ตอนที่แล้วตอนที่ 57 ความคิดที่บ้าคลั่ง(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 59 ให้ฉันเป็นรองผู้นำกิลด์(อ่านฟรี)

ตอนที่ 58 เอกสารจากตำรวจ(อ่านฟรี)


ตอนที่ 58 เอกสารจากตำรวจ

ลุคเดินไปหามุมเงียบสงบที่ไม่มีใคร เขาเปิดระบบเครือข่ายไกอาและติดต่อไปหานิโคล หลังจากรอสายไม่กี่วินาทีแหวนก็ฉายภาพตัวครึ่งบนนิโคลขึ้นมา

“นายนั้นเอง ภารกิจที่หมู่บ้านผาริมธารเป็นยังไงบ้าง ฉันเห็นออกข่าวเรื่องอาชญากรรมด้วย ไอกะบอกว่านายรู้รายละเอียดมากที่สุด แต่หลังจากวันนั้นนายก็เงียบไปเลย” นิโคลถามเขาด้วยความอยากรู้

ลุคไม่ได้ตามข่าวที่ออกกันเรื่องการจับตัวสองอาชญากร แต่ว่าเขาได้รับการแจ้งเตือนเรื่องเงินค่าหัวที่ให้ไปรับกับทางตำรวจและสำนักงานเมืองส่วนหนึ่ง ที่ไม่ได้โอนเข้ามาในระบบเพราะเรื่องเงินค่าหัวไม่ได้เกี่ยวกับทางสำนักงานเหนือมนุษย์โดยตรง

“แค่สองอาชญากรที่วางแผนเข้ามาแทรกแซงภารกิจเพื่อหวังไปเก็บเกี่ยวพืชสมุนไพรเท่านั้นและฉันก็โชคดีจัดการมันได้...”

หลังจากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นแบบคร่าว ๆ ให้นิโคลฟัง เขาก็เข้าประเด็นหลักในทันที

“ที่จริงฉันโทรหาเธอเพราะอยากจะตกลงบางอย่าง”

“ตกลง? เรื่องอะไร”

“เรื่องสำคัญมาก เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังต่อหน้า วันนี้เธอมีเวลาว่างบ้างไหม”

ท่าทางของลุคจริงจังมากและจากคำพูดนิโคลเดาว่าเขาไม่ต้องการพูดกันผ่านเครือข่าย แต่ต้องการพูดคุยต่อหน้า

นิโคลฉุกคิดพักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “คืนนี้น่าจะยังไม่ได้ ฉันต้องไปกับกิลด์เพื่อเคลียร์ชิ้นส่วนระดับ E ในรอบสุดท้าย แต่ว่าพรุ่งนี้น่าจะไปได้ นายจะพบกันที่ไหน”

“ที่บ้านฉัน ฉันจะส่งตำแหน่งไปให้”

หลังจากตกลงกันแล้วลุคก็ส่งตำแหน่งให้กับหญิงสาว

...

หลังจากกลับไปที่บ้านลุคก็พักผ่อนสักเล็กน้อย เขาตรวจสอบคลื่นพลังของตัวเองอีกครั้ง ผ่านการกินยายกระดับคลื่นพลังและยาโอสถผู้หิวกระหายได้ยกระดับคลื่นพลังเขาอยู่ที่ตัวเลข 600 หน่วย แต่หลังจากการตรวจในครั้งนี้เขาพบว่าตัวเลขเพิ่มไปที่ 603.3 หน่วยแล้ว

“3 หน่วยนี่มาจากไหน”

ลุคคิดด้วยความสงสัย อัตราการเติบโตตามธรรมชาติคือ 0.3 หน่วยต่อวันมันควรจะเพิ่มขึ้นมาแค่นี้ แต่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อเช้าเขากินเนื้อมอนสเตอร์ลงไปมากถึง 30 กิโลกรัม

“มาจากการกินเนื้อมอนสเตอร์ดูเหมือนการเพิ่มขึ้นนี้จะได้ผลเหมือนกัน ถ้าผลของยาไม่ได้ผลอีกฉันก็ควรหันมากินเนื้อมอนสเตอร์ แม้จะช้าแต่ก็ไม่ต้องกลัวร่างกายจะดูดซับไม่มีประสิทธิภาพเหมือนกับยา”

ถึงอย่างนั้นลุคก็ไม่ได้เปลี่ยนไปกินเนื้อมอนสเตอร์เลย เพราะการกินก็ยังใช้เวลามากเกินไปกว่าการดื่มยาที่เป็นสารยกระดับคลื่นพลังโดยตรงอยู่ดี

เขาอาศัยเวลาในกลางคืนกินยาโอสถผู้หิวกระหายเกรดสีเขียวไป 1 เม็ดและยายกระดับคลื่นพลังไปอีก 1 ขวด เพื่อต้องการดูว่าผลของยาลดลงมากแค่ไหน

“คุณได้รับการยกระดับคลื่นพลัง 0.5 หน่วย”

เสียงสะท้อนแห่งพลังดังขึ้นในหัว

“ผลของยาลดลงไปครึ่งหนึ่ง” ลุคเผยความหมดหนทางไว้เล็กน้อยและรู้ว่ายิ่งเวลาผ่านไปมันจะยิ่งเลวร้ายลงเรื่อย ๆ

เขาไม่ได้กินยาอีกปล่อยให้ร่างกายดูดซับยายกระดับคลื่นพลังไปเรื่อย ๆ เพราะจากพรุ่งนี้ยังต้องพบกับนิโคล

เวลาผ่านไป 1 คืนจนถึง 7 โมงเช้ายายกระดับคลื่นพลังถูกร่างกายของลุคดูดซับไปจนหมด เนื่องจากเป็นแค่ยาโอสถเกรดสีเขียวเท่านั้น

“คลื่นพลังอยู่ที่ 661 หน่วย แม้แต่พลังงานทั้งหมดที่ดูดซับก็น้อยลงไปด้วย”

ขณะที่กำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนั้นก็มีเสียงกดออดที่หน้าบ้าน ลุครีบลงไปเปิดประตูเพราะคิดว่านิโคลมาถึงแล้ว แต่เขาพบว่าคนที่มากลับไม่ใช่นิโคล แต่เป็นตำรวจสองนายแทน

ลุคใจเต้นแต่ภายนอกก็ยังรักษาอาการสงบนิ่งไว้

“มีธุระอะไรครับ” ลุคสอบถาม

“ใช่คุณลุค ซันเดอร์หรือเปล่าครับ”

“ใช่ครับ”

“เราขอเข้าไปคุยกันด้านในได้ไหมครับ” ตำรวจที่ดูอาวุโสกว่าอีกคนกล่าวถามอย่างสุภาพ

สมองของลุคคิดอย่างรวดเร็ว คาดเดาว่าเกี่ยวกับที่เขาไปขู่ตำรวจที่สถานีในเขต 5 หรือจะเป็นเรื่องของไฟไหม้ที่โกดังมาเฟียและเขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปแล้วหรือไม่ แต่จากท่าทางของตำรวจทั้งสองไม่เหมือนจะมาจับกุมเขาเลย ลุคตรวจสอบตำรวจทั้งสองคนที่ไม่ได้รู้ตัวว่ามีคลื่นพลังกวาดผ่านร่างกายก็พบว่าทั้งสองเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น

“เชิญด้านในครับ”

ลุคเปิดประตูให้ตำรวจทั้งสองเข้ามาในบ้าน เขาและตำรวจนั่งอยู่ที่โซฟาคนละฝั่ง

“ต้องการน้ำไหม”

“ไม่เป็นไรครับ เราแค่มาคุยแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้ว” ตำรวจอาวุโสค่อนข้างระวังตัวไม่ปล่อยโอกาสให้ตำรวจคู่หูที่อายุน้อยกว่าอีกคนพูดเลย

ลุคสังเกตเห็นว่าตำรวจอีกคนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็โดนตำรวจอาวุโสกล่าวขัดไปซะก่อน

“ที่พวกเรามาวันนี้อยากจะถามเรื่องหนึ่งกับคุณรับ”

ตำรวจอาวุโสหยิบเอาซองเอกสีน้ำตาลออกมาและเปิดเอาเอกสารออกมาวางไว้บนโต๊ะ ลุคมองไปที่เอกสารด้วยสีหน้าตื่นตกใจและยื่นมือไปคว้าเอกสารพวกนั้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

“เอกสารของพ่อแม่และน้องสาว มีของผมด้วย” ลุคเปิดดูเอกสารและละฉบับมันเป็นเอกสารประวัติส่วนตัวของเขาที่ไม่ควรมีใครเอาออกมาได้ง่าย ๆ

ต้องรู้ก่อนว่าถ้าเป็นคนธรรมดาอาจจะพอใช้เส้นสายได้ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นเหนือมนุษย์แล้วคนที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเหนือมนุษย์คนอื่นมีเพียงระดับผู้อำนวยการสำนักงานเหนือมนุษย์เท่านั้นและยังต้องมีเงื่อนไขความจำเป็น ปัญญาประดิษฐ์ไกอาจึงจะยอมให้เข้าถึงข้อมูลด้วย

‘ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้เดียว มันถูกเอามาก่อนที่ฉันจะเป็นเหนือมนุษย์’ ลุคคิดได้ดังนั้นก็ขมวดคิ้วทันที

“พวกคุณพบเอกสารนี่ที่ไหนแล้วมีเรื่องอะไรกันแน่”

“คืออย่างนี้ครับคุณลุค พวกเราพบมันที่หนึ่งในตู้เซฟของมาเฟียแก๊งวีตัส ไม่รู้ว่าคุณรู้จักแก๊งมาเฟียนี้หรือเปล่า”

“ทำไมเหรอครับ” ลุคไม่ยอมรับและปฏิเสธ

ซึ่งตำรวจอาวุโสก็ไม่ได้ถามซ้ำ แต่เล่าต่อว่า

“ตอนนี้มาเฟียแก๊งวีตัสโดนฆ่าตายไปเกือบหมดในเหตุเพลิงไหม้เมื่อ 4 วันก่อน ส่วนพวกที่เหลือก็หลบหนีไปแล้ว ทำให้ทางสน.ในพื้นที่ของเขต 5 ประสานมาทางเราเพื่อหาคนที่เกี่ยวข้องและอาจจะเป็นคนฆ่าคนนับร้อยในเหตุการณ์ครั้งนี้ เราเลยไล่ดูหลักฐานจากที่หาเจอ จนมาเจอเอกสารชุดนี้และดูเหมือนมาเฟียพวกนั้นจะให้ความสำคัญครอบครัวของคุณมาก เราคิดว่ามามาเฟียแก๊งนี้ได้จับตาดูคุณอยู่ พวกเราเลยมาสอบถามเพราะคุณเผื่อจะคุณจะพอให้ข้อมูลถึงการตายของคนพวกนี้ได้”

คำพูดของตำรวจอาวุโสคนนี้เห็นชัดว่ารู้ข้อมูลมามากกว่าที่กล่าว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่กล้ากล่าวหาลุคโดยตรง

“ผมไม่รู้เรื่องอะไรของแก๊งพวกนี้เลยครับ” ลุคตอบไปด้วยใบหน้านิ่งเฉย

“น่าเสียดาย แต่ก็ต้องขอบคุณที่ยอมพูดคุยและให้ข้อมูลกับเราครับ ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวก่อน” ตำรวจยืนขึ้นเคารพเล็กน้อยตามมารยาท

ตำรวจอีกนายกำลังจะหยิบแฟ้มเอกสาร แต่ลุคก็พูดขึ้นมาว่า

“ผมขอเอกสารพวกนี้เก็บคืนไว้ได้ไหมครับ ยังไงตอนนี้ผมเป็นเหนือมนุษย์แล้ว เอกสารพวกนี้ถือเป็นข้อมูลของเหนือมนุษย์ที่มีความสำคัญมาก ผมไม่อยากให้คนนอกได้ไหมอีก” ลุคกล่าวเป็นนัย

“เรื่องนี้มัน...” ตำรวจหนุ่มคู่หูกล่าวขึ้น แต่ก็มีมือของตำรวจอาวุโสเข้ามาจับบ่าไว้ก่อนจะหันไปพูดกับลุค

“แน่นอนครับ”

“ขอบคุณ”

ตำรวจทั้งสองเดินออกมา ขณะที่ตำรวจหนุ่มคู่หูขมวดคิ้วไม่พอใจเล็กน้อยกับท่าทีของคู่หูอาวุโสของเขา พอทั้งสองนายเข้ามาในรถตำรวจหนุ่มก็ถามทันที

“หัวหน้าเราจะไปจับเขาไปสอบปากคำเหรอ มีคนถ่ายรูปได้ตอนเกิดเพลิงไหม้ ชายคนนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งมาเฟียวีตัสที่ตายไปจำนวนมากแน่นอน นี่ไม่ใช่คดีเล็ก ๆ เลยนะ แถมเขายังเป็นเหนือมนุษย์มีพลังที่จะฆ่าคนพวกนั้นได้แน่นอน ชายคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยอันดับต้น ๆ ของเราเลยนะ”

“นายมีหลักฐานที่เห็นใบหน้าชัดเจนว่าเป็นเขาเหรอ”

“ไม่ครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปกล่าวหาเขา ฟังฉันนะ ถึงการตายของมาเฟียจะเป็นคดีใหญ่ แต่ไม่มีใครจริงจังในการทำคดีนี้หรอก อย่างแรกมาเฟียพวกนี้เป็นพวกผิดกฎหมาย การตายของพวกเขาเป็นเรื่องดีของตำรวจ ทางสน.เขต 5 ยื่นหน้าไปรับผลงานกวาดล้างมาเฟียพวกนี้แล้ว อย่างที่สองชายคนนั้นเป็นเหนือมนุษย์แล้วยิ่งเราไม่มีหลักฐานชัดเจนด้วย ยิ่งไม่อาจจะกล่าวหาเขาลอย ๆ ได้ แถมถ้าเกิดเราจับเขาไปคนที่ซวยจะเป็นเราซะอีก มีหวังผู้กำกับได้ลงโทษเรา เพราะการที่คดีที่กำลังจะปิดเข้าไปเกี่ยวกับเหนือมนุษย์มันจะยุ่งยากขึ้นหลายเท่า ผู้กำกับไม่อยากเห็นคดีนี้ยุ่งเหยิงไปมากกว่านี้ ส่วนเหนือมนุษย์คนนั้นคงโดนปล่อยตัวทันทีเหมือนกัน”

“ทำไมเป็นแบบนั้นเหนือมนุษย์ก็ยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนพวกเรามนุษย์ธรรมดาไม่ใช่หรือยังไง”

“นายนี่นะไม่เข้าใจจริง ๆ ไว้รอนายเผชิญหน้ากับมอนสเตอร์แล้วจะเข้าใจว่าเหนือมนุษย์และคนธรรมดาต่างกันแค่ไหน”

“ถ้าเป็นอย่างที่หัวหน้าพูดแล้วเราจะมาหาเขาทำไมกัน”

“ก็แค่มาพอเป็นพิธีแค่นั้น อย่าถามมากน่ะไปกลับกันได้แล้ว”

รถตำรวจขับออกไปผ่านหญิงสาวผมดำที่มองมาจากข้างทาง ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปที่บ้านลุคด้วยความสงสัยว่าตำรวจมาทำอะไรที่นี่

...

ลุคในตอนนี้กำลังจ้องเอกสารจนคิ้วเขาแทบจะชนกัน เขาไม่เข้าใจ เอกสารของพ่อและแม่ดูเหมือนจะเป็นฉบับเก่า แต่ของเขาเป็นของใหม่ เพราะดูจากสีของกระดาษที่สำคัญในเอกสารของพ่อและมีกลับมีการปั๊มสัญญาลักษณ์บางสิ่งไว้อีกทีหนึ่ง

สัญญาลักษณ์นี้ดึงดูดลุคเป็นอย่างมากทำให้เขาต้องขอเอกสารจากพวกตำรวจเก็บไว้

“มันเหมือนกับเราเคยเห็นมาก่อน จี้สร้อยคอ”

ออด...

ขณะที่ลุคคิดออกในตอนนั้นก็มีเสียงออดดังขึ้น เขาจึงเก็บเอกสารทั้งหมดไปไว้ที่ตู้ลิ้นชัก ก่อนที่จะไปเปิดประตูและพบว่าเป็นนิโคล

“ตำรวจมาหานายเมื่อกี้นี้หรือว่านายมีปัญหา”

“เปล่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เข้ามาด้านในก่อน”

“อืม” นิโคลไม่ได้ถามต่อ เพราะดูเหมือนลุคไม่ต้องการจะพูดถึงมัน เธอเดินเข้ามาภายในบ้าน ก่อนจะมองไปรอบตัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“บ้านของนายน่าอยู่ดี”

“ขอบคุณ”

“แล้วน้องสาวนาย เจนไม่อยู่บ้านเหรอ” นิโคลถามหาน้องสาวของลุค

“เรื่องนี้ฉันจะคุยกับเธอพอดี” ลุคพูดด้วยสีหน้าอึมครึม ทำให้ท่าทางของนิโคลกลับมาจริงจังในทันที

...

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด