ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 8 : จวินจ้างเจี้ยนปรากฏกาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 10 : แลกเปลี่ยนความรู้กับจวินจ้างเจี้ยน

[ตอนฟรี] ตอนที่ 9 : เหรียญตราจ้าวเทวะ


หลานชิงหย่าถึงกับตะลึง ตกตะลึงอย่างสมบูรณ์

นางปิดแก้มอันร้อนผ่าวที่โดนตบและมองจวินจ้างเจี้ยนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

ใบหน้าของจวินจ้างเจี้ยนแสดงออกถึงความมืดมนเป็นอย่างมากและความเย็นชาก็ปรากฏในดวงตาของเขา

“นายน้อยจ้างเจี้ยน นี่ท่านตบหน้าข้า?” หลานชิงหย่ากล่าวด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

รู้สึกถึงแก้มที่เริ่มบวกมากขึ้นเรื่อยๆ หลานชิงหย่ารู้สึกราวกับว่านางกำลังฝัน

ไม่ใช่ว่าจวินจ้างเจี้ยนยอมเชื่อฟังนางมาตลอดเลยรึ?

เพราะเหตุนี้ยิ่งทำให้หลานชิงหย่ารู้สึกว่าตัวตนลำดับแห่งตระกูลจวินไม่ได้สูงส่งอะไรมากเลย

หลานชิงหย่ากระทั่งเคยจินตนาการว่าในอนาคต นางจะสามารถควบคุมจวินจ้างเจี้ยนได้อย่างสมบูรณ์และทำตามที่นางบอกทุกอย่าง

ถามหน่อยว่าผู้ติดตามที่มีแซ่เป็นคนนอกคนไหนจะสามารถควบคุมตัวตนลำดับแห่งตระกูลจวินได้?

หลานชิงหย่าผู้นี้สามารถ!

แต่ตอนนี้ เมื่อมองไปที่ใบหน้าอันมืดมนของจวินจ้างเจี้ยน หลานชิงหย่ารู้สึกราวกับว่านางได้กลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว

“ใครบอกให้เจ้าไปยั่วยุจวินเซียวเหยา?” จวินจ้างเจี้ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กำลังพยายามข่มความโกรธ

“ข้า… ข้านึกถึงหน้าท่านเสมอนะนายน้อยจ้างเจี้ยน ก่อนหน้านี้ท่านเลือกจวินหลิงหลงให้ติดตามท่านแต่นางเมินเฉย แต่ท้ายที่สุดนางกลับยินยอมที่จะติดตามจวินเซียวเหยานั่น…” หลานชิงหย่ายังคงพูดปกป้องตัวเอง

“นังโง่!”

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น จวินจ้างเจี้ยนก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของหลานชิงหย่าอีกครั้ง

หลานชิงหย่าถูกตบปลิวออกไป ทำให้ปากของนางแตกและเลือดไหลออกมามากมาย

“เจ้ารู้ตัวตนของจวินเซียวเหยารึเปล่าและบิดาของเขาล่ะ เป็นใคร?” จวินจ้างเจี้ยนโมโหอย่างแท้จริง

หลานชิงหย่าคนนี้คิดว่าตำแหน่งของเขาในสถานะลำดับมันจะมั่นคงเกินไปเลยต้องการที่จะสั่นคลอนมันเล่นรึ?

“ไม่ใช่จวินหวูหุ่ย ที่ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ไหนหรอกหรือ!” หลานชิงหย่ากัดฟันสีเงินของนางและแสดงออกด้วยสีหน้าอันน่าเกลียด

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ดูหมิ่นท่านลุงหวูหุ่ย!”

จวินจ้างเจี้ยนตบหน้าหลานชิงหย่าไปมากกว่าสิบครั้งในคราเดียว แก้มของนางบวมเป่งจนดูเหมือนกับหัวหมู

ผู้ติดตามทั้งหมดโดยรอบต่างตะลึงงัน

นี่พระอาทิตย์กำลังขึ้นทางทิศตะวันตกงั้นหรือ?

“ไม่เพียงแต่จวินเซียวเหยาเป็นลูกชายของท่านลุงหวูหุ่ย แม้แต่มารดาของเขาก็ยังเป็นเทพธิดาแห่งตระกูลเจียงและเขายังเป็นคนที่ท่านบรรพชนที่สิบแปดให้ความสำคัญอีกด้วย แล้วแบบนี้เจ้าพยายามยั่วยุเขาเพราะต้องการให้ข้าสูญเสียตำแหน่งลำดับสิบในสถานะลำดับรึไง?”

จวินจ้างเจี้ยนอยากจะตบหลานชิงหย่าให้ตายไปเลยจริงๆ

แน่นอนว่าการยั่วยุใครสักคนย่อมไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่นี่ผู้ติดตามของเขากลับไปยั่วยุจวินเซียวเหยาผู้ที่มีสถานะและภูมิหลังสูงสุดซะเอง

“นายน้อยจ้างเจี้ยน ชิงหย่าผิดไปแล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตชิงหย่าด้วย!” หลานชิงหย่ารีบคุกเข่าลงและเอาหัวโขกกับพื้นในขณะที่เลือดไหลเต็มคาง

นางได้คำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่นางกลับไม่เคยคาดคิดว่าจวินจ้างเจี้ยนจะหวาดกลัวจวินเซียวเหยาถึงขนาดที่ไม่มีความลังเลที่จะลงมือกับนางเลย

“ลุกขึ้น ไปสารภาพความผิดของเจ้าต่อจวินเซียวเหยาซะ!” จวินจ้างเจี้ยนกล่าวด้วยใบหน้าเฉยเมย

“นายน้อยจ้างเจี้ยน นี่…” หลานชิงหย่าราวกับถูกฟ้าผ่า

ถ้าหากเป็นเช่นนี้ นางจะมีหน้าอาศัยอยู่ในตระกูลจวินในอนาคตได้อย่างไร?

และการบอกให้นางก้มหัวและสารภาพผิดต่อหน้าของจวินหลิงหลงยิ่งทำให้นางรู้สึกอึดอัดมากกว่าการยอมกินอุจจาระซะอีก

“หือ? ไม่ไปรึ?” ดวงตาของจวินจ้างเจี้ยนฉายแววตาอันแหลมคมราวกับกระบี่

“ข้าจะไป…” หลานชิงหย่ารู้สึกหวาดกลัว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความอัปยศอดสู

ต่อมา ผู้ติดตามคนหนึ่งได้นำกิ่งหนามมัดหนึ่งมาและสั่งให้หลานชิงหย่าแบกไว้บนหลัง

กิ่งหนามอันแหลมคมทิ่มแทงแผ่นหลังอันขาวนวลของนาง ทำให้หลานชิงหย่าครวญครางด้วยความเจ็บปวด

“ลืมมันไปเถอะ ข้าจะไปกับเจ้าเองเพื่อแสดงความจริงใจ” จวินจ้างเจี้ยนลังเลอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจไปกับนาง

หลานชิงหย่ายิ่งสิ้นหวังมากขึ้น

นี่เป็นครั้งแรกของนางที่เห็นจวินจ้างเจี้ยนรู้สึกกระวนกระวาย

แล้วจวินเซียวเหยาจะสูงส่งมากขนาดไหน ถึงสามารถทำให้จวินจ้างเจี้ยนรู้สึกหวาดกลัวได้ขนาดนี้?

จากนั้นจวินจ้างเจี้ยนจึงนำหลานชิงหย่าที่กำลังแบกกิ่งหนามเพื่อสารภาพผิดออกจากเกาะแห่งจิตวิญญาณและมุ่งตรงไปที่พระราชวังเทียนตี้

ระหว่างทาง ศิษย์รุ่นเยาว์ตระกูลจวินหลายคนสังเกตเห็นทั้งคู่

“นั่นมัน… จวินจ้างเจี้ยนแห่งลำดับสิบ เขาออกจากการปิดด่านแล้วรึ?”

“ความแข็งแกร่งของจวินจ้างเจี้ยนเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ดูเหมือนว่าเขากำลังมุ่งตรงไปที่พระราชวังเทียนตี้ เป็นไปได้รึเปล่าว่าเขากำลังจะไปสร้างปัญหาให้กับบุตรพระเจ้า?”

“ไม่ใช่ ดูที่หลานชิงหย่าสิ…”

หลายดวงตาจ้องมอง

เมื่อมองไปที่หลานชิงหย่าซึ่งกำลังโดนลงโทษ บนแผ่นหลังอันขาวนวลปกคลุมไปด้วยคราบเลือดแห้งกรัง แก้มของนางแดงและบวมเป่ง มุมปากของนางแตกและเลือดไหลออกมา ทำให้นางดูน่าอับอายมากยิ่งขึ้นไปอีก

“เป็นไปได้รึเปล่าว่าจวินจ้างเจี้ยนไม่ได้จะทวงหาความยุติธรรม แต่เป็น…การไปขอโทษ?”

ศิษย์รุ่นเยาว์ตระกูลจวินทั้งหมดต่างตกตะลึง

ลำดับสิบผู้น่าเกรงขามแห่งตระกูลจวินเป็นผู้ยอมรับผิดเองโดยตรง?

“ไอหยา ไอหยา ข้าเกรงว่าคงจะมีแค่ใต้เท้าบุตรพระเจ้าเท่านั้นที่มีคุณสมบัติที่จะเอาชนะเหล่าลำดับได้โดยไม่ต้องออกแรงสู้” ชายหนุ่มคนหนึ่งในตระกูลจวินอุทาน

ท่ามกลางสิบลำดับ มีใครที่ไม่เต็มไปด้วยหยิ่งผยองบ้าง?

มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะศัตรูได้โดยไม่ต้องต่อสู้

แต่จวินเซียวเหยาสามารถทำได้

ภายในพระราชวังเทียนตี้ จวินเซียวเหยากำลังพักผ่อน

สาวใช้คนสวยจวินหลิงหลงกำลังชงชาให้กับจวินเซียวเหยา

ใช้น้ำค้างหมื่นปีต้มเป็นน้ำร้อนและชงคู่กับใบชาที่เด็ดมาจากต้นพฤกษาโบราณแห่งการรู้แจ้งเต๋า

สำหรับชาถ้วยนี้ หากเปลี่ยนเป็นโลกภายนอก ผู้บ่มเพาะทั่วไปบางคนอาจจะไม่มีโอกาสทั้งชีวิตที่จะได้ลิ้มลองมัน

แต่จวินเซียวเหยาดื่มมันทุกวัน

“นายท่าน โปรดดื่ม…” จวินหลิงหลงยื่นถ้วยชาให้ และปฏิบัติตัวราวกับสาวใช้ผู้รอบคอบและพิถีพิถัน

จวินเซียวเหยารับถ้วยชา จิบไปหนึ่งครั้ง พยักหน้าและกล่าว “เจ้าทำได้ดีเลย…”

ใบหน้าอันน่ารักของจวินหลิงหลงแดงก่ำทันที คำชมนั้นหมายถึงการชงชารึเปล่า?

ในตอนนั้นเอง องครักษ์ประจำพระราชวังเทียนตี้ตะโกนอย่างเคารพนอบน้อมจากหน้าประตู “ใต้เท้าบุตรพระเจ้า ท่านจวินจ้างเจี้ยนได้มาถึงพระราชวังเทียนตี้แล้วขอรับ”

“ในที่สุดก็มาถึงแล้วรึ? ปล่อยให้ข้ารอมาตั้งหลายวัน” ดวงตาของจวินเซียวเหยาเปล่งประกาย เรี่ยวแรงที่หายไปก็กลับคืนมา

ในที่สุด เนื้อเรื่องประมาณว่าตัวประกอบมาให้ตบก็เริ่มแล้วสินะ?

หลานชิงหย่าต้องกลับไปและร้องไห้ฟูมฟาย ทำให้จวินจ้างเจี้ยนเกรี้ยวกราด จากนั้นก็ตัดสินใจที่จะมาสอนบทเรียนให้กับเขา

จวินเซียวเหยาอยากได้คนมาทดสอบพลังเทพคชสารทลายโลกันตร์ของเขาด้วยพอดี

ใบหน้าอันน่ารักของจวินหลิงหลงยังคงสงบ นางรู้ดีว่าจวินจ้างเจี้ยนผู้นั้นไม่มีความสามารถพอที่จะทำอะไรจวินเซียวเหยาได้

“ฮ่าฮ่า น้องชายเซียวเหยา นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันตั้งแต่เจ้าเติบใหญ่เลยนะ แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่ามันจะลงเอยเช่นนี้ ช่างน่าเสียดายจริงๆ”

น้ำเสียงอันทุ้มไพเราะดังขึ้นและจวินจ้างเจี้ยนก็ก้าวเท้าเข้ามาในประตู ตามมาด้วยหลานชิงหย่าที่ก้มหน้าต่ำและแบกมัดกิ่งหนามไว้บนหลังอย่างน่าอับอาย

“เฮ้ เดี๋ยวก่อน นี่…มันไม่ถูกต้องนะ…” เมื่อเห็นแบบนี้ จวินเซียวเหยารู้สึกตงิดในใจ

เขารู้สึกได้ว่าจวินจ้างเจี้ยนนั้นไม่เล่นตามเนื้อเรื่อง

“ผู้ติดตามภายใต้บัญชาของข้าได้ยั่วยุน้องชายเซียวเหยา ข้าจึงสั่งให้นางมาที่นี่เป็นพิเศษเพื่อสารภาพผิดต่อเจ้า ข้าหวังว่าน้องชายเซียวเหยาผู้ใจกว้างจะรับคำขอโทษนี้” จวินจ้างเทียนยิ้มเล็กน้อย

หลานชิงหย่ากัดฟันแน่นและรู้สึกอัปยศเป็นอย่างมาก แต่นางยังคุกเข่าลงบนพื้น

หลังจากบีบเคล้นคำพูดอย่างไม่ยินยอม ประโยคก็ออกมาจากปาก “ข้าหวังว่าใต้เท้าบุตรพระเจ้าและจวินหลิงหลงจะยกโทษให้กับชิงหย่า…”

หลังจากกล่าวออกมา หลานชิงหย่าแทบอยากจะมุดหัวของนางลงไปในดิน

สีหน้าของจวินหลิงหลงเย็นชา

ส่วนจวินเซียวเหยายังคงเงียบเช่นกัน

เห็นแบบนี้ เปลือกตาของจวินจ้างเจี้ยนถึงกับกระตุก

เขากลัวจริงๆ ว่าจวินเซียวเหยาจะนำไปบอกกับท่านบรรพชนที่สิบแปด หากมันเกิดขึ้น อนาคตสถานะลำดับของเขาคงจะย่อยยับอย่างสมบูรณ์

หลังจากแอบกัดฟันแน่น จวินจ้างเจี้ยนจึงตัดสินใจนำเหรียญตราออกมาและกล่าว “ยังไงก็ตาม ข้าเคยออกไปฝึกฝนที่โลกภายนอกมาก่อน และข้าก็ได้รับเหรียญตราจ้าวเทวะหยวนเทียนมาสองเหรียญโดยบังเอิญ ลือกันว่ามันอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับคลังสมบัติลับแห่งจ้าวเทวะหยวนเทียน มันไร้ประโยชน์สำหรับข้าที่จะเก็บไว้สองชิ้น ข้าอยากจะมอบมันให้กับน้องชายเซียวเหยาชิ้นหนึ่ง”

“คลังสมบัติลับจ้าวเทวะ!” ในดวงตาอันงดงามของจวินหลิงหลงปรากฏความตกตะลึงอย่างลับๆ เหนือขึ้นไปจากขอบเขตศักดิ์สิทธิ์คือขอบเขตจ้าวเทวะ

นั่นคือตัวตนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแดนสวรรค์โดยแท้จริง เป็นอมตะและมิอาจถูกทำลาย เป็นตัวตนที่ขัดกับกาลเวลาในทุกยุคสมัย

มูลค่าของสมบัติแห่งจ้าวเทวะเช่นนี้ไม่อาจจินตนาการถึง!

หากเหรียญตราเช่นนี้ถูกปล่อยออกไปสู่โลกภายนอก มันจะก่อให้เกิดพายุแห่งการนองเลือด ดึงดูดผู้บ่มเพาะนับไม่ถ้วนจากทุกทิศทางให้มาต่อสู้แย่งชิงจนกว่าจะตกตายกันหมด!

แม้แต่จวินจ้างเจี้ยนยังใช้ความพยายามเป็นอย่างมากและจ่ายออกไปเป็นเงินมหาศาลเพื่อให้ได้รับสองชิ้น

จวินเซียวเหยารู้สึกประหลาดใจ ไม่คาดคิดเลยว่าจวินจ้างเจี้ยนเต็มใจที่จะนำของดีเช่นนี้มอบให้กับเขา

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น เสียงจักรกลของระบบได้ดังขึ้นในความคิดของเขา

“ติ๊ง! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ สถานที่ลงชื่อแห่งใหม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง!”

“กรุณาลงชื่อ ณ คลังสมบัติลับจ้าวเทวะหยวนเทียน!”

“มีสถานที่ลงชื่อแห่งใหม่ด้วยรึ?” ดวงตาของจวินเซียวเหยาปรากฏประกายแสง

เขาเริ่มค้นพบกฎบางอย่างของระบบลงชื่อ

ข้อแรก สถานที่ลงชื่อมีได้หลายสถานที่ในเวลาเดียวกัน

ข้อสอง สถานที่ลงชื่อสามารถกระตุ้นด้วยการเกิดเหตุการณ์ต่างๆ

ยกตัวอย่าง ทันทีที่เขาได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับคลังสมบัติลับแห่งจ้าวเทวะหยวนเทียน สถานที่ลงชื่อก็มีการเปลี่ยนแปลงทันที

“ตอนนี้ลืมมันไปก่อนละกัน ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปที่นั่นในอนาคตอยู่ดี” จวินเซียวเหยาคิดในใจ

โอกาสที่จะได้ลงชื่อนั้นหาได้ยากมาก แต่รางวัลลับเหล่านั้นมันก็น่าหลงใหลเช่นกัน

“พี่ชายจ้างเจี้ยน ท่านช่างมองการณ์ไกลจริงๆ …”

จวินเซียวเหยายิ้มเล็กน้อยพลันยกมือขึ้นและเคลื่อนไหว เหรียญตราจ้าวเทวะหยวนเทียนจึงตกลงในมือของเขา

มุมปากของจวินจ้างเจี้ยนถึงกับกระตุก

ข้าว่าข้าเองก็เหลี่ยมเยอะอยู่พอตัว แต่เจ้าเด็กคนนี้กลับเหลี่ยมเยอะกว่าข้าซะอีก

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จวินจ้างเจี้ยนรู้สึกใจสลาย เขายังรู้สึกตกตะลึงด้วยเช่นกัน

“เป็นพลังปราณที่น่าเกรงขามยิ่งนัก ถึงกับแปรเปลี่ยนเป็นปราณทองคำ เป็นไปได้รึไม่ว่ามันคือกายาเทพบรรพกาลอย่างที่ลือกัน?”

จวินจ้างเจี้ยนรู้สึกตื่นตระหนกในใจและยิ่งหวาดกลัวจวินเซียวเหยามากขึ้นไปอีก

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่อ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด