ตอนที่แล้วบทที่ 9
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11

บทที่ 10


บทที่ 10

จากนั้นทุกคนจึงพบว่า ตอนนี้ในห้องมีเพียงห้าคนเท่านั้น และคนๆหนึ่งหายตัวไปอย่างเงียบๆ

“นี่...”

ทั้งหมดมองหน้ากัน ความสยดสยองแผ่ซ่านไปทั่วใจของทุกคน

ฉินห่าวไม่มีอะไรจะพูด เกิดความรู้สึกว่าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป สหายร่วมนิกายทั้งกลุ่มคงได้ตายลงที่นี่

“เราควรทำอย่างไร? ทำไมเราไม่รายงานกลับไปที่นิกาย? นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราสามารถรับมือได้แล้ว” หวังหยางกล่าวด้วยความกลัว

“ออกมาด้วยกันคืนนี้ ออกไปแบบคล้องแขนกัน และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามปล่อยเด็ดขาด หากพบความผิดปกติก็ขอให้ลงมือโจมตีได้เลยเต็มกำลัง

เหลียวไฮ่ก็พยักหน้าเช่นกัน นี่เป็นวิธีที่ดี เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนทั้งคนจะหายไปได้ทั้งๆที่คล้องแขนกัน

...

ตกคืนที่สาม ทุกคนมองความมืดนอกประตู เกิดความกลัวในใจ ไม่รู้ว่าคราวนี้จะเป็นใครที่หายไป

ทุกคนคล้องแขนกัน ฉินห่าวคล้องแขนหวังหยาง ถัดจากหวังหยางเป็นสหายขอบเขตเปิดภูมิปัญญาขั้น 8 สองคน สุดท้ายคือเหลียวไฮ่

พวกเขาเกาะกลุ่มกันมาถึงทางเข้าหมู่บ้าน ทุกคนมีสีหน้าเคร่งขรึม

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ หมอกสีดำค่อยๆ ปรากฏขึ้นในอากาศโดยไม่มีลางบอกเหตุใดๆ มันเบาบางมาก มนุษย์ธรรมดาไม่อาจรับรู้ได้เลย

ฉินห่าวจ้องมองอย่างระมัดระวัง แวบหนึ่งเขาพลันรู้สึกว่าแขนว่างเปล่า หัวใจพลันกระตุกวูบ แต่เมื่อหันไป ก็พบว่ายังมีแขนข้างหนึ่งกำลังคล้องตัวเองอยู่เช่นตอนแรก

กระนั้น .... แขนๆนี้เย็นมาก

บรึ้ม!

“เกิดเรื่องบ้าอะไร?”

ระหว่างทุกคนกำลังตกใจ ฉินห่าวไม่ลังเล นำค้อนศึกออกมา หวดไปที่ตำแหน่งของหวังหยางข้างๆเขา

“ศิษย์ ... ศิษย์พี่!”

หวังหยางปลิว  ก่อนร่วงตกพื้นคุกเข่าลงด้วยความเจ็บปวด

คนอื่นๆมองฉากนี้อย่างแตกตื่นตกใจ ไม่คิดว่าฉินห่าวจะมาทำร้ายสหายร่วมนิกายอย่างกะทันหัน

“ฉินห่าว! นั่นเจ้าคิดจะทำอะไร? เหตุใดถึงต้องการสังหารสหายร่วมนิกาย?” เหลียวไฮ่ตวาดเสียเย็น ยกกระบี่ขึ้นเตรียมโจมตีเต็มกำลัง

ฉินห่าวไม่ตอบคำ ทะยานเข้าหาหวังหยาง ค้อนศึกในมือชูสูง ตั้งใจทุบเต็มกำลัง

“อย่า!”

ทุกคนอุทานแตกตื่น

บรึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น กระนั้น ฉากเลือดสาดกลับไม่ปรากฏ

เห็นเพียงหวังหยางยิ้มแปลกๆ ก่อนกลายร่างเป็นควันดำพุ่งตรงไปที่บ้านของหญิงสาวคนนั้น

“ไล่ตามไป!”

ฉินห่าวออกคําสั่ง นำไปเป็นคนแรก

คนอื่นๆ ก็มีปฏิกิริยาเช่นกัน รีบตามเขาไป

เหลียวไฮ่ยืนนิ่ง ใบหน้าตัวเองเปลี่ยนเป็นสีเขียวสลับขาว หากค้อนศึกของฉินห่าวเมื่อครู่ทุบโดนตนเอง เกรงว่าเขาคงไม่มีแม้โอกาสจะต่อต้าน

นั่นหมายความว่าหากอีกฝ่ายต้องการฆ่าเขา เขาไม่มีเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนเลย

เหลียวไฮ่พอคิดก็กัดฟัน และไล่ตามไป

โดยที่ไม่รู้สึกตัวเลย ว่าแค่เสี้ยววินาทีหลังจากเขายกขาขึ้น ทันใดนั้นมือข้างหนึ่งผุดขึ้นจากพื้นดิน มันคือมือคู่งามที่ราวกับมุกหยก แต่สุดท้ายคว้าจับอากาศ แล้วค่อยๆลดมือกลับลงไปในดินช้าๆ

ฉินห่าวยืนอยู่หน้าบ้านของผู้หญิงคนนั้น แต่ตรงทางเข้าประตูกลับไม่พบความผิดปกติใดๆ ดูเหมือนหมอกดำลอยมาที่นี่และหายไป

ฉินห่าวนึกทบทวนพักหนึ่ง ก่อนก้มลงมองพื้นและนึกอะไรบางอย่างออก

“ระเบิดพื้นให้ข้า! ขุดดินให้ลึกลงไปมากที่สุดเท่าที่จะทำได้!” ฉินห่าวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน เขาไม่เคยถูกหลอกง่ายๆเช่นนี้มาก่อน แถมยังรู้สึกตัวช้าอีก

“รับทราบ!”

ทุกคนตอบพร้อมกัน ใช้วิชาประจำตัวระเบิดพื้น ทุบทำลายผิวดิน

แม้ว่าคนเหล่านี้จะมีความสามารถในการต่อสู้น้อยกว่าฉินห่าว แต่วิชาประจำตัวก็เหมือนวิชาลับสุดแกร่งของทุกคน ดังนั้นการขุดเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ใช้ความพยายามเพียงไม่กี่นาที หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา

“ศิษย์พี่ มีห้องใต้ดินอยู่ข้างใต้นี่!”

ณ ขณะนี้ สาวกคนหนึ่งตะโกนขึ้น ฉินห่าวชะโงกมอง นี่สมควรเป็นทางเข้าที่ซ่อนใต้ดิน

และตอนนี้มันถูกเปิดแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลาคิดใดๆอีก

ฉินห่าวกระโดดลงไปทันที ทุกคนเห็นการกระทำของเขา เล่นเอาพูดไม่ออก

ดาวสังหารผู้นี้ไม่กลัวตาย มีอะไรอยู่ข้างล่างก็ไม่รู้ แต่ยังจะกล้ากระโดดลงไปตรงๆอีก?

“เร็วเข้า!”

เสียงตะโกนของฉินห่าวมาจากด้านล่าง แต่ทุกคนไม่มีใครกระโดดตาม พวกเขาเลือกวิ่งลงตามบันไดคดเคี้ยวที่เหมือนเป็นทางเดินลงไปแทน

เมื่อมาถึงชั้นบางสุด พวกเขาก็ต้องตะลึงกับฉากตรงหน้า

จากการตรวจสอบด้วยพลังปราณ  นี่เป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่มากกว่าร้อยฟุต บนพื้นมีหลายเตียงตั้งอยู่ และบนนั้นมีศพสภาพแห้งกรังนอนหงาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมด

ซึ่งหวังหยางที่เด่นสะดุดตาก็นอนอยู่ในบรรดาพวกเขาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เขาเหมือนจะตายไปนานแล้ว

และข้างหลังเตียงที่มีศพ คือแท่นทรมานขนาดใหญ่ ที่มีสตรีผมยาวถูกมัดไว้ ผิวของเธอกระจ่างใส ใบหน้ามีเสน่ห์ รูปร่างโดยรวมสมบูรณ์แบบ

“นี่...นี่มัน?”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด