ตอนที่แล้วตอนที่ 20 : กลับหลินอัน (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 22 : วังหลังขององค์รัชทายาท (อ่านฟรี)

ตอนที่ 21 : องค์รัชทายาทจะทรงเลือกพระชายา (อ่านฟรี)


เฉียวจินเหนียงชิงชังอุบายแสร้งทำเป็นอ่อนแอของเฉียวหรูฉีจริงๆ แต่นางก็ต้องยอมรับว่าวิธีนี้ได้ผลที่สุด

เธออดทนกับเฉียวหรูฉีมานานพอแล้ว วันนี้เมื่อได้ยินการใส่ร้ายเธออย่างรุนแรงของนาง คนส่วนใหญ่คงจะเชื่อคำพูดของนางและสงสัยว่าเธอบริสุทธิ์จริงหรือเปล่า

หากเธอโจมตีกลับ ชื่อเสียงของเธอคงจะถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

เมื่อฮูหยินใหญ่ได้ยินว่า "จะกลับไปหลินอัน" นางรีบจับข้อมือของเฉียวจินเหนียงไว้แน่น “ไม่ เจ้าอย่าพูดถึงมันอีกเลย!”

เฉียวจินเหนียงกล่าวว่า “ท่านแม่ ตั้งแต่ลูกมาอยู่ที่จวนหวัง ลูกไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อนางเลย แต่น้องสี่ก็ยังคงใส่ความลูกไม่หยุดหย่อน ถ้าลูกไม่กลับไปหลินอัน ลูกคงจะไม่มีหน้าไปปรากฏตัวในที่สาธารณะอีกต่อไป”

นางก็สามารถเล่นบทอ่อนแอได้เช่นกัน

น้ำตาของเฉียวจินเหนียงร่วงหล่น “ลูกคิดว่าถ้าลูกกลับไปที่หลินอันซะมันคงจะดีกว่าเจ้าค่ะ”

นั่วหมี่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า “นายหญิงเจ้าคะ บ่าวรับใช้คุณหนูมาตั้งแต่ยังเด็ก คุณหนูไม่เคยต้องทนทุกข์เช่นนี้มาก่อน คุณหนูพยายามช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่

“ทำอาหารให้คุณหนูใหญ่ด้วยตัวเองทุกวัน แต่ในสายตาของคุณหนูสี่ กลับใส่ความว่า ที่คุณหนูของบ่าวพาคุณหนูใหญ่กลับมาจวนหวัง เพราะต้องการที่จะขโมยสามีของคุณหนูใหญ่

“แม้คุณหนูจะเติบโตมาในครอบครัวธรรมดา แต่คุณหนูก็มีการศึกษาที่ดี นางจะมีความคิดที่น่ารังเกียจเช่นนี้ได้อย่างไรกันเจ้าคะ”

ฮูหยินใหญ่มองดูบุตรสาวคนเล็กซึ่งนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นของนาง “เจ้ากล้าดียังไงถึงใส่ร้ายพี่สาวของเจ้าเช่นนี้”

เฉียวหรูฉีร้องไห้ “ท่านแม่ ทำไมท่านถึงไม่เชื่อข้า ทั้งๆที่ข้าอยู่กับท่านมา15ปีแล้ว? แม้ว่าท่านจะรู้สึกผิดต่อนาง แต่ท่านก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าข้างนางถึงเพียงนี้? ท่านเป็นคนเลี้ยงข้ามา ไม่ใช่นาง! ท่านรู้ไหมว่าเฉียวจินเหนียงมีความคิดที่ชั่วร้ายขนาดไหน!”

“ทำไมท่านถึงบอกว่าข้าใส่ร้ายนาง ทั้งๆที่นั่นคือสิ่งที่นางคิดจะทำ!”

“ท่านแม่ รีบจับนางไปที่โถงบรรพบุรุษเถิดเจ้าค่ะ อย่าปล่อยให้นางทำลายชื่อเสียงของจวนหวังเช่นนี้เลย”

เฉียวจินเหนียงเช็ดน้ำตาของนาง “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องลำบากส่งลูกไปหรอกเจ้าค่ะ ลูกก็แค่กลับไปยังที่ที่ลูกจากมา”

ฮูหยินใหญ่พูดด้วยความโกรธว่า “พวกตระกูลเฉียวที่รังแกเจ้ายังคงอยู่ในหลินอัน เจ้าจะกลับไปได้อย่างไร คนที่ควรจะถูกส่งไปไม่ใช่เจ้า

“แม่นมหลิวพาคุณหนูสี่ไปที่โถงบรรพบุรุษเพื่อสำนึกผิดเป็นเวลาหนึ่งเดือน ถ้านางยังไม่เปลี่ยนความคิดที่มีต่อพี่สาว ก็ให้นางอยู่ในนั้นไปตลอดชีวิต!”

เฉียวหรูฉีตกตะลึง ราวกับมีถังน้ำเย็นราดบนหัวนาง

“ท่านแม่… ข้ากำลังจะได้เป็นพระชายา ท่านจะส่งข้าไปที่นั่นในตอนนี้ได้อย่างไร ท่านเคยคำนึงถึงชื่อเสียงของข้าบ้างไหม”

ฮูหยินใหญ่พูดกับแม่นมหลิวว่า “คุณหนูสี่เสียสติไปชั่วคราวเพราะอาการป่วย ห้ามนางออกมาจนกว่านางจะฟื้นคืนสติ!”

เฉียวจินเหนียงสังเกตเห็นว่าดวงตาของฮูหยินใหญ่เต็มไปด้วยความทุกข์แม้ว่าการแสดงออกของนางจะเยือกเย็นก็ตาม

นางรู้ว่านางควรขอร้องให้เฉียวหรูฉี แต่นางไม่ต้องการทำเช่นนั้น

“ท่านแม่ ข้าขอตัวกลับห้องก่อนนะเจ้าค่ะ”

ฮูหยินใหญ่ถามว่า “เจ้าได้ทานอาหารเย็นแล้วหรือยัง…”

“เจ้าค่ะ ลูกทานที่ตำหนักของอ๋องหรงแล้วเจ้าค่ะ”

เฉียวจินเหนียง ทำความเคารพและกลับไปที่สวนจิน ทันทีที่นางเข้าไปในห้อง นางก็อดไม่ได้ที่จะกอดผ้าห่มและร้องไห้

ทุกคนในหลินอันบอกว่า นางคงจะเป็นสตรีที่มีความสุขมากเนื่องจากได้สามีที่หล่อเหลา และพวกนางก็มีลูกชายที่น่ารักหลังจากแต่งงานได้ไม่นาน

นางร้องไห้เมื่อได้รับจดหมายหย่าที่เขามอบให้ แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำให้นางอายยิ่งกว่าก็คือในสายตาของสามี นางไม่เคยเป็นภรรยาของเขาเลย...

หลังจากที่ฮูหยินใหญ่พาเฉียวหรูฉีไป นางรู้สึกเสียใจในระหว่างที่เดินเข้าไปในสวนจิน นางต้องการที่จะแก้ต่างให้เฉียวหรูฉีบ้าง แต่แล้วนางก็ได้ยินเสียงร้องไห้ที่เศร้าสร้อยดังออกมาจากในห้อง

จินเหนียง คงต้องรู้สึกแย่มากเป็นแน่

ฮูหยินใหญ่รีบเดินเข้าไปหา "จินเหนียง ถ้าเจ้ารู้สึกแย่ก็บอกแม่ อย่าร้องไห้คนเดียวเลย มันไม่ดีต่อสุขภาพของเจ้า…

“หรูฉีดูถูกเจ้า นางควรไตร่ตรองถึงความผิดของนางในโถงบรรบุรุษสักสองเดือน แม่จะไม่พานางกลับมาเว้นแต่นางจะยอมรับความผิดของตัวเอง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียวจินเหนียงก็กอดฮูหยินแล้วร้องไห้ "ท่านแม่"

ฮูหยินใหญ่กอดเฉียวจินเหนียงแน่น “ข้าขอโทษ ข้าควรที่จะลงโทษหรูฉีให้ไวกว่านี้ ถ้าข้าทำอย่างนั้น เจ้าคงไม่ถูกนางรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

“เด็กดี อย่าร้องไห้ มันไม่คุ้มที่จะร้องไห้ให้กับคนที่รังแกเจ้า เจ้ายังมีข้าอยู่เคียงข้าง”

เฉียวจินเหนียงลังเลที่จะผละจากอ้อมกอดอันอบอุ่นของท่านแม่ ใช่ นางต้องเดินหน้าต่อไป และมันไม่คุ้มเลยที่จะร้องไห้ให้กับไอ้งั่งนั่น...

น้ำตาของนางคงจะไร้ค่าพอๆกับตัวเธอในสายตาของเขา

วังหลวง

ฮองเฮาสั่งให้นำอาหารขึ้นโต๊ะ และเมื่อลู่เฉินนั่งลง ฮองเฮาก็จ้องหน้าพระโอรสของนาง “ทำไมเจ้าถึงแต่งหน้าเหมือนหนุ่มสำอางค์พวกนั้น”

ฮ่องเต้มองไปที่ใบหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง “หน้าเจ้าบวมหรือเปล่า”

เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถซ่อนมันจากพ่อแม่ได้ ลู่เฉินจึงพูดได้แต่ตอบว่า “เมื่อกี้กระหม่อมหกล้มพะย่ะค่ะ”

ฮองเฮาพูดอย่างเย็นชา “ล้ม? ล้มแล้วไยจึงมีรอยมือบนหน้าของเจ้า? ใครกันที่กล้าตบองค์รัชทายาท? ทำไมเจ้าถึงปกป้องคนผู้นั้น”

ลู่เฉินกล่าวว่า “คิดซะว่ากระหม่อมตบตัวเองเถิดพะย่ะค่ะ!”

ฮองเฮาตรัสว่า “คนที่ตบเจ้าคงเป็นสตรีสินะ เจ้าต้องการปกป้องนางใช่ไหม? อย่างไรก็ตาม ข้ายังไม่ได้บอกเจ้า ที่ภูเขาทางเหนือ ข้าสงสัยว่าลูกสาวคนที่สองของหวังอันหยวนคือจินเหนียงที่เจ้ากำลังตามหา”

ลู่เฉินตอบกลับ “ลูกเจอนางแล้วพะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้เลิกคิ้วขึ้น “นางคือลูกสาวของหวังอันหยวนที่ถูกอนุสลับตัวไปใช่หรือไม่”

ลู่เฉินพยักหน้า "พะย่ะค่ะ"

ฮ่องเต้ตรัสว่า “ข้าคิดว่าสามารถแต่งตั้งนางเป็นพระสนมรองของเจ้าได้ ถ้านางให้กำเนิดบุตรอีกคนหนึ่ง ก็เลื่อนขั้นนางขึ้นเป็นพระสนมเอก”

ฮองเฮาขมวดคิ้ว หญิงใดจะยอมลดฐานะจากภริยาเป็นสนม? ทุกคนบอกว่านางสนมขององค์รัชทายาทไม่ใช่นางสนมธรรมดา แต่ถือเป็นเจ้านาย แต่หลังจากอยู่ในวังหลังมาหลายปี นางก็ได้รู้ว่าสนมก็ยังเป็นสนมอยู่ดี

แม้ว่านางจะรู้สึกสงสารเฉียวจินเหนียง แต่ฮองเฮาก็รู้กฎของราชวงศ์ดี ไทเฮาและพระสนมซีอานคงจะไม่เห็นด้วยที่จะให้นางเป็นพระชายาอย่างแน่นอน มันเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับเฉียวจินเหนียงที่จะได้เป็นพระสนมรองขององค์รัชทายาท

ฮ่องเต้ตรัสว่า “เจ้าควรจะเลือกพระชายาเดี๋ยวนี้ แล้วข้าจะออกคำสั่งให้แต่งตั้งเฉียวจินเหนียงเป็นพระสนมรอง เพื่อไม่ให้เกิดความสงสัย”

เป็นเรื่องอื้อฉาวที่ครั้งหนึ่งองค์รัชทายาทเคยอภิเษกสมรสกับตระกูลพ่อค้า ดังนั้นการอนุญาตให้เฉียวจินเหนียงเป็นพระสนมรอง หลังจากประกาศแต่งตั้งพระชายา จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ไปได้มาก

เมื่อนึกถึงเฉียวจินเหนียงที่ต่อว่าเขาทั้งน้ำตาที่จะให้นางไปเป็นพระสนมของเขาตอนอยู่ที่ตำหนักอ๋องหรง ลู่เฉินก็พูดกับฮ่องเต้ว่า “เสด็จพ่อ จินเหนียงเป็นบุตรสาวของหวังอันหยวน และหวังอันหยวนก็เป็นหนึ่งในขุนนางที่เสด็จพ่อทรงโปรดมิใช่หรือพะย่ะค่ะ ตำแหน่งสนมรองจะไม่ต่ำเกินไปสำหรับนางหรือ?”

ฮ่องเต้มองไปที่ลู่เฉิน “แล้วเจ้าคิดว่าตำแหน่งใดล่ะที่เหมาะสม?”

ลู่เฉินพูดด้วยเสียงต่ำ “พระชายาของลูกพะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ตรัสว่า “การเลือกพระชายาไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แม้ว่านางจะให้กำเนิดต้วนเอ๋อร์ แต่นางก็ถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อค้า เด็กผู้หญิงที่เติบโตในโรงเตี๊ยมไม่สมควรจะได้เป็นพระชายา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่เฉินเม้มปากและไม่พูดอะไรอีก

แต่ตั้งแต่ที่ฮองเฮาเข้าวังหลังของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็ไม่ทรงเลือกนางสนมอีก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด