ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 54 - เปลี่ยนใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 56 - ชุดเก็บความลับ

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 55 - ลู่ฟง


เวลาเพิ่งจะผ่าน 6 โมงเย็นมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าลงไป ปล่อยให้บรรยากาศที่มืดมิดของยามค่ำคืนค่อย ๆ เผยตัวออกมาทีละน้อย

ที่หอสมุดของทางสถาบัน นักเรียนจำนวนมากพากันมาอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่เพียงแต่มาอ่านคู่มือการฝึกฝนอย่างละเอียด เปรียบเทียบทักษะและเทคนิคแต่ละอย่างเป็นอย่างดี ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเส้นทางในการฝึกฝนของตัวเองเท่านั้น พวกเขายังมาศึกษา และอ่านประสบการณ์ของรุ่นก่อนหน้าหรือยอดฝีมือ ที่ถูกบันทึกรายละเอียดเอาไว้อีกด้วย มันมีทั้งประสบการณ์ในการต่อสู้ และการฝึกฝนต่าง ๆ มากมายเลยทีเดียว

เดวิดก็เลือกที่จะกลับมาที่หอสมุดนี่อีกครั้งเช่นกัน และหลังจากที่ใส่รหัสเข้าไปในระบบส่วนตัวเพื่อเชื่อมต่อเข้ากับหอสมุดได้แล้ว เขาก็พร้อมสำหรับการเลือกคู่มือการฝึกฝนร่างกายใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่นั่นยังไม่เกิดขึ้นในทันที เดวิดใช้เวลาจ้องไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับอยู่นานพอสมควรทีเดียว

ที่หลังเคาน์เตอร์ตัวนั้น ยังคงเป็นหญิงสาวคนเดิม ที่เดวิดเคยเจอในวันที่มาที่นี่ครั้งแรก และเธอกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่อย่างตั้งใจเหมือนเดิมด้วย ใช่แล้ว! สายตาของเขาที่จ้องเข้าไปนั่นเต็มไปด้วยความโมโหเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองเลยที่เลือกประเภทของการฝึกฝนผิดไป มันเป็นความผิดของเธอคนนั้นมากกว่า แต่หลังจากที่จ้องอยู่นาน เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่สร้างเรื่องยุ่งยากอะไรขึ้นมา และตั้งใจจะปล่อยมันไป ทำใจรับสภาพกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง

ภายในหอสมุดยังคงวางเรียงรายเต็มไปด้วยชั้นหนังสือเหมือนเช่นเคย และมีบันไดอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ สำหรับเดินขึ้นไปชั้นบน อย่างน้อย ๆ ก็ 5 แห่งแล้วที่เดวิดสามารถสังเกตเห็นได้ หลังจากกวาดตามองที่ชั้นล่างที่เขากำลังยืนอยู่อย่างละเอียดรอบหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจเริ่มเดินเข้าไปเลือกหาคู่มือการฝึกฝนทันที

เขาต้องพยายามทำเวลาให้ได้เร็วที่สุด เพราะคิดที่จะกลับไปที่ห้องเพื่อทดลองบางอย่างที่ติดอยู่ในใจของตัวเองภายในคืนนี้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะสังเกตรายละเอียดให้ดีกว่าครั้งก่อน ไม่อยากจะให้เกิดความผิดพลาดง่าย ๆ ขึ้นมาอีก แล้วก็พบว่าคู่มือส่วนใหญ่จะแบ่งระดับออกกันตามชั้นของมันอยู่แล้ว อย่างที่ชั้น 1 ที่เขายืนอยู่นี้ ส่วนใหญ่เป็นเพียงคู่มือระดับสีดำเท่านั้น สังเกตได้จากสีของหน้าปกที่วางเรียงรายอยู่บนชั้นโดยทั่วไป

ชั้น 2 ยังคงเป็นคู่มือการฝึกฝนระดับสีดำเหมือนเดิม และแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ขั้นต่ำ ขั้นกลาง และขั้นสูง แต่ที่ชั้นนี้ ส่วนใหญ่แล้วมันเป็นคู่มือทักษะการต่อสู้

ส่วนชั้นที่ 3 และ 4 เป็นคู่มือการฝึกฝนระดับสีน้ำตาลแล้ว ในขณะที่คู่มือระดับสีแดงจะอยู่ที่ชั้น 5 และ 6 ซึ่งเดวิดตัดสินใจที่จะขึ้นไปบนนั้นในวันอื่น

หลังจากที่มายืนอยู่ตรงหน้าของชั้นหนังสือที่สูงใหญ่ เดวิดรู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกข่มขู่กดดันอยู่ไม่น้อย คราวนี้เขาต้องระมัดระวังมากขึ้น อ่านตัวหนังสืออย่างละเอียด ว่ามันเป็นคู่มือการฝึกฝนร่างกายจริง ๆ

‘กระตุ้นด้วยไฟฟ้า’-การฝึกฝนด้วยการใช้กระแสไฟฟ้า กระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงขึ้น และสูบฉีดเลือดให้หมุนเวียนไปทั่วร่างกายได้รวดเร็วมากขึ้น เมื่อสามารถฝึกฝนได้จนถึงระดับสูง ภายในกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้เอง เมื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนด้วยความเร็วสูง

ข้อสังเกต-เหมาะสมสำหรับคนที่ไม่สามารถฝึกฝนอยู่นิ่ง ๆ เป็นระยะเวลานานได้

‘มังกรคะนอง’-เป็นการฝึกฝนที่พัฒนามาจากเทคนิคการหายใจที่ลึกลับในสมัยโบราณ ที่เรียกว่ามังกรคะนองศึก เมื่อฝึกฝนได้จนถึงระดับสูง เพียงแค่การหายใจเข้าออก ก็สามารถเพิ่มอันตราการหมุนเวียนเลือดได้อย่างมหาศาล ราวกับว่าเป็นมังกรที่แหวกว่ายอย่างคึกคะนองไปทั่วร่างกาย

ข้อสังเกต-เหมาะสมสำหรับผู้ฝึกที่มีบุคลิกชอบปกครอง และครอบงำคนอื่น

‘ขุมพลังงาน’-เป็นการฝึกฝนเพื่อตั้งเป้าในการสะสมพลังงานไว้ในร่างกายให้มากที่สุด เมื่อสามารถฝึกฝนได้ถึงระดับสูง ร่างกายของผู้ที่ฝึกฝน จะมีพลังงานอยู่มากกว่าสไปรเยอร์ปกติทั่วไป 25 เปอร์เซ็นต์

ข้อสังเกต-เหมาะสมกับคนที่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองได้ดี

‘ไร้จำกัด’-เหมือนกับดังชื่อของคู่มือ การฝึกฝนตามวิธีนี้ จะช่วยขยายเส้นเลือดให้ใหญ่ขึ้น ทำให้เลือดสามารถหมุนเวียนได้โดยถูกจำกัดน้อยที่สุด เมื่อฝึกฝนได้ถึงระดับที่สูงขึ้น การโจมตีออกไปแต่ละครั้ง จะมีพลังที่มากกว่าปกติ 25 เปอร์เซ็นต์

ข้อสังเกต-เหมือนกับดังชื่อของคู่มือ เหมาะสมกับผู้ฝึกที่ไม่สร้างข้อจำกัดอะไรให้กับตัวเอง

.................

เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว เดวิดใช้เวลาศึกษารายละเอียดของคู่มือการฝึกฝนร่างกายไปมากกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะตัดสินใจได้ในที่สุด และหลังจากนั้น เขาก็มุ่งตรงไปยังส่วนของคู่มือฝึกฝนทักษะการต่อสู้ระดับสีดำ ก่อนที่จะเลือกทักษะการต่อสู้ระดับสีดำขั้นกลางออกมาอีกเล่มหนึ่ง แล้วก็รีบออกจากหอสมุด มุ่งตรงกลับไปยังห้องพักตัวเองทันที

ภายนอกห้องสมุดนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว ดวงอาทิตย์ลับของฟ้าลงไป ปล่อยให้ดวงดาวได้ส่งเป็นประกายอยู่บนฟากฟ้า เส้นทางที่เดวิดใช้อยู่ตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในตรอกแคบ ๆ เส้นหนึ่ง หมายจะใช้มันเป็นทางลัดเพื่อกลับไปให้เร็วที่สุด

แต่หลังจากที่เขาก้าวเท้าเข้ามาในตรอกนั้นได้ไม่นาน ที่หัวมุมถนนฝั่งตรงกันข้าม ก็ปรากฏเงาร่างของคน 2 คนขึ้นมาอย่างกะทันหัน เมื่อเดวิดเพ่งตามองดูพวกเขา ก็พบว่าเป็นผู้ชาย 1 คน และผู้หญิงอีก 1 คน

เขาจำเด็กผู้หญิงคนที่เพิ่งปรากฏตัวออกมาได้ทันที แต่แค่เพียงคุ้นหน้าเด็กผู้ชายคนนั้น ว่าเหมือนเคยเห็นมาจากที่ไหนก่อนหน้านี้ และที่สำคัญไปกว่านั้น ทั้ง 2 คนที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหันนี้ เหมือนว่าจะมีเจตนาร้ายมากกว่าดีอย่าแน่นอน

สติของเขาเริ่มตื่นตัวขึ้นทันที เมื่อหนังตาเริ่มตกลงมาเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ท่าทางเริ่มแสดงออกถึงความเฉื่อยชาออกมา มันเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้เขาต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ปล่อยให้ปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติเตรียมร่างกายให้พร้อมที่จะต่อสู้ไปเอง หันมาควบคุมความเร็วการเต้นของหัวใจ ทำให้มันเต้นเร็วขึ้น เพื่อสูบฉีดเลือดออกไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย เสริมสร้างพลังงานขึ้นมาอย่างช้า ๆ ทำตัวให้สงบนิ่งที่สุด แต่พร้อมที่จะระเบิดพลังออกไปได้ทุกเมื่อ ความรู้สึกถูกคุกคามที่เขาได้รับมาตอนนี้ มันมาจากเด็กผู้ชายคนนั้นอย่างชัดเจน 100 เปอร์เซ็นต์

แม้ว่าสัญชาตญาณของเขาจะตะโกนอยู่ในหัวก้องไปหมด ให้รีบหนีออกจากที่นี้โดยเร็ว แต่เขาก็ยังระงับความหวาดกลัวนั่นเอาไว้ได้ เพราะเขารู้ดีว่า ภายใต้การจับตาดูอยู่อย่างใกล้ชิดของทางสถาบัน สองคนที่ปรากฏขึ้นมาขวางทางเขาเอาไว้ในตอนนี้ ไม่สามารถที่จะลงมืออะไรได้มากนักอย่างแน่นอน

แต่ทั้งสองคนนั้น ไม่ได้ปล่อยให้เขามีเวลาคิดแผนรับมือนานเกินไปนัก เพียงชั่วพริบตาเดียว ชายหนุ่มผมสีฟ้าคนหนึ่ง และเด็กสาวผมสีแดง ก็มาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ห่างออกไปไม่ถึง 15 เมตรเท่านั้น

เด็กสาวผมสีแดงไม่ใช่ใครอื่น เธอคือจานีน คนที่บังคับเดวิดท้าประลองเมื่อเช้านี้ หลังจากที่พ่ายแพ้ไปแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมรับ แล้วไปตามคนอื่นมาแก้แค้นให้ อย่างนั้นหรือ?

ส่วนเด็กหนุ่มผมสีฟ้าคนนี้ เป็นเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่มีริมฝีปากบางเฉียบ จมูกยาวเข้ากับคิ้วหนาที่ดูโค้งมนนั่น และสิ่งที่ดูพิเศษที่สุดบนใบหน้า น่าจะเป็นดวงตาสีฟ้าแหลมคมคู่นั้น ที่ส่องประกายราวกับว่ามันเป็นดวงดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ถ้าสาว ๆ ได้มองเข้าไปในดวงตาคู่นี้ จะต้องตกอยู่ในภวังค์แห่งความหลงไหนอย่างแน่นอน

และตอนที่เขาเข้ามาใกล้จนสามารถสังเกตเห็นหน้าตาได้อย่างชัดเจน เดวิดก็จำได้ในทันที ว่าเขาเคยเห็นเด็กหนุ่มผมสีฟ้าคนนี้มาจากที่ไหน เจ้าหมอนี่! เป็นคน ๆ เดียวกับที่จัดการสเติร์มจนหมดสติไปภายในการโจมตีเพียง 10 หมัดคนนั้น เป็นคน ๆ เดียวกับที่เขาเห็นจากภาพโฮโลแกรมเมื่อเช้านี้นี่เอง

จานีนทำตาแดง ๆ เหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา ตอนที่เริ่มกระตุกแขนของเด็กผมสีฟ้านั่น แล้วเริ่มสะอื้น “พี่ใหญ่ เจ้าหมอนี่แหละ!” พร้อมกับชี้มือมาที่เดวิด เป็นการยืนยันคำพูดของตัวเอง

ทันทีที่คำพูดของจานีนจบลง ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็จ้องตรงมาที่เดวิดเขม็ง ทำให้ร่างกายของเขาเริ่ม ‘เฉื่อยชา’ มากขึ้นไปอีก ความแหลมคมข่มขู่ของการจ้องมองในครั้งนี้ มันยิ่งทำให้สัญญาณเตือนในสมองของเดวิดยิ่งดังมากขึ้นทุกที

เด็กหนุ่มผมสีฟ้าชี้นิ้วออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

“นาย! ส่งการบังคับท้าประลองฉันเดี๋ยวนี้ รับหมัดของฉันให้ได้ 1 หมัด แล้วฉันจะปล่อยนายไป” เสียงของลู่ฟงฟังดูนุ่มนวล แต่มันแฝงไปด้วยความรู้สึกของผู้ที่อยู่เหนือกว่าอย่างชัดเจน สีหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึก ไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งสิ้น

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด