ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 68 - หมัดเก้าเปลี่ยนแปลง ปะทะ แส้พัวพัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 70 - ฟิลลิดา - ทักษะระดับสีน้ำตาล??

นักรบพันธุผสม บทที่ 69 - การควบคุมพันธุกรรม


พระอาทิตย์ในยามบ่ายกำลังส่องแสงสว่างจ้าลงมา แม้ว่าแสงแดดจะแรงกล้า แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อากาศร้อนแรงเกินไปมากนัก และแสงที่ส่องลงมาบนพื้นหญ้าของสนามฝึกซ้อม สะท้อนกลับเป็นสีเขียวทองอย่างสวยงาม

การประลองในวิชาทักษะการต่อสู้ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง นักเรียนทยอยเข้าไปในพื้นที่วงกลมเพื่อทำการต่อสู้กันทีละ 2 คน การประลองส่วนใหญ่จบลงอย่างรวดเร็ว และส่วนใหญ่จะมีนักเรียนเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถเดินกลับออกมาได้อย่างไม่มีรอยขีดข่วนใด ๆ

แต่การประลองบางคู่ ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักเลย แต่นั้นเป็นเพราะผู้ชนะเหนือกว่าอย่างชัดเจน และยังคงมีความปราณีอยู่ในใจ ไม่ได้ลงมือรุนแรงเกินไปนัก

และก็มีอีกหลายคู่เช่นกัน ที่ฝ่ายชนะนั้นไร้เมตตา และมีความโหดเหี้ยมดุร้ายเป็นอย่างมาก ลงมือทำร้ายคู่ต่อสู้อย่างหนักอย่างไม่มีอาการลังเลเลยแม้แต่น้อย ราวกับต้องการจะสร้างชื่อเสียงให้กับความแข็งแกร่งของตัวเอง และสั่งสอนให้คู่ต่อสู้จำเขาเอาไว้อย่างแม่นยำ ด้วยการเชือดเนื้อหักกระดูกอย่างโหดร้าย

แม้ว่าครูฝึกจะไม่ได้ประกาศกฏเกณฑ์อะไรออกมาเป็นพิเศษ แต่นักเรียนทุกคนรู้ได้โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว ว่ามันมีขีดจำกัดที่พวกเขาจะลงมือได้ ไม่มีใครกล้าที่จะลงมือทำให้คู่ต่อสู้พิการ หรือบาดเจ็บสาหัสจนเกินไปนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเพียงทำให้กระดูกหัก หรือบาดแผลที่ไม่ลึกมากนัก อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น สามารถที่จะรักษาจนหายสนิทได้เพียงในระยะเวลาไม่กี่วัน หรือไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

บทลงโทษที่มีต่อผู้ใช้ความรุนแรงต่อผู้อื่นของทางสถาบันนั้นเข้มงวดเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้คนผิดลอยนวลไปอย่างง่ายดายเลย นักเรียนทุกคนจึงให้ความระมัดระวังเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

จากการประลองตั้งแต่ต้นจนมาถึงคู่ล่าสุด มีการแสดงทักษะการต่อสู้ต่าง ๆ ออกมาอย่างหลากหลาย นักเรียนบางคนมีความสามารถที่น่าประทับใจ แต่บางคนก็เข้าไปในเวทีเพื่อที่จะโดนอัดลงไปกองกับพื้นเท่านั้น ทั้งเดวิดและนักเรียนคนอื่น ๆ ที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ด้านข้างเวที ต่างให้ความสนใจกับการต่อสู้ทุกคู่เป็นอย่างมาก มันช่วยเพิ่มความรู้ และประสบการณ์ในการต่อสู้ให้เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เดวิดลองประเมินความแข็งแกร่งของนักเรียนใหม่ที่ออกไปแสดงฝีมือให้เห็น เปรียบเทียบกับความสามารถของตัวเอง แม้ว่ามันอาจจะไม่แม่นยำนัก แต่เขาก็สามารถกล่าวออกมาได้อย่างมั่นใจเลยว่า ในหมู่นักเรียนที่ออกไปทำการต่อสู้แล้วนั้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่สามารถต้านทานลูกเตะเพลิง 3 ชั้นของเขาได้

เมื่อพูดถึงเดวิด หลังจากที่ทำการฝึกฝนมาจากในสถาบันจนถึงตอนนี้แล้ว กลายเป็นว่าเขานั้นถือว่ามีพรสวรรค์ในการฝึกทักษะการต่อสู้เป็นอย่างมาก ความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อ และการหมุนเวียนของเลือดได้อย่างค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้สามารถทำให้มันเคลื่อนไหวตามวิธีที่ถูกระบุเอาไว้ในคู่มือการฝึกฝนได้อย่างแม่นยำ และประสบความสำเร็จในการฝึกฝนตั้งแต่การเริ่มลองในครั้งแรก ๆ ที่ยิ่งไปกว่านั้น เขาน่าจะสามารถประยุกต์ใช้วิธีการเหล่านี้ กับการฝึกฝนทักษะการต่อสู้ได้เกือบทุกชนิดเลยด้วยซ้ำ

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาสามารถฝึกฝนทักษะระดับสีแดง จนสามารถบรรลุระดับมาตรฐานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้แต่ศาสตราจารย์ของสถาบันบางคน ยังไม่สามารถฝึกจนเชี่ยวชาญได้รวดเร็วเท่ากับเขาเลย

มีแต่ศาสตราจารย์อาวุโส ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในระดับสูงสุด และมีอำนาจมากมายในสถาบันเท่านั้น ถึงจะสามารถฝึกฝนทักษะระดับสีแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะยิ่งมีความแข็งแกร่งและพลังงานอยู่ในตัวมากเท่าไร ก็มีแนวโน้มที่จะควบคุมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้นเท่านั้น

มันมีทฤษฎีที่สร้างขึ้นโดยสมาคมพันธุกรรม ว่าถ้ามียอดฝีมือที่มีความแข็งแกร่งและพลังงานอย่างพอเพียง จะสามารถควบคุมพันธุกรรมทั้งหมดของร่างกายตัวเองได้ ควบคุมให้ยีนแสดงออกมาหรือไม่ หรือในเวลาเฉพาะตามที่ต้องการได้ และการพันธุกรรมที่กล่าวถึงในทฤษฎีนี้ คือทุกยีนที่สร้างให้คนผู้หนึ่งมีตัวตนอยู่ในโลกใบนี้เลยจริง ๆ

‘ควบคุมพันธุกรรม’ เหมือนเป็นคำง่าย ๆ แต่คนที่สามารถทำมันได้ ก็สามารถเรียกตัวเองว่า ‘ครึ่งเทพ’ ได้อย่างเต็มปาก

มันเป็นความสามารถที่ควบคุมการแสดงออกทุกยีนภายในร่างกายได้ดังใจ ทำได้แม้กระทั่งการจัดเรียงลำดับเบสในเส้นสายของดีเอ็นเอ ตัดต่อเป็นยีนชนิดใหม่ขึ้นมาในร่างกาย ซึ่งหมายความว่า จะสามารถสร้างความสามารถใหม่ ๆ ขึ้นมาได้อย่างไม่จำกัด ตราบใดที่รู้ลำดับของเบสที่ก่อให้เกิดความสามารถนั้นขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของนกฮูกที่มองเห็นได้ในเวลากลางคืน หรือความสามารถในการรับคลื่นเสียงของค้างคาว ต่างก็มียีน มีลำดับเบสที่สร้างความสามารถเหล่านี้ขึ้นมา

ถ้าสามารถถอดรหัสลำดับของเบสที่สร้างยีนนั้นได้ และปรับดีเอ็นเอภายในร่างกายให้มีลำดับเบสที่เหมือนกัน ความสามารถของนกฮูกและค้างคาว จะสามารถมาปรากฏอยู่ในร่างกายของมนุษย์ได้ไม่ยากนัก

และการถอดรหัสยีนของสัตว์ป่าหรือสัตว์ร้าย ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากมากนักในยุคปัจจุบันของโลกใบนี้ มันมีอุปกรณ์ที่สร้างโดยสมาคมพันธุกรรม ที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย

ในตอนนี้ เดวิดไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย ว่าความสามารถของเขานั้น แม้แต่ศาสตราจารย์ของสถาบันยังต้องค่อย ๆ ฝึกฝนอย่างยากลำบาก มีเพียงแค่ศาสตราจารย์อาวุโสเท่านั้นถึงจะควบคุมร่างกายได้ในระดับเดียวกับเขา

ถ้าเขารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเขารู้ว่าความสามารถของตัวเองนั้นหาได้ยาก และล้ำค่าขนาดไหน เดวิดคงจะไม่กล้าแสดงท่าเท้า 3 ชั้นที่ฝึกสำเร็จอย่างรวดเร็วออกมาเป็นแน่ ไม่ว่าจะส่วนตัวหรือต่อหน้าสาธารณชน ต่อให้ชีวิตของเขากำลังจะตกอยู่ในอันตรายก็ตาม

ในสถาบันแห่งนี้มีหูและตาขนาดเล็กอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกล้องสังเกตการณ์จริง ๆ หรือสิ่งมีชีวิตกึ่งหุ่นยนต์ที่ถูกปล่อยอยู่ทั่วทั้งเกาะไปหมด ความผิดพลาดแค่เพียงเล็กน้อยที่เขาก่อขึ้น จะทำให้ความลับเปิดเผยออกไปได้อย่างง่ายได้

และถ้าความสามารถของเขาถูกรับรู้จากทางสถาบัน ไม่มีทางที่เขาจะรอดจากชะตากรรมของการเป็นหนูทดลองไปได้เลย รหัสพันธุกรรมของเขา ยีนที่มอบความสามารถแบบนี้ให้กับเขา จะถูกสกัดออกมา และทำซ้ำเพื่อใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง และน่าจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติส่วนรวมเป็นอย่างมาก

ถ้าสไปรเยอร์ทุกคนมีความสามารถของเขาติดตัว จะสามารถฝึกฝนทักษะ และเทคนิคระดับสีแดงได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าพวกมันมีเพียงระดับสีดำเท่านั้น การเพิ่มอัตราการหมุนเวียนของเลือดจะกลายเป็นเรื่องธรรมดา ความแข็งแกร่งโดยรวมของมนุษย์จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล สถานการณ์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์คงจะสามารถคลี่คลายได้ภายในระยะเวลามีกี่ปีเท่านั้น

แต่นั่นต้องแรกมาด้วยชีวิตของเดวิด ที่ต้องมีชีวิตอยู่อย่างกำหนดชะตากรรมตัวเองไม่ได้ และถูกขังอยู่ในห้องแคบ ๆ ไปตลอดชีวิต มันไม่ใช่ชีวิตที่เขาอยากจะมีแน่ ๆ หลังจากได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง

และในตอนนี้ เดวิดผู้ไร้เดียงสา กำลังมองตามนักเรียนอีก 2 คนเดินเข้าไปในพื้นที่สำหรับการประลอง

หนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนชาย ที่มีรูปร่างหน้าตาเหนือกว่าระดับมาตรฐาน ใบหน้านั้นดูน่ามองเป็นอย่างยิ่ง จมูกโด่งตรงยาว ริมฝีปากบางเข้ารูป และผมสลวยที่หยิกเป็นลอนอยู่เล็กน้อย

“หืม? นั่นมันคาลิฟา เดรกไม่ใช่หรือ?” เสียงของนักเรียนคนหนึ่งดังขึ้นอย่างตกใจ

เพื่อนนักเรียนที่อยู่ด้านข้างเขามีสีหน้าประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน “นายพูดถูก นั่นคาลิฟา เดรกจริง ๆ คนที่มีรายชื่อติดอันดับของนักเรียนใหม่ผู้แข็งแกร่งด้วย”

“ไม่ใช่มีคนลือกันว่า เขารีบใช้คะแนน 100 จีโนจ้างนักเรียนคนอื่นที่อ่อนแอ ให้มาบังคับท้าประลองกับเขา เพื่อรักษาตำแหน่งไว้หรอกหรือ?” เสียงอันเหยียดหยามดังขึ้นมาจากนักเรียนอีกคน

“นายดูท่าทางก็ฉลาดดีอยู่นะ ทำไมถึงได้พูดอะไรโง่ ๆ อย่างนั้นออกมาได้ล่ะ?” นักเรียนคนก่อนหน้านั้นด่าออกมาตรง ๆ

“แก!!” นักเรียนคนที่โดนแดกดัน ชี้นิ้วออกมาด้วยอารมณ์โกรธ กำลังจะตอบโต้ด้วยคำพูดอย่างรุนแรง แต่ก็ถูกตัดบทใส่หน้าทันที

“แกอะไร? ใช้สมองคิดดูใด้ดี ๆ สิ ถ้านายมีคะแนนจีโนมากขนาดนั้น จะไม่ซื้อเวลาให้ตัวเองก่อน แล้วรีบใช้คะแนนจีโนที่ได้มา เพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองขึ้นไปให้เร็วที่สุดอย่างนั้นหรือ?” สายตาของคนที่พูดมองอย่างดูถูก

“นั่นมันก็จริง เขาเลือกวิธีที่ฉลาดมาก น่าจะคิดแบบเดียวกันกับที่นายบอกนั่นแหละ ซื้อเวลาให้กับตัวเองก่อน” อีกคนเห็นด้วย

ระหว่างที่ฟังพวกเขาพูดกันอยู่ สายตาของเดวิดกำลังมองไปที่คู่ต่อสู้ของคาลีฟา ซึ่งเป็นนักเรียนผู้หญิงคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาสวยงามเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที เพราะเขารู้จักเด็กสาวคนนั้น

ฟิลลิดา!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด