ตอนที่แล้วสุดยอดอัศวิน บทที่ 13 : เบนสัน 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดอัศวิน บทที่ 17 : ฆ่า

สุดยอดอัศวิน บทที่ 14 : คนจากทางบ้าน


สุดยอดอัศวิน บทที่ 14 : คนจากทางบ้าน

ในป่าเล็ก ๆ

วัยรุ่นสองคนสวมชุดเกราะหนังของโรงเรียนกำลังต่อสู้กันด้วยดาบ

ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง!

ประกายแสงทั้งสองปะทะกันทำให้เกิดเสียงดังคมชัด

ในป่า กิ่งไม้ที่ได้รับผลกระทบบางส่วนถูกฟันเป็นชิ้น ๆ ในทันที แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคมของประกายแสงทั้งสอง

ชิ้ง!

มีการปะทะกันอีกครั้ง หนึ่งในสองคนถูกผลักกระเด็นออกไปด้วยแรงกระแทกจากดาบ ในขณะที่อีกคนหยุดนิ่งหลังโจมตี

“เป็นไงบ้าง ยังไหวไหม?”

เด็กชายผมบลอนด์ที่หยุดโจมตีถาม

“ไม่เป็นไร สบายมาก!”

เด็กชายที่ถูกผลักออกไปเป็นเด็กที่มีผมหยิกเป็นปุย เขามองไปที่เด็กชายตรงข้ามด้วยรอยยิ้ม

“ฮ่า ฮ่า”

เมื่อได้ยินคำตอบอีกฝ่าย เด็กชายผมบลอนด์ก็แสดงรอยยิ้มเช่นกัน

สองคนนี้คือฌอนกับมัวร์

ครึ่งเดือนผ่านไปตั้งแต่ต่อสู้กับเบนสัน ในช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของฌอนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว จากที่ด้อยกว่ามัวร์เล็กน้อย ตอนนี้แซงหน้าอีกฝ่ายไปแล้ว อัตราการเติบโตนี้ทำให้ฌอนที่เฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเองตกตะลึง มัวร์ก็ตกใจเช่นกัน หากพิจารณาจากอัตราการเติบโตเพียงอย่างเดียว ไททัสซึ่งตอนนี้เป็นอันดับหนึ่งของชั้นปีก็ไม่นับว่าสูงเกินเอื้อมอีกต่อไป

น่าเสียดายที่ฌอนเพิ่งเริ่มพัฒนาในตอนนี้ ถ้าเขามีอัตราของพัฒนาการมากขนาดนี้ตั้งแต่ตอนที่เข้าโรงเรียนครั้งแรก ตอนนี้ไททัสอาจไม่ใช่อันดับหนึ่งของชั้นปีแล้วก็ได้

“ป่ะ กลับกันเถอะ”

ฌอนพูดเมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์ที่ลอยอยู่เหนือหัว

“เราจะหยุดซ้อมกันแค่นี้เหรอ?”

มัวร์เสียดายเล็กน้อย

ทุกวันนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาว่าง เขาจะไปที่ป่าเล็ก ๆ แห่งนี้กับฌอนเพื่อฝึกฝนวิชาดาบของเขา ภายใต้การชี้นำของฌอน เขาได้รับอะไรมากมาย และพรสวรรค์ด้านฝีมือดาบของเขาก็พัฒนาขึ้นทุกวัน เขาค่อนข้างหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกนี้ จนอดไม่ได้ที่จะขอฝึกอีกครั้ง

“ไม่ หลังจากฝึกฝนมานานก็ต้องมีเวลาพักด้วย ถ้าฝืนร่างกายต่อไปได้เจ็บหนักแน่!”

ฌอนส่ายหน้า สำหรับความเร็วในการฝึกฝนนั้น เขาสามารถควบคุมได้โดยไม่ผ่อนคลายหรือบีบคั้นเกินไป นี่คือบทเรียนที่ได้รับจากเจ้าของประโยคนี้

“อืม”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ มัวร์ก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจ

ในมุมมองของเขา ฌอนคนเก่ากดดันร่างกายมากเกินไป ซึ่งทำให้ร่างกายมีอาการบาดเจ็บซ่อนอยู่ ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงพลังทางกายภาพที่ช้ามาก

หลังจากได้รับการแก้ไขโดยเลดี้สการ์เล็ต อันตรายที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของเขาก็ถูกกำจัด และความเร็วของการพัฒนาร่างกายก็เร็วขึ้นตามธรรมชาติ

หลังจากอาบน้ำและกินอาหารกลางวันในโรงอาหารแล้ว ฌอนก็เดินไปที่ห้องพักของเขา

ในชาติที่แล้ว เขามีนิสัยชอบงีบหลับ และในชีวิตนี้ เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างเข้มข้น การงีบหลับสามารถผ่อนคลายร่างกายและเป็นความเพลิดเพลินสูงสุดอีกด้วย ซึ่งเขาไม่คิดที่จะล้มเลิกงานอดิเรกนี้

แต่เมื่อเขาเดินไปที่ประตูห้องพักของเขา ก็เห็นว่ามีคนรออยู่ก่อนแล้ว

เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างผอมบาง แต่งกายด้วยชุดคนรับใช้ของโรงเรียน มีแววตาที่คล่องแคล่วว่องไวและดูฉลาดทีเดียว

“มีอะไรเหรอ?”

ฌอนเดินตรงเข้าไปถาม

เมื่อได้ยินคำถามของฌอน ชายหนุ่มหยุดชะงัก และตอบสนองอย่างรวดเร็ว

“ขอโทษครับ นี่ท่านฌอนใช่ไหมครับ?”

“อ่า ใช่”

ฌอนพยักหน้า

“ท่านฌอน มีคนกำลังตามหาท่านและรออยู่ข้างนอก”

“รอพบฉันเหรอ? เข้าใจแล้ว”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ฌอนผงะไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานก็นึกอะไรบางอย่างออก ก่อนหยิบเหรียญทองแดงสามเหรียญออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่ายเพื่อให้ทิป

“ค่าตอบแทนของนาย”

“ขอบคุณครับท่านฌอน”

เขาหยิบเหรียญทองแดงในมือของฌอน และเมื่อเขารู้ว่ามีมากถึงสามเหรียญ ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา ทัศนคติของเขาที่มีต่อฌอนก็เต็มไปด้วยเคารพมากขึ้น

เหรียญทองแดงสามเหรียญเกือบจะเทียบเท่ากับค่าแรงสามวันของเขา ถ้าบวกกับทิปเหรียญทองแดงอีกสองเหรียญจากคนที่อยู่หน้าประตู ก็เท่ากับเงินเดือนห้าวันแล้ว โอกาสแบบนี้หาได้ยากมาก

ทางเข้าหลักของโรงเรียนอัศวินยุคใหม่นั้นสูง 7 - 8 เมตร ให้ความรู้สึกโออ่าสง่างาม

ที่ด้านหน้าสลักคำว่า ‘โรงเรียนอัศวินยุคใหม่’ โดยสลักเป็นภาษากลางของแผ่นดินใหญ่ ซึ่งดูมีพลังและน่าเกรงขาม ว่ากันว่านี่คือลายมือของคณบดีคนแรกที่ก่อตั้งโรงเรียนนี้

พื้นปูด้วยหินแกรนิตก้อนใหญ่ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ละก้อนได้รับการขัดเงาเป็นประกายและมีลวดลายเมฆแบบพิเศษซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหินแกรนิตที่ได้มาจากเทือกเขาอวิ๋น และราคาก็แพงมาก หินแกรนิตชนิดนี้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศจีน

เมื่อฌอนมาถึงประตูโรงเรียน เขาเห็นชายชราในชุดพ่อบ้านสีดำรออยู่ตรงนั้น

ทันทีที่เขาเห็นชายชรา ความทรงจำเกี่ยวกับชายชราคนนี้ก็ผุดขึ้นมาในความคิดของฌอนทันที

พาวด์ ฟารเรลล์ พ่อบ้านของตระกูลแคมป์เบล ทำหน้าที่ดูแลหัวหน้าตระกูลมาสองรุ่นแล้ว เขาเป็นชายชราผู้ที่ติดหนี้บุญคุณตระกูลแคมป์เบลล์ เขาได้รับความเชื่อใจอย่างมากจากหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบัน นั่นก็คือบรอด แคมป์เบล หรือพ่อของฌอน ซึ่งมีสถานะสูงสุดในตระกูลแคมป์เบล

“พ่อบ้านพาวด์”

ฌอนพูดด้วยสีหน้าเป็นธรรมชาติ หลังจากผ่านไปนาน เขาได้รวมตัวเองเข้ากับบทบาทของฌอนแล้ว และเขาก็ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนในตอนแรกอีกเลย

“ท่านฌอน”

ชายชราแสดงความดีใจเมื่อเห็นฌอน ฌอนเติบโตจากการดูแลของเขา และความคุ้นเคยของเขากับฌอนนั้นมากกว่าหัวหน้าตระกูลซะอีก นั่นเป็นเพราะตระกูลแคมป์เบลมีขนาดใหญ่ จึงต้องมีหัวหน้าตระกูลคอยดูแลเรื่องปากท้อง ดังนั้นผู้นำตระกูลจึงไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับลูก ๆ ของตัวเอง

“พ่อบ้านพาวด์ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ?”

“ผมต้องติดตามคาราวานสินค้าของตระกูลเราไปยังเมืองหลวง เลยแวะนำเงินจากท่านพ่อของท่านมาให้ระหว่างทางครับ”

“อืม เกือบลืมไปเลย”

ฌอนจำได้ว่าเนื่องจากเมืองที่ตระกูลของแคมป์เบลล์ตั้งอยู่นั้นห่างไกลจากเมืองหลวงมาก การไปและกลับต้องใช้เวลานาน ดังนั้นเขาจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งสำหรับใช้จ่ายในครึ่งปี ทุก ๆ ช่วงกลางปี

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้เขายุ่งอยู่กับการฝึกฝน แถมเขาก็ไม่ใช่ฌอนคนเดิมอีกต่อไป ความทรงจำบางอย่างจึงเลือนลาง ทำให้เขาลืมเรื่องนี้ไปสนิท

“นายน้อยเป็นแบบนี้เสมอ ผมจำได้ว่าท่านมักจะขี้ลืมแบบนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ ครั้งหนึ่งท่านลืมไปโรงเรียน แล้วพ่อของท่านก็จับได้…”

ชายชราพูดด้วยรอยยิ้ม

“พ่อบ้านพาวด์ ท่านพ่อเป็นยังไงบ้าง? แล้วธุรกิจล่ะ?”

ฌอนรีบเปลี่ยนเรื่อง ตามความทรงจำของฌอนคนเก่า เมื่อเห็นชายชราตรงหน้า พวกเขาจะพูดคุยอย่างไม่รู้จบ ที่ประตูโรงเรียนอัศวินยุคใหม่ นักเรียนมักจะเดินเข้าออกตลอดเวลา ถ้าคนพวกนั้นได้ยินเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ จิตใจของเขาคงร้อนรุ่มไม่น้อย

“ท่านสบายดีครับ ก่อนจากไป ท่านบอกไว้อีกอย่างว่าอย่าทำให้ความคาดหวังของตระกูลผิดหวัง สำหรับธุรกิจ…”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ชายชราลังเลเล็กน้อย และสงสัยว่าเขาควรจะบอกเรื่องนี้หรือไม่

“พ่อบ้านพาวด์ เกิดอะไรขึ้น?”

เมื่อเห็นท่าทางลังเลของชายชรา ฌอนเดาได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติกับธุรกิจ

ตระกูลแคมป์เบลเริ่มต้นจากการทำธุรกิจ ตอนนี้ตระกูลของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นนักธุรกิจขนาดย่อมในเมืองแอซาย แต่เนื่องจากขาดเส้นสายในแวดวงชนชั้นสูง การพัฒนาธุรกิจจึงไม่ราบรื่น ดังนั้นการส่งฌอนไปเรียนที่โรงเรียนอัศวินคงดีที่สุด ถึงแม้การใช้ชีวิตอยู่ในอาณาจักรคาร์โลต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากก็ตาม เหตุผลก็เพื่อฝึกฝนฌอนให้เป็นอัศวิน เพื่อให้ตระกูลของพวกเขาสามารถเข้าสู่แวดวงขุนนางได้

“ความขัดแย้งกับตระกูลอดัมส์ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการกระทบกระทั่งเมื่อเจอกันเป็นการส่วนตัวอยู่หลายครั้ง”

ชายชราขมวดคิ้วและพูด

“ตระกูลอดัมส์?”

เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฌอนนึกถึงเบนสันทันที เพราะเบนสันมาจากตระกูลอดัมส์

ตามความทรงจำของฌอนคนเก่า เบนสันเริ่มก่อกวนเขานับตั้งแต่ช่วงต้นปีเป็นต้นมา ทั้งที่ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ระหว่างพวกเขาก็ไม่ได้ดีนัก

ตั้งแต่ต้นปีมานี้ เบนสันเริ่มจงใจกำหนดเป้าหมายเขา บางครั้งเขาแสดงเจตนาฆ่าผ่านทางแววตาอย่างชัดเจน ฌอนไม่เคยเข้าใจว่าทำไม แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพราะความขัดแย้งระหว่างสองตระกูลนั่นเอง

“เป็นอะไรไปครับท่านฌอน?”

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของฌอนเปลี่ยนไป ชายชราจึงถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่มีอะไร”

ฌอนส่ายหน้า ไม่คิดจะบอกว่าเบนสันทำอะไรกับเขาไว้บ้างในโรงเรียน ไม่อย่างนั้นความขัดแย้งระหว่างทั้งสองตระกูลจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก หากตระกูลแคมป์เบลประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ มันไม่คุ้มค่าแน่นอน

“บอกท่านพ่อให้ระวังด้วย ผมเกรงว่าตระกูลอดัมส์กำลังหาทางลอบสังหารท่านพ่อเร็ว ๆ นี้”

“ครับ ผมจะบอกกับท่านตามนี้”

ชายชราพยักหน้าตอบ

“ท่านฌอน ยังมีสิ่งที่ผมต้องทำเกี่ยวกับธุรกิจอยู่ ผมขอลาไปก่อนนะครับ”

ในไม่ช้าชายชราก็กล่าวอำลาและจากไป

“พ่อบ้านพาวด์ เดินทางปลอดภัยนะครับ”

เมื่อมองดูชายชราเดินจากไป ฌอนเองก็วางแผนที่จะกลับเข้าไปในโรงเรียน แต่ทันใดนั้นเอง เขาสัมผัสได้ถึงการจ้องมองแปลก ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะมองไปด้านข้าง

สายตาเขาปะทะเข้ากับเด็กชายผมสีน้ำตาลที่กำลังจ้องมองเขาด้วยสายตาเย็นชา

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด