ตอนที่แล้วSGS บทที่ 142 – ยืมโทรศัพท์โทรหาพยานล่ะ!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSGS บทที่ 144 – สถาบันวิจัย ข้อมูล ดีเอ็นเอ และเหล่าน้องสาวล่ะ!

SGS บทที่ 143 – บทเรียนดีๆล่ะ!


SGS บทที่ 143 – บทเรียนดีๆล่ะ!

มิโคโตะรีบวิ่งไปที่สำนักงานจัสจ์เม้นสาขา177 จากนั้นเธอก็เคาะประตูอย่างมีมารยาท ช่วยไม่ได้นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอมาสำนักงานของจัสจ์เม้น แล้วจะให้เธอบุกเข้าไปเลยนะเหรอ?

แน่นอนว่าหลังจากเคาะประตู มิโคโตะก็เปิดประตูเข้าไปเลย บอกเป็นนัยว่าเธอกำลังรีบ และเมื่อมิโคโตะเปิดเข้าไปภาพที่เห็นก็คือ.......

รุ่นพี่ ที่หุ่นดีมาก เธอกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ สายตาจดจ้องไปในทิศทางหนึ่ง มิโคโตะเห็นว่าคิ้วของรุ่นพี่คนนี้กำลังผูกเป็นปม

อีกคนเป็นสาวน้อยที่มีที่คาดผมแบบดอกไม้อยู่บนหัว มีหุ่นเล็กๆหน้าตาน่ารัก ตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ศีรษะเธอฟุบลงไปเล็กน้อย สามารถเห็นหยาดน้ำตาที่หางตาเธอได้ ดูเหมือนเธอจะได้รับดาเมจบางอย่าง ทำให้เธอไม่กล้ามองไปมากกว่านี้ สาวน้อยคนนี้ดูตรงกันข้ามกับรุ่นพี่คนนั้นเลย

ส่วนอีกคน เป็นคนที่เธอคุ้นเคยมาก กำลังนั่งบนเก้าอี้สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่าง มีแอบเหล่ตามามองไปที่ที่หนึ่งเป็นครั้งคราว ก่อนจะหันกลับไปมองนอกหน้าต่างด้วยท่าทีที่ดูเย็นชาและโดดเดี่ยว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

สถานการณ์แปลกๆทำให้มิโคโตะตัวแข็ง อึ้งไปเล็กน้อย ยกมือขึ้นมาขยี้ตาเบาๆภาพที่เห็นก็ยังเป็นเหมือนเดิม ถึงแม้มันจะดูปกติธรรมดา แต่ทำไมไม่รู้ เธอกลับรู้สึกว่ามันแปลกมากๆ

ไม่รู้ว่าวู่หยานเพิ่งสังเกตเห็นหรือเห็นนานแล้ว เขายิ้มให้เธอแล้วพูดว่า

“มาแล้วเหรอ มิโคโตะ......”

มิโคโตะรีบก้าวเท้าเดินมาข้างตัววู่หยาน แล้วถามทั้งๆที่ยังขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น? จากที่ฟังจากโทรศัพท์เมื่อกี้ ไม่ใช่ว่านายกำลังลำบากอยู่หรอกเหรอ?”

“...อ่า....” วู่หยานถอนหายใจ มองมิโคโตะด้วยสายตาสงสาร แล้วยกมือไปวางบนไหล่เธอ จากนั้นพูดอย่างจริงจังว่า “มิโคโตะ ในที่สุดฉันก็เข้าใจความรู้สึกที่เธอต้องเจอทุกวันแล้วล่ะ......”

“ห๊ะ?” มิโคโตะงุนงง

อีกด้านหนึ่ง โคโนริกับอุยฮารุก็เดินมา ทั้งสองคนมีสีหน้าแตกต่างกันไป คนแรกมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น  คนหลังตาเป็นประกาจดุจดวงดาว  ราวกับแฟนคลับผู้บ้าคลั่งได้เจอคนดาราที่ชอบ

“เธอเป็น เอซของโทคิวะได มิซากะ มิโคโตะ คนนั้นน่ะเหรอ?” โคโนริ มองสำรวจมิโคโตะ ดูว่ามีอะไรแตกต่างจากคนปกติบ้าง จากนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม

เจอกับคนแปลกหน้า มิโคโตะจะมีมารยาทมาก นับประสาอะไรกับอีกฝ่ายที่เป็นรุ่นพี่ “คะ! ฉันชื่อ มิซากะ มิโคโตะ สวัสดีคะรุ่นพี่!”

“ไม่ต้องสุภาพแบบนั้นก็ได้ ฉันชื่อ โคโนริ มิอิ สวัสดีคุณ มิซากะ!”

“สะ...สวัสดีคะ รุ่นพี่ มิซากะ ฉันชื่อ อุยฮารุ คาซาริ ค่า......” แก้มอุยฮารุแดงเล็กน้อย ขณะที่ทักทายสวัสดีมิโคโตะอย่างเหนียมอาย

“เอ่อ คือต้องขอโทษจริงๆนะที่มารบกวนพวกเธอน่ะ.....” มิโคโตะยกนิ้วเกาแก้ม

ภาพสามสาวทำความรู้กันทำวู่หยานยิ้มแห้งๆ ที่จริงพวกเธอควรรู้จักกันอยู่แล้ว การที่มาเห็นทั้งสามทำความรู้จักกันทำวู่หยานรู้สึกแปลกๆ

แต่นี่มันก็ช่วยไม่ได้เพราะเวลาที่เขาเข้ามาโลกนี้มันเป็นหนึ่งวันก่อนที่เนื่อเรื่องจะเริ่ม ดังนั้นช่วงเวลานี่พี่สาวเรลกันจึงยังไม่รู้จักอุยฮารุกับโคโนริ

มองดูสาวพูดคุยกันแถมดูเหมือนยาวขึ้นเรื่อยๆด้วย วู่หยานจึงพูดแทรกไปว่า “เอ่อ คุณผู้หญิง ตอนนี้ฉันไปได้แล้วใช่ไหม?”

ได้ยินเสียง สามสาวกหยุดคุย โคโนริยกนิ้วดันกรอบแว่น พูดว่า “คุณมิซากะ โปรดดูแลเพื่อนคุณดีๆด้วย อย่าให้เขาออกมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นอีกนะคะ ต้องรู้นะว่าผ๔ชายคนนี้มีคดีเก่าเยอะมากเลย.....”

วู่หยานหัวเราะแห้งๆ ไม่รู้จะตอบไปไงดีเลย มิโคโตะเองก็เหมือนกัน แน่นอนเพราะเธอรู้ถึงสถานการณ์ของวู่หยานดี ถ้าเกิดวู่หยานไปลวนลามสาวๆล่ะก็ เธอคงปล่อยฟ้าผ่าใส่ตั้งนานแล้วล่ะ......

เธอเหลือบตาไปมองวู่หยาน เห็นเค้าทำแววตาใสซื่อบริสุทธิ์ราวลูกหมาน้อย ทำมิโคโตะหลุดขำออกมา ก่อนจะนึกอะไรออก แล้วมองไปรอบๆห้อง

“ใช่แล้ว คุโรโกะล่ะ?”

ห้องกลายเป็น เงียบกริบทันที......

มิโคโตะมองอุยฮารุกับโคโนริที่เงียบไป ก่อนจะหันไปหาวู่หยาน “เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุโรโกะงั้นเหรอ?”

“มะ...ไม่เป็นอะไรค่ะ....สบายดีค่ะ...” อุยฮารุยกมือสะบัดไปมาต่อหน้ามิโคโตะ แค่ดูก็รู้ละว่าเธอดูหวาดกลัวขนาดไหน

“คุณชิราอิ ได้รับการแจ้งงานค่ะ เลยออกไปข้างนอกแล้ว.....” โคโนริรีบลากอุยฮารุไปด้านหลัง แล้วพูดยิ้มๆกับมิโคโตะ แน่นอนว่าถ้าสังเกตุมากพอจะเห็นว่าสีหน้าเธอดูไม่เป็นธรรมชาติ

“อ่อ เป็นแบบนี้เอง!”

“เอาล่ะ มิโคโตะเราไปกันเถอะ.....” วู่หยานดึงตัวมิโคโตะ แล้วเดินไปที่ทางออก

“งั้น รุ่นพี่โคโนริ คุณอุยฮารุ พวกเราไปก่อนนะ.....”

โคโนริกับอุยฮารุรีบพยักหน้า แตกต่างเมื่อกี้ที่กะจะคุยกับมิโคโตะยันค่ำอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มิโคโตะเอียงหัวอย่างงุนงง ก่อนจะรีบไล่ตามวู่หยานไป

หลังจากพวกวู่หยานไป  โคโนริกับอุยฮารุหันมามองหน้ากันก่อนจะเดินไปที่ใต้โต๊ะหนึ่ง แล้วมองเข้าไปข้างใน.......

มี คุโรโกะ ที่มือเท้าโดนมัดไว้หมด ปากก็มีผ้าอุดไว้ เธอร้อง ‘อือ! อือ! อือ!’

สองสาวยิ้มอย่างขมขื่น  ราวกับไม่แปลกใจ จากนั้นดึงคุโรโกะออกมาแล้ว แล้วแก้มัด

“เจ้าเศษขยะนั่น! กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้! ฉันจะฝังแกทั้งเป็นเลยคอยดู!!”

เพิ่งเอาผ้าอุดปากออก คุโรโกะแหกปากทันที ทำให้โคโนริกับอุยฮารุต้องยกมือขึ้นมาปิดหู

โคโนริฝืนยิ้ม แล้วช่วยแก้มัดต่อ ขณะเดียวก็พูดว่า “ชิราอิ นี่จะว่าเขาก็ไม่ได้นะ ใครใช่ให้เธอไม่ฟังที่คนอื่นพูดล่ะ แถมยังคิดจะเทเลพอตโทรศัพท์เข้าตัวเขาอย่างไร้เหตุผลอีก.....”

“แต่ไอ้ขยะนั่นมันมีความคิดสกปรกกับท่านพี่ ในฐานะที่ฉันเป็นองครักษ์ของท่านพี่ แล้วฉันจะทนให้เจ้านั่นมีชีวิตต่อได้ยังไงกันล่ะคะ!”

คุโรโกะพูดขึ้น ก่อนจะนึกอะไรได้ เธอก็ตะโกนเสียงดังว่า

“ใช่แล้ว! ท่านพี่! ท่านพี่ตามไอ้ขยะนั่นไป! เจ้านั่นต้องวางแผนพาท่านพี่ไปในที่ที่ไม่มีมคนแล้วทำเรื่องอย่างว่ากับท่านพี่แน่เลย!!”

“ไม่ได้การแล้ว! ท่านพี่ค่ะ! ท่านพี่โปรดรอหนูก่อนนะคะ! คุโรโกะกำลังจะไปช่วยแล้ว!”

เสียงตะโกนนี้ได้ดังกึงก้องไปทั่วสำนักงานจัสจ์เม้น......

แต่น่าเสีย ที่ท่านพี่ว่าไม่ได้ยิน แถมเรื่องไอ้อย่างว่าน่ะ ไม่รู้ว่าทำกันไปกี่รอบแล้ว.......

อีกด้านหนึ่ง ภายใต้การอธิบายของวู่หยาน มิโคโตะตึงเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

“หรือก็คือสถานะของนายเป็นพวกนักเลงสินะ......” พูดแบบนี้ สายตาที่มองวู่หยานเต็มไปด้วยความสุข

“ใช่แล้ว ดังนั้นเธอย่าออกจากหอไปมีเรื่องกับพวกนักเลงล่ะ.....” วู่หยานพูดด้วยความไม่พอใจ ทำให้มิโคโตะขำก๊ากอีกรอบ

หลังจากหยุดหัวเราะ มิโคโตะก็พูดด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า “ไม่รู้ว่าฮินางิคุ อิคารอส แล้วก็ แอสเทรียจะเป็นยังไงบ้าง?......”

“เอาน่า อย่างน้อยๆก็ไม่กลายเป็นพวกนังเลงแน่นอน......” ถึงพูดไปแบบนั้น แต่ใจจริงวู่หยานอยากเห็นสามสาวในคราบสาวนักเลงถือไม้เบสบอลแล้วก็มีผ้าปิดปากมากฮ่า

ไม่รู้ว่านึกอะไรออก อยู่ๆวู่หยานก็หัวเราะออกมา “มิโคโตะ เธอคุ้นเคยกับเมืองแห่งการศึกษา เพราะงั้นฉันฝากหาพวกฮินางิคุด้วยล่ะ!”

“แล้วตัวนายล่ะ?” มิโคโตะหยุดเดินแล้วหันไปมองวู่หยาน ราวกับจะมองทะลุเข้าไปในใจเขา

วู่หยานยิ้ม แล้วยกมือลูบผมเธอ “ฉัน? แน่นอนว่าต้องมีแผนอยู่แล้ว!”

โดนวู่หยานลูบหัว ปกติมิโคโตะจะเขินอาย แต่ตอนนี้เธอกำลังมองวู่หยานด้วยสีหน้าจริงจัง จากนั้นพูดเสียงอ่อนๆว่า

“อย่าฝืนตัวเองนะ.....”

วู่หยานพยักหน้า แต่มิโคโตะก็ยังคงไม่สบายใจ “นายห้ามทำอะไรคนเดียวนะ สัญญามาสิว่าพวกเราต้องทำด้วยกันน่ะ.....”

วู่หยานพยักหน้า แล้วยิ้มออกมาอีกครั้ง.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด