนมาปรนนิบัตินางล้างหน้าบ้วนปาก

“เสียวจู่ วันนี้ท่านอยากสวมชุดอะไร ท่านอยากจะสวมชุดเหมือนเมื่อวานหรือไม่?” หยินซั่นเอ่ยถาม

“วันนี้ไม่ต้อง เจ้าไปเอาชุดกระโปรงแขนเสื้อครึ่งแขนสีส้มอิฐมาให้ช้า ข้าจะใส่ชุดนั้น ชุดนั้นดูสดใสกว่าหน่อย วันนี้คงจะมีหลายคนที่ไปเคารพฮองเฮา จะขายหน้าไม่ได้” ฉินชิงคิดว่าวันนี้นางจะได้เห็นหญิงงามในวังของฮ่องเต้

วังหลังของต้าเหลียงแตกต่างจากราชวงศ์โบราณที่ฉินชิงรู้ เหล่านางสนมไม่จำเป็นต้องไปเคารพฮองเฮาทุกวัน สามารถไปที่นั่นทุกสิบวันได้ เวลาอื่นๆ เหล่านางสนมก็จะอยู่ในตำหนักของตัวเอง เมื่อวานฉินชิงไปเข้าเฝ้าฮองเฮาในฐานะนางสนมที่เข้าวังมาใหม่ วันนี้นางจะไปในฐานะสนมเจาแห่งต้าเหลียง เมื่อต้องไปทักทายฮองเฮา ย่อมต้องสวมเสื้อผ้าดีๆ หน่อย อย่างน้อยจะได้ไม่ทำให้เสียหน้า

ฉินชิงนั่งเกี้ยวไปยังตำหนักคุนหนิงของฮองเฮา มีคนที่มาก่อนนางแล้วไม่น้อย

แม้ว่าฮ่องเต้หย่งซิ่งจะกล่าวว่าสนมในวังหลังนั้นมีไม่มากเท่าฮ่องเต้องค์ก่อน แต่จำนวนคนเก่าที่ติดตามผู้ได้รับคัดเลือกหญิงงามในครั้งนี้มาด้วยก็มีไม่น้อย ดังนั้นจำนวนคนจึงมาก

หลังจากรอสักครู่ พระสนมส่วนใหญ่ก็มาถึง ยกเว้นเจิ้งกุ้ยเฟย

ฉินชิงอยากรู้เรื่องของเจิ้งกุ้ยเฟยที่เกือบจะมาสายผู้นี้มาก เหล่าพระสนมที่จะมาคารวะฮองเฮาต้องมาก่อนเวลา กันไว้เป็นดีที่สุด แม้ว่าสนมที่ยิ่งมีตำแหน่งสูงขึ้นจะเริ่มมาช้า แต่พวกนางก็ไม่เคยมาสาย คิดไม่ถึงว่าจนป่านนี้แล้ว เจิ้งกุ้ยเฟยจะยังไม่มา อีกเดี๋ยวก็จะกลายเป็นมาสายแล้ว

ขณะที่นางกำลังคิด เจิ้งกุ้ยเฟยที่สวมชุดสีแดงสด เครื่องประดับบนศีรษะและแขนเหลืองอร่ามแวววาว ต่างหูสองข้างก็ทำจากไข่มุกตะวันออกเม็ดใหญ่ ก็เข้ามาพร้อมกับนางกำนัลข้างกาย

“ถวายพระพรฮองเฮา” นางโน้มตัวลงเล็กน้อย จากนั้นเจิ้งกุ้ยเฟยก็นั่งลงตำแหน่งแรกทางด้านซ้ายมือ

“โห พี่หญิง วันนี้คนเยอะจริงๆ ตอนนี้ก็มีคนใหม่ทยอยเข้าวังมาเป็นรอบๆ ช่วงนี้พี่หญิงคงจะทำงานหนักน่าดู อยากให้น้องช่วยท่านหรือไม่?” เจิ้งกุ้ยเฟยเอ่ยขึ้นขณะจิบน้ำชา

ฉินชิงมองไปที่เจิ้งกุ้ยเฟย ยกชาขึ้นจิบและคิดในใจ เจิ้งกุ้ยเฟยเริ่มออกกระบวนท่าแล้ว มาๆๆ ย้ายตั่งมาดูละครกันเถอะ

“ไม่ลำบากน้องหญิงดีกว่า ถึงแม้งานจะเยอะ แต่ตอนอยู่ในจวนอ๋องก็คุ้นเคยกับงานที่ทำ ตอนที่น้องหญิงเข้ามาในจวนอ๋อง ข้าก็ดูแลเจ้าเหมือนที่ดูแลตอนนี้” ฮองเฮาตอบด้วยรอยยิ้ม

เป็นการตอบที่ไม่เลว ในเมื่อเป็นฮองเฮา ตราบใดที่มีข้าอยู่ เจ้าก็ทำได้แค่วางอำนาจบาตรใหญ่เท่านั้น

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สนมหรงจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่หญิงดูแลเรื่องในวังก็ลำบากมากแล้ว พวกเราทำได้แค่ดูแลฮ่องเต้ แบ่งเบาความกังวลช่วยพี่หญิงเท่านั้น”

ฉินชิงมองไปที่สนมหรงพลางคิดในใจ ใครจะไม่รู้ว่าสนมหรงได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากกว่าใคร คำพูดนี้ก็ชัดเจนพอแล้ว

ทันใดนั้น สนมโหลวก็กล่าวอีกครั้ง “ทุกคนล้วนเป็นพี่น้องกัน ย่อมต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา”

เหอะ สนมโหลวออกมาผสมโคลนช่วยแล้ว

“ในฐานะพระสนมของฮ่องเต้ พวกเราต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา” ฮองเฮาเอ่ยสรุป

สตรีสามคนในละครเรื่องเดียวยังสนุกขนาดนี้ ในวังหลังมีสตรีตั้งมากมาย คงมีละครสนุกๆ ให้ดูทุกวัน เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินชิงก็อารมณ์ดีขึ้นมา

หลังจากอยู่ในตำหนักของฮองเฮามาหนึ่งชั่วยามแล้ว ได้ดื่มชาไปหลายถ้วยและได้ดูละครไปหนึ่งเรื่อง พูดคุยสัพเพเหระไปครู่หนึ่ง เช้าวันนี้ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อกลับไปถึงตำหนักจงชุ่ย ฉินชิงก็ทรุดตัวลงบนเตียงทันที “กฎของต้าเหลียงไปทักทายทุกสิบวันนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ถ้าให้ไปทักทายทุกวันมีหวังต้องเหนื่อยตายแน่ๆ แค่ตื่นเช้าก็ทรมานข้าจะแย่ หยินซั่นมานวดให้ข้าที”

“หยินผิงไปสั่งอาหารมา ข้าหิวแล้ว อย่าลืมทำอาหารประเภทเนื้อมาเพิ่มให้มากๆ” งานทักทายช่างเป็นงานที่เหนื่อยจริงๆ หลังจากกลับมาตำหนัก ฉินชิงก็หิวทันที

ตอนนี้ ห้องเครื่องปฏิบัติต่อสนมใหม่เป็นอย่างดี อาหารที่ฉินชิงขอถูกส่งมายังตำหนักในเวลาไม่นาน มีเนื้อสัตว์และผัก สัดส่วนของอาหารก็ดูอุดมสมบูรณ์ ส่วนเรื่องรสชาติ ห้องเครื่องนั้นขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยอยู่แล้ว อร่อยกว่าที่กินตอนอยู่ที่จวนไม่น้อย

ต่อให้สุดท้ายฉินชิงจะไม่ได้รับความโปรดปราน ตราบใดที่ให้เงิน ก็ไม่มีสิ่งใดในวังแห่งนี้ที่เป็นไปไม่ได้ และสิ่งที่ฉินชิงขาดมากที่สุดตอนนี้ก็คือเงิน ตระกูลฉินเป็นตระกูลใหญ่ สะสมทรัพย์สมบัติมาหลายร้อยปี ก็ใช่ว่าจะเอาออกมาไม่ได้ แต่เงินที่พ่อแม่ของฉินชิงมอบให้ก่อนเข้าวังนางก็ยังใช้ไปไม่เท่าไร

หลังกินอาหารกลางวันแล้ว ฉินชิงง่วงนอนจึงงีบอีกครั้ง นอนไปได้หนึ่งชั่วยามถึงได้ตื่นขึ้นมา จู่ๆ ก็รู้สึกว่าไม่รู้จะทำอะไรต่อ ชีวิตในวังมันช่างน่าเบื่อจริงๆ

ตื่นนอน กินของว่าง แล้วก็ดื่มชา ก่อนจะเรียกนางกำนัลที่อยู่ในวังสิบปีมาถาม “ปกติเหนียงเหนียงในวังหลังมักจะทำอะไรหรือ?”

นางกำนัลนามว่าอวี้เอ๋อร์ตอบ “เหล่าเหนียงเหนียงมักจะไปเดินเล่นที่สวนดอกไม้หลวงกันเจ้าค่ะ เชิญเหนียงเหนียงที่สนิทกันสองสามคนมาดื่มชา บางครั้งฮองเฮาก็จะจัดงานเลี้ยงชมดอกไม้ หรือไม่ก็เป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ธรรมดา เหนียงเหนียงบางคนมีฝีมือก็จะฝึกฝนอยู่ในวังด้วยตัวเองเพคะ”

“นอกจากเรื่องพวกนี้ยังมีอีกหรือไม่?”

“บ่าวเองก็รู้มาเพียงเท่านี้เพคะ” อวี้เอ๋อร์ตอบ

ชีวิตของสตรีในวังช่างน่าเบื่อจริงๆ ไม่แปลกใจที่สนมมากมายต้องการแย่งชิงความโปรดปรานจากฮ่องเต้

ฉินชิงรู้สึกว่าตนควรออกไปเดินออกกำลังกายบ้าง ตั้งแต่การคัดเลือกหญิงงามจนเข้าวัง ฉินชิงก็ไม่ได้ออกกำลังกายมากนัก ถึงเวลาต้องขยันแล้ว ถ้าขี้เกียจแบบนี้ต่อไป เกรงว่าพื้นฐานที่นางออกกำลังกายมาจะเสื่อมถอยลงในที่สุด

เมื่อคิดได้ดังนั้นฉินชิงก็ให้หลิวหลีไปเดินสวนดอกไม้หลวงเป็นเพื่อนนาง

เป็นสถานที่เดียวที่สตรีในวังจะได้พักผ่อนหย่อนกาย

ดอกไม้ในสวนดอกไม้หลวงแห่งนี้ได้รับการดูแลอย่างดี แต่ละดอกล้วนสดและงดงาม เป็นสถานที่ชมดอกไม้ที่ไม่เลว

น่าเสียดายที่ฉินชิงไม่สนใจดอกไม้เหล่านี้มากนัก นางมาที่สวนดอกไม้หลวงก็เพื่อออกกำลังกายเท่านั้น

ฉินชิงเดินเร็ว แต่หลิวหลีเดินช้า ตามนางไม่ทันเล็กน้อย

หลิวหลีคิดในใจว่าเหตุใดสนมเจาถึงได้เดินเร็วขนาดนี้ นางอยู่ในวังมาหลายปี ความแข็งแกร่งทางร่างกายยังสู้เหนียงเหนียงไม่ได้ หลังจากเดินได้ครึ่งชั่วยาม ทั่วร่างหลิวหลีก็มีเหงื่อออก

หลังจากเดินมาหนึ่งชั่วยามครึ่งแล้ว เหงื่อก็แตกพลั่กทั่วร่างของฉินชิง จึงให้คนไปเตรียมน้ำให้นางอาบทันที

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉินชิงก็รู้สึกสบายตัวอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงใช้ให้คนไปสั่งอาหาร

อาหารประจำวันที่สนมแต่ละคนจะได้รับนั้นมีไม่น้อย ฉินชิงในฐานะนักชิมอาหารไม่มีทางกินหมด ดังนั้นจึงมอบให้บ่าวรับใช้ด้วย

การกระทำเช่นนี้เป็นผลดีต่อฉินชิงมาก เหล่าสาวใช้และขันทีในตำหนักเดิมทีก็ไม่ค่อยได้กินอาหารดีๆ ทุกวัน ของเหลือของผู้เป็นนายนั้นถือเป็นรางวัลอย่างหนึ่ง

หลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ฉินชิงนอนพักผ่อนที่เตียงครู่หนึ่ง ขันทีก็มาประกาศราชโองการว่าวันนี้ ฮ่องเต้ทรงเลือกป้ายชื่อของนาง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด