ตอนที่แล้วนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 43 - การบังคับท้าประลอง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักรบพันธุ์ผสม บทที่ 45 - การทดสอบความแข็งแกร่ง

นักรบพันธุ์ผสม บทที่ 44 - นายน้อยนิค


เสียงที่ฟังดูนุ่มนวลแต่ชัดเจนมากดังขึ้น “หัวหน้า ในเมื่อเจ้าหมอนั่นมองออก ทำไมท่านไม่ให้สตราเวอร์ท้าประลองกับเขาแทน..” นิ้วของเขาชี้ตรงไปยังเด็กวัยรุ่นร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างของนิค สื่อความหมายว่าให้ ‘สตราเวอร์’ บังคับท้าประลองกับเดวิดแทน

สีหน้าที่กำลังจะกลายเป็นบ้าคลั่งของนิคค่อย ๆ สงบลง กลายเป็นครุ่นคิด

“อะไรที่ทำให้นายคิดว่าสตราเวอร์จะสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าหมอนั่นได้? อย่างน้อย ร่างกายของเขาก็ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งมาจากถังพลังงานแล้ว ถ้าไม่เคยแช่อยู่ในนั้นด้วยตัวเอง ไม่มีวันเข้าใจประสิทธิภาพของมันได้หรอก  สตราเวอร์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแน่”

นิคส่ายหัวช้า ๆ หลังจากที่เขาได้แช่อยู่ในถังพลังงานมาหลายชั่วโมง เขารู้ดีว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน

“ถึงแม้ว่าสตราเวอร์จะเป็นนักเรียนพรสวรรค์ระดับ 2 ดาว แต่เขาก็ยังไม่เคยได้เสริมสร้างร่างกายอะไรพิเศษ อย่าว่าแต่ถังพลังงานเลย” คิ้วของเขายังขมวดอยู่

เซบาสเตียนหัวเราะออกมาเบา ๆ “เรื่องนั้นผมก็ได้คำนวณรวมเอาไว้ด้วยแล้ว ถึงแม้ว่าชายคนนั้นจะได้รับความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมาจากถังพลังงาน และบางทีอาจจะเป็นไปได้ที่เขาจะมีพรสวรรค์ระดับ 3 ดาว และยิ่งไปกว่านั้น เขาอาจจะฝึกฝนตามคู่มือพิเศษแล้ว ความสามารถทางด้านร่างกายของเขาอาจจะเทียบได้กับหัวหน้า แต่!” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของ เซบานเตียนกว้างขึ้น ในขณะที่เขาเริ่มเอ่ยต่อ

“ถึงจะมีพลังมากมายแค่ไหน มันก็ไร้ประโยชน์ถ้าควบคุมไม่ได้ ผมแน่ใจเป็นอย่างมาก ว่าเจ้าหมอนั่นต้องยังไม่มีเวลาฝึกทักษะการต่อสู้อะไรเลยแน่ ๆ บางทีอาจจะยังไม่ได้ฝึกฝนตามคู่มือฝึกร่างกายเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้สตราเวอร์ทักษะการต่อสู้ได้ถึงระดับมาตรฐานเรียบร้อยแล้ว” เขาชี้มือไปที่เด็กหนุ่มร่างยักษ์อีกครั้ง

ดวงตาของนิคเป็นประกายขึ้นมาในทันที เมื่อได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยังถามออกมาเพื่อความแน่ใจ “นายหมายความว่า สตราเวอร์เริ่มทักษะการต่อสู้แล้ว? แถมยังผ่านขั้นตอนแรกได้แล้วด้วย?” สายตาของเขาหันไปจ้องมองสตราเวอร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความคาดหวังทันที และเมื่อได้เห็นการพยักหน้าตอบกลับมาอย่างนักแน่น เขาก็หัวเราะเสียงดังลั่นออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดีมาก ยอดเยี่ยมจริง ๆ!”

การฝึกฝนทักษะการต่อสู้จนสามารถผ่านขั้นตอนแรกได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ต่อให้เป็นในสถาบันแห่งนี้ ก็ยังนับว่าเป็นนักเรียนอัจฉริยะคนหนึ่ง ถ้านับกันเฉพาะสมรรถนะด้านการต่อสู้ อาจจะเรียกได้เลยว่า เป็นผู้ที่มีสมรรถนะการต่อสู้ 3 ดาว

นักเรียนพรสวรรค์ระดับ 2 ดาว มีสมรรถนะการต่อสู้อยู่ในระดับ 3 ดาว มีคนอย่างนี้คอยเป็นบอดี้การ์ดให้ ทำไมเขาจะไม่ดีใจเป็นอย่างมากล่ะ?

สตราเวอร์เข้ามาทำงานในตระกูลของนิคตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อนิคถูกส่งให้เข้ามาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ ได้ใช้เส้นสายส่ง สตราเวอร์เข้ามาเรียนด้วยพร้อมกัน ทั้งเพื่อสนับสนุนและดูแลความปลอดภัยให้กับนายน้อย ตลอดระยะเวลาที่เรียนอยู่ในสถาบันแห่งนี้

ตอนนี้เขาก็เผยยิ้มออกมาแล้ว มีความตื่นเต้นยินดีกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น สตราเวอร์อยู่กับนายน้อยมาตั้งแต่ยังเล็ก ทำเรื่องทุกอย่างตามคำสั่งของเขาไม่ว่าจะดีหรือร้าย อย่างไม่เคยปฏิเสธหรืออิดออด สาเหตุที่สตราเวอร์ยิ้มดีใจออกมา นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาชื่นชมเสียงของการหักกระดูกเป็นอย่างมาก และการได้ทำให้กระดูกใครสักคนหัก ทำให้คร่ำครวญด้วยเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมา จะทำให้เขารู้สึกเติมเต็มเป็นอย่างยิ่ง

ตั้งแต่ที่เข้ามาเรียนในสถาบันแห่งนี้ เขาต้องพยายามอดกลั้นตัวเองไม่น้อย แต่ในตอนนี้ มันถึงเวลาปลดปล่อยแล้ว เขากำลังจะได้อัดคน ได้หักกระดูกคนอย่างเป็นทางการ!

ใบหน้าของนิคยังคงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ทันใดนั้น เหมือนกับว่าเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นดุร้ายทันที

“ทำไมถึงไม่มีใครบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก? เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมถึงเพิ่งมาบอกข้าตอนนี้? พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันอยู่กันแน่!” เขาหันไปมองหน้าเซบาสเตียนอย่างโมโห ‘หรือว่าเจ้าหมอนี่ คิดจะจูงจมูกคนของฉันอย่างนั้นหรือ?’

นั่นทำให้เซบาสเตียนถึงกับผงะถอยหลังไป เขาเองก็ไม่คิดว่านิคจะฉลาดถึงขนาดที่จะสังเกตเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ได้

เขาเพิ่งจะพบกับนิคเมื่อไม่กี่วันมานี้ และได้ให้คำปรึกษาไป 2-3 เรื่อง หลังจากที่พบว่า นิคเป็นแค่เพียงนายน้อยของตระกูลใหญ่ที่ค่อนข้างจะโง่เขลา ก็เริ่มทำการป้อยอเอาใจ พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง และคอยติดตามอยู่อย่างใกล้ชิดเพื่อหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง

แต่ตอนนี้ เจ้านายน้อยที่โง่เขลากลับฉลาดขึ้นมาเสียอย่างนั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะการได้อยู่ใกล้กับคนฉลาด ก็เลยได้รับการซึมซับสติปัญญาเข้าไปบ้างก็ได้

“หัวหน้า อย่าเพิ่งได้โกรธอะไรไป! ผมเป็นคนบอกสตราเวอร์ ว่าจะเป็นคนรายงานเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ด้วยเพราะมัวแต่ดีใจแทนหัวหน้าที่แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก ก็เลยลืมเรื่องนี้ไปหมด มันมีนักเรียนน้อยคนนัก ที่สามารถเพิ่มอัตราการหมุนเวียนเลือดได้ถึง 3 รอบต่อวินาที นี่มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีเกินไป บางทีหัวหน้าอาจจะเป็นอัจฉริยะที่ 50 ปีจะมีสักคนก็ได้” เซบาสเตียนก้มหัวลงกล่าวคำอย่างสำนึกผิด พร้อมกับกล่าวคำชื่นชมออกมาอย่างไหลลื่น แต่ถ้ามีใครสังเกตทีใบหน้าของเขาใกล้ ๆ จะพบว่าในดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยประกายแห่งความเจ้าเล่ห์

และนิคไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งนี้เลย คำเยินยอที่ได้รับมันทำให้เขาตกอยู่ในอารมณ์ที่อิ่มเอมเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคำรามออกมาเบา ๆ “อืม! ครั้งนี้ฉันจะยอมปล่อยนายไปก่อน ส่วนเจ้าหมอนั่น..”

เขาหัวเราะคิกออกมา “ต่อให้วันนี้จะหนีรอดไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหนีรอดไปได้ทุกครั้งเสียหน่อย” แล้วหันกลับมามองที่สตราเวอร์อีกครั้ง

“เจ้านั่นน่าจะต้องเข้าเรียนวิชาประวัติศาสตร์แน่ ๆ พอถึงเวลานั้น นายรีบบังคับท้าประลองกับมันในทันทีที่เจอตัว ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่า มันจะยังสามารถหลุดรอดไปได้ยังไงอีก” รอยยิ้มที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาที่ใบหน้าของเขา ก่อนที่จะหมุนตัวกลับ แล้วเดินไปที่เครื่องจ่ายอาหารทันที

อันที่จริงแล้ว เขาอยากจะลงโทษเจ้าตัวกระล่อนเซบาสเตียนให้เป็นคนหยิบอาหารมาให้ แต่น่าเสียดาย มันเป็นไปไม่ได้ในสถาบันแห่งนี้ เพราะไม่สามารถรับอาหารจากเครื่องจ่ายแทนกันได้ มันต้องใช้ป้ายประจำตัวแสกนเพื่อยืนยันตัวตนก่อนทุกครั้ง

.....................

เดวิดออกมายืนอยู่ที่ด้านหน้าของตึกพักอาศัยด้านล่างแล้ว เขาสูดลมหายใจรับอากาศเย็น ๆ ในตอนเช้าเข้าไปอย่างเต็มปอด เพิ่มความสดชื่นให้ตัวเอง

หลังจากที่สื่อสารกับ AI ของตัวเองเล็กน้อย เขาก็เริ่มเคลื่อนตัวไปตามทิศทางที่ได้รับคำแนะนำกลับมา

ตอนนี้เพิ่งจะเป็นเวลา 7.45 นาฬิกาเท่านั้น กว่าที่ชั้นเรียนแรกในวันนี้ของเขาจะเริ่ม ก็ต้องตอน 9 โมงเช้านั่นแหละ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะตรวจสอบความแข็งแกร่งของตัวเองก่อน เมื่อตรวจสอบข้อมูลแล้ว เขาก็มุ่งไปที่ห้องฝึกฝนทันที

อาคารสำหรับการฝึกฝนความแข็งแกร่งของร่างกาย อยู่ไม่ไกลจากตึกพักของนักเรียนมากนัก มันห่างออกไปแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น เขาใช้เวลาไม่กี่นาที ก็สามารถเดินมาถึงได้อย่างง่ายได้

ภายในอาคารแห่งนี้ มีห้องสำหรับการฝึกฝนอยู่ด้านในหลายร้อยห้องเลยทีเดียว แต่ละห้องจะมีตัวเลขระบุเอาไว้ พร้อมกับป้ายแสดงสถานะของห้อง หลังจากที่เขาเดินผ่านตั้งแต่ห้องหมายเลข 1 จนถึงห้องหมายเลข 79 พบว่าทุกห้องมีป้ายโฮโลแกรมแสดงอยู่ที่หน้าประตูว่ากำลังใช้งาน

จนเมื่อเขาพบกับห้องที่ว่างอยู่ ก็รีบยื่นมือที่มีป้ายประจำตัวไปให้สแกนทันที

ประตูของห้องฝึกฝนถูกเปิดออก เมื่อเดวิดเดินผ่านเข้าไปในห้องเรียบร้อย เสียงอันไร้อารมณ์ของ AI ก็ดังขึ้นมาให้ได้ยิน มันเป็นข้อความต้อนรับ และข้อความเตือนความจำของเขา ว่ายังเหลือโควตาในการใช้ห้องฝึกฝนแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายอยู่อีก 8 ครั้ง หลังจากนั้น เขาจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้งานตามปกติ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด