ตอนที่แล้วตอนที่ 1 : จดหมายหย่า (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 : พิธีบรมราชาภิเษกองค์รัชทายาท (อ่านฟรี)

ตอนที่ 2 : คุณหนูเป็นบุตรสาวคนโตของหวังอันหยวนเจ้าค่ะ (อ่านฟรี)


เฉียวจินเหนียงตกใจ  เธอเป็นลูกสาวคนโตของหวังอันหยวนจริงหรือ?

จะเป็นไปได้อย่างไร!

สำหรับคนในเมืองหลินอัน นายอำเภอก็ถือขุนนางระดับสูงแล้ว ไม่ต้องพูดถึงท่านหวัง!

เมื่อครั้งท่านแม่ของเธอยังอยู่ ท่านเคยพูดถึงกฎที่เข้มงวดและชีวิตที่หรูหราในคฤหาสน์นายท่านหวัง ซึ่งนั่นเป็นโลกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงสำหรับเฉียวจินเหนียง

“คุณหนู นายท่านและฮูหยินอยากเจอท่านมาก ดังนั้นได้โปรดกลับไปฉางอันกับบ่าว โดยเร็วที่สุดเถอะนะเจ้าคะ”

ฉางอัน?

"ตกลง แต่เทศกาลเชงเม้งกำลังจะมาถึงในไม่ช้า แม้ว่าท่านพ่อท่านแม่จะไม่ใช่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของข้าแต่พวกท่านก็ยังปฏิบัติต่อข้าเหมือนลูกสาวแท้ๆ

“พวกท่านมองว่าข้าเป็นแก้วตาดวงใจ ดังนั้นข้าจึงอยากไปเยี่ยมหลุมฝังศพของพวกท่านก่อนที่จพไป”

หญิงชรากล่าวว่า “เหมาะสมแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยจำอาหารที่พ่อครัวเฉียวทำเมื่อ 18 ปีก่อนได้ ทักษะการทำอาหารของเขาดีพอ ๆ กับพ่อครัวในราชวงศ์เลย”

เช้าวันต่อมา เฉียวจินเหนียงถือร่มไปที่หลุมศพพ่อแม่บุญธรรมของเธอ “ท่านแม่ ท่านพ่อ ลูกมาขออภัย ลูกต้องไปฉางอันเจ้าค่ะ”

“ต้วนเอ๋อร์ถูกพาตัวไปที่ฉางอันโดยไอ้สารเลวนั่น ด้วยความช่วยเหลือของหวังอันหยวน ลูกอาจพบตัวต้วนเอ๋อร์ได้เร็วขึ้น ดังนั้น คงจำเป็นที่จะต้องปิดโรงเตี๊ยมหมื่นรสนี้ไปก่อน

“ลูกเกรงว่าตอนที่ลูกไม่อยู่ เสมียนและสาวใช้จะถูกคนตระกูลเฉียวทำร้าย ดังนั้นลูกจะพาพวกเขาไปฉางอันด้วยเจ้าค่ะ

“ท่านแม่ ท่านพ่อ ได้โปรดวางใจ ลูกจะเปิดโรงเตี๊ยมหมื่นรสใหม่ที่ฉางอัน หญิงชราได้บอกลูกแล้วว่าหญิงสาวที่สลับตัวกับลูก ตอนนี้ได้แต่งงานกับลูกชายคนโตของท่านหวังอีกตระกูลหนึ่งและมีชีวิตที่มีความสุข

“เมื่อลูกกลับไปที่ฉางอัน ลูกจะดูแลเธออย่างดีแทนพวกท่าน โปรดอวยพรให้ ต้วนเอ๋อร์ปลอดภัย และอวยพรให้ลูกหาต้วนเอ๋อร์พบโดยเร็วที่สุด” เฉียวจินเหนียงคุกเข่าบนเบาะรอง โขกหัวสามครั้งแล้วจากไป

โรงเตี๊ยมหมื่นรสได้ปิดตัวลง และไม่มีใครรู้ว่าเฉียวจินเหนียงหายไปไหน

คนในตระกูลเฉียวไม่เชื่อว่าเฉียวจินเหนียงเป็นลูกสาวของหวังอันหยวน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ใส่ใจคำพูดของสาวใช้ชราคนนั้น

พวกเขาป่าวประกาศว่าเฉียวจินเหนียงหนีไปกับผู้ชายคนหนึ่งหลังจากหย่าร้าง

ทหารหลายคนในชุดดำมาถึงด้านหน้าของโรงเตี๊ยม แต่กลับพบเพียงประตูที่ปิดตาย

พวกเขาสอบถามไปรอบๆ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าคนของโรงเตี๊ยมหมื่นรสหายไปไหน

“หัวหน้า พวกเขาไปแล้ว เราควรรายงานนายท่านยังไงดีขอรับ?”

“รายงานนายท่านตามความจริง ส่วนพวกเรารีบกลับไปที่ฉางอันกันเถอะ!”

ด้วยความพยายามอย่างยากลำบาก นายท่านจึงได้รั้งตำแหน่งอนุให้แก่สตรีผู้นี้ แต่ดูเหมือนว่านายหญิงของโรงเตี๊ยมแห่งนี้โชคไม่ดีพอที่จะได้รับมัน

เฉียวจินเหนียงเดินทางโดยทางน้ำ ดังนั้นจะใช้เวลาครึ่งเดือนก่อนที่เธอจะมาถึงเมืองฉางอัน

ระหว่างทาง เธอได้เห็นวิวทิวทัศน์สวยๆมากมาย แต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะเพลิดเพลินไปกับมัน

สิ่งที่เธอคิดอย่างเดียวคือ ต้วนเอ๋อร์ของเธอ เธอไม่ได้พบเจ้าตัวน้อยมาสามเดือนแล้ว เธอไม่รู้ว่าเขาน้ำหนักลดหรือเพิ่มขึ้น แล้วตอนนี้เขาจะพูดได้คล่องหรือยัง

เมื่อตอนที่จากไป ต้วนเอ๋อร์ยังคงพูดได้ไม่คล่อง

คำที่ชัดเจนที่สุดที่เขาพูดได้คือ "แม่" และ "กิน"

“คุณหนู เราจะไปถึงท่าเรือในวันพรุ่งนี้ จวนหวังได้ส่งสาวใช้สี่คนมาคอยแล้วเจ้าค่ะ

“สองคนโตมาพร้อมกับฮูหยิน ส่วนอีกสองคนจวนหวังเพิ่งจะซื้อตัวเข้ามาใหม่เจ้าค่ะ”

เฉียวจินเหนียงได้ยินจากแม่บุญธรรมว่าบุตรสาวแต่ละคนของนายท่านหวังจะมีสาวใช้ดูแลสี่คน ประกอบด้วยสาวใช้ขั้นสอง และสาวใช้ประจำตัว

“สาวใช้อัน นั่วหมี่ทำหน้าที่เป็นสาวใช้ของข้ามาตั้งแต่เด็ก ข้าคุ้นเคยกับเธอ ดังนั้นข้าต้องการให้เธอตามไปที่จวนหวังด้วย”

"ถ้าอย่างนั้น บ่าวจะให้นั่วหมี่รับใช้คุณหนูร่วมกับสาวใช้คนอื่นๆ นะเจ้าคะ”

เฉียว จินเหนียง ตั้งชื่อสาวใช้ทั้งสี่ที่มาดูแลว่า หงหลิง, ลู่เหอ, อิ๋งเถา และ หยูหยาน

หงหลิงและลู่เหอเคยรับใช้ฮูหยินใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงมีบุคลิกที่ดูหนักแน่นมั่นคง

อิ๋งเถา และ หยูหยาน ทั้งสองอายุยังน้อย พวกเธอเพิ่งอายุได้ 13 ปีเท่านั้น จึงดูน่ารักน่าชัง

ตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา เฉียวจินเหนียงได้รับรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของจวนหวังจากสาวใช้อัน...

ท่านพ่อของเธอมีพี่น้องอีกสองคน

หวังอันหยวน ท่านพ่อของเธอมีภรรยาเอกคือท่านแม่และอนุอีกสองคน

อนุคนหนึ่งเสียชีวิตอย่างกะทันหันในช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา เธอเป็นคนที่เปลี่ยนตัวจินเหนียงกับลูกสาวของแม่ครัว

นายท่านหวังมีลูกสาวสามคนและลูกชายอีกสองคน

เฉียวหรูหยุน ลูกสาวคนโต หรือก็คือคนที่สลับตัวกับเธอ ตอนนี้เป็นลูกสะใภ้ของท่านหวังจากอีกตระกูลนึง

เฉียวหรูฉี ลูกสาวคนที่สอง อายุ 15 ปี และยังไม่มีคู่หมั้นคู่หมาย

เฉียวหรูอี้ บุตรสาวของอนุ อายุ 14 ปี เธอมีความสามารถมากจึงโด่งดังในฉางอัน

ลูกชายอีกสองคนเกิดจากฮูหยินใหญ่ คนโตอายุ 16 ปี และคนที่สองอายุเพียงหกขวบ ซึ่งแก่กว่าต้วนเอ๋อร์ไม่มาก

น้องชายคนที่สองของนายท่านหวังมาจากมารดาเดียวกัน และเขามีลูกสาวสี่คน

ในทางกลับกัน น้องชายคนที่สามมาจากอนุคนอื่น และเขามีลูกชายสามคน

บุคคลเหล่านี้คือเหล่าเจ้านายของจวนหวัง

สาวใช้อันกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะคุณหนู ฮูหยินใหญ่ดูแลจวนมา 18 ปีแล้ว ท่านเป็นลูกสาวแท้ๆดังนั้นจะไม่มีใครในจวนที่กล้าดูหมิ่นคุณหนูหรอกเจ้าค่ะ”

เฉียวจินเหนียงไม่กลัวที่จะถูกดูหมิ่น สิ่งที่เธอกังวลคือจะขอให้ท่านหวังและฮูหยินใหญ่ช่วยตามหาต้วนเอ๋อร์ให้เธอได้อย่างไร

วันต่อมา รถม้าได้เดินทางมาถึงถนนใจกลางเมืองฉางอัน

เธอเคยคิดว่าหลินอันเป็นดินแดนที่มั่งคั่งมาก ในน้ำมีปลาในนามีข้าว แต่เธอไม่คาดคิดว่าฉางอันจะเจริญยิ่งกว่ามาก

ฮ่องเต้ทรงทำงานอย่างหนักเพื่อให้อาณาจักรพัฒนา ดังนั้นตอนนี้เมืองฉางอันจึงเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก

เฉียวจินเหนียงลดม่านลง ภาพที่ปรากฏคือเมืองฉางอันที่ดูมีชีวิตชีวา

รถม้าแล่นต่อไปอีก 1 ชั่วยามก่อนจะหยุดหน้าจวนใหญ่หลังหนึ่ง

จวนแห่งนี้ครอบครองที่ดินจำนวนมากอย่างน่าประหลาดใจ และประตูก็กว้างเสียจนเฉียวจินเหนียงนึกไม่ถึงว่าจะมีประตูกว้างเช่นนี้อยู่จริง

รถม้าผ่านเข้าไปในจวนหวังทางประตูข้าง หลังจากที่เฉียวจินเหนียงลงจากรถม้า เธอก็เห็นทางเดินที่คดเคี้ยว

เมื่อเดินตามสาวใช้อันไปที่ลานบ้าน ผ่านประตูพระจันทร์ จึงได้พบผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าห้องโถง

หญิงผู้นี้สวมชุดผ้าไหมที่ดูหรูหรา และผมก็ถูกเกล้ามวยสูงอย่างสง่างาม รัศมีของเธอทำให้เฉียวจินเหนียงนึกถึงดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งเหมือนทิวทัศน์ระหว่างทางที่มา เมื่อเฉียวจินเหนียงเดินเข้าไปใกล้ ได้เห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน

ตอนนั้นเอง เธอถึงได้รู้ว่า ทำไมสาวใช้อันถึงมั่นใจในตัวตนของเธอนัก

เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ดูคล้ายกับเธอมาก

ฮุหยินใหญ่ลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นและรีบเดินไปหาเฉียวจินเหนียง ถ้าไม่ใช่เพราะการอบรมมารยาทที่ปลูกฝังมา ตอนนี้เธออาจจะวิ่งไปแล้ว

ฮุหยินใหญ่เดินไปหาเฉียวจินเหนียงด้วยน้ำตาคลอเบ้า “ลูกรัก ลูกสาวของฉัน แม่ขอโทษ เพราะความประมาทเลินเล่อของแม่ทำให้เจ้าต้องทนทุกข์ทรมานตลอด 18 ปี”

บางทีอาจเป็นเพราะสายเลือดหรืออาจเป็นเพราะเฉียวจินเหนียงคิดถึงลูก

เธออดไม่ได้ที่จะกอดหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าไว้แน่น ได้กลิ่นหอมจาง ๆ ที่ลอยมา ซึ่งมันหอมและอบอุ่นมาก

"ท่านแม่"

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินใหญ่ก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

“ลูกรัก แม่สัญญา แม่จะไม่ปล่อยให้ลูกต้องทุกข์ทรมานอีก”

เฉียวจินเหนียงคุกเข่าลงกับพื้นและพูดว่า “ท่านแม่ ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมของลูกปฏิบัติต่อลูกเป็นอย่างดีตลอด 18 ปีที่ผ่านมา ลูกมีชีวิตที่ดีในหลินอัน นอกจากนี้ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมสอนให้ลูกอ่านและเขียน ดังนั้นลูกจึงไม่ได้ลำบากเลยเจ้าค่ะ

“แต่เพราะพวกท่านเสียชีวิตไปเมื่อสามปีที่แล้ว ลูกจึงถูกคนในตระกูลเฉียวรังแก และต้องแต่งงานกับสามีจากต่างถิ่น อย่างไรก็ตาม ชายผู้นั้นกลับไม่มีสัจจะ เขาหย่ากับลูกและพาต้วนเอ๋อร์ของลูกไปฉางอัน ท่านแม่ ได้โปรดช่วยลูกด้วย เขาเพิ่งจะอายุแค่สองขวบเท่านั้นเอง…”

เมื่อฮูหยินใหญ่ได้ยินคำพูดของเฉียวจินเหนียง เธอแทบจะเป็นลมด้วยความตกใจ “สาวน้อยผู้น่าสงสารของฉัน ลูกพูดได้อย่างไรว่าไม่ลำบาก! แม่ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีลูกแล้ว”

สาวใช้ข้างกายรีบปลอบฮูหยินใหญ่ “นายหญิง คุณหนูอายุ 18 ปีแล้วนะเจ้าคะ แม้ว่าคุณหนูจะมีลูก…”

ฮูหยินใหญ่จับมือเฉียวจินเนียงไว้แน่นและพูดว่า “ลูกรัก ปักหลักในจวนหวังก่อน เข้าใจไหม?

“อย่าบอกใครเกี่ยวกับการแต่งงานครั้งก่อนของเจ้า แม่จะขอให้ท่านพ่อของเจ้าตามหาต้วนเอ๋อร์อย่างลับๆ”

เฉียวจินเนียงเคยได้ยินจากแม่บุญธรรมของเธอว่า ขุนนางให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของพวกเขามาก

ดังนั้น นางจึงตอบอย่างเชื่อฟังว่า “ตกลงเจ้าค่ะ ท่นแม่ลูกมีอีกอย่างที่อยากจะขอ ท่านพ่อท่านแม่บุญธรรมของลูกเปิดโรงเตี๊ยมชื่อ หมื่นรสในหลินอัน และลูกได้พาลูกจ้างของโรงเตี๊ยมบางคนมาที่ฉางอันกับลูกด้วย”

“หมื่นรสสร้างรายได้ให้ลูกตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นลูกจึงอยากเปิดร้านอาหารในฉางอันเพื่อช่วยตั้งถิ่นฐานให้กับผู้คนเหล่านี้”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด