ตอนที่แล้วเล่ม 6 ตอนที่ 258 : คฤหาสน์เจ้าเมืองอันร้อนแรง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่ม 6 ตอนที่ 260: ทูตสวรรค์กลายเป็นโสเภณี

เล่ม 6 ตอนที่ 259 :ช่วยเหลือฉุกเฉิน


เล่ม 6 ตอนที่ 259 :ช่วยเหลือฉุกเฉิน

สุดยอดสัตว์อสูรสี่ร่างอดไม่ได้ที่จะชื่นชมผู้เล่นโจร เขาใช้ฟังก์ชันกู้คืนอัตโนมัติของคฤหาสน์เจ้าเมืองเพื่อสกัดกั้นสุดยอดสัตว์อสูรของเมืองคาสิดอนเอาไว้ข้างนอก ซึ่งเป็นความคิดที่ค่อนข้างดีมากที่จะรวบรวมกำลังของเขาเพื่อฆ่าเจ้าเมืองคาสิดอนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ค่อยออกไปจัดการกับสุดยอดสัตว์อสูรที่รออยู่ด้านนอก

เมื่อเทียบกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัว มันก็คงจะง่ายกว่า และลดเวลาในการต่อสู้ให้สั้นลง ความเสียหายของเมืองคาสิดอนก็จะได้รับผลกระทบน้อยลงโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม คฤหาสน์เจ้าเมืองไม่ได้มีประตูเพียงแค่บานเดียวเท่านั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์เข้าทางประตูบานอื่น ? ไม่ใช่ว่ามันจะทำให้แผนการของพวกเขาสูญเปล่างั้นหรือ ?

แต่ผู้เล่นโจรก็ได้บอกเขาว่าสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของเมืองคาสิดอนจะต้องมาจากประตูด้านหน้า และมันก็มาตามนัดจริง ๆ ดูเหมือนว่าผู้เล่นโจรคนนี้จะไม่ธรรมดา

อันที่จริง มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาเกี่ยวกับประเด็นนี้ ? ก็แค่เรื่องของการฝึกฝนเท่านั้น

เพราะเมื่อตอนที่เขาอยู่ในคฤหาสน์เจ้าเมืองซิงเยว่ ทุกครั้งที่เจ้าเมืองหญิงมู่อัญเชิญกิเลนเพลิงและผู้บัญชาการฟางให้เข้ามาหา พวกเขาก็มักจะมาจากทางประตูด้านหน้าของคฤหาสน์เจ้าเมือง เพราะในความรู้สึก เส้นทางที่จะนำไปสวนด้านหลังของคฤหาสน์เจ้าเมืองเป็นทางเดินพิเศษสำหรับเจ้าเมืองของระบบเท่านั้น

ภายใต้สถานการณ์ปกติ นอกเหนือเจ้าเมืองคนอื่น ๆ จากระบบแล้ว ทั้งผู้พิทักษ์และผู้บัญชาการที่อยู่ใต้อิทธิพลของท่านเจ้าเมือง พวกเขาจะไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ทางเดินของห้องโถงด้านหลังหากไม่ได้รับอนุญาต

ยกตัวอย่างเช่นมู่หรงเสี่ยวเทียนที่เดินเข้าไปในห้องโถงด้านหลังของเจ้าเมืองหญิงมู่ หรือว่าพี่ชายอ้วนผู้ตรวจสอบสิ่งของที่สามารถเดินเข้าไปด้านหลังคฤหาสน์เจ้าเมืองของเมืองหินโบราณ ทั้งสองคนนั้นได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้

ดังนั้นแล้ว โดยทั่วไป ตราบใดที่เจ้าเมืองอัญเชิญสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์หรือว่าผู้บัญชาการมาที่คฤหาสน์เจ้าเมือง พวกเขาจะต้องมาจากประตูด้านหน้า

มันไม่มีเจ้าเมืองใดที่มีความสามารถในการออกคำสั่งอัญเชิญพร้อมกัน หากว่าคุณสามารถระบุแนวทางการดำเนินการได้มันจะไม่เรียกว่าการส่งคำสั่งเรียก แต่จะเป็นการส่งสัญญาณเสียงระยะพันไมล์

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองดูจากทั่วทั้งเกมส์เดสตินี่ทั้งหมด ดูเหมือนว่าจะมีเพียงแค่นกคามิคาเซ่ตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถส่งเสียงพันไมล์ได้

ดังนั้น มู่หรงเสี่ยวเทียนจึงมั่นใจ 80% ว่าสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของเมืองคาสิดอนจะต้องมาทางประตูด้านหน้า

ส่วนเรื่องที่ว่าเขาไม่สามารถมั่นใจได้ทั้งหมดนั้นก็เพราะว่ายังมีตัวแปร และนั่นก็คือเจ้าเมืองคาสิดอน ในขณะที่เขาเรียกสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ เขาสามารถมอบอำนาจและเปิดทางเข้าด้านหลังให้กับมันได้

หากว่าสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ไม่ได้โง่มากนัก มันจะเข้าใจอย่างแน่นอนว่าเจ้าเมืองอัญเชิญมันและให้สิทธิ์ให้เข้าจากห้องโถงด้านหลัง ซึ่งสิ่งนั้นก็ย่อมหมายความว่าเขาอนุญาตให้มันผ่านเข้าประตูหลังโดยธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม มู่หรงเสี่ยวเทียนกล้าที่จะเดิมพันว่าเจ้าเมืองคาสิดอนไม่มีความสามารถที่จะตอบสนองด้วยไอคิวที่สูงเช่นนี้

เพราะจู่ ๆ เจ้าเมืองทั้งสองก็ก่อกบฏและโจมตีเขาอีกครั้ง มู่หรงเสี่ยวเทียนเกรงว่าในสมองของท่านเจ้าเมืองคงจะต้องมีแต่ความตกใจ แล้วแบบนี้เขาจะรักษาความสงบไปได้อย่างไร ?

แค่นึกขึ้นได้และเรียกผู้ช่วยให้เข้ามาหาก็ถือว่าดีขนาดไหนแล้ว แต่เขาจะไปคิดเรื่องอื่นทันได้ยังไง ?

ข้อเท็จจริงเหล่านี้มันแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจของมู่หรงเสี่ยวเทียนถูกต้องอย่างสมบูรณ์แบบ

อันที่จริง แม้ว่าเจ้าเมืองคาสิดอนจะฉลาด แม้ว่าเขาจะคิดถึงเรื่องพวกนี้ได้แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา สี่ต่อสอง ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันเป็นสถานการณ์ที่จะเอาชนะ มันก็แค่ยืดเวลาออกไป

ทันใดนั้นเอง สนามรบสองแห่งก็ก่อตัวขึ้นทั้งภายในและภายนอกคฤหาสน์เจ้าเมืองคาสิดอน

ภายในนั้น ภายใต้การโจมตีของกิเลนเพลิง เจ้าเมืองหญิงมู่ และเจ้าเมืองหินโบราณ เจ้าเมืองอ้วนเตี้ยก็พยายามดิ้นรนอย่างหนัก เขาสวดอ้อนวอนขอกำลังเสริม แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือมันจะไม่มีกองทัพเสริมเข้ามาแต่อย่างใด นอกเสียจากสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ตัวเดียว

หน่วยปกป้องเมืองทั้งหมดที่อยู่ภายใต้อำนาจของเขารวมถึงผู้บัญชาการยังไม่แม้แต่จะสามารถปกป้องชีวิตตัวเองได้เลย ดังนั้น คนเหล่านั้นจะมาช่วยเขาได้อย่างไรกัน ?

ส่วนเรื่องกองกำลังเมืองหลักของเมืองบาสตีย์ มู่หรงเสี่ยวเทียนได้เตรียมการเพื่อสกัดกั้นและพร้อมเข้าต่อสู้แล้ว

ดังนั้น ผลลัพธ์ของเขาก็จะไม่ต่างกับผู้ใต้บังคับบัญชา พวกเขาทั้งหมดจะถูกกวาดล้างอย่างสมบูรณ์แบบ

ที่นอกประตู สุดยอดสัตว์อสูรสองตัวจากเขตฟามากำลังทำสงครามล้างผลาญกันอย่างดุเดือด ตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาด้วยความสิ้นหวัง อีกตัวก็พยายามต่อต้านอย่างหนัก มันไม่ต่างอะไรไปจากการเล่นชักเย่อ

แต่ฉากที่ร้อนแรงของทั้งสองตัวนี้ก็ทำให้ผู้เล่นทั่วทั้งเมืองคาสิดอนถึงกับตกตะลึง ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าอะไรคือพลังระดับสูงสุดของขั้นเทพนั่นเอง.........

........................

“ฉุกเฉินหรือ ?” หลังจากได้รับสัญญาณขอความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองคาสิดอน ชายผมสีทองที่มีหน้าต่อหล่อเหล่าในเมืองบาสตีย์ก็ตกใจเช่นกัน

การส่งสัญญาณดังกล่าวนั้นหมายความว่าตอนนี้เจ้าเมืองคาสิดอนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมาก

แต่เป็นไปได้อย่างไร ? ถ้าไม่นับความแข็งแกร่งของเจ้าเมืองแล้ว พวกเขาก็ยังมีสุดยอดสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งขั้นเทพระดับสูงสุด ซึ่งเป็นรองระดับสุดยอดขั้นเทพเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แถมพวกเขายังมีหน่วยปกป้องเมืองอีก 2,000 คน และผู้บัญชาการของพวกเขาก็เทียบเท่าได้กับขั้นเทพระดับสูง อย่าบอกนะว่าคนเหล่านั้นมีไว้ใช้เป็นเครื่องประดับ ?

มันเกิดอะไรขึ้นในเมืองคาสิดอน ?

แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ในเมื่อเขาได้รับข้อความฉุกเฉิน เขาจะไม่สามารถนั่งดูดายได้

ทันใดนั้นเอง ชายผมสีทองผู้หล่อเหลาก็โบกมือทันที ลำแสงสีทองสองลำพุ่งออกไปเพื่ออัญเชิญสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์และผู้บัญชาการของเมืองบาสตีย์ให้เข้ามาพบ

ในเวลาห้าวินาที แสงสีขาวสว่างวาบ และหญิงสาวสวยคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่ประตูคฤหาสน์เจ้าเมืองบาสตีย์ เธอสวมชุดผ้าโปร่งสีขาวราวกับหิมะ ปีกสีขาวสองคู่ที่อยู่ด้านหลังของเธอเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องมีลม

เธอดูเหมือนจะกึ่งเดินและกำลังลอยได้ เธอเข้ามาอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มผมทองภายในเสี้ยวพริบตา

หัวหน้าทูตสวรรค์สี่ปีก นี่คือสุดยอดสัตว์อสูรผู้พิทักษ์ของเมืองบาสตีย์

ให้ตายเถอะ เจ้าเมืองรูปงามและสุดยอดสัตว์อสูรที่มีเสน่ห์ ถ้านักรบวิญญาณเห็นเข้า เขาก็คงจะพูดว่า ‘ไอ้สารเลวสองคนนี้เป็นชู้กันด้วยหรือเปล่า ? ’

“นายท่าน มีสิ่งใด ?” หัวหน้าทูตสวรรค์สี่ปีกมองตรงเข้าไปในดวงตาของชายผมทอง

“เจ้าเมืองคาสิดอนส่งสัญญาณฉุกเฉินมาให้ข้า” เจ้าเมืองผมทองตอบกลับด้วยน้ำเสียงบางเบา

“ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน ?” หัวหน้าทูตสวรรค์สี่ปีกรู้สึกตกใจไม่น้อย

“ใช่ !” เจ้าเมืองผมทองพยักหน้า เขาพูดขึ้นด้วยอีกว่า “อีกสักพักน่าจะมีข่าวเข้ามา”

เพราะเขามองเห็นม้วนคัมภีร์ลำแสงบินเข้ามาจากประตูแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องบอกเลยว่านั่นจะต้องมาจากเจ้าเมืองคาสิดอนเช่นกัน

ด้วยการโบกมือ คัมภีร์ลำแสงนั้นก็เปิดขึ้นอย่างอัตโนมัติ

“พระเจ้า เจ้าเมืองหญิงมู่ของเมืองซิงเยว่ในเขตสหพันธรัฐพร้อมกับเจ้าเมืองหินโบราณของเขตฟามากำลังก่อการกบฏ พวกเขากำลังโจมตีเจ้าเมืองคาสิดอนในคฤหาสน์” เมื่อเห็นเนื้อหาในม้วนคัมภีร์ เจ้าเมืองผมสีทองก็อุทานเสียงดัง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เหนือความตกใจนั่นก็คือการกบฏ อย่าว่าแต่จะทำเลย แม้แต่คิดก็ยังไม่กล้า เขาไม่คาดฝันเลยว่ามันจะมีคนที่กล้าลงมือทำเช่นนั้นจริง ๆ

“เป็นไปได้อย่างไร ? นี่มันเรื่องจริงงั้นรึ ?” หัวหน้าทูตสวรรค์สี่ปีกก็หัวใจเต้นแรงเช่นกัน เธอสงสัยว่าเธอได้ยินผิดไปหรือเปล่า

“ในความคิดของข้า 9 ส่วน 10 มันคือเรื่องจริง” น้ำเสียงของเจ้าเมืองผมทองหนักอึ้ง

เจ้าเมืองคาสิดอนกล้าเอ่ยชื่อเจ้าเมืองหญิงมู่และเจ้าเมืองหญิงโบราณ จากนั้นก็ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเร่งด่วน เขาไม่มีวันเล่นตลกแน่นอน เพราะผลที่ตามมานั้นยากเกินกว่าจะแบกรับได้

“แล้วพวกเราควรจะทำอย่างไร ?” หัวหน้าทูตาสวรรค์สี่ปีกเอ่ยถาม

“เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญ ประการแรกนั้น เราจะต้องแจ้งเตือนเจ้าเมืองทุกคนให้รู้เรื่องนี้ ประการที่สอง เราจะต้องส่งกองกำลังออกไป ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ หากว่าเราได้รับสัญญาณฉุกเฉินและละเลยต่อมัน เราก็จะต้องถูกตั้งข้อหากบกฎอีกด้วย” เจ้าเมืองผมทองตอบกลับ ขณะเดินไปที่โต๊ะ เขาเริ่มบันทึกเนื้อหาในคัมภีร์ม่านแสง

อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาท เขาเสริมท้ายของรายงานอีกว่า เนื่องจากยังไม่เห็นกับตา เขาจึงไม่สามารถยืนยันเนื้อหาข้างต้นได้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจะไปทำการยืนยันเรื่องนี้ทันที หากว่าได้รับการยืนยันว่ามันเป็นเท็จ เขาจะออกประกาศอีกชิ้นหนึ่งภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ถ้ามันคือเรื่องจริง เขาจะไม่มีการส่งเนื้อหาใด ๆ ออกไป และภายในหนึ่งชั่วโมง การแจ้งเตือนก็จะถือว่ามีผลบังคับใช้

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสิ่งเกิดขึ้นในตอนนี้ เจ้าเมืองคาสิดอนได้มาร้องขอความช่วยเหลือจากเขา และเขานั้นก็จะต้องแบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ในการประกาศ ก่อนที่จะได้รับการยืนยันทั้งหมด

ดังนั้นแนวทางของเจ้าเมืองผมทองยังคงจะต้องระมัดระวัง ถ้าหากว่าได้รับการยืนยันว่าเป็นเท็จ เช่นนั้นเขาก็สามารถรายงานเพิ่มว่าสิ่งที่เขาได้รับนั้นไม่ถูกต้อง

แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง เขาก็จะต้องต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่จำเป็นจะต้องรายงานใด ๆ ให้เสียเวลา

บันทึกเนื้อหาทั้งหมดของเจ้าเมืองคาสิดอนถูกแนบกับเนื้อหาเสริมของเขาได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นเจ้าเมืองผมทองก็เริ่มกระบวนการรายงานสำหรับเมืองหลักทั้งหมดของเกมส์เดสตินี่ หลังจากหนึ่งชั่วโมง เจ้าเมืองหลักทั้งหมดจากระบบทั่วโลกจะต้องได้รับเนื้อหาเหล่านี้

“นายท่าน ท่านมีอะไรให้ข้ารับใช้หรือไม่ ? ?” ขณะที่เจ้าเมืองผมทองทำทุกอย่างเสร็จสิ้น จากนั้นผู้บัญชาการของเมืองบาสตีย์ก็วิ่งเข้ามา

“ดูเนื้อหานี่ก่อน” เจ้าเมืองผมสีทองโบกมือ จากนั้นคัมภีร์เสมือนที่เจ้าเมืองคาสิดอนส่งมาก็ลอยไปตรงหน้าผู้บัญชาการหนิว

“ให้ตายเถอะ ไม่มีทาง ? เจ้าเมืองคาสิดอนพูดจาไร้สาระ ! ข้าไม่เชื่อว่าพวกเขาจะกล้าหาญขนาดนี้ นอกจากนี้เจ้าเมืองหญิงมู่จากเขตสหพันธรัฐจะมาที่นี่ได้อย่างไรกัน ?” ผู้บัญชาการหนิวประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันคือความจริง

“ข้าค่อนข้างจะเชื่อ ข้าคิดว่าทุกคนยังคงจำมาตรการคว่ำบาตรในเขตสหพันธรัฐก่อนหน้านั้นได้ ! ในช่วงเวลานั้น ไม่ใช่ว่ามันเกิดจากการที่หน่วยปกป้องเมืองแกรนด์ทาวน์ข้ามเขตงั้นรึ ? เพราะฉะนั้น เจ้าเมืองหญิงมู่ของเมืองซิงเยว่ก็สามารถมาที่เขตฟามาของเราได้ ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้มันเป็นเรื่องง่ายหรือไงที่สองกองกำลังของเมืองหลักสองเมืองจะถูกลงโทษเพราะทำผิดกฏ ? แต่เกิดอะไรขึ้น ? คนอื่นทั้งหมดถูกฆ่าตาย แต่เจ้าเมืองหญิงมู่กลายเป็นเจ้าเมืองสามเมืองหลักของเขตสหพันธรัฐ เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยงั้นรึ ?” ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น ผู้บัญชาการหนิวก็ไม่สามารถใจเย็นได้อีกต่อไป

ทันใดนั้นเอง บรรยากาศภายในห้องนั้นก็ดูหนักอึ้งผิดปกติ

“ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม เราจะต้องคิดว่ามันนั้นคือเรื่องจริง เพราะถ้ามันไม่จริง คนที่โชคร้ายก็คือเจ้าเมืองคาสิดอน และเราก็แค่เดินทางไปเปล่าประโยชน์” เจ้าเมืองผมสีทองพูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ใช่ !” หัวหน้าทูตสวรรค์สี่ปีกและผู้บัญชาการหนิวต่างก็พยักหน้า

“ผู้บัญชาการหนิว หัวหน้าทูตสวรรค์และข้าจะรีบไปที่เมืองคาซิดอนเป็นอันดับแรก เจ้านำสมาชิกของหน่วยปกป้องเมืองหนึ่งพันคนมาพบพวกเราโดยเร็ว !” การช่วยชีวิตถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ดังนั้นเจ้าเมืองผมสีทองจึงตัดสินใจได้ในทันที

“รับทราบ !” ผู้บัญชาการหนิวพยักหน้า เขารีบเดินออกจากคฤหาสน์เจ้าเมือง

เจ้าเมืองผมสีทองและเทวทูตสี่ปีกก็ออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาตรงไปที่ประตูมิติ.....

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด