ตอนที่แล้วตอนที่ 8 เกรดไอเทม(อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ลงทะเบียนเหนือมนุษย์ 2(อ่านฟรี)

ตอนที่ 9 ลงทะเบียนเหนือมนุษย์ 1(อ่านฟรี)


ตอนที่ 9 ลงทะเบียนเหนือมนุษย์ 1

“โอ๊ย...ทำไมวันนี้ถึงร้อนเป็นบ้าเลย แย่ละสิ! ถ้าไปไม่ทันซวยแน่”

ด้านนอกอาคารสำนักงานเหนือมนุษย์ อยู่ ๆ ก็มีชายร่างอวบอ้วนแต่งกายด้วยชุดสูทรัดร่างวิ่งมาที่อาคารสำนักงานเหนือมนุษย์ด้วยสภาพอาบเหงื่อทั้งตัว

อีลิกมีสีหน้าร้อนใจเป็นอย่างมาก ราวกับว่าถ้าไปไม่ทันชีวิตเขาถึงจุดจบแน่

การก้าวแต่ละก้าวนั้นสามารถเคลื่อนที่ได้ไม่ต่ำกว่า 3 เมตร ขัดกับรูปร่างที่เหมือนภูเขาก้อนเนื้อเป็นอย่างมาก

ประตูเปิดขึ้น อีลิกวิ่งเข้าไปด้านในอาคารทำเอาหลายคนที่มาทำธุระเห็นก็รีบหลบด้วยความแตกตื่นอยู่ไม่น้อย เพราะคิดว่ามอนสเตอร์บุกโจมตี

พอวิ่งผ่านพ้นประตูทางเข้า สายตาของอีลิกกลับต้องหยุดชะงักลง เท้าทั้งสองข้างอย่างหยุดมั่นคง แววตาแข็งค้างเป็นประกายโดนดึงดูดด้วยเด็กสาวคนหนึ่ง

“นางฟ้า!”

สายตาของอีลิกจ้องมองเด็กสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ที่โซฟา ใบหน้า แววตา และท่าทางของเธอถึงกับทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์หลงลืมความรีบร้อนของตัวเองไปซะหมด

“พรหมลิขิตสินะ ต้องใช่แน่ ๆ”

อีลิกกล่าวออกมาด้วยความเชื่อมั่น รีบจัดเสื้อผ้าของตัวเอง เช็ดเหงื่อบนใบหน้าก่อนจะเดินตรงไปหาเด็กสาวในทันที

เจนที่กำลังนั่งเหม่อลอยโดยไม่ทันระวังตัว พอหันกลับมาก็พบว่ามีใบหน้าขนาดใหญ่กำลังยืนจ้องเธอห่างออกไปเพียงไม่ถึงคืบ

“อ่า!”

เจนกรีดร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอกับคนแปลกหน้าที่อยู่ ๆ ก็มาจ้องมองเธอแบบนี้ เธอรีบถอยหลังหนีในทันที ราวกับลูกกวางน้อยที่ตกใจเสือ เพียงแต่เป็นเสือที่เต็มไปด้วยชั้นไขมัน

อีลิกกลับคิดเข้าข้างตัวเองว่าเธอกำลังตกใจในความหล่อของตัวเองจึงยกมือขึ้นมาเสยผมเบา ๆ จัดทรงผมให้ดูหล่อที่สุด

“นางฟ้าตัวน้อย ได้โปรดเป็นแฟนกับผมด้วย...อัก!”

ตูม!

แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบก็มีขาข้างยาวเรียบเนียนเตะเข้าไปที่ใบหน้าใหญ่ ๆ จนกระเพื่อม ส่งให้ตัวของอีลิกลอยไปกระแทกกับกระถางต้นไม้นิ่งไป

ผู้คนต่างแยกตัวออกเป็นวงกว้างจากตัวของอีลิก บางคนที่พอรู้ที่มาที่ไปของชายหนุ่มคนนี้ก็พากันกระซิบกระซาบ

“หมอนั้นโดนอีกแล้ว”

“คุณคามิลยังสุดยอดเหมือนเดิมเลย โดยเฉพาะลูกเตะด้วยขายาว ๆ นั้น”

“นายยากโดนไหมฉันจะไปบอกให้”

“อยากโดนก็บ้าแล้ว ไม่เห็นเหรอแม้แต่ผู้ระเบิดร่างอีลิกนั้นยังแกล้งนอนสลบเลย”

ผู้คนที่จับกลุ่มนินทาส่วนใหญ่เป็นเหนือมนุษย์ที่มีความคุ้นเคยกับที่สำนักงานเหนือมนุษย์ดีและรู้ความน่ากลัวของคามิลเป็นอย่างดี

เจนยังคงมึนงง มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เด็กสาวตามสถานการณ์ตรงหน้าไม่ทัน

อยู่ ๆ ก็มีชายแปลกหน้ามาขอเป็นแฟน แต่พริบตาต่อมาก็ถูกเตะจนร่างกระเด็นเป็นปุยนุ่นด้วยพี่สาวพนักงานที่เคาน์เตอร์ที่เธอและพี่ชายพึ่งจะไปพูดคุย

คามิลหรือพี่สาวพนักงานที่ท่าทางใจดี ลดยาที่ใส่รองเท้าส้นสูงลง ก่อนจะเดินเข้าไปลากอีลิกที่นอนสลบอยู่บนพื้น ถูกคว้าจับคอเสื้อโดยยิงสาวสวยขายาว แรงของเธอมหาศาลมากจนยกร่างของอีลิกได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว พอลากออกไปก็โยนออกไปนอกสำนักงานอย่างไม่ไยดี

ร่างอีลิกกลิ้ง ตุบ ๆ ไปกับพื้นที่ร้อนฉ่า

ก่อนจะหันกลับมายิ้มให้กับเจน

“ไปดื่มชากับพี่สาวไหม”

“เออ...อือ”

เจนที่ยังตะลึงพยักหน้างึก ๆ ไม่กล้าปฏิเสธ รีบตามพี่สาวคามิลไปอย่างว่าง่าย แต่สายตายังคงหันกลับมามองชายร่างอวบอ้วนด้วยความสงสัยว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่า

อีลิกที่ถูกโยนด้านนอกอาคาร นอนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนเปิดตาแอบมองรอบตัว เมื่อเห็นว่าคามิลจากไปแล้ว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เกือบไปแล้ว ลืมไปเลยว่าวันนี้เธอก็อยู่ที่นี่”

อีลิกพูดด้วยเสียงที่เบา ๆ และหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย ก่อนจะกลับมาเหม่อลอยถึงเจนอีกครั้ง

“เป็นพรหมลิขิตแท้ ๆ แต่กลับโดนขัดขวางหรือนี่จะเป็นโชคชะตาที่เราต้องฝ่าฟัน”

“สายแล้ว”

อีลิกดีดตัวขึ้นยืนอย่างมั่นคงไม่มีทีท่าว่าจะบาดเจ็บแม้แต่น้อย กำลังจะก้าวขาเข้าประตูอีกครั้ง แต่ก็ต้องหยุดชะงัก สายตาสอดส่องด้านใน เมื่อมั่นใจว่าคามิลไม่อยู่แล้ว จึงรีบพุ่งเข้าไปตรงไปที่กดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นที่สูงที่สุดของอาคารในทันที

...

“ที่นี่เหรอ”

ลุคก้าวเดินออกมาจากลิฟต์ กวาดสายตาไปรอบตัว ตอนนี้เขามาถึงที่ชั้น 10 ตามคำแนะนำแล้ว แต่ก็พนักงานสาวคนนั้นไม่ได้บอกว่าให้ไปตรงไหนต่อ เขาจึงเดินออกมาจากลิฟต์เดินไปตามทางเดินที่มีเพียงเส้นทางเดียว

ตลอดสองฝากฝังของทางเดินเต็มไปด้วยชิ้นกรงเล็บของมอนสเตอร์ที่ระดับแตกต่างกันไป แต่ทุกชิ้นกลับทำให้ลุครู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย เพราะคลื่นพลังอ่อน ๆ ที่ชิ้นส่วนกรงเล็บเหล่านี้ปล่อยออกมาทำให้ร่างกายของเขารับรู้ได้ถึงอันตรายอย่างชัดเจน

‘พวกนี้เหมือนตั้งใจเอามาข่มขวัญไม่มีผิด’

ลุคเดินอย่างมั่นคงไปจนสุดทางเดิน ก็พบเข้ากับประตูบานหนึ่งที่มีเพียงป้ายติดไว้ว่า “ลงทะเบียนเหนือมนุษย์”

เมื่อมั่นใจว่าไม่ได้มาผิดก็ใช้สองมือผลักประตูเปิดเข้าไป แต่เขากับพบว่าประตูหนักมาก เพราะทำมาจากโลหะหนาทั้งชิ้น แต่ยังไงเขาก็เป็นเหนือมนุษย์แล้วจึงมีพละกำลังมากกว่าคนธรรมดาอยู่ไม่น้อย

ประตูถูกผลักเปิดออกเผยให้เห็นห้องโถงกว้างด้านในที่มีเสาขนาดใหญ่จัดเรียงอยู่สองฝากฝังของห้อง ให้กลิ่นอายความรู้สึกโบราณอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็เห็นว่ารอบห้องนั้นเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ทุกมุม ใจกลางของห้องที่เสาล้อมรอบอยู่นั้นมีกลุ่มคนกำลังยืนรออยู่ก่อนแล้ว

ทั้งหมดหันกลับมามองลุคเป็นสายตาเดียวกัน

“คนสุดท้ายสินะ เข้ามารวมกลุ่มกับทุกคนได้เลย”

มีเสียงดังขึ้นมาจากฝั่งตรงข้าม ทำให้เขามองข้ามทุกคนไปเห็นว่าอีกฝั่งของห้องเป็นห้องกระจกที่ปิดไฟมืดมิดอยู่ไม่น้อย มีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เป็นแบบแผ่นกระจกใสส่องให้เห็นด้านในว่ามีกลุ่มคนที่แต่งกายเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์กำลังทำการทดลองบางสิ่งอยู่

ลุครู้สึกว่าตัวเองมาผิดที่หรือไม่ แต่พอนึกถึงป้ายที่เขียนหน้าห้องก็คิดว่าไม่น่าจะผิด จึงเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่ใจกลางห้อง

ตอนนี้เขารู้แล้วว่าคนพวกนี้ที่มีกันอยู่ 10 คนเป็นเหนือมนุษย์หน้าใหม่ที่มาเข้ารับการลงทะเบียนเหนือมนุษย์เหมือนกัน

รวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ

“หลังจากนี้จะเป็นการทดสอบ ขอให้พวกคุณทุกคนไปยืนบนวงแหวนที่พื้นด้วยครับ เราจะเริ่มทดสอบคลื่นพลัง เพื่อข้อมูลของคลื่นพลังและอัตราการเติบโตที่แม่นยำ...”

วงแหวนปรากฏสิบวงที่พื้นเพียงพอให้แต่ละคนยืนได้ ทุกคนเริ่มแยกย้ายไปยืนตามที่บอก ลุคเองก็ไปยืนในวงเช่นกัน โดยที่เสียงอธิบายของเจ้าหน้าที่ยังคงมีอยู่เรื่อย ๆ

สรุปคือ การตรวจสอบโดยใช้สภาวะแบบจำลองจากหินพลังงานผ่านคลื่นพลังด้วยสภาพแวดล้อมแบบปิดที่ปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมองสามารถเปิดรับคลื่นพลังชั่วคราว สามารถสแกนผ่านสมองที่เป็นศูนย์ควบคุมคลื่นพลังและทำการเปรียบเทียบค่าเฉพาะที่ซับซ้อนมากที่สุด จะทำให้ได้ข้อมูล คลื่นพลัง การเติบโตของคลื่นพลัง ความแข็งแกร่งเฉพาะทางของร่างกายแต่ละบุคคล

สิ่งนี้เป็นเหมือนเหมือนวิธีการจำลองเสียงสะท้อนแห่งพลังที่เหนือมนุษย์ทุกคนได้ยินออกมาเป็นข้อมูลจับต้องได้ แน่นอนว่าสามารถลดขั้นตอนได้โดยการสอบถามจากเหนือมนุษย์ได้อยู่ แต่เราจะไม่รู้เลยว่าเหนือมนุษย์คนนั้นพูดจริงหรือเท็จ ทำให้ยังต้องใช้การตรวจสอบแบบนี้อยู่ เพราะทางสำนักงานเหนือมนุษย์ต้องการข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือต้องให้ตัวของเหนือมนุษย์ยินยอมในการตรวจสอบด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นคลื่นพลังที่จำลองมาก็ไม่อาจจะผ่านเข้าไปตรวจสอบคลื่นพลังเหนือมนุษย์คนนั้นได้

“ผมถามได้ไหม ความแข็งแกร่งเฉพาะทางคืออะไร พวกเราไม่ได้เป็นเหนือมนุษย์เหมือนกันอย่างนั้นเหรอ”

หนึ่งในผู้เข้าร่วมตรวจสอบเหนือมนุษย์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

“มนุษย์ทุกคนมียีนที่คล้ายกันเพราะเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน แต่ไม่เหมือนกันไปซะทุกอย่าง ความถนัด ร่างกาย การเติบโต ความรู้ อาหารที่กิน วิธีการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทุกอย่างทำให้เรามีจุดที่แตกต่างกันออกไป เมื่อได้รับการกระตุ้นพลังเหนือมนุษย์ในร่างกายก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงผลไปทางด้านในด้านหนึ่งมากน้อยต่างกัน เช่น เหนือมนุษย์บางคนพละกำลังสูงกว่าเหนือมนุษย์อีกคน ขณะที่อีกคนรวดเร็วกว่าเหนือมนุษย์อีกคน แน่นอนว่าไม่ 100 % เพราะมันเป็นโอกาสที่อาจจะเป็นได้”

เจ้าหน้าที่อธิบายความสงสัยของพวกเขา

ลุคที่ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกัน แต่ได้ฟังก็เข้าใจทันที ถ้าจะเทียบง่าย ๆ เลยคือ ถ้านักเพาะกายเป็นเหนือมนุษย์ยอมมีกำลังมากกว่าคนธรรมดาทั่วไปที่กลายเป็นเหนือมนุษย์ แต่ถ้านักวิ่งเป็นเหนือมนุษย์ก็มีความเร็วในการวิ่งมากกว่านักเพาะกายที่เป็นเหนือมนุษย์นั้นเอง

‘แต่ความแข็งแกร่งเฉพาะทางไม่ใช่พรสวรรค์’ ลุคพึมพำในใจ

เขาอยากจะถามว่าพรสวรรค์คืออะไร แต่การกระบวนการตรวจสอบเริ่มทำงานแล้ว ปรากฏว่าเสาที่เขาเห็นอยู่รอบห้องนี้ไม่ใช่เสาที่เอาไว้ประดับตกแต่ง แต่มันคืออุปกรณ์อย่างหนึ่งที่พอเริ่มทำงานก็มีม่านพลังออกมาขวางกั้นพื้นที่ล้อมรอบผู้เข้ารับการตรวจสอบทั้ง 10 คนไว้ตรงตรงกลาง

ลุครู้สึกว่ามันคล้ายกับม่านแสงที่ปรากฏบนประตูทางเข้าชิ้นส่วนโลกต่างมิติไม่มากก็น้อย

นอกจากการเชื่อมต่อของม่านแสงแล้วด้านบนห้องก็มีอุปกรณ์สุดไฮเทคยื่นออกมาและเริ่มปลดปล่อยคลื่นพลังอ่อน ๆ ออกมาเป็นความถี่ที่เฉพาะเจาะจง

ในฐานะเหนือมนุษย์ทุกคนจึงสัมผัสคลื่นพลังเหล่านั้นได้อย่างชัดเจน

คลื่นพลังค่อย ๆ กระทบกับตัวของเหนือมนุษย์ทั้ง 10 คนที่ยืนอยู่ในวงแสง

“ขอให้ทุกคนยินยอมให้การสแกนอ่านค่าพลังให้หน่อยครับ”

เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือ

ทุกคนเริ่มทำตาม รวมถึงตัวของลุคด้วย แต่เขากลับมีความคิดบางอย่างคือการปิดกั้นพรสวรรค์ไว้ไม่ยอมให้อุปกรณ์ตรวจสอบ อย่างแรกคือเขาแทบไม่รู้ข้อมูลถึงพลังพรสวรรค์เลย จึงไม่อยากจะเปิดเผยมันออกไปในตอนนี้ อย่างที่สองก็เป็นสิ่งที่เกิดจากอย่างแรกคือ เพราะไม่รู้ จึงไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะมีอะไรบ้าง

“หืม ตรวจพบคนที่มีคลื่นพลังต่างออกไป”

“ไหนให้ฉันดู เดี๋ยวนั้นมันไม่ใช่คลื่นพลังที่ต่างออกไป แต่เป็นพลังพรสวรรค์”

เจ้าหน้าที่สองคนกำลังมองดูหน้าจอด้วยสีหน้าตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย คนที่กล่าวในประโยคหลังคือหัวหน้าตรวจสอบในครั้งนี้

หัวหน้าผู้ตรวจสอบคริสรีบกวาดสายตามองผู้เข้าตรวจสอบทุกคน

คำพูดของหัวหน้าตรวจสอบคริสดึงดูดความสนใจของทุกคนไม่เว้นแม้แต่เหนือมนุษย์หน้าใหม่ที่ต่างก็มองกันไปมาด้วยความอยากรู้ว่าใครที่ได้ครอบครองพลังพรสวรรค์

ถ้าจะบอกว่าเหนือมนุษย์คือคนที่พิเศษหมู่คนธรรมดา อย่างนั้นเหนือมนุษย์ที่ครองพลังพรสวรรค์ก็คือคนที่พิเศษในกลุ่มเหนือมนุษย์ด้วยกัน

“ดูนั้น เขาคือคนที่มีพลังพรสวรรค์!”

ทุกคนมองไปยังชายหนุ่มด้วยสายตาเดียวกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด