ตอนที่แล้วตอนที่ 1210 คือ.. ขอโทษที ผมเองก็เพิ่งถามคุณไป แต่คุณไม่ตอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1212 เมื่อกี้คุณเรียกคุณย่าของฉันว่าอะไรนะ?

ตอนที่ 1211 ฮึ่ม.. เมื่อกี้คุณไม่ได้คิดตั้งใจจะช่วยฉันใช่ไหม?


ขณะที่ หลินฟาน และหยุน ชิงเย้า กําลังจะเข้านอน สักพักก็ได้มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ปรากฏว่าได้มีตํารวจมาขอตรวจสอบภายในห้องพัก

หยุน ชิงเย้า และหลินฟาน ได้หันมามองหน้ากัน ทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น หยุน ชิงเย้า หรือหลินฟาน ต่างก็ไม่อยากเจอสถานการณ์แบบนี้ ..ในเวลานี้

หลินฟาน รีบลุกขึ้นกลับไปข้างเตียงของ หยุน ชิงเย้า เขาได้รีบเอาเข็มเงินออกจากร่างกายของเธอ ทําให้เธอกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง เขาได้พูดเสียงเบาๆ ไปว่า : “หากไม่อยากมีปัญหายุ่งยากตามมา ก็ให้ความร่วมมือกับผมดีๆ”

หยุน ชิงเย้า ได้พยักหน้า เธอได้ถอนหายใจ พร้อมกับได้ลุกขึ้นนั่ง

หลินฟาน จึงเดินไปที่ประตู และเปิดประตูออก ก็เห็นตํารวจสองนายที่หน้าประตู เขาได้ยิ้ม แล้วพูดว่า : “สหายตํารวจ..”

ตํารวจสองนายได้จ้องมองมาที่เขา นายหนึ่งได้ถามว่า : “ทําไมแค่เปิดประตูถึงนานขนาดนี้?”

เขาพูดในขณะที่ก้าวเดินเข้ามา และก็ได้เห็น หยุน ชิงเย้า นั่งอยู่บนเตียง เมื่อนั้นตำรวจทั้งสองนาย ก็แสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมา

“พวกคุณเป็นอะไรกัน?” ตํารวจ นายหนึ่งได้ถามขึ้น

หลินฟาน กล่าวว่า : “พวกเราเป็นคู่รักกัน พอเห็นฟ้าเริ่มมืดแล้ว เราจึงไม่อยากรีบขับรถเดินทางตอนกลางคืน ดังนั้นเลยมาเข้าพักชั่วคราวที่นี่คืนหนึ่งครับ”

ตํารวจ ถามว่า : “พวกคุณมาจากที่ไหน และกำลังจะไปที่ไหน?”

หลินฟาน กล่าวว่า : “เรามาจากเมืองหยุนเฉิง และกำลังจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ของเธอที่บ้านเกิด”

คําพูดนี้ไม่ผิด.. เธอต้องการไปพบพ่อแม่ของเธอจริงๆ

อย่างไรก็ตาม คําพูดนี้ยังไม่คลายความสงสัยของทางตํารวจ อีกอย่าง ชายหญิงคู่หนึ่งมาเปิดห้องพักในโรงแรม ในกรณีเช่นนี้สามารถมีหลายกรณี บางกรณีผิดกฎหมาย และไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดห้องพัก เมื่อทางตํารวจเข้าตรวจสอบห้อง ก็ต้องตรวจสอบสถานการณ์ที่ผิดกฎหมายนี้ด้วย

“ช่วยเอาบัตรประชาชนของพวกคุณออกมา” ตํารวจ ได้กล่าว

หลินฟาน ได้หยิบบัตรประชาชนออกมา และยื่นให้กับตํารวจนายหนึ่ง ส่วนตํารวจชายอีกคนหนึ่งก็ได้เดินไปหา หยุน ชิงเย้า และยื่นมือออกไปหา หยุน ชิงเย้า

ทางตำรวจอีกนายได้ดูบัตรประชาชนของ หลินฟาน และตรวจเทียบกับใบหน้าของ หลินฟาน นั่นก็เพื่อยืนยันตัวตนของ หลินฟาน

ในเวลานี้ หยุน ชิงเย้า ก็ได้นําบัตรประชาชนออกมา และมอบให้กับตํารวจอีกนายหนึ่ง

ตํารวจนายนั้นมองลงไป และก็ได้เงยหน้ามอง หยุน ชิงเย้า และพูดว่า : “ถอดหน้ากากอนามัยของคุณออกด้วย”

เพื่อยืนยันตัวตนของ หยุน ชิงเย้า มันเป็นธรรมดาที่ทางตำรวจจะต้องขอดูใบหน้า

หยุน ชิงเย้า เกิดอาการอึดอัดใจขึ้นทันที ปรากฏว่าเมื่อมองไปที่ หลินฟาน ก็พบว่า หลินฟาน กำลังจ้องมองเธออยู่เช่นกัน สีหน้าของ หลินฟาน ก็ดูเหมือนจะบอกว่า ..นี่ไม่ใช่เรื่องของผม ไม่ใช่ว่าผมอยากจะมองหน้าคุณ แต่เป็นตำรวจที่ต้องการอยากเห็น เรื่องนี้จึงไม่สามารถมาโทษผมได้…

สู้แบบนี้.. ผู้ชายคนนี้คงไม่คิดจะช่วยเธอหรอกใช่ไหม ทั้งเขาก็ยังดูดีใจอีกด้วย ที่จะถือใช้โอกาสนี้ ในการเห็นใบหน้าของเธอ...

“ขอโทษด้วยจริงๆ ฉันถอดหน้ากากอนามัยนี้ไม่ได้” หยุน ชิงเย้า ได้ปฏิเสธตํารวจโดยตรง

ตํารวจก็ได้ตื่นตัว และเริ่มระแวดระวังขึ้นทันที พวกเขาได้จ้องมองไปที่ หยุน ชิงเย้า : “ทำไมคุณถึงถอดไม่ได้?”

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ฉันป่วย หมอเองบอกว่าฉันเป็นโรคปอดอักเสบ ซึ่งมันอาจจะทำให้พวกคุณติดเชื้อไปด้วย ขนาดฉันเองยังไม่กล้าถอดหน้ากากอนามัยต่อหน้าแฟนของฉัน พวกคุณเองก็สามารถถามเขาได้ ไอ ไอ!”

พูดจบ เธอยังได้ตั้งใจไอขึ้นมา

หยุน ชิงเย้า ได้โยนหม้อไปให้กับ หลินฟาน ยังไงเธอก็ไม่คิดจะถอดหน้ากากอยู่แล้ว ถ้า หลินฟาน ไม่ให้ความร่วมมือ ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร? แน่นอนว่า.. ผลที่ตามมาจะอยู่เหนือการควบคุมของพวกเขา

หลินฟาน เหงื่อตกในทันที และเขาก็คิดจริงๆ ว่าจะถือโอกาสนี้ เพื่อจะได้เห็นใบหน้าของเธอแล้วซะอีก แต่.. ก็ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะหมกมุ่นกับหน้ากากตัวเองขนาดนี้ ถ้าเธอยืนยันไม่ยอมถอดหน้ากาก ..ผลที่จะตามมา เขาเองก็ไม่อยากที่จะเห็นมัน ..อย่างแน่นอน

“ใช่แล้ว สหายตํารวจ แฟนของผมเธอเป็นโรคปอดอักเสบ แถมยังติดเชื้อร้ายแรง สหายตํารวจอย่าไปดูเลย” ด้วยความจนใจ หลินฟาน จึงได้พูดออกไปพร้อมกับหัวเราะไปเล็กน้อย

ทางตํารวจกลับเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง นายหนึ่งได้พูดว่า : “แต่คุณ.. กลับดูไม่เหมือนคนป่วยเลย ไม่ใช่ว่านี่.. มันไม่ใช่บัตรประชาชนของคุณเองหรอกใช่ไหม?”

ตํารวจอีกนายที่ยืนอยู่ข้างๆ หลินฟาน ก็ได้พูดขึ้นว่า : “เอาแบบนี้ เราจะยืนอยู่ห่างๆ แม้ว่าจะเป็นโรคติดต่อ แต่แค่รักษาระยะห่างก็คงไม่เป็นไร ตัวคุณเองก็มายืนทางนี้ แล้วปล่อยให้เธอยืนถอดหน้ากากตรงนั้น”

ความคิดนี้ดี!

ตำรวจอีกนายได้เห็นชอบทันที

และแน่นอนว่าภาพตอนนี้จะเป็นตํารวจสองนาย และหลินฟาน ที่ยืนอยู่ด้วยกัน ดวงตาทั้งสามคู่ ก็ได้จ้องมองไปที่ หยุน ชิงเย้า เพื่อดูเธอถอดหน้ากากอนามัยออกไปพร้อมๆ กัน และพวกเขาก็กำลังจะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอ

ดวงตาของ หยุน ชิงเย้า เผยให้เห็นความวิตกกังวลออกมาเล็กน้อยทันที และเธอก็ได้มองไปที่ หลินฟาน

แต่ทาง หลินฟาน กลับมอบรอยยิ้มปลอบโยนไปให้เธอ จากนั้นเขาก็ได้เงียบไป

ไม่มีใครรู้ความคิดของเขา นอกจากตัวของ หลินฟาน เอง หลินฟาน.. ที่อยู่เงียบๆ ในตอนนี้ แต่ในใจของเขาตอนนี้นั้น กำลังเปิดใช้งาน.. โชคระดับสุดยอด!

เป็นไปได้หรือไม่ว่า ..ตํารวจทั้งสองนายนี้จะประสบเหตุฉุกเฉินอย่างกะทันหัน และต้องจากไป และยุติการตรวจสอบห้องพักนี้ ในเร็วๆ นี้

ในตอนนี้เอง…

เสียงวิทยุสื่อสารที่เอวของตํารวจทั้งสองนายก็ได้มีเสียงดังออกมา : “ทุกหน่วยโปรดทราบ …พบร่องรอยของผู้ต้องสงสัย โปรดรีบมาสนับสนุนโดยด่วน!”

เมื่อได้ยินข่าวนี้ ตํารวจทั้งสองนายก็เกิดความเครียดขึ้นทันที และพวกเขาก็ไม่สนใจที่จะตรวจสอบห้องอีกต่อไป พวกเขารีบคืนบัตรประชาชนให้กับ หลินฟาน และหยุน ชิงเย้า ตามลําดับ จากนั้นจึงรีบหันหลังกลับออกไปโดยที่ไม่พูดอะไรแม้แต่คําเดียว

หลินฟาน เองก็ได้เดินตามไปปิดประตู

ทันทีพอหันกลับมา.. เขาก็ได้เห็น หยุน ชิงเย้า ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งยังได้ทิ้งตัวลงนั่งอย่างผ่อนคลาย จากนั้น หยุน ชิงเย้า ก็ได้เงยหน้าขึ้นมาจ้องมอง หลินฟาน ในสายตาของเธอมันกลับเต็มไปด้วยความคับข้องใจ

“ฮึ่ม.. เมื่อกี้คุณไม่ได้คิดตั้งใจจะช่วยฉันใช่ไหม?” หยุน ชิงเย้า ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา

หลินฟาน พูดอย่างผู้บริสุทธิ์ไปว่า : “เดี๋ยว.. นี่ผมไม่ได้ช่วยคุณเหรอ?”

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “คุณมันมีเจตนาไม่ดี และอยากถือใช้โอกาสนี้เห็นหน้าฉันใช่ไหม และฉันขอถามคุณหน่อยเถอะ หากถ้าพวกเขาไม่มีเรื่องเร่งด่วนเข้ามา และต้องรีบจากไป คุณมันจะทําอย่างไรต่อไป?”

หลินฟาน ยิ้ม และพูดว่า : “แล้วคุณเคยคิดไหมว่าทําไมพวกเขาถึงมีเรื่องเร่งด่วนเข้ามา?”

รอยยิ้มของ หลินฟาน ในมุมมองของ หยุน ชิงเย้า มันค่อนข้างลึกลับมาก.. หยุน ชิงเย้า เองก็ได้ตกตะลึง อะไรนะ.. หลินฟาน ที่เขาพูดแบบนี้ นี่มันหมายความว่าไง หรือว่าเขาจะทําให้ตํารวจสองนายนั้นมีเรื่องด่วนขึ้นมา ..ได้?

นี่มันก็ไม่ใช่แค่ว่า ..น่ากลัวแล้ว ทั้งมันก็ออกจะดูลึกลับเกินไป อีกอย่างเมื่อกี้นี้ เธอเองก็เห็นอยู่ว่า หลินฟาน ไม่ได้แม้แต่จะขยับเคลื่อนไหวอะไร

ดังนั้น หยุน ชิงเย้า จึงไม่เชื่อคําพูดของ หลินฟาน และเธอได้พูดไปว่า : “คุณมันระเบิดหลังม้าเหอะ(1) ฉันจะบอกคุณว่า หลังจากนี้.. ถ้ามันยังมีกรณีแบบนี้อีก ฉันจะไม่คิดถอดหน้ากากออกอย่างแน่นอน ส่วนคุณก็จัดการดูเอาเองเถอะ”

หลินฟาน ร้องโอ้.. แล้วพูดว่า : “คือในกรณีเมื่อกี้ ถ้าเป็นคุณ.. คุณอยากให้ผมทําอย่างไร?”

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ถ้าพูดถึงฉัน ฉันจะจัดการพวกเขาลง แล้วรีบจากไป ส่วนทางพวกเขาก็ไม่มีความสามารถพอที่จะตามหาฉันได้อย่างแน่นอน”

นี่มันเหมือนกับสิ่งที่เธอต้องการจะทําออกมามาก หลินฟาน เหงื่อตกทันที และเขารีบพูดไปว่า : “พูดตามตรงนะ ผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทําไมคุณถึงไม่ยอมเปิดเผยใบหน้าของคุณ?”

ทั้งในตอนนี้ ..เขาเองก็ยิ่งมั่นใจขึ้นมากว่า หยุน ชิงเย้า มีหน้าตาน่าเกลียดจริงๆ และมันก็ต้องน่าเกลียดถึงขนาดไหน ถึงได้กลัวว่าจะถูกคนอื่นเห็นมันขนาดนี้ หลินฟาน เขาเองก็ไม่กล้าคิดจินตนาการ.. ถึงมัน

“ลืมมันไปซะ คุณไม่พูดก็ช่างเถอะ ผมเกรงว่ามันจะไปกระตุ้นให้คุณหงุดหงิดขึ้นมาอีก” หลินฟาน ได้เลือกยอมแพ้

หยุน ชิงเย้า ได้เงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า : “ชิ ทําไมฉันถึงไม่ยอมเปิดเผยใบหน้า แล้วมันไปไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย ฉันเองก็แค่ไม่อยากให้คุณเห็น ทำไม.. ไม่ได้หรือไง?”

หลินฟาน ขี้เกียจเกินไปที่จะไปพูดโต้เถียงอะไรกับเธอ เขาได้พูดว่า : “โอเค.. ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว รีบนอนเถอะ”

หลินฟาน เดินไปปักเข็มเงินเข้าใส่ตามร่างกายของ หยุน ชิงเย้า อีกครั้ง และช่วยเธอให้นอนลง แม้ว่าร่างกายของ หยุน ชิงเย้า จะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และมีผิวกายขาวเนียนงดงาม แต่ทันทีที่คิดว่าเธอมีหน้าตาน่าเกลียด หลินฟาน ..เขาก็ไม่มีความคิดอะไรอีก

“ถ้าคุณนอนหลับไป พอดึกดื่นอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมาก็เรียกผม” หลินฟาน กล่าว และเขาก็กลับไปที่เตียงของเขา และได้นอนลง

หยุน ชิงเย้า กล่าวว่า : “ถ้าคุณรู้สึกลําบากมากนัก สู้ให้ฉันขยับเคลื่อนไหวได้ไม่ดีกว่าเหรอไง ฉันสัญญาว่าจะไม่ไปไหน และด้วยความที่คุณระแวดระวังอยู่ตลอด ฉันเองแค่อยากวิ่ง หรือเดินออกไปก็คงไม่ได้ด้วย”

หลินฟาน กล่าวว่า : “คุณพูดถูก แต่หนึ่งคือ.. ผม ไม่เชื่อคุณ และสองคือผมอยากที่จะนอนหลับอย่างสงบ ดังนั้น… ก็ลืมๆ มันไปซะ”

เมื่อพูดจบ หลินฟาน ก็ได้หลับตาลง และไม่สนใจ หยุน ชิงเย้า อีก

หยุน ชิงเย้า ที่ไม่ประสบผลสําเร็จ เธอก็ได้กัดริมฝีปากของเธอ และฮึ่มเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ เธอเองเกลียด หลินฟาน มาก.. มากจนเธอแทบไม่รู้สึกเกลียดใครเท่าเขาคนนี้มาก่อน รอฉันก่อนเถอะ สักวันหนึ่ง ฉันจะจ่ายมันคืนกลับไปให้คุณเป็นสองเท่า!

(1)[ระเบิดหลังม้า (马后炮)] - ซึ่งเป็นศัพท์หมากรุก เป็นอุปมาที่ว่า ความเห็น หรือคำพูดที่สายเกินไป (พูดที่หลัง) และแน่นอนว่า มันก็เท่ากับว่า ..ไม่มีประโยชน์ 

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด