ตอนที่แล้ว[ตอนฟรี] ตอนที่ 22 : ปิดด่านฝึกตนเป็นครั้งแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป[ตอนฟรี] ตอนที่ 24 : สาวงามทั้งสองแห่งตระกูลเจียง

[ตอนฟรี] ตอนที่ 23 : หลงฮ่าวเทียนมีแผนอะไร


รังจู่หลง (รังบรรพชนมังกร) เป็นราชวงศ์จักรพรรดิที่มีมรดกอันลึกล้ำ

ครั้งหนึ่ง พวกเขาเคยมีบรรพชนมังกรผู้ก้าวข้ามทัณฑ์สวรรค์พิสูจน์ตนเป็นจักรพรรดิโบราณ และแม้แต่จักรพรรดิบางคนของเหล่ามวลมนุษย์ก็ถูกเขาบดบังรัศมี ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงความแข็งแกร่งของบรรพชนมังกรที่สั่นสะเทือนไปทั่วดินแดนอมตะเป็นเวลาหลายยุคหลายสมัย

และหลงอ้าวเทียน คือหนึ่งในบุตรสวรรค์แห่งรังจู่หลงที่เปล่งประกายมากที่สุด เป็นที่รู้จักในฐานะรุ่นเยาว์ไร้เทียมทานอันดับหนึ่ง

ส่วนหลงฮ่าวเทียน แม้ว่าพรสวรรค์ของเขาจะไม่ได้อยู่ในระดับสัตว์ประหลาดอย่างพี่ใหญ่หลงอ้าวเทียน แต่ก็ยังนับได้ว่าแข็งแกร่งมากอยู่ดี

ไม่อย่างนั้นเขาจะได้รับสถานะทายาทมังกรหรือ?

สถานะทายาทมังกรแห่งรังจู่หลงเรียกว่าเกือบจะเทียบได้กับสถานะลำดับของตระกูลจวิน

“ขอแสดงความยินดีกับท่านหลงจื่อ (ทายาทมังกร) ด้วย ที่สามารถปรับแต่งและผสานเข้ากับแก่นแท้มังกรได้ ความแข็งแกร่งของท่านทวีคูณมากขึ้นอีกแล้ว!”

“ใช่แล้ว นั่นมันแก่นแท้มังกรเชียวนะ ถ้าเป็นคนธรรมดาร่างกายคงระเบิดไปนานแล้ว แต่ท่านหลงจื่อสามารถยับยั้งและผสานมันได้ น่าทึ่งจริงๆ”

เหล่าอมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันเลียแข้งเลียขา

“ไม่ขนาดนั้นหรอก มันก็แค่แก่นแท้มังกรอันเดียว ถึงมันจะยอดเยี่ยมก็จริง แต่พี่ใหญ่ของข้าก็ผสานไปแล้วถึงสามแก่นแท้เชียวนะ” หลงฮ่าวเทียนยิ้มอย่างภาคภูมิ

“อะไรนะ สามแก่นแท้มังกร!”

เหล่าอมนุษย์ทั้งหมดตกตะลึง

สิ่งที่เรียกว่า ‘แก่นแท้มังกร’ หมายถึงแก่นแท้ของกล้ามเนื้อและโลหิตที่หลงเหลือมาจากมังกรอันทรงพลังที่ได้ตกตายไปแล้ว

ไม่เพียงบรรจุแก่นแท้โลหิตของเผ่ามังกรเอาไว้ แต่ยังรวมไปถึงพรสวรรค์โดยกำเนิดและกฎต่างๆ

ถึงแม้แก่นแท้มังกรเช่นนี้จะมีมูลค่ามหาศาล แต่ก็ไม่ง่ายที่จะปรับแต่งมันเช่นกัน

แม้แต่อัจฉริยะบางคนจากรังจู่หลงก็ยังเลมากที่จะปรับแต่งและผสานกับแก่นแท้มังกร บางคนที่พยายามผสานแล้วธาตุไฟเข้าแทรกจนตัวระเบิดก็มี

หลงฮ่าวเทียนที่สามารถผสานเข้ากับแก่นแท้มังกรได้สำเร็จย่อมเพียงพอให้เขาโอ้อวดไปทั่ว

แต่หลงอ้าวเทียนผู้นั้นกลับผสานได้มากถึงสามแก่นแท้

เห็นอาการตกตะลึงของคนที่อยู่โดยรอบแล้ว หลงฮ่าวเทียนก็ยิ้มอย่างพอใจและกล่าว “อย่าเพิ่งรีบร้อน จากที่พี่ใหญ่ข้าบอก เป้าหมายสุดท้ายของเขาคือการผสานรวมทั้งหมดเจ็ดแก่นแท้มังกรเข้ากับตัวเขา”

“เมื่อถึงเวลานั้นและรวมกับสายเลือดแห่งจักรพรรดิมังกรแล้ว ข้าจะมอบชะตาชีวิตนี้ให้พี่ใหญ่ดูแล!”

หลงฮ่าวเทียนไม่มีความอิจฉาต่อหลงอ้าวเทียนแม้แต่น้อย แต่ตรงกันข้าม เขามีแต่ความชื่นชมและให้การยอมรับเป็นอย่างมาก

“เช่นนั้นก็ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าด้วย แต่ข้าได้ยินมาว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดครบรอบสิบปีของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินใกล้มาถึงแล้ว”

ชายหนุ่มร่างสูงกำยำและมีเขากระทิงอยู่บนหัวกล่าว

เขาคืออัจฉริยะรุ่นเยาว์ผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์ราชานาม หุบเขากระทิง

แม้ว่าภูมิหลังและความแข็งแกร่งของหุบเขากระทิงจะไม่ยอดเยี่ยมเท่าราชวงศ์ราชาแห่งอื่น แต่ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ซึ่งเพียงพอแล้วที่จะขัดอารมณ์ฝ่ายอื่น

ได้ยินนามว่า‘บุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวิน’แล้ว อมนุษย์ทั้งหลายต่างพากันเงียบ

แม้ว่าจวินเซียวเหยาจะไม่เคยปรากฏตัวแก่สายตาชาวโลกเลยจนบัดนี้

แต่เมื่อสิบปีก่อน นิมิตของเหล่าเทพนับหมื่นหมอบคารวะยังคงสร้างความตกตะลึงให้กับดินแดนอมตะหวงเทียนจนถึงทุกวันนี้

หลังจากนั้น แม้ว่าจะไม่มีข่าวใหญ่เกี่ยวกับจวินเซียวเหยาออกมา แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกทายาทแห่งตระกูลจวินผู้สงบเสงี่ยมและลึกลับคนนี้

เพราะท้ายที่สุด เขาก็เป็นผู้สืบทอดของราชันเทพชุดขาว

“ฮึ่ม ตัวตนของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินยังคงเป็นความลับอยู่ ใครจะไปรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหน แม้ว่านิมิตเหล่าเทพนับหมื่นคารวะจะไม่ธรรมดา แต่ในวันที่พี่ใหญ่ของข้าถือกำเนิด นิมิตของบรรพชนมังกรก็ปรากฏขึ้นมาเหมือนกัน ซึ่งไม่ด้อยไปกว่านิมิตของเขาเลย”

“บางที แม้แต่ข้าก็สามารถเอาชนะเขาได้โดยไม่ต้องถึงมือพี่ใหญ่ด้วยซ้ำ” หลงฮ่าวเทียนกล่าวด้วยท่าทางดูถูก

รังจู่หลงและตระกูลจวินต่างก็มีความแค้นกันมาอย่างยาวนาน

ครั้งล่าสุดคือเมื่อราชันเทพชุดขาวจวินหวูหุ่ยยังคงอยู่ในขอบเขตนักบุญ เขาได้จับมังกรอันทรงพลังขอบเขตกึ่งเทวะจากรังจู่หลงถลกหนังทั้งเป็นและดึงเอาเอ็นมังกรออกมา

สำหรับรังจู่หลง สิ่งที่เกิดขึ้นนี้คือความอับอายอย่างถึงที่สุดและจะถูกสลักไว้บนแท่งเสาแห่งความอับอายของรังจู่หลงไปตลอดกาล

มังกรขอบเขตกึ่งเทวะถูกมนุษย์ขอบเขตนักบุญรังแกข่มเหงโดยสิ้นเชิง เขาอับอายจนต้องเอาหน้าไปซุกกับกระโปรงแม่เลยทีเดียว

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รังจู่หลงและตระกูลจวินก็กลายเป็นศัตรูคู่แค้นไปโดยปริยาย

“ฮิฮิ นั่นเป็นความจริง ข้าเชื่อว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินอะไรนั่นไม่อาจเป็นคู่มือให้กับท่านหลงจื่อได้หรอก” หญิงสาวจากเผ่าขนนกที่มีปีกขาวดุจหิมะข้างหลังหัวเราะ

“อืม แต่ข้าไม่รู้ว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินผู้นั้นครอบครองกายาแบบใดกันแน่?” อมนุษย์จากราชวงศ์ราชาคนหนึ่งส่ายหัวเล็กน้อย

ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงของหญิงสาวดังขึ้น

“ข้ารู้ว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินมีกายาแบบใด”

“นั่นใคร?” เหล่าอมนุษย์มองหน้ากันและกัน

ณ ทางเข้าศาลา หญิงสาวในชุดกระโปรงยาวสีฟ้ากำลังเดินขึ้นบันไดมา

“แล้ว เผ่ามนุษย์ไปมายังไงกันล่ะนี่?” ชายหนุ่มร่างกำยำจากหุบเขากระทิงขมวดคิ้ว

แม้ว่าพวกเขาจะไม่สังหารมนุษย์ทันทีที่เจอ แต่ก็ไม่ได้มีความเป็นมิตรมากนัก

“รอก่อน อย่าเพิ่งใจร้อน” หลงฮ่าวเทียนโบกมือขึ้นและลง กลุ่มของอมนุษย์รอบๆ จึงเงียบลง

หลงฮ่าวเทียนจ้องไปที่หลานชิงหย่าและกล่าวด้วยความสนใจเล็กน้อย “เจ้าพูดว่า เจ้ารู้กายาของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินรึ?”

“ถูกต้อง ข้ารู้เพราะข้าเคยเป็นผู้ติดตามของตัวตนลำดับแห่งตระกูลจวิน” หลานชิงหย่ายืนยัน

“อะไรนะ!”

คำพูดเหล่านั้นถึงกับทำให้ทุกคนมึนงง

ผู้ติดตามของลำดับแห่งตระกูลจวินมาที่นี่เพื่อพบกับเผ่าพันธุ์อันเก่าแก่จริงหรือ?

ต่อมา หลานชิงหย่าจึงเล่าความขัดแย้งของนางกับจวินเซียวเหยาและคนอื่นให้ฟังสั้นๆ

“เป็นแบบนี้นี่เอง เช่นนั้นก็บอกข้ามาว่าบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินมีกายารูปแบบใด?” หลงฮ่าวเทียนกล่าว

“กายาเทพบรรพกาล” หลานชิงหย่าตอบ

ทันทีที่นางพูดออกมา ทั่วทั้งศาลาพลันเงียบงัน

ท่าทางของเหล่าอมนุษย์ทั้งหมดหยุดนิ่ง จากนั้นถึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่า ช่างไร้สาระ เจ้าพูดความจริงรึ?”

“กายาเทพบรรกาล ฮ่าฮ่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นกายาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกมนุษย์ แต่ตอนนี้หรอ ขยะ!”

หลงฮ่าวเทียนประหลาดใจเล็กน้อย เขาตาโตและกล่าวพร้อมจิตสังหาร “เจ้ารู้ผลของการล้อเล่นกับข้ารึเปล่า?”

กายาไร้ค่าแบบนั้นจะทำให้ตระกูลจวินสนใจได้อย่างไร?

“เรื่องนี้เป็นความจริงอย่างแน่นอน จวินเซียวเหยาผู้นั้นมีกายาเทพบรรพกาล แต่เป็นกายาเทพบรรพกาลที่โซ่ตรวนถูกทำลาย” หลานชิงหย่ายังคงยืนยันข้อมูลต่อไป

“อะไรนะ โซ่ตรวนถูกทำลาย?”

“มันเป็นไปได้ยังไง? เขามีความสามารถรึ?”

คำพูดของหลานชิงหย่าได้แช่แข็งรอยยิ้มบนใบหน้าของอมนุษย์หล่านั้น และใบหน้าของพวกเขาก็เริ่มซีดลง

กายาศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ที่โซ่ตรวนถูกทำลายนั้นไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าสะพรึงกลัว

ท่าทางของหลงฮ่าวเทียนไม่ได้เปลี่ยนไปมากและเริ่มครุ่นคิด “ด้วยภูมิหลังของตระกูลจวินแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสะสมทรัพยากรไว้เป็นจำนวนมากและใช้มันในการทำลายโซ่ตรวน แต่วิธีนี้มันไม่ได้ผลไปตลอด”

“ทำลายได้มากที่สุดคือสามโซ่ตรวน จากนั้นเส้นทางการบ่มเพาะของจวินเซียวเหยาก็จะถูกปิดตายลงอย่างสมบูรณ์” หลงฮ่าวเทียนแสดงออกอย่างเย้ยหยัน

ถ้าโซ่ตรวนของกายาเทพบรรกาลมันทำลายง่ายนัก คงไม่ถูกเรียกว่ากายาขยะจนถึงตอนนี้

“อาจเป็นเช่นนั้น” หลานชิงหย่าพยักหน้า

นางคาดเดาเอาไว้ว่าจวินเซียวเหยาทำลายได้เพียงแค่โซ่ตรวนเดียว

มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่นางจะจินตนาการว่าจวินเซียวเหยาทำลายโซ่ตรวนทั้งสิบเส้นทันทีในวันที่เขาเกิดมา

“ฮ่าฮ่า น่าสนใจยิ่งนัก ดูเหมือนว่าข้าควรจะเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของบุตรพระเจ้าแห่งตระกูลจวินหน่อยนะ” หลงฮ่าวเทียนหัวเราะ

เมื่อถึงเวลาในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดที่จัดโดยตระกูลจวิน บุตรพระเจ้าอะไรนั่นจะต้องถูกเขาเหยียบย่ำให้จมดินอย่างแน่นอน

ฉากแบบนั้น

จิส์ จิส์…

แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว

“ฮิฮิ ด้วยท่านหลงจื่อเข้าร่วมเช่นนี้ ข้าคิดว่าควรเปลี่ยนจากงานเลี้ยงฉลองวันเกิดเป็นงานเลี้ยงฉลองวันขายหน้าแทนดีกว่า”

“ถึงเวลาที่ตระกูลจวินต้องอับอายบ้างแล้ว”

ทั่วทั้งศาลาในเวลานี้เต็มไปด้วยบรรยากาศผ่อนคลายและสนุกสนาน

“จวินเซียวเหยา พวกเจ้าบังคับให้ชิงหย่าทำแบบนี้เองนะ อย่าได้กล่าวโทษข้าเลยเมื่อเวลานั้นมาถึง” หลานชิงหย่าหรี่ตาลงพร้อมกับประกายแสงอันเย็นยะเยือก

ในเวลานั้น นางจะติดตามหลงฮ่าวเทียนไปด้วยเพื่อรับชมช่วงเวลาที่จวินเซียวเหยาและคนอื่นถูกทำให้อับอายขายหน้า

มันไม่นานนักหลังจากหลานชิงหย่าเปิดเผยเรื่องต่างๆ

หวงโจว ที่ตั้งแห่งตระกูลจวิน ปรากฏกระบี่บินทองคำที่มีบัตรเชิญถูกผูกติดไว้ มันเปลี่ยนเป็นลำแสงอันหนาแน่นและกระจายออกไปทั่วดินแดนอมตะหวงเทียน

“นั่นมัน…กระบี่ส่งสารจากตระกูลจวิน มันคือบัตรเชิญงานเลี้ยง!”

“บุตรพระเจ้าผู้ลึกลับแห่งตระกูลจวินผู้นั้น ในที่สุดก็จะเปิดเผยตัวต่อสาธารณชนแล้วหรือ?”

ชั่วขณะหนึ่ง ดินแดนอมตะหวงเทียนที่เงียบสงบมาเป็นเวลานานก็ได้ร้อนระอุขึ้นอีกครั้งเพราะการส่งสารด้วยกระบี่ของตระกูลจวิน!

(หากมีคำแนะนำหรือข้อติเตียน สามารถคอมเมนท์เพื่อบอกกล่าวได้นะครับ ^ ^ ขอบพระคุณมากครับที่สละเวลาอ่านจนจบ)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด