ตอนที่แล้วบทที่ 38
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 40

บทที่ 39


บทที่ 39

“นี่ ... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?”

บนท้องฟ้า สีหน้าของผู้อาวโสหยินมืดมนดั่งเมฆท่ามกลางพายุฝน แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาเค้นหาคำตอบ รีบสั่งการอพยพสาวกทุกคน

“รีบไปช่วยคนเจ็บ แล้วก็ย้ายเรือเหาะออกมา ตรวจสอบดูว่ายังมีสาวกข้างใต้ที่ยังรอดไหม? แล้วก็ไปหามาว่าใครเป็นคนขับเรือเหาะ ข้าจะลงโทษมันอย่างสาสม!”

....

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

“รายงานผู้อาวุโส มีสาวกกว่า 30 คนเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัสอีกกว่า 200 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีกนับไม่ถ้วน” สาวกคนหนึ่งยกมือขึ้นพูดด้วยความกลัว

จำนวนนี้เทียบกับในสนามรบแล้วไม่มากมายอะไร แต่ห้ามลืมนะว่าที่นี่คือฐานที่มั่นของสำนักเซี่ยเจี้ยน มันใช่เรื่องไหมที่มีคนตายเป็น 30 คน?

“ไปช่วยคนที่ยังพอช่วยได้ แล้วเจอตัวคนขับเรือเหาะรึยัง?”

ใบหน้าของผู้อาวุโสหยินไม่น่าดู เขาเป็นผู้รับผิดชอบเวทีประลองวันนี้ แต่บัดนี้กลับมีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ทางนิกายต้องกล่าวโทษและตำหนิเขาอย่างรุนแรง

“นี่...”

สาวกคนนั้นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “นี่เป็นเรือเหาะของพวกเราจริงๆ แต่ ...” เขาชะงักไป ไม่กล้าพูดต่อ

“พูดมา!”

ผู้อาวุโสหยินตะคอก เขาแทบระเบิดความโกรธ เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะปิดบังอะไรอีก?

“จากปากของสาวกบนเรีอเหาะที่ถูกมัดไว้ ... พวกเขาเล่าว่าถูกฉินห่าวเข้าคุมเรือตรงบริเวณชายแดนของนิกายเซียวเหยา!”

สาวกที่ลังเลรีบตอบทันควัน

ผู้อาวุโสหยิน “....”

เขาตกตะลึง! เป็นอ้ายสุนัขฉินห่าวอีกแล้ว!

“แล้วคนเล่า?”

หลังจากเงียบไปนาน ผู้อาวุโสหยินถามเสียงแหบแห้ง

“หายตัวไปแล้ว น่าจะจากไปทันทีหลังเรือเหาะพุ่งชน”

เงียบกริบ!

“หามันให้ข้า ส่งคำสั่งลงไป สาวกคนใดพบเจอร่องรอยของฉินห่าว จะได้เลื่อนชั้นเป็นสาวกชั้นสี่ และสาวกคนใดสามารถฆ่ามันได้ จะได้รับการเลื่อนชั้นเป็นสาวกชั้นสอง!”

ผู้อาวุโสหยินคำรามเสียงดัง หัวใจคล้ายมีเลือดหยด ทำไมเขาถึงไม่ฝืนฆ่าเจ้าปีศาจตนนี้ตั้งแต่แรก! ความผิดพลาดครั้งเดียวกลายเป็นความเกลียดชังชั่วนิรันดร์!

หลังจากโวยวายอยู่พักหนึ่ง เขาก็พบว่าสาวกคนนั้นหน้าตาแดงก่ำ แต่ยังคงนิ่งไม่ไปไหน

“หือ? เหตุใดเจ้ายังไม่ไปอีก?”

ผู้อาวุโสหยินโกรธมาก ยิ่งเห็นสาวกตัวเองไม่ฟังคำสั่งก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม

“เรียนผู้อาวุโส ฉินห่าวตอนนี้เป็นสาวกชั้นหนึ่งของนิกายเซียวเหยาแล้ว และข้ายังได้ยินมาว่าเขาอาจอยู่ในขอบเขตแก่นทองคำ ดังนั้น ...” สาวกไม่ได้เอ่ยต่อ แต่ความหมายนั้นชัดเจนในตัวมันเอง

อ้างอิงจากพลังรบของสาวกส่วนใหญ่ของสำนักเซี่ยเจี้ยน เกือบทั้งหมดหากเผชิญหน้ากับฉินห่าวย่อมไม่มีโอกาสรอด!

พรวดดดด!

ผู้อาวุโสหยินตาเหลือก เลือดลมไหลย้อนกลับ กระอักเลือดคำโต

...

“ที่นี่กระมังคลังสมบัติของสำนักเซี่ยเจี้ยน” ฉินห่าวยืนอยู่หน้าประตูใหญ่พลางครุ่นคิด

เขาชำเลืองมองยามทั้งสองฝั่งที่นอนนิ่งกับพื้น

สลายโลหิต!

และเปลี่ยนร่างตนกลายเป็นเลือด พุ่ง่ผ่านประตูคลังเข้าไปข้างใน

พรวดดด!

เมื่อกลับสู่สภาพเดิม ฉินห่าวกระอักเลือดเต็มปาก ร่างกายตกอยู่ในสภาวะอ่อนแอ คล้ายพร้อมสลบตลอดเวลา

เขารีบหยิบมีดเล่มบางออกมาปาดคอตัวเองทันที

“เฮ้อ วิชานี้แม้แข็งแกร่งจนน่ากลัว แต่ผลพวงที่ตามมานั้นร้ายแรงนัก หากไม่ใช่เพราะร่างกายข้าเป็นอมตะ มีอีกกี่ชีวิตก็คงไม่พอ”

ฉินห่าวฟื้นขึ้นมา ถอนหายใจมองไปรอบๆ

คลังสมบัติคือสถานที่เก็บทรัพยากรรายเดือนของสาวก อีกทั้งยังมีอาวุธหรือสิ่งของที่ทางนิกายคิดว่าล้ำค่าเก็บไว้

ฉินห่าวลองหยิบธนูที่ตั้งอยู่ข้างๆตัวขึ้นมา ลองดึงเอ็นที่ขึง และพบว่าพลังปราณไหลออกจากฝ่ามือเขา แปรเปลี่ยนรูปเป็นลูกศร รัศมีแสงกระจายจากมันเป็นระลอกคลื่นดูงดงามมาก

นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีอาวุธ โอสถ และสมบัติวิเศษอยู่อีกมากมาย

ฉินห่าวโบกมือวูบ และเริ่มทำงานอย่างหนัก ระบบของเขาสามารถเก็บสิ่งของได้เพียงครั้งละชิ้นเท่านั้น พอมีแหวนมิติเลยดีขึ้นมาก เพียงใช้พลังจิตกวาดออกไป ก็สามารถรวบรวมมันได้หลายชิ้นในคราเดียว

“เหอ เหอ หากได้เห็นสมบัติมากมายที่ข้านำไปให้ เหล่าศิษย์น้องทั้งหลายคงดีใจกันน่าดู”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด