ตอนที่แล้วตอนที่ 3 : พิธีบรมราชาภิเษกองค์รัชทายาท (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 : ผู้ชายคนนั้นไม่มีทางเป็นองค์รัชทายาทหรอก (อ่านฟรี)

ตอนที่ 4 : องค์ชายน้อย ทรงจำคนผิดแล้วเพคะ (อ่านฟรี)


เฉียวจินเหนียงรู้สึกสงสารนางหลินมาก ดังนั้นเธอจึงรับลูกจ้างทั้งหมดของศาลาเลิศรสไปด้วย

หากสามารถต้านทานการล่อลวงจากอดีตสามีของนางหลินได้ แสดงให้เห็นว่าคนเหล่านี้ต้องมีความซื่อสัตย์มาก นอกจากนั้นเธอยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อศาลาเลิศรสไป เนื่องจากมันเป็นสัญลักษณ์อันเก่าแก่ในฉางอัน

สำหรับโรงเตี๊ยมหมื่นรส เธอจะเปิดมันอีกครั้งเมื่อเธอตั้งหลักในฉางอันได้

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการแลกเปลี่ยนโฉนดกับนางหลินผ่านทางการแล้ว เฉียวจินเหนียงได้มอบธนบัตรมูลค่า 50,000 เหรียญเงินให้เธอ แต่ นางหลินปฏิเสธที่จะรับมัน “นี่มันมากเกินไป ค่าธรรมเนียมการโอนมูลค่าเพียง 30,000 เหรียญเงินไม่ใช่หรือ ต้องเป็นช่วงที่ศาลาเลิศรสรุ่งเรืองที่สุด ตอนนั้นถึงจะคู่ควรกับ 50,000 เหรียญเงิน”

เฉียวจินเหนียงยืนรานหนักแน่น "ศาลาเลิศรสคู่ควรกับเงินจำนวนนี้แล้วเจ้าค่ะ"

เมื่อมองไปที่ธนบัตรมูลค่า 50,000 เหรียญเงิน นางหลินก็โค้งคำนับให้เฉียวจินเหนียง "ข้าขอขอบคุณเจ้าจริงๆ"

หลังจากกลับมาที่ศาลาเลิศรสแล้ว เฉียวจินเหนียงก็ได้จัดที่พักให้พนักงานจากศาลาเลิศรส และติดป้ายประกาศว่าโรงเตี๊ยมจะปิดทำการสองสามวัน

เฉียวจินเหนียงนั่งบนโต๊ะและพูดกับเสี่ยวเอ้อของร้านว่า “ศาลาเลิศรสจำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ดังนั้นเรามาปรับปรุงร้านอาหารกันก่อน หลังจากนั้นข้าจะเลือกวันที่ดีในการเปิดกิจการอีกครั้ง”

"ขอรับเถ้าแก่เนี้ย"

เฉียวจินเหนียงแจกจ่ายงานให้กับลูกจ้างแต่ละคน เจรจาและกำหนดค่าจ้างของพวกเขา และชี้แจงให้พวกเขาทราบเกี่ยวกับกฎของโรงเตี๊ยม ด้วยเหตุนั้นเธอจึงไม่ได้กลับไปที่จวนหวังจนถึงเวลาที่พระอาทิตย์จะตกดิน

เมื่อเธอกลับไปถึงจวนหวังแล้ว เธอได้รับแจ้งว่าฮูหยินได้เดินทางไปที่วังตะวันออกแล้ว

“คุณหนู มีบางอย่างเกิดขึ้นกับบรรพบุรุษน้อยแห่งวังตะวันออก ซึ่งมันเกี่ยวข้องกับคุณหนูสามด้วยเจ้าค่ะดังนั้นนายหญิงจึงได้แต่ต้องไป…”

เฉียวจินเหนียงถาม “บรรพบุรุษน้อย?”

หงหลิงตอบว่า “คุณหนู บรรพบุรุษตัวน้อยเป็นหลานชายของฮ่องเต้ ฝ่าบาทและฮองเฮาทรงรักองค์ชายมาก ทุกคนในฉางอันจึงเรียกเขาว่า 'บรรพบุรุษตัวน้อย'”

เฉียวจินเหนียงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล คณะละครที่เธอได้ฟังตอนที่อยู่ในเมืองหลินอันมักกล่าวว่าการอยู่ในราชวงศ์นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการอยู่ในดงเสือ ดังนั้นการทำให้องค์ชายน้อยขุ่นเคืองจึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย

ณ พระราชวังตะวันออก.

เฉียวหรูฉีตกตะลึง หลังจากหายตัวไปสามปี องค์รัชทายาทก็เสด็จกลับมาพร้อมกับพระราชกุมาร

แม้ว่าเธอจะอยากเป็นพระชายาองค์รัชทายาท แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องถะนุถนอมลูกนอกสมรสคนนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เด็กน้อยเห็นเธอ เขาก็วิ่งไปร้องไห้ไปและเรียกเธอว่า 'แม่' และยังมาขอให้เธอกอดเขาอีก

ในฐานะบุตรสาวของหวังอันหยวน เฉียวหรูฉีดุเขาด้วยความโกรธทันที หลานชายตัวน้อยของฮ่องเต้กลัวเธอมากจนเขาเอาแต่ร้องไห้

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงเอาแต่เรียกเฉียวหรูฉีว่า 'แม่' และรั้งเธอไว้ไม่ให้จากไป

สาวใช้ของเฉียวหรูฉีกลัวว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น จึงรีบส่งคนกลับไปเรียกฮูหยินใหญ่มา ในขณะเดียวกันสาวใช้ขององค์ชายก็ไปเชิญองค์รัชทายาทมาด้วย

“บรรพบุรุษน้อย อย่าร้องไห้เลยเพคะ คุณหนูเฉียวหรูฉีไม่ไปไหนหรอกเพคะ” พี่เลี้ยงรีบปลอบเขา “คุณหนูท่านช่วยพูดอะไรเพื่อปลอบใจองค์ชายน้อยหน่อยได้ไหมเจ้าคะ”

เฉียวหรูฉีรู้สึกโมโห “เจ้าพูดว่าอะไรนะ ยัยชั้นต่ำ ข้าเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน จะให้ข้าแกล้งทำแม่เพียงเพื่อจะให้เด็กนี่พอใจเนี่ยนะ? นี่จะทำให้ชื่อเสียงของข้าเสื่อมเสีย! เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนที่เจ้าสามารถรังแกได้อย่างนั้นเรอะ…”

"หุบปาก!" ฮูหยินใหญ่มาถึงได้ทันเวลาพอดี เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่เฉียวหรูฉีพูด เธอก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมาลูกสาวคนที่สองของเธอนั้นทั้งเอาแต่ใจและเกเร

เมื่อเฉียวหรูฉีเห็นฮูหยินใหญ่ เธอก็พูดด้วยความโกรธว่า “ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็มา นังบ่าวสารเลวคนนี้ต้องการทำลายชื่อเสียงของข้า!”

ฮูหยินใหญ่ทำความเคารพองค์ชายน้อย แต่ทันทีที่เขาเห็นเธอ ดวงตากลมโตของเขาก็กระพริบปริบๆ เขาวิ่งไปหาเธอพร้อมกับเรียกเธอว่า 'แม่'

ฮูหยินใหญ่ไม่กล้าตอบรับอย่างแน่นอน “องค์ชายน้อย ข้าเกรงว่าท่านจะจำคนผิดแล้วเพคะ…”

หลานชายตัวน้อยของจักรพรรดิยื่นมือเล็กๆ ป้อมๆ ของเขาออกมาจับแขนเสื้อของฮูหยินใหญ่ “ท่านแม่ขอรับ”

“องค์รัชทายาทเสด็จ”

ขณะที่สาวใช้ขององค์รัชทายาทประกาศ ฮูหยินใหญ่และฝูงชนที่เฝ้าดูอยู่รอบๆต่างก็คุกเข่าลงบนพื้น

องค์รัชทายาททรงฉลองพระองค์ปักดิ้นทองและดำ พระองค์ทรงอุ้มพระโอรสที่ยังร้องไห้จ้า “โอรสของข้ายังเด็กนัก ฮูหยิน คุณหนูเฉียว ข้าต้องขออภัยแทนเขาด้วย เจ้าทั้งสองคนดูคล้ายกับแม่ของเขามาก เลยอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้น ขอให้พวกเจ้าอย่าถือสากับการกระทำของเขาเลย”

ฮูหยินใหญ่ไม่กล้าให้องค์รัชทายาทขออภัย จึงรีบพูดว่า “ไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาเพคะ”

หลังจากออกจากวังตะวันออกแล้ว เฉียวหรูฉีก็ยังคงไม่หายหงุดหงิด “ข้าสงสัยจริงๆว่าผู้หญิงคนไหนที่เป็นคนให้กำเนิดไอ้เด็กเลวนั่น…”

ฮูหยินใหญ่ยกมือขึ้นตบเฉียวหรูฉี "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? หากคำพูดของเจ้าหลุดไปถึงพระกรรณองค์รัชทายาท ทุกคนในจวนหวังของเราจะต้องถูกประหาร!”

เฉียวหรูฉียกมือขึ้นกุมใบหน้าของเธอและร้องไห้ “แม่ แม่ไม่ชอบลูกแล้วเพราะได้พี่สาวกลับมาใช่ไหม”

ฮูหยินใหญ่เตือนเฉียวหรูฉีว่า “มันเป็นโชคดีของเจ้าแล้วที่เจ้าดูเหมือนมารดาขององค์ชายน้อย เจ้าไม่ได้อยากเป็นพระชายาองค์รัชทายาทยู่แล้วเหรอ? ไม่ใช่เรื่องดีเหรอไงที่องค์ชายน้อยชอบเจ้า”

“เขาก็แค่เด็กเลวคนนึงที่เกิดจากนางบำเรอ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉียวหรูอี้ซึ่งอยู่ข้างๆ ดูไม่มีความสุขเล็กน้อย

ฮูหยินใหญ่กุมมือของเฉียวหรูอี้และพูดว่า "เจ้าป็นเด็กดีตลอดมา ดังนั้นข้าฝากให้เจ้าดูแลนางในยามที่เจ้าต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงกับนางด้วย”

เฉียวหรูฉีรู้สึกหงุดหงิดยิ่งขึ้น ซึ่งนั่นยิ่งเพิ่มความเดือดดาลที่เธอมีให้กับไอ้เด็กนั่นมากขึ้นไปอีก

ฮองเฮารู้สึกปวดใจที่เห็นหลานชายตัวน้อยของเธอร้องไห้ไม่ยอมหยุด

เธอถามองค์รัชทายาทว่า “คนที่ส่งไปหลินอันกลับมาแล้วไม่ใช่หรือ”

องค์รัชทายาททรงถอนหายใจ “เธอไม่ได้อยู่ในโรงเตี๊ยมหมื่นรสอีกต่อไปแล้วพะย่ะค่ะ และไม่มีใครรู้เลยว่าคนของโรงเตี๊ยมหมื่นรสหายไปไหน”

ฮองเฮากล่อมหลานชายตัวน้อยที่น่ารักของเธอ “ถ้างั้นเจ้าก็ให้ลูกสาวคนที่สามของหวังอันหยวนเป็นสนมเอกก่อน

“ในฐานะลูกสาวของหวังอันหยวน เธอคู่ควรกับตำแหน่งสนมเอกขององค์รัชทายาท สิ่งสำคัญที่สุดคือต้วนเอ๋อร์ชอบเธอ”

องค์รัชทายาทส่ายพระเศียรและตรัสว่า  “เสด็จแม่ มันไม่สมควร หม่อมฉันจะสั่งให้คนออกค้นหาจินเหนียงทั่วราชอาณาจักร”

ฮองเฮาตรัสถาม “แล้วทำไมตอนนั้นเจ้าไม่พาเธอกลับมาด้วย”

ท่าทีขององค์รัชทายาททำให้ฮองเฮาทรงขุ่นเคือง “เจ้านี่ช่างเป็นลูกที่ดีจริงๆ เจ้าคงคิดว่าแม่ผู้ใจดีของเจ้าจะดูถูกเธอเพียงเพราะเธอไม่ได้เกิดในตระกูลขุนนางงั้นหรอ?”

องค์รัชทายาทคุกเข่าและตรัสว่า “เสด็จแม่ ลูกไม่ได้หมายความเช่นนั้นพะย่ะค่ะ ลูกแค่เกรงว่าไทเฮาและพระสนมเซียนอาจสร้างปัญหา ดังนั้นลูกจึงวางแผนให้ได้รับพระราชกฤษฎีกาจากพระบิดาก่อนที่จะพานางกลับมา แต่ใครจะรู้เล่าว่า…”

ฮองเฮาทรงถอนหายใจ “เอาล่ะ ลืมมันไปซะ เจ้าควรจะหาเธอให้พบในเร็ว ๆ นี้ แม่ไม่อยากเห็นหลานตัวน้อยร้องไห้จนเสียงแหบแบบนี้อีกแล้ว”

เมื่อเด็กอายุสองขวบเริ่มเข้าใจคำพูดของผู้คน เขาจะยึดติดกับแม่มากที่สุด

เฉียวจินเหนียงสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเธอเพิ่งฝันร้าย ต้วนเอ๋อร์ของเธอถูกทรมานโดยไอ้สารเลวนั่น

หงหลิงและลู่เหอที่เฝ้าอยู่ข้างนอกได้ยินเสียงร้องของเธอก็รีบเข้ามาข้างใน “คุณหนู คุณหนูสบายดีไหมเจ้าคะ”

เฉียวจินเหนียงกระแอม "ข้าสบายดี ตอนนี้ยามอะไรแล้ว? แล้วท่านแม่กลับมาหรือยัง”

“ยามจื่อแล้วเจ้าค่ะ นายหญิงก็กลับมาแล้วเจ้าค่ะ โอรสขององค์รัชทายาทเข้าใจผิดว่าคุณหนูสามเป็นเสด็จแม่ของพระองค์ จึงทำให้มีปัญหาขึ้น”

หงหลิงรินน้ำให้เฉียวจินเหนียง

เฉียวจินเหนียงจิบน้ำ แม้แต่หลานชายตัวน้อยของฮ่องเต้ที่มีคนดูแลมากมายขนาดนั้นยังต้องการแม่ แล้วต้วนเอ๋อร์ผู้น่าสงสารของเธอจะไม่คิดถึงแม่ของเขาได้อย่างไร?

เฉียวจินเหนียงตัดสินใจแล้ว เมื่อเธอได้พบกับท่านพ่อในวันพรุ่งนี้ เธอจะคุกเข่าและขอให้เขาช่วยตามหาต้วนเอ๋อร์ให้เธอ

เธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในจวนหวัง แต่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้วนเอ๋อร์ของเธอจะกินอิ่มไหม

เธอไม่รู้ว่าไอ้สารเลวนั่นจะดูแลต้วนเอ๋อร์ได้ดีหรือเปล่า

เฉียวจินเหนียงนอนไม่หลับอีกต่อไป เธอได้แต่ตื่นตลอดทั้งคืน

ขณะที่สาวใช้กำลังแต่งตัวให้ เฉียวจินเหนียงเคยผ่านการแต่งตัวบนเรือมาก่อนตอนนั้นเธอคิดว่านั่นมันเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่เธอไม่คิดว่าความยุ่งยากที่แท้จริงคือสื่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ต่างหาก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอต้องมีสาวใช้ถึงสี่คน แค่หวีผมก็ใช้เวลากว่า 1 เค่อแล้ว หลังจากนั้นสาวใช้ก็ชโลมครีมนวดผมบนผมของเธอและหวีต่อไป

สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ หยิบผ้าร้อนมาประคบบนใบหน้าของเฉียวจินเหนียงอย่างเบามือ

สาวใช้ที่เหลืออีกสองคนก็เทครีมทามือและค่อยๆทาลงบนมือของเฉียวจินเหนียง

เมื่อมองดูสิ่งนี้ นั่วหมี่ก็ตกตะลึง “คุณหนู บ่าวช่างไร้ประโยชน์ บ่าวขอโทษที่ดูแลคุณหนูได้ไม่ดีเจ้าค่ะ”

เฉียวจินเหนียงยิ้ม “ข้าชอบนอนดึก เพราะฉะนั้นข้าจึงไม่มีเวลามากพอที่จะทำเรื่องพวกนี้ และต่อให้เจ้าจะต้องการดูแลข้า แต่ข้าก็ยังต้องการประหยัดเวลาไว้เพื่อการนอนอยู่ดี”

ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมของเธอเสียชีวิตไปเมื่อสามปีก่อน และแม้ว่าเธอจะมีไอ้สารเลวคอยช่วยเหลือ แต่เธอก็ยังยุ่งมาก

ท้ายที่สุดแล้วหมื่นรส ก็เป็นโรงเตี๊ยมที่มีชื่อเสียงมากในทางใต้ของจีน

หงหลิงยิ้มและพูดว่า “คุณหนู คุณหนูนอนดึกได้ตั้งแต่ตอนนี้ ฮูหยินใหญ่ใจดีกับคุณหนูมาก คุณหนูไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าเลยเจ้าค่ะ”

หลังจากนั้น เธอมัดผมของเฉียวจินเหนียงเป็นมวยทรงงูที่คดเคี้ยวสวยงาม สอดกิ๊บสีทองเข้าไปในผมของเธอ และช่วยเธอสวมชุดสีแดงที่ปักลายด้วยเมฆมงคล เฉียวจินเหนียงในตอนนี้ทั้งดูสง่างามและมีเสน่ห์มาก

“คุณหนู คุณหนูสวยจังเลยเจ้าค่ะ.. คุณหนูเป็นผู้หญิงที่งามที่สุดในจวนหวังเลยเจ้าค่ะ” ลู่เหอพูดอย่างประจบประแจง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด