ตอนที่แล้วตอนที่ 1224 ผู้หญิงคนนี้.. รับมือได้ยากจริงๆ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1226 พี่ใหญ่ คุณปล่อยฉันไปเถอะ ถ้าหากคนของ หยุนเหมิน รู้...

ตอนที่ 1225 หมู่บ้านชิงหนิว..


ช่วงเช้ามืด… (凌晨 - ช่วงเวลาตั้งแต่เที่ยงคืนถึงก่อนรุ่งสาง)

ในภูเขาลึก และภายในป่ารกทึบทางทิศตะวันตกทางตอนใต้ของยูนนาน ชายใบหน้าเหลี่ยมที่ดูเย็นชาคนหนึ่งได้เดินอยู่ในป่าบนภูเขา แม้ว่าในตอนกลางคืนจะมืดมิด และเส้นทางจะเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ชายคนนี้ก็กลับยังคงเดินไปได้ ..อย่างกับเดินอยู่ในพื้นที่ราบเรียบ

จู่ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามดังขึ้นจากข้างๆ กลับเป็นหมูป่าตัวหนึ่งที่ได้โผล่ออกมา และเตรียมที่จะเข้าทำร้ายชายที่มีใบหน้าเหลี่ยมคนนี้

ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ปฏิกิริยาแรกที่เห็นหมูป่า เกรงว่าจะเป็นการตกใจกันทั้งนั้น, หากหมูป่าได้เข้ามาโจมตีทำร้าย ก็คงจะยิ่งตกใจกลัวจนแทบช็อก หรือไม่ก็อาจจะกลัวจนเป็นอัมพาต ไม่งั้นก็คงกลัวจนวิ่งหนีไป

แต่ผู้ชายที่มีใบหน้าเหลี่ยมคนนี้ ไม่เพียงแต่ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย.. แต่เขากลับยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข แล้วพูดว่า : “มาได้เวลาพอดี..”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา…

ไม่ใกล้กับป่าในจุดนั้น ในถ้ำหนึ่งบนภูเขา ชายที่มีใบหน้าเหลี่ยมคนนี้ได้นั่งอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่ ข้างหน้ามีกองไฟที่มีเปลวไฟลุกโชนอยู่ เหนือกองไฟก็ได้มีชั้นวางชั่วคราวที่ทำมาจากไม้ และมีหมูป่าทั้งตัวกำลังถูกย่างอยู่ กลิ่นหอมกรุ่นของเนื้อได้ฟุ้งกระจายไปทั่ว ชายที่มีใบหน้าเหลี่ยมก็ได้ใช้มีดหั่นเนื้อ และกัดกินเนื้อชิ้นใหญ่นั่น ..อย่างเอร็ดอร่อย

เวลาในตอนนี้เกือบจะตีสามแล้ว..

หมู่บ้านชิงหนิว เป็นหมู่บ้านบนภูเขาลึกใกล้กับภูเขานับแสนลูกที่อยู่ในทางทิศตะวันตกของทางตอนใต้ของยูนนาน ในเวลานี้หมู่บ้านแห่งนี้ก็ถูกรอบล้อมไปด้วยความมืด ผู้คนทั้งหมู่บ้านก็กําลังหลับใหลอยู่ ทั้งมันยังเต็มไปด้วยความเงียบสงบ

ไฟหน้ารถส่องสว่างสองดวง เสียงรถที่กําลังขับเข้ามาก็ได้ทําลายความเงียบสงบของหมู่บ้าน และได้เห็นเพียงรถ Hummer คันหนึ่งขับเข้ามาในหมู่บ้านชิงหนิว ..อย่างช้า ๆ

การมาถึงของรถ Hummer ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับสุนัขในหมู่บ้าน และก็ได้มีเสียงสุนัขเห่าดังขึ้น พร้อมกับมีสุนัขที่ไม่มีสายจูงวิ่งออกมาจากถนนในหมู่บ้านมายืนอยู่ข้างทาง และเห่าใส่รถ Hummer อย่างบ้าคลั่ง

หลินฟาน ไม่สนใจสุนัขเหล่านี้ เขาขับรถไปพลาง สังเกตออกไปด้านนอกรถไปพลาง เขาใช้ระบบนำทาง และเดินทางมากว่าเกือบสามชั่วโมง ในที่สุดก็ได้มาถึงที่นี่ นี่คือหมู่บ้านชิงหนิว ที่อยู่ไม่ไกลจาก หยุนเหมิน

ในไม่ช้า หลินฟาน พบว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน ..ข้างหน้าเขา หลินฟาน ก็ได้ขับรถขึ้นไปจอดที่ด้านหลังของรถแท็กซี่คันนั้น

เมื่อจอดรถเสร็จ หลินฟาน ก็ได้รีบลงจากรถทันที

ภูเขาลึกยามเช้ามืดมีหมอกโปรยปรายเต็มท้องฟ้า อากาศดูเย็นสบาย

โชคดีที่ หลินฟาน มีร่างกายที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจึงยังสู้กับมันได้

หลินฟาน ได้เดินไปที่ที่นั่งคนขับของรถแท็กซี่ มองผ่านหน้าต่างรถก็ จะเห็นคนที่นั่งอยู่ด้านในที่นั่งคนขับ เขาได้นั่งก้มหน้าลง หน้าผากของเขาแนบอยู่กับพวงมาลัย เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ท่านอนปกติ แต่เป็นเขาที่ถูกตีจนสลบ

หลินฟาน เปิดประตูรถ และเอื้อมมือไปรองศีรษะของคนขับขึ้นแล้วพิงศีรษะของเขาไปที่เบาะนั่ง แล้วทำการปลุกคนขับให้ตื่นขึ้นมา

คนขับได้สูดลมหายใจอย่างแรงเฮือกหนึ่ง และตื่นขึ้นมาทันที พร้อมด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนกตกใจอยู่เต็มใบหน้าของเขา และดูเหมือนว่าเขาจะเพิ่งประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายบางอย่างมาหมาดๆ

หลินฟาน กล่าวว่า : “ไม่ต้องกลัว คุณไม่เป็นไรแล้วครับ คุณช่วยบอกผมหน่อยว่า ..เกิดอะไรขึ้น?”

คนขับได้เงยหน้ามองไปที่ หลินฟาน และเห็น หลินฟาน มีสีหน้าใจดีไม่เหมือนกับพวกคนเลว เขาก็ค่อยๆ ใจเย็นขึ้น และเริ่มเล่าประสบการณ์ของเขาให้กับ หลินฟาน ได้ฟัง

“คืนนี้ฉันได้ไปส่งผู้หญิงคนหนึ่งที่รับมาจากเมืองคุนเฉิง ตอนนั้นเธอทําท่าทางรีบร้อนมาก บอกว่าจะมาที่หมู่บ้านชิงหนิว ฉันเองได้ค้นหาสถานที่แห่งนี้บนแผนที่ เห็นว่ามันอยู่ห่างไกลมากเกินไป ให้เดินทางไปมันดูจะไม่คุ้มก็เลยจะปฏิเสธเธอ.. และขอให้เธอลงจากรถไปเรียกรถคันอื่นแทน แต่เธอกลับบอกว่าเธอต้องรีบกลับบ้าน ทั้งยังสามารถให้เงินฉันได้เป็นสองเท่า ฉันก็เลยตบปากรับคำเธอมาอย่างใจอ่อน…”

“เธอเองได้เร่งฉันตลอดทาง ฉันเองดูว่าเธอไม่เหมือนกับว่าแสร้ง ที่บ้านเธอคงมีธุระเหตุด่วนจริงๆ ดังนั้นฉันจึงใช้ทางลัดเพื่อมาส่งเธอ จนมาถึงตรงนี้ เธอบอกให้ฉันจอดรถ ฉันก็จอดรถแล้วถามเธอกลับไปว่าค่าโดยสาร เธอถามฉันว่าเท่าไหร่ ฉันเองก็บอกไปว่าค่าโดยสารสองเท่าก็ 400 หยวน เธอตอบตกลงด้วยตัวเอง สุดท้ายเธอก็บอกฉันว่าเธอไม่มีเงิน ฉันเองก็ร้อนใจแล้ว ไม่มีเงิน แล้วมาเรียกรถเพื่ออะไร ใช่ไหม? จากนั้นเธอก็บอกฉันว่าให้ฉันรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวหลังจากนี้จะมีคนมาช่วยเธอจ่ายแทนให้ แน่นอนว่าฉันปฏิเสธอยู่แล้ว ในตอนนั้นฉันเองก็กําลังคิดจะพูดอะไรออกไป จู่ๆ เธอก็ได้เข้ามาทําร้ายฉัน ตาของฉันก็มืดดับทันที และก็สลบไป”

หลินฟาน เหงื่อตก และพูดว่า : “ผู้หญิงคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน กางเกงลําลองสีขาว สวมหน้ากากอนามัยด้วย ใช่ไหมครับ?”

คนขับตอบว่า : “อืมม.. หุ่นเธอดีด้วย”

หลินฟาน กล่าวว่า : “แล้วพวกคุณมาถึงที่นี่นานแค่ไหนแล้ว?”

คนขับได้ดูเวลาครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า : “ถึงนานกว่าครึ่งชั่วโมงได้แล้ว”

เดิมที หลินฟาน ได้พยายามทำความเร็วที่สุด เพื่อพยายามไล่ตาม หยุน ชิงเย้า ให้ทัน แต่หลังจากคำนวนเวลาทั้งหมดแล้ว ไม่นับที่ว่าคนขับรถคนนี้ใช้ทางลัด ก็ยังทำให้ หยุน ชิงเย้า นําหน้าเขาไปกว่าครึ่งชั่วโมงอยู่

หลินฟาน กล่าวถามว่า : “แล้วรู้ไหมว่าเธอไปทางไหนครับ?”

คนขับรถมองออกไปข้างนอก และชี้ระบุ พร้อมกับพูดว่า : “ฉัน... ฉันเห็นเธอเหมือนไปทางนั้น ตอนกลางคืนเช่นนี้มันมืด ฉันเองก็ดูไม่ค่อยชัดจริงๆ ตอนนั้นฉันเวียนหัวตาลาย เห็นแต่ร่างของเธอค่อยๆ เบลอหายไป จากตรงนั้น จากนั้นฉันก็ไม่รู้อะไรแล้ว”

หลินฟาน ได้พยักหน้า หยิบกระเป๋าเงินออกมา หยิบธนบัตรสีแดงห้าใบออกมายื่นส่งให้กับคนขับ แล้วพูดว่า : “ผมให้คุณ 500 เรื่องคืนนี้ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น เข้าใจที่ผมพูดใช่ไหม? อย่าหาเรื่องให้ตัวเอง..”

แม้ว่าตอนนี้การชําระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะถือว่าสะดวกอย่างมาก แต่ หลินฟาน ก็ยังคงเก็บเงินสดเอาไว้ในกระเป๋าเงินให้เพียงพออยู่ เพราะบางครั้งเงินสดมีก็ยังดีกว่าไม่มี ถ้าจ่ายทางโทรศัพท์มือถือให้กับอีกฝ่ายในเวลานี้ อีกฝ่ายพอหันหลังกลับไปก็อาจจะคิดโทรแจ้งตํารวจ ตํารวจก็จะมาหาเรื่องเขา เมื่อนั้นปัญหาที่ไม่จําเป็นก็คงจะตามมาไม่หยุด

คนขับรถได้รับธนบัตรสีแดงไปแล้ว เขาก็ได้รีบพยักหน้า แล้วพูดว่า : “ตกลง”

สุดท้ายได้เงินมาแล้ว ก็ไม่ถือว่าวิ่งมาเปล่าๆ แถมยังเกินที่ตกลงเอาไว้มาอีก 100 หยวน คนขับจึงรู้สึกโล่งใจ และเป็นธรรมดาที่จะไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวเองอีกแล้ว, ค่ำคืนเช่นนี้คนเหล่านี้กลับวิ่งมาภูเขาลึก คนพวกนี้ ..คงไม่ง่ายอย่างแน่นอน

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณรอสักครู่ ผมเองจะขอตรวจเช็ครถของคุณ เดี๋ยวอีกครู่หนึ่งคุณก็สามารถไปได้แล้ว”

พูดพลาง หลินฟาน ก็อ้อมไปที่นั่งข้างคนขับ เขาได้นั่งยองๆ ลง พร้อมกับเปิดใช้งานข้อมูลเชิงลึกระดับบนสุด และเริ่มสังเกต

หมอกในภูเขาลึกช่วยเขาไว้ หมอกพวกนี้ทำให้พื้นดินชุ่มฉ่ำ บนพื้นดินมีรอยรองเท้าเหลือให้เห็นอย่างชัดเจนอยู่เบื้องหน้า และข้อมูลเชิงลึกระดับบนสุดของ หลินฟาน ก็สามารถทำให้เขามองเห็นรอยเท้าพวกนี้อย่างชัดเจน

หลินฟาน ได้สังเกตอยู่ครู่หนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินตามรอยเท้า และเดินห่างออกไปได้ระยะหนึ่ง หลินฟาน ก็ได้หันกลับมาโบกมือไปให้กับคนขับ เพื่อส่งสัญญาณว่าให้เขา ..ไปได้แล้ว คนขับที่ไม่กล้าไปโดยไม่ได้รับคำสั่งจาก หลินฟาน ในก่อนหน้านี้ มาตอนนี้เขาจึงได้รีบสตาร์ตรถ และขับออกไปทันทีอย่างเร่งรีบ

เขาเองได้สาบานไปว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกตลอดชีวิต

หลินฟาน ไม่สนใจคนขับ และเดินตามรอยเท้าไป

สุนัขตัวดําตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากข้างถนน เห่าใส่ หลินฟาน อย่างบ้าคลั่ง ทั้งสุนัขตัวนี้มองปราดเดียวก็รู้ว่ายากจะยั่วยุ สายตาของมันดูดุร้ายมาก และดูเหมือนว่ามันจะกระโจนเข้าใส่คนแปลกหน้าอย่าง หลินฟาน ได้ ..ตลอดเวลา

หลินฟาน หันไปมอง แต่เขาก็กลับไม่สนใจสุนัขตัวนี้ แต่สายตาของเขากลับตกไปอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล เห็นเพียงหลังบ้านมีคนๆ หนึ่งแอบหลบซ่อนตัวอยู่ ซึ่งกำลังแอบมองมาที่ หลินฟาน

เมื่อพอสังเกตเห็นว่าสายตาของ หลินฟาน มองมาที่เขา ชายคนนั้น ก็หดตัวถอยกลับ และหายไปทันที

หลินฟาน ได้ขมวดคิ้ว และจึงเดินไปที่ที่ชายคนนั้นซ่อนตัวอยู่

เมื่อเห็นว่า หลินฟาน กําลังจะเข้ามาในอาณาเขตของตัวเอง ในที่สุดสุนัขหมู่บ้านตัวที่ดุร้ายตัวนั้นก็ไม่ทนอีกต่อไป มันแยกเขี้ยวที่แหลมคม พร้อมกับกระโจนเข้าใส่ หลินฟาน พยายามกัด หลินฟาน…

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที

หลินฟาน เดินเข้าไปในหมู่บ้านอย่างปลอดภัย และสุนัขหมู่บ้านที่ดุร้ายตัวนั้นก็ได้นอนนิ่งอยู่บนพื้นไปแล้ว ปากมันเองก็ส่งเสียงครวญครางออกมาเบาๆ

ในตรอกซอยในหมู่บ้าน คนพิการคนหนึ่งได้เดินอย่างเร่งรีบ พยายามออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งข้างหน้าเขาก็กลับเลี้ยวโผล่ออกมา และเข้าขวางทางเขาไว้ หลินฟาน ไม่รู้ว่าเคลื่อนตัวมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และเขาก็คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมายืนอยู่ข้างหน้าเขาแล้ว

คนพิการรู้สึกตกใจ และรู้ตัวว่าตัวเองไปเตะโดนตอแข็งเข้าให้แล้ว เขาได้หันหลังกลับอยากจะวิ่งหนี แต่วินาทีต่อมา หลินฟาน ก็มาอยู่ข้างหน้าเขา และยกเขาขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียว

“คุณจะทำอะไร?” คนพิการได้อุทานออกมาอย่างตกใจ

หลินฟาน เปล่งเสียงพูดที่ออกจะเย็นชาไปว่า : “ผมกำลังมองหา หยุนเหมิน ส่วนคุณเอง ..รู้จัก หยุนเหมิน หรือไม่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด