ตอนที่แล้วบทที่ 328 – สถานการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 330 – อำนาจของดาบศักดิ์สิทธิ์เลิศล้ำ

บทที่ 329 – นอกเมืองหลวง


“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันคาดเดาเอาไว้จะถูกต้อง ก่อนหน้านี้พวกเผ่ามารไม่ได้โจมตีออกมาอย่างสุดกำลังของพวกมันเลย แต่กลับปิดบัง ซ่อนขุมกำลังที่แท้จริงเอาไว้โดยตลอด รอคอยจนถึงเวลาที่ราชาของพวกมันจะฟื้นคืนกลับมา ถ้าฉันเดาไม่ผิดอีกครั้ง ราชามารน่าจะปรากฏตัวออกมาในไม่นานนี้แล้ว”

หม่าเคอถามย้ำมาอีกครั้ง “พี่ใหญ่ พี่กำลังจะบอกว่า ราชามารน่าจะปรากฏตัวออกมาที่ป้อมปราการเต๋อหลุนในครั้งนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?”

ผมพยักหน้าให้เขา “น่าจะเป็นเช่นนั้น ความแข็งแกร่งของราชามารนั้นไร้ขีดจำกัด การที่เขาวางแผนให้เหล่าสมุนโจมตีทั้ง 3 เผ่าพันธุ์พร้อมกันที่ตำแหน่งของป้อมปราการ ก็เพื่อที่จะดึงความสนใจเอาไว้ และเปิดโอกาสให้เขาสามารถคือชีพขึ้นมาได้ และตอนที่กองกำลังหลักของทั้ง 3 เผ่าพันธุ์ถูกกำจัดลงไปได้แล้ว เขาจะสามารถค่อย ๆ กลืนกินโลกไปนี้ได้อย่างช้า ๆ ราชามารเอ๋ย ราชามาร ข้าจะไม่ยอมให้เป็นไปตามแผนของเจ้าแน่” ผมกำหมัดของตัวเองแน่น ร่างกายมีแสงสีทองปรากฏออกมาจาง ๆ  ปลดปล่อยพลังอันแข็งแกร่งออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำให้ทั้งหม่าเคอที่ไห่เย่วที่ยืนอยู่ทางด้านหน้า โดนพลังไร้สภาพผลักให้ต้องถอยหลังออกไป

ตาของหม่าเคอเป็นประกายออกมาทันที กล่าวด้วยความตื่นเต้น “พี่ใหญ่ พลังของพี่เพิ่มขึ้นอีกแล้ว หรือว่าพี่สามารถ....”

ผมพยักหน้า “ใช่ ฉันทำสำเร็จแล้ว”

เขาดีใจเป็นอย่างมา “ยอดเยี่ยมไปเลย ต่อจากนี้ไป กำลังทั้งหมดของอาณาจักรอ้ายเซี่ย จะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของพี่โดยตรง พวกเราเดินทางไปที่ป้อมปราการเต๋อหลุนกันในทันที กำจัดเผ่ามารให้สิ้นซากไปในคราวเดียวเลย”

คราวนี้ผมต้องส่ายหน้าออกไปให้เขา “การนำทัพไม่ใช่จุดเด่นของฉันเลย นายทำหน้าที่ไปเหมือนอย่างเดิมจะดีกว่า หรือให้ผู้บัญชาการสักคนของอาณาจักรเป็นผู้รับผิดชอบไป น่าจะทำให้กองทัพแข็งแกร่งมากกว่าการที่ฉันเป็นผู้ควบคุม อา! ใช่แล้ว! ได้ยินมาว่าพวกอาจารย์อยู่ที่แนวหน้าแล้ว นั่นเป็นเรื่องจริงหรือไม่?”

เขาตอบกลับมา “ถูกต้องแล้ว พวกอาจารย์ มู่จือ และคนอื่น ๆ ต่างไปที่ป้อมปราการกันหมดแล้ว พี่ใหญ่! พี่ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก ด้วยระดับพลังในตอนนี้ของพี่ มันเหมาะสมที่สุดแล้วที่จะบัญชาการหน่วยรบนักเวทย์น่ะ”

ผมรีบกล่าวออกไป “หม่าเคอ! ฉันจะต้องรีบเดินทางไปที่ป้อมปราการโดยเร็วที่สุด การจะนำกองทัพขนาดใหญ่ไปด้วย จะเป็นการถ่วงเวลาให้ฉันต้องล่าช้าลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว ตอนนี้ไม่มีใครรู้ทั้งนั้นว่าสถานการณ์ที่ป้อมเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนแล้ว ฉันไม่อยากจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์เลย นายรีบระดมพลให้พร้อมโดยเร็วที่สุด และออกเดินทางตามฉันไปจะเป็นการดีกว่า”

ไห่เย่วเอ่ยปากถามออกมาในที่สุด “จางกง! แล้วเรื่องของน้องสาวฉัน นายจะจัดการยังไง? เธอยอมเสียสละทุกอย่าง ยอมลำบาก ออกไปตามหานายถึงดินแดนของผู้พิทักษ์แห่งเทพ แล้วตอนนี้ยังทุ่มเทต่อสู้กับพวกเผ่ามารอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองด้วยซ้ำ” สีหน้าของไห่เย่วเหมือนกับทนเก็บเอาไว้ไม่ไหวแล้ว ถามผมออกมายาวเหยียดเลยทีเดียว

และเมื่อได้ยินเธอเอ่ยถึงไหสุ่ยขึ้นมา ตัวผมเริ่มสั่นเล็กน้อย สีหน้าก็หมองหม่นลง “เป็นความผิดของฉันเองที่ทำให้เธอต้องผิดหวัง แล้วสภาพของฉันในตอนนี้ มันไม่เหมาะสมกับเธออีกต่อไปแล้ว”

ไหเย่วได้ฟังก็โกรธขึ้นมาอย่างหนัก “นี่มันข้อแก้ตัวอะไรกัน นายรู้ถึงความรู้สึกของน้องสาวฉันจริง ๆ หรือไม่? เธอจะไปสนใจอะไรกับหน้าตาของนาย? ฉันไม่สนใจว่านายจะคิดอย่างไร แต่ถ้ายังหาคำตอบที่ทำให้ฉันพอใจไม่ได้ ฉันไม่ยอมปล่อยนายเอาไว้แน่”

ผมได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ ออกมา “ไห่เย่ว ฉันรู้ว่าไหสุ่ยดีต่อฉันมาก แต่... ช่างมันเถอะ เรื่องพวกนี้เอาไว้พูดกันวันหลัง ตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุด คือการรับมือกับพวกเผ่ามารนั่น พวกมันเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงของมนุษยชาติ และทุกเผ่าพันธุ์บนโลกใบนี้ อย่างเพิ่มมาพูดเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวในตอนนี้เลย”

ไห่เย่วยอมถอยให้ “ก็ได้ แต่ฉันจะคอยฟังคำตอบจากนาย แต่ต้องคิดให้ดี ๆ ก่อนที่จะตอบล่ะ แล้วตอนที่เจอกับน้องสาวฉัน ต้องทำตัวดี ๆ ด้วย เข้าใจหรือไม่?”

ผมพยักหน้า “ฉันไม่ได้อยากจะทำให้ใครต้องเจ็บปวดอยู่แล้ว เธอก็น่าจะเข้าใจดีไม่ใช่หรือ ว่าที่ฉันพูดหมายความว่าอย่างไร?”

ไห่เย่วได้แต่ยิ้มแล้ว

ตอนที่หม่าเคอคิดจะกล่าวอะไรออกมาบ้าง ก็มีเสียงตะโกนรายงานมาแต่ไกล “มีรายงาน ฝ่าบาท! ข้ามีเรื่องด่วนต้องทูลรายงาน”

นั่นทำให้หม่าเคอขมวดคิ้วแน่น “เข้ามาได้”

ทหารนายหนึ่งรีบรุดเข้ามาในท้องพระโรง ก่อนจะคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว “ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีรังมาร 2 แห่งปรากฏขึ้นในระยะห่างไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากกำแพงเมือง ตอนนี้พวกสัตว์ปีศาจประหลาดเริ่มออกมาอาละวาด ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันพบแล้ว”

หม่าเคอดูจะตะลึงไปไม่น้อย “อะไรนะ? เผ่ามารมาปรากฏตัว ตอนนี้นะหรือ? หรือว่าพวกเราจะคาดเดาเหตุการณ์กันไม่ถูกต้อง?” เขาหันมองมาที่ผมอย่างตระหนกเล็กน้อย รายงานข่าวที่ผิดคาดนี้ ทำให้เขาสับสนไปไม่น้อย ถึงแม้ว่าในเมืองหลวงแห่งนี้จะยังมีกำลังพลอยู่ไม่น้อย แต่การที่กองกำลังผู้พิทักษ์แห่งเทพเดินทางไปที่ป้อมปราการเต๋อหลุนแล้ว ความสูญเสียที่เกิดขึ้น กว่าจะจัดการกับรังมาร 2 รังได้หมด น่าจะมากมายมหาศาลเลยทีเดียว

ผมกล่าวออกมาเบา ๆ “หม่าเคอ ไม่ต้องวิตกจนเกินไปนัก การคาดเดาของพวกเรานั้นน่าจะถูกต้องแล้ว ยิ่งการที่มีเผ่ามารมาปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่ ยิ่งเป็นการยืนยันในความคิดนั้นขึ้นไปอีก พวกเผ่ามารคงต้องการตัดกำลังเสริมที่จะถูกส่งไปที่ป้อมปราการ นายรีบไปรวมพลของกองทัพนักเวทย์เถอะ ปล่อยรังมารทั้ง 2 แห่งนั่นให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง” ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก ‘ก็แค่รังมาร 2 แห่ง คงใช้เวลาไม่นานเท่าไรนักหรอก’

หม่าเคอถามออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก “พี่ใหญ่ พี่จะรับมือกับพวกมันด้วยตัวเองทั้งหมดได้ยังไง? รอให้ผมระดมพลให้เสร็จก่อนหรือไม่?”

ผมยิ้มกว้าง “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แค่สัตว์ปีศาจประหลาดพวกนี้ ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก อ้อ! ฝากดูแลเจี้ยนซานนี่ด้วย แล้วเดี๋ยวพอฉันกลับมา จะต้องรีบพาเขาไปที่ป้อมปราการเต๋อหลุนด้วยกัน” หลังจากกล่าวจบ ผมไม่ได้รอให้ใครพูดอะไรออกมาอีก รีบใช้เวทย์เคลื่อนย้ายระยะใกล้ ส่งตัวเองออกจากท้องพระโรงไปในทันที และหลังจากนั้นก็ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ส่งตัวเองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วมุ่งหน้าออกจากใจกลางเมืองทันที

ท้องฟ้าของเมืองหลวงในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยเมฆดำจำนวนมาก กลิ่นอายที่แผ่กระจายออกมา เต็มไปด้วยความชั่วร้ายและบ้าคลั่งเป็นอย่างมาก หลังจากที่ส่งพลังศักดิ์สิทธิ์ออกไปรอบตัวอย่างรวดเร็ว ผมก็สามารถจับต้นกำเนิดของความชั่วร้ายได้อย่างแม่นยำแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็มาอยู่ในระยะที่มองเห็นหลุมดำขนาดใหญ่ 2 แห่ง ที่กำลังมีสัตว์ปีศาจประหลาดจำนวนมากปีนออกมา พวกมันตั้งอยู่ห่างจากกันไม่ไกลนัก สัตว์ปีศาจที่ปีนออกมาได้ก่อน กำลังอาละวาดไปทั่วอย่างดุร้าย ขนาดตัว และความแข็งแกร่งของพวกมัน ดูเหมือนว่าจะมากกว่าพวกที่ผมเคยเจอในครั้งก่อน ๆ แต่ดวงตาสีแดงเป็นเลือดของพวกมันนั้นยังเหมือนเดิม หมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากรังมารทั้ง 2 แห่งนั้น ถูกทำลายลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว เห็นคราบเลือดจำนวนมากยังปรากฏให้เป็นได้อย่างชัดเจน ผมยังทันเห็นชาวบ้าน 2 คนถูกโจมตีสังหารกับตาตัวเอง พวกมันไม่เหลือเอาไว้แม้แต่ซากศพ ที่นี่คืออาณาจักรอ้ายเซี่ย ประชาชนส่วนใหญ่ในอาณาจักรแห่งนี้สามารถใช้เวทย์มนต์เบื้องต้นได้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เพียงพอที่จะใช้ต้านทางสัตว์ปีศาจประหลาดพวกนั้นได้เลย พวกเขาถูกไล่ล่าสังหารอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด