ตอนที่แล้วบทที่ 118 เผ่าพันธุ์ไม่ใช่ ย่อมมีหัวใจที่แตกต่างกัน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 120 การทำงานหนัก

บทที่ 119: ขยะนิกายพุทธะ!


บทที่ 119: ขยะนิกายพุทธะ!

หนิงเฉินซินมองดูการกระทำของนักบวชนิกายพุทธะสามคนนี้ และกล่าวว่า: "ถ้านิกายพุทธะเป็นเหมือนเจ้าจริงๆ มันคงแย่มาก"

  

เมื่อได้ยินคำกล่าว

  

นักบวชพุทธะร่างสูงกล่าวติดตลกว่า "แล้วไงล่ะ ในโลกนี้ ผู้อ่อนแอเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง หากเจ้าถอย เจ้าจะถูกเฆี่ยน!"

  

"ผู้ล้าหลังจะต้องเป็นขี้ข้า ที่หมอบแทบเท้าของผู้แข็งแกร่ง"

  

"มิฉะนั้น เจ้าจะถูกกำจัด!"

  

"คิดดูสิ ถ้าพวกเขาฟังคำแนะนำของเรา และเชื่อในพุทธองค์ พวกเขาก็จะไม่ตาย"

  

"นี่คือเหตุและผล"

  

หนิงเฉินซินเงียบ แต่ดวงตาของเขาเหนื่อยล้า

  

เขาต้องการประกาศให้โลกรับรู้

  

ขอให้โลกสงบสุข

  

ไม่มีสงคราม

  

ไม่มีการต่อสู้

  

ในทำนองเดียวกัน ไม่มีกลอุบาย

  

แต่ถนนสายนี้ก็ยังยากเกินไปอยู่ดี

  

มันยากเกินไปไหม?

  

แม้แต่หลู่ชางเฉิน ก็รู้ว่าหนิงเฉินซินคิดหวังสิ่งใดอยู่

  

และคิดว่ามันเป็นไปได้ยากมาก!

ตราบใดที่ยังมีคน ก็จะมีการต่อสู้และวางอุบาย

  

โลกที่หนิงเฉินซินต้องการ ท้ายที่สุด มันก็เหมือนฝันเกินไป!

  

หลู่ชางเฉินทำได้เพียงสนับสนุน ให้เขาทำงานหนักในทิศทางนี้เท่านั้น

  

ท้ายที่สุดแลัว นี่คือเต๋าบ่มเพาะของหนิงฉางซิน

  

"โดยสรุป วันนี้เจ้าคงไม่สามารถไปหานิกายพุทธะในภูมิภาคตะวันตกได้อย่างแน่นอน"

  

หลังจากที่นักบวชพุทธะทั้งสามกล่าวจบ

เริ่มพนมมือ!

  

ปราณแสงแห่งพุทธะล้อมรอบพวกเขาทั้งสาม!

  

ทันใดนั้น ฝ่ามือสีทองก็เคลื่อนเข้าหาหัวใจของหนิงเฉินซิน!

  

นักบวชพุทธะทั้งสาม ล้วนอยู่ในช่วงปลายของขอบเขตมหาสมุทรปราณ!

  

หนิงเฉินซินไม่มีฐานการบ่มเพาะ

  

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตของคำสอนขงจื๊อและเต๋าของเขาก้าวหน้าอย่างมาก!

  

เมื่อเห็นฉากนี้ หนิงเฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด

  

หนังสือปรากฏขึ้นในมือของหนิงเฉินซิน!

  

นี่คือคัมภีร์เต๋า!

  

นั่นคือสิ่งที่หลู่ชางเฉินให้หนิงเฉินซิน เมื่อเขารับเป็นศิษย์

  

ข้าเห็นทุกสิ่ง!

หนิงเฉินซินถือคัมภีร์เต๋าในมือของเขา และเต๋าก็ไหลไปทั่วร่างของเขา!

  

ใบหน้าของเขาราบเรียบและเสียงของเขาเหมือนฟ้าร้อง!

  

"สวรรค์และโลกไม่ปรานี และทุกสิ่งล้วนเป็นสุนัขที่ต่ำต้อย"

(มาจากบทที่ห้าของ "คัมภีร์เต๋าเต๋อจิง" ที่เขียนโดยเล่าจื๊อ ความหมายคือต้องการแสดงความคิด ว่าสวรรค์และโลกยุติธรรม สวรรค์และโลกปฏิบัติต่อทุกสิ่งเหมือนกัน ไม่ได้ดีเป็นพิเศษสำหรับใคร หรือไม่ดีเป็นพิเศษสำหรับใคร และทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ)

โดยทันที!

  

ผนึกอักขระแห่งสวรรค์(เทียนจื้อ) กลายเป็นแสงสีทอง และมุ่งสู่การยับยั้งผ่ามือทั้งสาม!

  

ณ จุดนี้ ฝ่ามือทั้งสาม ถูกประทับด้วยตราอักขระแห่งสวรรค์ไว้ทันที!

  

ฝ่ามือหายไป!

  

นักบวชพุทธะทั้งสามต่างก็ตกตะลึง

  

พวกเขาพนมมือต่อ แล้วพ่นคำกล่าวที่คลุมเครือออกมา!

  

นี่คือพระสูตรไตรปิฎก!

  

พุทธวจนะทีละคำ ต่อต้านผนึกอักขระสวรรค์อย่างต่อเนื่อง!

  

อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สามารถหยุดผนึกอักขระแห่งสวรรค์ได้!

  

การต่อต้านของนักบวชพุทธะทั้งสามนั้นไร้ประโยชน์!

  

“ท่านผู้เจริญ โปรดออมมือด้วย!”!"

ในบรรดาพวกเขา นักบวชพุทธะร่างสูงขอความเมตตาทันทีเมื่อเห็นสิ่งนี้!

  

สีหน้าของหนิงเฉินซินไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

  

ผนึกอักขระแห่งสวรรค์ไม่มีความตั้งใจที่จะหยุด!

  

เขาต้องการสังหารพวกนั้นทั้งสามคน!

  

ในสายตาของหนิงเฉินซิน

  

สามคนนี้คือมะเร็งร้าย ที่ต้องกำจัดให้หมดไปจากโลกนี้!

  

มีความสามารถอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ยอมนำความสามารถมาใช้!

  

ในสายตาคนนอก นักบวชพุทธะทุกคน ต้องถือเอาการ แขวนหม้อช่วยโลกเป็นหน้าที่ของตน!

  

แต่ตอนนี้เพราะชาวบ้านที่อ่อนแอไม่ยอมนับถือนิกายพุทธะ!

  .

เลยยืนดูพวกเขาถูกสัตว์อสูรฉีกเป็นชิ้นๆ!

คนประเภทนี้.

  

จำเป็นต้องอยู่ในโลกนี้ด้วยหรือ?

อย่างน้อย.

  

ในมุมมองของหนิงเฉินซิน คนพวกนี้ไม่จำเป็นต้องมีชีวิตรอด

  

ผนึกอักขระแห่งสวรรค์ยังคงห่อหุ้มทั้งสามคนไว้!

  

"ท่านผู้เจริญ ท่านต้องการรุกรานนิกายพุทธะ เพื่อเห็นแก่ปุถุชนผู้ไร้ประโยชน์เหล่านั้นหรือ!"

  

หนิงเฉินซินกล่าวเบาๆ: "ถ้านักบวชพุทธะทุกคนเป็นเหมือนเจ้า แล้วจะมีนิกายพุทธะไว้ทำไมล่ะ!"

  

หลังจากกล่าว เขากดฝ่ามือลงเล็กน้อย

  

อักขระเทียน(天) ปรากฎขึ้นในสายตาที่สิ้นหวังของคนทั้งสาม

(เทียน ความหมายคือ สวรรค์)

  

สังหารมัน!

ฟุบ!

  

ร่างกายของนักบวชพุทธะทั้งสามถูกทำลายล้างทันที!

  

วิญญาณถูกเก็บไว้ที่นี่ตลอดกาล!

  

หนิงเฉินซินมองไปที่ฉากนี้ แต่ไม่ได้แสดงรอยยิ้มที่มีความสุข และหายใจออกอย่างหนัก

  

ข้าตั้งใจเดินทางไปตะวันตกเพื่อไปดูนิกายพุทธะ!

  

  

ใช้สายตาไปดู ที่ประตูพุทธะเพื่อเรียนรู้

  

  

ภายใต้ชื่อ ห้อยหม้อเพื่อช่วยโลก

  

ประกาศธรรมในขอบเขตทั้งสี่ภูมิภาค และได้รับพลังแห่งศรัทธา

  

แต่ถ้าเบื้องหลังของนิกายเป็นเหมือนกับสามคนนี้

ข้าคงต้องจัดการ!

  

...

  

แดนใต้.

  

สำนักชางเต๋า

  

หลู่ชางเฉินกลับมาแล้ว

  

ขณะนี้เขานอนอยู่บนเก้าอี้ไม้ หลับตา อาบแดด

  

ทำฮัมเพลงด้วยเสียงเพลิดเพลิน

  

"อะฮ้า…..นี่แหละชีวิต!"

  

"ข้าหวังว่าไอ้เด็กตัวเหม็นกลุ่มนั้นจะไม่สร้างปัญหาให้ข้าในอนาคต ไม่งั้น ข้าคงต้องเช็ดตูดพวกมันอีก!"

  

"อย่างไรก็ตาม ผู้อาวุโสหูค่อนข้างไว้ใจได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสั่งสอนศิษย์เหล่านั้นอีก"

  

"ในที่สุดก็ได้พักผ่อนซักที..."

  

แต่เพิ่งกล่าวจบ

  

หูชิงปรากฏตัวในศาลาเฉาถัง...

  

และข้างหลังหูชิงมีเด็กสาวที่น่ารักคนหนึ่งยืนอยู่

  

เด็กสาวกระพริบตา มองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง แล้วเพ่งสายตาไปที่หลู่ชางเฉิง

  

หลู่ชางเฉินไม่ลืมตาและกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ว่า "ผู้อาวุโสหู โปรดออกไปก่อน ข้าต้องการพักผ่อน!"

  

"อีกร้อยวันค่อยมาคุยกัน"

  

หูชิง: "..."

  

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหลู่ชางเฉินเหมือนปลาเค็ม เขาก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน

  

"อย่ากังวล ข้าไม่ได้มาที่นี่เพื่อมาหาเจ้า ข้าแค่พาคนผู้หนึ่งมาที่นี่"

“คน?”

  

หลู่ชางเฉินหันศีรษะ ลืมตาขึ้นเพื่อมองไปยังทิศทางของหูชิง และเห็นด้านหลังทันที

  

เด็กสาวยิ้มให้เขา

  

ใบหน้าของเขาแข็งทื่อ

มันจบแล้ว...

  

บาร์บีคิวข้า...

  

ชีวิตสบายๆ ของข้าจะจากไปอีกครั้ง...

  

"ท่านลุง ข้ามาแล้ว!"

  

เด็กหญิงคนนั้นคือมู่ว่านเอ๋อ

  

หลู่ชางเฉินปิดหน้าและกล่าวว่า "ลุง? ใครคือลุง? เจ้าจำคนผิดหรือเปล่า?"

  

หูชิง: "..."

  

ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ "เอาล่ะ ข้าพาคนๆนั้นมาที่นี่แล้ว ดังนั้นข้าจะออกไปก่อน"

  

หลู่ชางเฉินเริ่มรู้สึกตัวแล้ว

  

การเชื่อฟังชายชราผู้นี้ และการไปที่นิกายโอสถ เป็นความผิดพลาด!

  

มู่ว่านเอ๋อเดินไปด้วยรอยยิ้ม และกล่าวว่า "เอาล่ะ ท่านลุง หยุดเสแสร้งได้แล้ว"

  

หลู่ชางเฉินวางมือลงอย่างไม่เต็มใจ มองไปที่มู่ว่านเอ๋อแล้วกล่าวว่า "เจ้าตามข้ามาที่นี่ได้อย่างไร"

  

"ข้าบอกว่า ข้าอยากจะกราบท่านเป็นอาจารย์ของข้า!"

  

"แต่ข้าว่าข้าไม่รับศิษย์..."

  

"ตระกูลของเจ้าเห็นด้วยหรือไม่ที่เจ้ามาที่นี่?"

  

ดวงตาที่ชุ่มฉ่ำของมู่ว่านเอ๋อกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยว และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "แน่นอน พวกเขาเห็นด้วย"

  

"ท่านลุง ท่านเป็นปรมาจารย์ปรุงยา ที่สามารถกลั่นเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์ระดับสวรรค์ได้ ข้าอยากจะขอให้ท่านเป็นอาจารย์ของข้า และพ่อของข้าก็ต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอนอยู่แล้ว"

  

หลู่ชางเฉินปิดหน้าและคร่ำครวญอย่างเงียบ ๆ

  

ช่างเป็นอาชญากรรมเสียจริง!

  

มู่ว่านเอ๋อมองไปที่หลู่ชางเชิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอจางหายไป และเธอกล่าวว่า "ท่านลุง ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบพรสวรรค์ของข้า แต่วันหนึ่ง ข้าจะให้ท่านยอมรับข้าอย่างแน่นอน!"

  

หลู่ชางเซิง: "..."

  

ข้าไม่ ข้าไม่ อย่ากล่าวไร้สาระ!

  

ข้าแค่อยากใช้ชีวิตสบายๆ...

  

และในเวลานี้

  

เย่ชิวไป่และเสี่ยวเฮยก็กลับมาที่ศาลาเฉาถัง

  

เมื่อเห็นมู่ว่านเอ๋อ เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

  

"อาจารย์ สาวน้อยคนนี้คือใคร?"

  

ก่อนที่หลู่ชางเฉินจะทันได้ตอบ

  

มู่ว่านเอ๋อร์กระโดดข้ามและมองไปที่เย่ชิวไป่ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม "สวัสดี ศิษย์พี่!"

  

มองไปที่เด็กสาวน่ารัก และมีเสน่ห์คนนี้

  

เย่ชิวไป่รู้สึกชอบนางอย่างมาก และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "เป็นศิษย์ใหม่ของท่านอาจารย์หรือไม่?"

  

หลู่ชางเฉินกล่าวทันที: "ไม่!"

  

มู่ว่านเอ๋อเม้มริมฝีปากของเธอ และมองหลู่ชางเชิงอย่างว่างเปล่า แล้วกล่าวว่า "ไม่ช้าก็เร็ว"

  

เย่ชิวไป่และเสี่ยวเฮยมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง และเข้าใจดี

พวกเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างโง่เขลา

  

หลู่ชางเฉินรู้สึกรำคาญเล็กน้อยแล้ว

  

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเย่ชิวไป่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ

  

"เซียวเซียวเซียว(笑笑笑) เจ้ายิ้มทำไม?!"

(เซียว ความหมายคือรอยยิ้ม หรือหัวเราะ)

  

"เจ้าคิดว่าเจ้าสร้างปัญหาให้ข้าเล็กน้อยใช่ไหม"

  

"เร็วเข้า ออกไปทำอาหารให้อาจารย์เดี๋ยวนี้!"

  

เย่ ชิวไป่: "..."

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด